บทที่ 2 ตอนที่ 3
ร่างกายของผมนั้นขยับไปเอง
ผมกระโดดลงมาจากหลังคาแล้วลงจอดที่ตรอกด้านหลังโดยที่ไม่ให้เกิดเสียง ผมใช้งาน【เสริมการมองเห็น】,【Night Vision】,【เสริมการได้ยิน】,และ【เสริมการดมกลิ่น】อย่างเต็มที่แล้วก็พบว่าไม่มีสัญญาณของผู้คนนอกจากมือสังหาร
ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าขุนนางคนนั้นชั่วร้ายหรือไม่ แต่ผมรู้สึกว่าผมต้องทำอะไรซักอย่าง
「อันดับแรกก็เพื่อไวเคานต์โนวกุที่ถูกแกทำลายไป」
มือสังหารเตรียมหน้าไม้ของเขา; หน้าไม้มันพกพาง่ายและแม่นยำอย่างมาก
เมื่อลูกธนูถูกยิงออกมา มันก็ได้ทะลวงฝ่ามือซ้ายของขุนนางคนนั้น ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ยังคงไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมา
「…หืมม เลือดของ “ลอร์ดเลือดเย็น” ก็ยังเป็นสีแดงเหมือนกันสินะ หา…」
ตอนที่ยิงลูกธนูออกไป ผมก็ได้อยู่ด้านหลังห่างจากพวกเขาเพียงแค่ 10 เมตรเท่านั้น
ขุนนางคนนั้นต้องเห็นการมาของผมแล้ว ทว่าเขากลับไม่มองมาที่ผมเลย ไม่แสดงสีหน้าออกมาด้วยซ้ำ
…สุดยอดไปเลย
ปัญหาก็คือการจัดการกับทั้ง 5 คนนี้ ถ้าผมทำพลาดเพียงแค่เล็กน้อยละก็ มือสังหารระดับมืออาชีพพวกนี้ต้องฆ่าขุนนางคนนั้นก่อนแน่นอน หลังจากนั้นค่อยวิ่งหนีหรือหันมาสู้กับผม ถ้าเป็นอย่างนั้นละก็ ที่ผมลงมาถึงตรงนี้ก็ไร้ค่าทันที
ไม่จำเป็นต้องร่ายเวทย์ขนาดใหญ่เพื่อจัดการคนจำนวณมากหรอก แถมด้วยการที่พวกมือสังหารอยู่ใกล้กับขุนนางคนนั้นด้วย ถ้าผมใช้เวทย์ขนาดใหญ่ ขุนนางคนนั้นต้องโดนลูกหลงไปด้วยแน่นอน
ผมกางมือไปทางเหล่ามือสังหาร หินสีดำขนาดเท่าลูกปิงปองก็ปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้วของผมทีละอัน
(หนึ่ง, สอง, สาม…)
นี้เป็นเวทย์กระสุนหิน ที่มีพื้นฐานมากจาก【เวทย์ดิน】ทว่าตามปกติแล้วจะสร้างได้เพียงแค่ก้อนเดียวเท่านั้น
แถมตามต้นฉบับหินจะมีสีเทา แต่ของผมเป็นสีดำเพราะผมเลียนแบบวิธีของมือสังหารพวกนี้
(สี่, ห้า…)
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างหินขึ้นมา 5 ก้อนแล้วคงสภาพมันไว้ในเวลาเดียวกันด้วยการควบคุมเวทย์ตามปกติหรอก ขนาดนักเวทย์มากประสบการณ์ยังทำได้สูงสุดแค่ 3 ก้อนเอง
ใบหน้าของขุนนางคนนั้นแสดงความแปลกใจออกมาเป็นครั้งแรก
(ใบหน้าตอนตกใจของเขาเป็นแบบนี้เองหรอเนี้ย คิดว่าเขาจะเป็นคนไร้ความรู้สึกซะอีก แต่ก็ดีใจที่มันไม่เป็นแบบนั้นนะ…)
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าเหล่ามือสังหารเองก็รับรู้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเขาเช่นกัน
「หืมม…? ไม่มีทางน่า! กำลังเสริมมาแล้วงั้นเรอ—」
ผมยิงกระสุนหินทั้ง 5 ลูกออกไปทันที พวกมันโดนเข้าที่หลังหัวของเหล่ามือสังหารจนพวกเขาสลบไป
จริงๆผมก็อยากจะผสมมันด้วย【เวทย์ไฟ】แล้วยิง “ฟิงเกอร์แฟลร์บอมบ์” ออกไปอยู่หรอก ขนาดผู้คนในญี่ปุ่นยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมันเลย ไม่ต้องพูดถึงผู้คนในโลกนี้เลยละ “การผจญภัยของได” นี้มันสุดยอดที่สุด! (TL: ตามโน๊ตของENบอกว่า “ฟิงเกอร์แฟลร์บอมบ์” กับ “การผจญภัยของได” มาจากDragon Quest)
ขุนนางคนนั้นอึ้งไปจากที่เห็นผมจัดการกับพวกมือสังหารพร้อมๆกัน
…หืมม พอดูใกล้ๆแล้วชายคนนี้โคตรดูดีเลย
ในทางกลับกัน ผมที่ใส่ชุดสำหรับฝึกซ้อมที่มีรอยเย็บ – เพราะมันขาดในตอนที่ฝึกซ้อมอยู่ – และมีผ้าขนหนูคล้องอยู่ที่คอ
ถ้าไม่สนใจดวงตาสีดำของผม ผมสีฟ้าเทาของผมนั้นถือเป็นเรื่องปกติของผู้คนบนโลกนี้ ดังนั้นจึงไม่มีใครเอะใจ สีย้อมที่ผมใช้ก็เรียนรู้มาจากมิมิโนะซังแล้วใช้วัตถุดิบของผมทำขึ้นมาเอง
「เจ้าเป็นใครกัน?」
…อา ขนาดเสียงก็ยังหล่อเลย เขาต้องได้รับพรจากพระเจ้าแน่ๆ
「ผมเป็นเพียงแค่คนทำความสะอาดที่ผ่านทางมาก็เท่านั้นเองครับ แล้วก็ดูเหมือนว่าเพื่อนๆของคุณจะขยับไม่ได้เพราะพิษยาชา ดังนั้นพวกเขายังไม่ตายหรอกครับ ส่วนพวกมือสังหารเองก็คงไม่ตื่นขึ้นมาในเร็วๆนี้หรอกครับ แต่ทางที่ดีก็ควรจะมัดมือของพวกเขาเอาไว้นะครับ เพื่อเอาไว้」
ตามที่【World Ruler】บอกเอาไว้ เหล่าอัศวินกับคนขับรถม้านั้นไม่เป็นอะไรมาก อัศวินพวกนั้นไม่ใช่สมาชิกภาคีอัศวินที่ผมทำงานให้บ่อยๆ พวกเขาคงเป็นเหล่าอัศวินที่ถูกจ้างโดยตรงโดยขุนนางคนนี้
ผมถอดหน้ากากของพวกมือสังหารพร้อมกับมัดมือพวกเขาอย่างช่ำชอง
「งั้น ผมขอตัวนะครับ」
รางวัลหรือคำขอบคุณนั้นไม่จำเป็น ผมอยากจะออกไปจากที่นี่แล้ว
ถึงมันจะเป็นเวลากลางคืน แต่ในไม่ช้าประชาชนรอบๆบริเวณนี้ก็คงจะรู้ตัวแน่นอน และถ้าผมถูกจับไปสอบสวนละก็ ตารางทำความสะอาดของผมก็จะถูกเลื่อนออกไป
นั่น… เป็นแค่ข้ออ้างโง่ๆของผมก็เท่านั้นเอง
(ความจริงก็คือ… ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมาก)
เขายังคงใจเย็นแม้ในตอนที่เขากำลังจะถูกฆ่า แถมเขายังจ้องมาที่ผมอย่างไม่วางตาเลยด้วย
ผมรู้สึกรางไม่ดีจากตัวเขา
「เจ้าเป็นใครกัน?」
เขาถามคำถามเดิมออกมา
「ก็แค่คนทำความสะอาดที่ผ่านทางมาครับ เอาละถ้างั้น」
รู้สึกเหมือนกับว่าเขาจะถามคำถามเดิมซ้ำๆแน่ๆถ้าผมไม่พูดอะไรออกไป ดังนั้นผมจึงบอกเขาออกไปแบบนั้นแล้วรีบหนี ผมวิ่งออกมาค่อนข้างเร็ว เขาเลยตามผมมาไม่ได้
เพราะแบบนั้น ฉากการช่วยเหลือเขาเอาไว้เลยไม่ใช่เรื่องน่าทึ่งอะไร
ปัญหามันต่อจากนั้นต่างหาก
ไม่กี่วันต่อมา ในช่วงเวลาตอนบ่าย ผมก็ได้ถูกเรียกตัวไปโดยผู้ดูแลหอพักของภาคีอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ 18 แห่งราชันศักดิ์สิทธิ์
「โอ้ เจ้าหนูทำความสะอาด โทษทีนะที่เรียกนายมา」ผู้ดูแลหอพักพูดขึ้น เขามีหนวดสั้นๆและค่อนข้างอ้วน แต่โดยรวมแล้วก็ดูเป็นคนใจดี
「นายท่านเอิร์ลซิวลิซส์อยากจะจ้างนายให้ไป “ทำความสะอาด” หน่ะ」
ขุนนางอยากให้ผมไปทำความสะอาดยังงั้นหรอ?
「ข้าว่าชื่ออย่าง “นักทำความสะอาดในตำนาน” คงจะเป็นที่นิยมในหมู่พวกขุนนางแล้วแน่ๆเลย ฮ่าๆๆๆ…」
「นั่นเป็นไปได้ด้วยหรอครับ?」
「แน่นอนสิ พวกอัศวินเกือบทั้งหมดที่นีานั้นเป็นเครือญาติของพวกขุนนางกันอยู่แล้ว ถ้าพวกเขาพูดถึงนายในตอนที่กลับบ้านละก็ มันก็เป็นไปได้ละนะ」
「หืมม ยังงั้นหรอครับ」
สั้นก็คือ ผมประมาทเกินไป
หลังจากนั้นผมก็เปลี่ยนเป็นชุดสำหรับทำความสะอาด ก่อนจะถูกพาไปยังคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ดูราวกับงานศิลปะ และขุนนางคนที่ผมช่วยเอาไว้เมื่อไม่กี่วันก่อนก็กำลังรอผมอยู่ที่นั่น
ระเบียงของคฤหาสน์นั้นถูกสร้างโดยกระจกใสขนาดใหญ่ ผมสงสัยจังว่ามันต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการสั่งทำกระจกที่ทั้งใสและไร้ฟองอากาศแทรกข้างในแบบนี้กัน? เขานั่งอยู่ตรงโต๊ะสีขาวที่มีเก้าอี้เบาะสีแดง เขากำลังดื่มชาอย่างละเมียดละไม พร้อมกับอ่านเอกสารในมือไปด้วย ภาพของท่านเอิร์ลในตอนนี้ราวกับภาพวาดเลยละ มีอัศวิน 2 คนยืนอยู่ด้านหลังของเขาและอีก 3 คนอยู่ด้านหลังของผม หนึ่งในคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของท่านเอิร์ลนั้นก็อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นด้วย
ต่างจากอัศวินในภาคี เหล่าอัศวินที่ถูกจ้างโดยตรงจากขุนนางนั้นมีรูปลักษณ์ที่ต่างออกไป อัศวินในภาคีนั้นจะใช้สีฟ้าสว่างที่เป็นสัญลักษณ์ของราชันศักดิ์สิทธิ์ ทว่า อัศวินพวกนี้นั้นสวมเสื้อคลุมสีแดงและเกราะโลหะสีขาว พวกเขาไม่ได้ใส่ชุดแบบนี้ในคืนนั้น ทว่ากลับใส่มันในตอนนี้… ก็หมายความว่าพวกเขากำลังระมัดระวังตัวมากขึ้นหลังจากการโจมตีครั้งนั้นสินะ?
เนื่องจากในโลกนี้ไม่มีเครื่องจักรไว้ทำงาน เครื่องสวมใส่ทั้งหมดนั้นจึงเป็นของทำมือ ถ้าเขาเตรียมมันมาได้มากขนาดนี้ก็แสดงว่าขุนนางคนนี้ต้องรวยมากๆเลยละ
ถึงของอัศวินในภาคีจะแพงมากกว่าก็เถอะ แต่นั่นก็มาจากภาษีประชาชน
หลังจากที่รู้สึกตัวถึงผม ปากบางๆของท่านเอิร์ลก็เปิดออก
「ขอบคุณที่ได้ช่วยข้าเอาไว้เมื่อวันก่อน」
「…ท่านหมายถึงเรื่องอะไรหรอครับ?」
จากมุมมองของผม มีเหตุผลที่ผมต้องระมัดระวังตัวอยู่มากมายเลยละ ชายคนนี้ตามหาตัวผมได้จากข้อมูลอันน้อยนิดที่เขาได้ไปจากคืนนั้นเลยนะ
「ผมมาที่นี่ก็เพราะคำขอให้ทำความสะอาดครับ จากที่ผมดูๆมา คฤหาสน์หลังนี้นั้นค่อนข้างสะอาดเลยนะครับ และต้นไม้ในสวนเองก็ถูกตัดแต่งอย่างดี แถมเกราะของคุณอัศวินก็ยังสะอาดสดใสมากๆอีกด้วยครับ ดังนั้นมันก็ดูจะไม่ค่อยเหลืออะไรให้ผมทำเลยนะครับ」
「ข้าอยากข้อร้องให้เจ้ามาเป็นคนคุ้มกันให้กับลูกสาวของข้า」
อืม อยู่ๆคำขอแบบนั้นก็โพล่มาจากไหนไม่รู้