[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit – บทที่ 1 ตอนที่ 3

บทที่ 1 ตอนที่ 3

 

ต้นไม้ที่อยู่รอบๆนั้นออกผลเป็นผลไม้สีเขียวแทบจะทั้งหมดเลย สงสัยช่วงนี้คงจะอยู่ในฤดูของผลไม้พวกนี้ละมั้ง แถมผมยังเห็นบางลูกถูกแท่ะไปแล้วอีกด้วย

 

ของที่มีติดตัวผมอยู่ในตอนนี้จะเป็นของสำหรับใช้ขุดหาหินสกิลในเหมืองทั้งนั้น ทั้งกระเป๋าเปล่าๆ กระเป๋าเครื่องมือคาดเอวที่มีสิ่วกับหินขนาดพอเหมาะสำหรับใช้แทนค้อน และหินฟอสฟอรัสเรืองแสงจากตาแก่ฮินกา

 

เสื้อผ้าของผมนั้นทั้งทรุดโทรมและขาดรุ่งริ่ง แต่ก็ยังดีที่รองเท้าของผมนั้นทำมาจากหนังที่ทนทานและพื้นรองเท้าที่ทำมาจากไม้ ผมค่อนข้างชินกับรองเท้าแบบนี้จนไม่โดนรองเท้ากัดแล้ว แต่มันก็ยังไม่เหมาะกับการเดินทางในระยะไกลอยู่ดี แถมผมยังลื่นบ่อยๆเวลาเดินอยู่บนโคลนอีกด้วย

 

「หืมม? ใบไม้ใบนี้มัน…」

 

ผมเห็นใบไม้ที่หน้าตาเหมือนกับใบจิงจูฉ่าย แต่ดูเหมือนมันจะมี ”พิษเล็กน้อย” จากที่【World Ruler】บอกมา แต่ผมก็ได้รู้อีกว่ามันสามารถลบรอยสักของผมได้ ดังนั้นผมจึงเก็บใบพวกนี้มาถูกับข้อมือของผม

 

มีกลิ่นหอมสดชื่นของกุหลาบผสมกับกลิ่นใบไม้สีเขียว

 

「มัน… กำลังหายไป?」

 

ถึงผลลัพธ์จะดูไม่ค่อยชัดเจน แต่รอยสักนั้นก็ค่อยๆจางลงแล้ว… เอาเถอะ มันก็ไม่ได้ทำอันตรายกับผิว ดังนั้นผมจึงถูมันไปอย่างไม่กังวลมากนัก กลิ่นเองก็ไม่ได้แย่อีกด้วย

 

ผมเอาใบพวกนี้มายัดใส่ตรงสายรัดข้อมือของผมเป็นจำนวณมาก ก่อนจะเริ่มเดินต่อไป

 

ผมไปไม่ถึงเมืองถัดไปในวันนั้น

 

ผมหยุดพักในตอนกลางคืนบนต้นไม้ตรงชายขอบระหว่างป่ากับทุ่งหญ้า หลังจากนั้น ผมก็กินลูกโอ๊กและมัลเบอร์รี่ที่ผมเก็บมาก่อนหน้านี้พร้อมทั้งชมจันทร์ไปด้วย

 

ตอนที่ผมยังอยู่ที่ญี่ปุ่น ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นจังหวัด ผมเองก็โตมากับบ้านที่ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนา และเพราะว่ามันไม่ได้เจริญเท่ากับในเมือง ท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้นจึงสวยงามกว่าที่โตเกียว

 

…แต่แล้วสำหรับโลกใบนี้หล่ะ? ผมเกิดสังสัยขึ้นมา

 

「ว้าว…」

 

มันมีกลุ่มก้อนของระอองดาวที่เหมือนกับทางช้างเผือกอยู่เยอะแย่ะไปหมด ดวงจันทร์เสี้ยวนั้นส่องสว่างบนท้องฟ้าเหมือนกับที่โลก

 

ถ้ามาคิดดูดีๆแล้ว ถึงกลุ่มดาวบนฟ้าจะแตกต่างกัน แต่ก็ยังมีทั้งดวงจันทร์ อากาศ และมนุษย์เองก็ยังมีรูปร่างที่เหมือนกัน ว่าง่ายๆก็คือมีการวิวัฒนาการที่เหมือนๆกัน จะเรียกโลกนี้ว่าเป็นก๊อบปี้ของดาวโลกก็ยังได้ ทว่า สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเวทยมนตร์และสกิลนั้นก็ยังมีอยู่

 

บางทีผมคงจะไม่มีทางจะรู้ที่มาของโลกใบนี้ได้หรอก ขนาดที่ดาวโลก พวกเราเองก็ไม่ได้เข้าใจจักรวาลอย่างถ่องแท้เหมือนกัน ยังมีผู้คนที่ไม่เชื่อในทฤษฎีบิ๊กแบงอยู่เหมือนกัน ใช่ไหมละ?

 

ใบหญ้าในทุ่งหญ้าปลิวไสวไปมาเพราะสายลม มันเป็นคืนที่เงียบสงบปราศจากเสียงหมาหอนหรือเสียงหึ่งของแมลง

 

「…หืมม?」

 

ห่างออกไปจากทุ่งหญ้า บริเวณสันเขาอันมืดมิด มีเงาๆหนึ่งสันไหวอยู่

 

ผมเห็นเงาดำๆรูปร่างคล้ายๆกับนกอยู่ตรงนั้น

 

เดี๋ยวๆๆ เดี๋ยวก่อนนะ! ทำไมผมถึงเห็นนกตัวนั้นจากระยะนี้เนี้ย?!

 

เงาดำนั้นอ้าปากของมันขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

–กร๊าซ!

 

ในเวลาสั้นๆ ก็มีลูกบอลแสงที่ส่องสว่างไปทั่วบริเวณรวมถึงตรงที่ผมอยู่ออกมา บอลแสงนั้นพุ่งขึ้นไปบนฟ้าราวกับดาวหางแล้วตกลงมาบนพื้นเป็นเส้นโค้ง

 

–กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซ!

 

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงคำรามก็มาถึงผมพร้อมทั้งเสียงระเบิด

 

「นะ-นะ-นะ-นั้นมันตัวบ้าอะไรกันเนี้ย?!!!」

 

วินาทีต่อมา พื้นดินก็สั่นไหว ต้นไม้ที่ผมอยู่ก็เช่นกัน

 

ในที่สุดผมก็รู้แล้วว่าทำไมถึงไม่มีสัญญาณของสุนัขป่าหรือสัตว์อื่นๆภายในคืนนี้เลย เป็นเพราะว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่นั้นแน่ๆ

 

เหล่าสัตว์ที่คุ้นชินกับธรรมชาติยิ่งกว่าผมนั้นซ่อนตัวกันไปหมดแล้ว

 

【World Ruler】นั้นเงียบเฉียบทั้งๆที่มีเงาดำนั้น เป็นเพราะว่าระบุตัวตนจากเงาดำๆนั่นไม่ได้งั้นหรอ? ถึงอย่างนั้น มันก็ยังส่งข้อมูลของลูกบอลแสงว่า「ไม่เป็นอันตรายเนื่องจากว่ามันมาไม่ถึงตรงนี้」

 

เงาดำนั้นกลืนไปกับสันเขาก่อนจะหายไป

 

นั้นมันทางไปเหมืองไม่ใช่หรอ?

 

【World Ruler】ที่ตอบกลับมาว่า「ใช่แล้ว」นั้นตรงกับที่ผมคิดไว้

 

เมืองถัดไปนั้นเข้ามาอยู่ในระยะสายตาของผม

 

ในตอนที่ตัวผม – ที่ทั้งเหนื่อยจากการนอกด้านนอกและเดินไม่มั่นคงจากการอดนอน – กำลังจะฉลองนั้น

 

ผมก็เห็นบริเวณทางเข้าที่เชื่อมกับทางหลวงนั้นกลับเต็มไปด้วยทหารยาม

 

「–ทาส?」

 

「–จากเหมือง…」

 

คำพูดพวกนั้นลอยตามลมจนมาถึงผม ผมก็รีบเคลื่อนตัวหลบออกมาอย่างเงียบๆ

 

…ที่นี่ก็ไม่ได้งั้นหรอ

 

ผมไม่อยากจะเสี่ยงโดยไม่จำเป็นหลังจากที่ระมัดระวังตัวมาถึงขนาดนี้แล้ว

 

…แต่ว่า ผมทั้งเหนื่อย! ทั้งง่วง! ทั้งเหงา!

 

คงได้แต่ทำใจ ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากที่จะต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

 

ตื่นขึ้นมาบนต้นไม้ในตอนเช้า ถ้ามีลำธานอยู่ใกล้ๆก็จะล้างหน้าและบ้วนปาก เดินไปขณะถูข้อมือของผมด้วยใบจิงจูฉ่าย ผมรู้สึกว่ารอยสักมันค่อยๆหายไปแล้ว บางทีอาจจะเป็นแค่รู้สึกไปเองก็ได้

 

จากนั้นผมก็หยิบพวกผลไม้หรือเมล็ดที่กินได้ขึ้นมากิน ผมโชคดีที่ป่าแห่งนี้นั้นอุดมไปด้วยพืชที่กินได้

 

ตัวผมนั้นทั้งอยากที่จะกินขนมปัง พาสต้า ข้าว เนื้อ หรือแม้กระทั้งปลา แต่ผมคิดว่าผมยังคงสามารถใช้ขีวิตแบบนี้ไปได้อีกเป็นสัปดาห์ จนถึงตอนนั้นผมก็คงกลายเป็นสุดยอดคนไร้บ้านของประเทศนี้ไปแล้ว

 

มันก็ผ่านไปแล้ว 2 วันตั้งแต่ตอนนั้น ผมยังไม่พบเมืองถัดไปเลย

 

อยู่ๆผมได้กลิ่นแปลกๆ

 

「หืมม? กลิ่นอาหารงั้นหรอ…?」

 

กลิ่นของเครื่องเทศตีมาที่จมูกของผม ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นแค่ภาพหลอน แต่เมื่อผมยืนยันกับ【World Ruler】แล้ว ดูเหมือนว่าจมูกของผมจะถูกต้องนะ

 

มันมีกลุ่มคน3คนนั้งล้อมรอบกองไฟอยู่ตรงบริเวณพื้นที่ว่างเล็กๆในป่า ห่างไปราวๆ100เมตรจากตรงที่ผมอยู่ คนๆหนึ่งนั้นเป็นชายร่างใหญ่ คนถัดไปนั้นเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวเหมือนแม่ชี ส่วนคนสุดท้ายนั้นมีรูปร่างเล็กสวมใส่ฮู้ดปิดบังใบหน้าเอาไว้

 

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะพลบค่ำแล้ว คนกลุ่มนั้นก็กำลังย่างเนื้ออยู่ที่กองไฟ

 

–อึก

 

ตอนแรกผมคิดว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง แต่ปรากฎว่านั้นเป็นเสียงของผมที่กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ผมพูดไว้ว่าผมจะมีชีวิตรอดแบบนี้ต่อไปอีกราวๆ5วันก็จริง แต่นั้นคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ผมตายแน่ถ้าผมไม่ได้กินเนื้อในตอนนี้【World Ruler】นั้นตอบกลับมาว่า「ยังอยู่รอดแบบนี้ไปได้อีก10วัน」เงียบไปเลย!

 

「…อู้ววว」

 

แต่ผมจะทำอะไรโง่ๆอย่างปรากฎตัวออกไปต่อหน้าพวกเขาไม่ได้ในตอนนี้ เหตุผลของผมดูจะยังเหนือกว่าอยู่ เพราะผมนั้นหลบหนีออกจากเหมืองเข้ามาในป่าด้วยทุกอย่างที่ผมมีเลย ผมคงจะเป็นคนที่โง่มากๆที่จะไปเปิดเผยตัวต่อคนที่ผมไม่รู้จัก

 

–กึกกกกก

 

แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมคิดว่าได้ยินเสียงบางอย่าง แต่ว่ามันเป็นเสียงจากฟันที่กระทบกันของผม

 

นี่พวก นายอยากจะกินเนื้อนั่นขนาดนั้นเลยหรอ? ใช่! ผมอยากกิน ……พวกนั้นจะไปเข้าห้องน้ำพร้อมกันเหมือนกับปาฏิหาริย์หน่อยไม่ได้รึไงนะ? เนื้อพวกนั้นจะช่วยบินออกมาเหมือนจรวดแล้วตกลงมาบนมือของผมไม่ได้รึไงนะ? เดี๋ยวก่อนสิ… นี่อยากจะกินเนื้อประหลาดๆนั่นจริงๆหรอ? ใช่! ผมอยากกินเนื้อนั่นไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!

 

「ผมเริ่มจะเป็นบ้าแล้ว」

 

ผมพิงไปที่ต้นไม้และรู้สึกกลัวถึงเหตุผลของผมที่ค่อยๆหายไป

 

…กลิ่นนั่นจะทำให้ผมเป็นบ้า ผมได้กลิ่นน้ำมันที่ไหลออกจากเนื้อย่างด้วย อ้าาาา!

 

「ไปจากที่นี่ดีกว่า…」

 

ในตอนที่ผมหันหลังจากเหล่านักพจญภัยนั้นเท่านั้นแหล่ะ

 

「!」

 

กิ่งไม้ที่อยู่เหนือหัวของนักพจญภัยตัวเล็กที่สวมฮู้ดอยู่นั้น แท้จริงแล้วเป็นงูพิษที่หน้าตาเหมือนกิ่งไม้

 

พิษร้ายแรงมาก ถ้าโดนมันกัดที่แขนละก็ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตัดแขนทิ้งเท่านั้น และถ้าโดนที่ตัวละก็ตายแน่นอน – ข้อมูลนี้หลั่งไหลออกมาจาก【World Ruler】ต้องหนี ต้องรีบหนี ต้องรีบหนีแล้ว

 

ผมตกใจแล้วมองไปที่มันอีกครั้ง งูตัวนั้นแยกเขี้ยวออกมาเหนือหัวของนักพจญภัยตัวเล็กๆนั้น

 

…มันจะกัดคนๆนั้นงั้นหรอ?!

 

「ข-ข้างบน!」

 

ในตอนนั้น ผมไม่สนใจสถานการณ์อะไรในตอนนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะความเสี่ยงหรือตัวตนของพวกเขา ผมก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมนั้นออกวิ่งตรงไปที่พวกเขาอยู่ ชายร่างใหญ่นั้นตกใจแล้วชักมีดออกมา แสงจากกองไฟสะท้อนไปที่ใบมีดเล่มนั้น

 

「ข้างบน! มองข้างบน!」

 

「เดี๋ยวก่อน ดันเต้ เด็กคนนั้นกำลังพูดอะไรบางอย่าง!」

 

「แต่ว่า…」

 

「ข้างบนนนนน…. งูงูงูงูงูงูงู!!!」

 

「เอ่ะ? งู?」

 

เมื่อนักพจญภัยตัวเล็กๆคนนั้นมองขึ้นไป งูพิษตัวนั้นก็กำลังจะตกลงมาใส่เธอแล้ว ทุกอย่างเคลื่อนไหวช้ามากในสายตาของผม มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากที่ผมนั้นอยู่ห่างจากพวกนั้นเกินไป ชายร่างใหญ่มัวแต่สนในผมจนไม่ทันได้มอง แม่ชีคนนั้นก็ดูจะสับสน ส่วนนักพจญภัยตัวเล็กๆคนนั้น ฮู้ดที่สวมอยู่ล่วงลงมาในตอนที่มองขึ้นไป เผยให้เห็นผมสีอำพันยาว มีผมเปียที่ถูกถักอย่างประณีตมัดไว้ด้วยลูกปัดสีสดใส – ที่บางทีคงจะเป็นอัญมณี นักพจญภัยตัวเล็กๆคนนั้นเป็นผู้หญิงที่สวมใส่เครื่องแต่งกายเหมือนกับหมอผี

 

งูตัวนั้นสะท้อนอยู่ภายในดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอคนนั้นแล้ว

บทที่ 1 ตอนที่ 3

 

ต้นไม้ที่อยู่รอบๆนั้นออกผลเป็นผลไม้สีเขียวแทบจะทั้งหมดเลย สงสัยช่วงนี้คงจะอยู่ในฤดูของผลไม้พวกนี้ละมั้ง แถมผมยังเห็นบางลูกถูกแท่ะไปแล้วอีกด้วย

 

ของที่มีติดตัวผมอยู่ในตอนนี้จะเป็นของสำหรับใช้ขุดหาหินสกิลในเหมืองทั้งนั้น ทั้งกระเป๋าเปล่าๆ กระเป๋าเครื่องมือคาดเอวที่มีสิ่วกับหินขนาดพอเหมาะสำหรับใช้แทนค้อน และหินฟอสฟอรัสเรืองแสงจากตาแก่ฮินกา

 

เสื้อผ้าของผมนั้นทั้งทรุดโทรมและขาดรุ่งริ่ง แต่ก็ยังดีที่รองเท้าของผมนั้นทำมาจากหนังที่ทนทานและพื้นรองเท้าที่ทำมาจากไม้ ผมค่อนข้างชินกับรองเท้าแบบนี้จนไม่โดนรองเท้ากัดแล้ว แต่มันก็ยังไม่เหมาะกับการเดินทางในระยะไกลอยู่ดี แถมผมยังลื่นบ่อยๆเวลาเดินอยู่บนโคลนอีกด้วย

 

「หืมม? ใบไม้ใบนี้มัน…」

 

ผมเห็นใบไม้ที่หน้าตาเหมือนกับใบจิงจูฉ่าย แต่ดูเหมือนมันจะมี ”พิษเล็กน้อย” จากที่【World Ruler】บอกมา แต่ผมก็ได้รู้อีกว่ามันสามารถลบรอยสักของผมได้ ดังนั้นผมจึงเก็บใบพวกนี้มาถูกับข้อมือของผม

 

มีกลิ่นหอมสดชื่นของกุหลาบผสมกับกลิ่นใบไม้สีเขียว

 

「มัน… กำลังหายไป?」

 

ถึงผลลัพธ์จะดูไม่ค่อยชัดเจน แต่รอยสักนั้นก็ค่อยๆจางลงแล้ว… เอาเถอะ มันก็ไม่ได้ทำอันตรายกับผิว ดังนั้นผมจึงถูมันไปอย่างไม่กังวลมากนัก กลิ่นเองก็ไม่ได้แย่อีกด้วย

 

ผมเอาใบพวกนี้มายัดใส่ตรงสายรัดข้อมือของผมเป็นจำนวณมาก ก่อนจะเริ่มเดินต่อไป

 

ผมไปไม่ถึงเมืองถัดไปในวันนั้น

 

ผมหยุดพักในตอนกลางคืนบนต้นไม้ตรงชายขอบระหว่างป่ากับทุ่งหญ้า หลังจากนั้น ผมก็กินลูกโอ๊กและมัลเบอร์รี่ที่ผมเก็บมาก่อนหน้านี้พร้อมทั้งชมจันทร์ไปด้วย

 

ตอนที่ผมยังอยู่ที่ญี่ปุ่น ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นจังหวัด ผมเองก็โตมากับบ้านที่ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนา และเพราะว่ามันไม่ได้เจริญเท่ากับในเมือง ท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้นจึงสวยงามกว่าที่โตเกียว

 

…แต่แล้วสำหรับโลกใบนี้หล่ะ? ผมเกิดสังสัยขึ้นมา

 

「ว้าว…」

 

มันมีกลุ่มก้อนของระอองดาวที่เหมือนกับทางช้างเผือกอยู่เยอะแย่ะไปหมด ดวงจันทร์เสี้ยวนั้นส่องสว่างบนท้องฟ้าเหมือนกับที่โลก

 

ถ้ามาคิดดูดีๆแล้ว ถึงกลุ่มดาวบนฟ้าจะแตกต่างกัน แต่ก็ยังมีทั้งดวงจันทร์ อากาศ และมนุษย์เองก็ยังมีรูปร่างที่เหมือนกัน ว่าง่ายๆก็คือมีการวิวัฒนาการที่เหมือนๆกัน จะเรียกโลกนี้ว่าเป็นก๊อบปี้ของดาวโลกก็ยังได้ ทว่า สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเวทยมนตร์และสกิลนั้นก็ยังมีอยู่

 

บางทีผมคงจะไม่มีทางจะรู้ที่มาของโลกใบนี้ได้หรอก ขนาดที่ดาวโลก พวกเราเองก็ไม่ได้เข้าใจจักรวาลอย่างถ่องแท้เหมือนกัน ยังมีผู้คนที่ไม่เชื่อในทฤษฎีบิ๊กแบงอยู่เหมือนกัน ใช่ไหมละ?

 

ใบหญ้าในทุ่งหญ้าปลิวไสวไปมาเพราะสายลม มันเป็นคืนที่เงียบสงบปราศจากเสียงหมาหอนหรือเสียงหึ่งของแมลง

 

「…หืมม?」

 

ห่างออกไปจากทุ่งหญ้า บริเวณสันเขาอันมืดมิด มีเงาๆหนึ่งสันไหวอยู่

 

ผมเห็นเงาดำๆรูปร่างคล้ายๆกับนกอยู่ตรงนั้น

 

เดี๋ยวๆๆ เดี๋ยวก่อนนะ! ทำไมผมถึงเห็นนกตัวนั้นจากระยะนี้เนี้ย?!

 

เงาดำนั้นอ้าปากของมันขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

–กร๊าซ!

 

ในเวลาสั้นๆ ก็มีลูกบอลแสงที่ส่องสว่างไปทั่วบริเวณรวมถึงตรงที่ผมอยู่ออกมา บอลแสงนั้นพุ่งขึ้นไปบนฟ้าราวกับดาวหางแล้วตกลงมาบนพื้นเป็นเส้นโค้ง

 

–กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซ!

 

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงคำรามก็มาถึงผมพร้อมทั้งเสียงระเบิด

 

「นะ-นะ-นะ-นั้นมันตัวบ้าอะไรกันเนี้ย?!!!」

 

วินาทีต่อมา พื้นดินก็สั่นไหว ต้นไม้ที่ผมอยู่ก็เช่นกัน

 

ในที่สุดผมก็รู้แล้วว่าทำไมถึงไม่มีสัญญาณของสุนัขป่าหรือสัตว์อื่นๆภายในคืนนี้เลย เป็นเพราะว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่นั้นแน่ๆ

 

เหล่าสัตว์ที่คุ้นชินกับธรรมชาติยิ่งกว่าผมนั้นซ่อนตัวกันไปหมดแล้ว

 

【World Ruler】นั้นเงียบเฉียบทั้งๆที่มีเงาดำนั้น เป็นเพราะว่าระบุตัวตนจากเงาดำๆนั่นไม่ได้งั้นหรอ? ถึงอย่างนั้น มันก็ยังส่งข้อมูลของลูกบอลแสงว่า「ไม่เป็นอันตรายเนื่องจากว่ามันมาไม่ถึงตรงนี้」

 

เงาดำนั้นกลืนไปกับสันเขาก่อนจะหายไป

 

นั้นมันทางไปเหมืองไม่ใช่หรอ?

 

【World Ruler】ที่ตอบกลับมาว่า「ใช่แล้ว」นั้นตรงกับที่ผมคิดไว้

 

เมืองถัดไปนั้นเข้ามาอยู่ในระยะสายตาของผม

 

ในตอนที่ตัวผม – ที่ทั้งเหนื่อยจากการนอกด้านนอกและเดินไม่มั่นคงจากการอดนอน – กำลังจะฉลองนั้น

 

ผมก็เห็นบริเวณทางเข้าที่เชื่อมกับทางหลวงนั้นกลับเต็มไปด้วยทหารยาม

 

「–ทาส?」

 

「–จากเหมือง…」

 

คำพูดพวกนั้นลอยตามลมจนมาถึงผม ผมก็รีบเคลื่อนตัวหลบออกมาอย่างเงียบๆ

 

…ที่นี่ก็ไม่ได้งั้นหรอ

 

ผมไม่อยากจะเสี่ยงโดยไม่จำเป็นหลังจากที่ระมัดระวังตัวมาถึงขนาดนี้แล้ว

 

…แต่ว่า ผมทั้งเหนื่อย! ทั้งง่วง! ทั้งเหงา!

 

คงได้แต่ทำใจ ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากที่จะต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

 

ตื่นขึ้นมาบนต้นไม้ในตอนเช้า ถ้ามีลำธานอยู่ใกล้ๆก็จะล้างหน้าและบ้วนปาก เดินไปขณะถูข้อมือของผมด้วยใบจิงจูฉ่าย ผมรู้สึกว่ารอยสักมันค่อยๆหายไปแล้ว บางทีอาจจะเป็นแค่รู้สึกไปเองก็ได้

 

จากนั้นผมก็หยิบพวกผลไม้หรือเมล็ดที่กินได้ขึ้นมากิน ผมโชคดีที่ป่าแห่งนี้นั้นอุดมไปด้วยพืชที่กินได้

 

ตัวผมนั้นทั้งอยากที่จะกินขนมปัง พาสต้า ข้าว เนื้อ หรือแม้กระทั้งปลา แต่ผมคิดว่าผมยังคงสามารถใช้ขีวิตแบบนี้ไปได้อีกเป็นสัปดาห์ จนถึงตอนนั้นผมก็คงกลายเป็นสุดยอดคนไร้บ้านของประเทศนี้ไปแล้ว

 

มันก็ผ่านไปแล้ว 2 วันตั้งแต่ตอนนั้น ผมยังไม่พบเมืองถัดไปเลย

 

อยู่ๆผมได้กลิ่นแปลกๆ

 

「หืมม? กลิ่นอาหารงั้นหรอ…?」

 

กลิ่นของเครื่องเทศตีมาที่จมูกของผม ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นแค่ภาพหลอน แต่เมื่อผมยืนยันกับ【World Ruler】แล้ว ดูเหมือนว่าจมูกของผมจะถูกต้องนะ

 

มันมีกลุ่มคน3คนนั้งล้อมรอบกองไฟอยู่ตรงบริเวณพื้นที่ว่างเล็กๆในป่า ห่างไปราวๆ100เมตรจากตรงที่ผมอยู่ คนๆหนึ่งนั้นเป็นชายร่างใหญ่ คนถัดไปนั้นเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวเหมือนแม่ชี ส่วนคนสุดท้ายนั้นมีรูปร่างเล็กสวมใส่ฮู้ดปิดบังใบหน้าเอาไว้

 

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะพลบค่ำแล้ว คนกลุ่มนั้นก็กำลังย่างเนื้ออยู่ที่กองไฟ

 

–อึก

 

ตอนแรกผมคิดว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง แต่ปรากฎว่านั้นเป็นเสียงของผมที่กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ผมพูดไว้ว่าผมจะมีชีวิตรอดแบบนี้ต่อไปอีกราวๆ5วันก็จริง แต่นั้นคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ผมตายแน่ถ้าผมไม่ได้กินเนื้อในตอนนี้【World Ruler】นั้นตอบกลับมาว่า「ยังอยู่รอดแบบนี้ไปได้อีก10วัน」เงียบไปเลย!

 

「…อู้ววว」

 

แต่ผมจะทำอะไรโง่ๆอย่างปรากฎตัวออกไปต่อหน้าพวกเขาไม่ได้ในตอนนี้ เหตุผลของผมดูจะยังเหนือกว่าอยู่ เพราะผมนั้นหลบหนีออกจากเหมืองเข้ามาในป่าด้วยทุกอย่างที่ผมมีเลย ผมคงจะเป็นคนที่โง่มากๆที่จะไปเปิดเผยตัวต่อคนที่ผมไม่รู้จัก

 

–กึกกกกก

 

แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมคิดว่าได้ยินเสียงบางอย่าง แต่ว่ามันเป็นเสียงจากฟันที่กระทบกันของผม

 

นี่พวก นายอยากจะกินเนื้อนั่นขนาดนั้นเลยหรอ? ใช่! ผมอยากกิน ……พวกนั้นจะไปเข้าห้องน้ำพร้อมกันเหมือนกับปาฏิหาริย์หน่อยไม่ได้รึไงนะ? เนื้อพวกนั้นจะช่วยบินออกมาเหมือนจรวดแล้วตกลงมาบนมือของผมไม่ได้รึไงนะ? เดี๋ยวก่อนสิ… นี่อยากจะกินเนื้อประหลาดๆนั่นจริงๆหรอ? ใช่! ผมอยากกินเนื้อนั่นไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!

 

「ผมเริ่มจะเป็นบ้าแล้ว」

 

ผมพิงไปที่ต้นไม้และรู้สึกกลัวถึงเหตุผลของผมที่ค่อยๆหายไป

 

…กลิ่นนั่นจะทำให้ผมเป็นบ้า ผมได้กลิ่นน้ำมันที่ไหลออกจากเนื้อย่างด้วย อ้าาาา!

 

「ไปจากที่นี่ดีกว่า…」

 

ในตอนที่ผมหันหลังจากเหล่านักพจญภัยนั้นเท่านั้นแหล่ะ

 

「!」

 

กิ่งไม้ที่อยู่เหนือหัวของนักพจญภัยตัวเล็กที่สวมฮู้ดอยู่นั้น แท้จริงแล้วเป็นงูพิษที่หน้าตาเหมือนกิ่งไม้

 

พิษร้ายแรงมาก ถ้าโดนมันกัดที่แขนละก็ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตัดแขนทิ้งเท่านั้น และถ้าโดนที่ตัวละก็ตายแน่นอน – ข้อมูลนี้หลั่งไหลออกมาจาก【World Ruler】ต้องหนี ต้องรีบหนี ต้องรีบหนีแล้ว

 

ผมตกใจแล้วมองไปที่มันอีกครั้ง งูตัวนั้นแยกเขี้ยวออกมาเหนือหัวของนักพจญภัยตัวเล็กๆนั้น

 

…มันจะกัดคนๆนั้นงั้นหรอ?!

 

「ข-ข้างบน!」

 

ในตอนนั้น ผมไม่สนใจสถานการณ์อะไรในตอนนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะความเสี่ยงหรือตัวตนของพวกเขา ผมก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมนั้นออกวิ่งตรงไปที่พวกเขาอยู่ ชายร่างใหญ่นั้นตกใจแล้วชักมีดออกมา แสงจากกองไฟสะท้อนไปที่ใบมีดเล่มนั้น

 

「ข้างบน! มองข้างบน!」

 

「เดี๋ยวก่อน ดันเต้ เด็กคนนั้นกำลังพูดอะไรบางอย่าง!」

 

「แต่ว่า…」

 

「ข้างบนนนนน…. งูงูงูงูงูงูงู!!!」

 

「เอ่ะ? งู?」

 

เมื่อนักพจญภัยตัวเล็กๆคนนั้นมองขึ้นไป งูพิษตัวนั้นก็กำลังจะตกลงมาใส่เธอแล้ว ทุกอย่างเคลื่อนไหวช้ามากในสายตาของผม มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากที่ผมนั้นอยู่ห่างจากพวกนั้นเกินไป ชายร่างใหญ่มัวแต่สนในผมจนไม่ทันได้มอง แม่ชีคนนั้นก็ดูจะสับสน ส่วนนักพจญภัยตัวเล็กๆคนนั้น ฮู้ดที่สวมอยู่ล่วงลงมาในตอนที่มองขึ้นไป เผยให้เห็นผมสีอำพันยาว มีผมเปียที่ถูกถักอย่างประณีตมัดไว้ด้วยลูกปัดสีสดใส – ที่บางทีคงจะเป็นอัญมณี นักพจญภัยตัวเล็กๆคนนั้นเป็นผู้หญิงที่สวมใส่เครื่องแต่งกายเหมือนกับหมอผี

 

งูตัวนั้นสะท้อนอยู่ภายในดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอคนนั้นแล้ว

 

================================================================

TL: เว้นวรรคแบบนั้กับแบบก่อน อันไหนดีกว่ากันหรอครับ? ผมจะได้นำไปปรับใช้

 

 

 

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

Options

not work with dark mode
Reset