บทที่ 2 ตอนที่ 4
「ท่านครับ นั่นมัน…」หนึ่งในอัศวินพูดขึ้นด้วยสีหน้าขมขื่น แต่ท่านเอิร์ลก็ตอบกลับไปอย่างเย็นชาว่า 「หุบปาก」
ในขณะนั้นเอง ผมก็กำลังหาเส้นทางหลบหนีในกรณีที่เรื่องมันบานปลายมากไปกว่านี้ ผมจะพังหน้าต่างตรงนั้นแล้วหนีไป… และจะไม่พยายามช่วยขุนนางอีกแล้วเพราะมันจะพาผมมาเจอเรื่องยุ่งยากแบบนี้อีกแน่ๆ
「ข้ารู้ว่าข้าต้องมองไปยังอนาคต แต่ว่าข้าเองก็มีปัญหาของข้าเช่นกัน เมื่อข้าตายไป ลูกสาวของข้าก็จะตกอยู่ในอันตราย ลูกสาววัย 11 ขวบของข้าคงไม่อาจมีชีวิตรอดในสังคมของขุนนางที่เป็นดั่งพายุโหมกระหน่ำนี้ได้หรอก」
「งั้นหรอครับ? นั่นหมายความว่าท่านไม่ได้จะร้องขอให้ผมทำความสะอาดอย่างงั้นหรือครับ?」
「ได้โปรดทำความสะอาดศัตรูของลูกสาวข้าด้วย」
ลื่นไหลจังนะ…
「เรย์จิซัง ข้าลองค้นประวัติของเจ้าแล้ว ทว่าข้าก็ไม่พบอะไรที่เกี่ยวกับตัวตนของเจ้าเลย เจ้ามาถึงราชอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เมื่อ 3 ปีก่อน แล้วตอนนี้ก็ทำงานเป็นคนทำความสะอาดประจำภาคีอัศวิน ถึงจะไม่แน่ใจว่าทำไมเจ้าถึงทำงานเป็นคนทำความสะอาด แต่ว่าครั้งหนึ่งเจ้าก็เคยจ่ายหนี้ที่นักพจญภัยนามเซอรี่ติดค้างเอาไว้ ถูกต้องไหม?」
เขารู้เรื่องพวกนั้นในเวลาเพียงไม่กี่วันเนี้ยนะ ผมไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกตกใจหรือทึ่งดี
「…เจ้ายังเลือกที่จะปิดปากเงียบยังงั้นรึ? เจ้าดูจะดีกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ซะอีก」
…ไม่ ผมแค่อึ่งไปก็เท่านั้นเอง จริงๆผมเริ่มกลัวมากขึ้นแล้วนะจากการที่คุณคาดหวังกับผมไว้สูงหน่ะ
「คนอื่นๆออกไปซะ」
「ท่านครับแต่ว่า…」
「นี้เป็นคำสั่ง」
「ครับท่าน」
เหล่าอัศวินต่างออกไปจากระเบียงโดยส่งสายตาเกลียดชังมาที่ผม ถึงผมจะเป็นคนที่อยากจะออกไปจากที่นี่มากที่สุดก็เถอะนะ
เสียงเกราะโลหะกระทบกันในทุกฝีก้าวที่เหล่าอัศวินเดินไป ทว่าเมื่อพวกเขาจากไปแล้ว ความเงียบสะงัดนี้ก็กำลังทำร้ายผม
「…เออ นี่มันหมายความว่ายังไงหรอครับ? ผมตามไม่ทันแล้วครับ」
「ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าได้ตายไปครั้งหนึ่งแล้ว เจ้าเข้าความรู้สึกนี้ไหม? ข้ามักจะระมัดระวังตัวอยู่เสมอถึงแม้จะอยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม แต่ว่าข้ากลับรู้สึกผ่อนคลายโดยที่ไม่รู้ตัว มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของข้าเลย」
「ท่านไม่สามารถระวังตัวอยู่ตลอดเวลาได้หรอกครับ」
「ขนาดคนที่แข็งแกร่งอย่างเจ้าก็ยังคิดเช่นนั้นรึ?」
「…ผมไม่ได้แข็งแกร่งอะไรหรอกครับ」
ผมคิดแบบนั้นจริงๆนะ เพราะพลังทั้งหมดที่ผมมีนั้นล้วนมาจาก【World Ruler】ทั้งนั้นเลย
ความแข็งแกร่งที่แท้จริงหน่ะหาได้จากสภาวะสุดขั้วเท่านั้น ดันเต้ซังเป็นคนที่แข็งแกร่ง เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถปกป้องพวกพ้องเอาไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และในตอนนี้ที่พิษคำสาปหายเองก็หายดีแล้ว เขาจะต้องแข็งแก่รงมากกว่าตอนนั้นอย่างแน่นอน
「ดูจะไม่ใช่การถ่อมตนนะ ข้าคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเลยละ」
「นั่นเองก็ไม่ใช่คำที่เอิร์ลควรใช้กับคนทำความสะอาดหรอกนะครับ」
「มีอะไรที่เจ้าอยากได้ไหม? ถ้าเจ้ายอบรับข้อเสนอของข้าละก็ ข้าจะบรรลุเงื่อนไขทั้งหมดของเจ้าให้เอง」
คำว่า “เงื่อนไขทั้งหมด” นั้นดึงความสนใจของผมเอาไว้
บอกตรงๆว่าสิ่งที่ผมอยากจะทำ – ตามหาข้อมูลเกี่ยกับลาร์ค และก็ตามหาคนที่ชื่อลูลูช่า – นั้นมีข้อจำกัดในการทำด้วยตัวคนเดียวอยู่
ผมคิดได้แค่ว่าในตอนนี้ผมจะไปตามเมืองใหญ่ๆแล้วถามหาข้อมูลกับกิลด์นักพจญภัยเอา อะไรอย่างฐานข้อมูลของประชากรนั้นไม่มีอยู่ในโลกใบนี้ และประวัติการเกิดที่บันทึกเอาไว้โดยโบสถ์เองก็ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะอีกเช่นกัน
(แต่ถ้าเป็นพวกขุนนางละ?)
ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่ามีขุนนางอยู่มากแค่ไหนในราชอาณาจักรคูวานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ แต่เอิร์ลก็น่าจะมีตำแหน่งที่สูงพอตัวอยู่ เพราะเขาเองก็มีบ้านที่ใหญ่ขนาดนี้เลยนี่นา
คนคุ้มกันงั้นหรอ…
การปกป้องเขาโดยตรงมันก็น่าจะยากนิดหน่อยนะ เพราะเขาต้องไปยังที่ต่างๆบ่อยๆใช่ไหมละ? ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เขอ บางครั้งเขาอาจจะต้องเข้าพบกับราชันศักดิ์สิทธิ์ด้วย เด็กอย่างผมคงจะตามเขาไปยังที่แบบนั้นไม่ได้หรอก และในทางกลับกัน พวกเขาจะรู้สึกระแวงผมมากกว่าซะอีก
แต่ถ้าเป็นลูกสาวของเขาละ?
(เขาบอกว่าเธออายุ 11 ขวบใช่ไหม? งั้นเธอก็อายุน้อยกว่าผมแค่ 2 ปีเอง มันก็คงดูไม่แปลกถ้าผมจะตัวติดไปกับเธอ… เดี๋ยวก่อนนะ นั่นหมายความว่าเขาคนนี้มีลูกในตอนที่ยังวัยรุ่นอยู่งั้นหรอ?!)
ผมประหลาดใจกับจุดที่ไม่สำคัญซะงั้น
「ดูจากที่เจ้ายังเงียบอยู่ก็แสดงว่าเจ้ากำลังตัดสินใจอยู่สินะ?」
ชายคนนี้มั่นใจว่าผมเป็นคนที่ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะโกหกเขาต่อไป…
ถ้ามันมีความเสี่ยงเพียงแค่เล็กน้อยละก็ ผมคงช่วยทำหน้าที่คุ้มกันให้ได้นิดหน่อยละนะ
「…แล้ว มีอันตรายอยู่รอบตัวคุณหนูมากแค่ไหนกันครับ?」
「น่าจะประมาณครึ่งนึงของข้าละนะ ขุนนางที่เป็นศัตรูเกือบทั้งหมดนั้นคงคิดว่าจะสามารถจัดการกับเธอได้ ถ้าข้าตายไปแล้วหน่ะ」
อืม มันก็ฟังดูไม่ได้เลวร้ายอะไร คิดว่านะ
「ท่านเอิร์ลครับ ทำไมท่านถึงเชื่อใจผมให้คุ้มกันลูกสาวของท่านละครับ เพราะแค่ผมเคยช่วยชีวิตท่านเพียงครั้งเดียวนะหรอครับ?」
「เจ้ามีประโยชน์กว่าพวกอัศวินในเหตุกาณ์นั้นทั้งหมดซะอีก แค่นั้นก็น่าจะมากพอแล้วนี่?」
「ผมคิดว่านั่นไม่ใช่เหตุผลดีพอที่จะฝากลูกสาวของท่านให้กับคนแปลกหน้าหรอกนะครับ」
「พวกเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดที่ถูกจ้องจะเอาชีวิตแม้จะอยู่ในเมืองศักดิ์สทธิ์เลยนะ ตามปกติข้าก็คงไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้ลูกสาวของข้าหรอก แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ปล่อยให้ข้าลังเลใดๆแล้ว และเจ้าเองก็ดูเหมือนเด็ก มันสะดวกมากเพราะจะทำให้เจ้าไม่ถูกสงสัยเวลาอยู่ใกล้กับลูกสาวของข้า」
งั้นหรอ มันไม่มีผลเสียมากมายอะไรสำหรับจ้างผมอย่างนั้นสินะ
「…เข้าใจแล้วครับ ผมรับข้อเสนอ」
「ขอบคุณมาก」
ท่านเอิร์ลยิ้มออกมา ทว่ามันดูไม่เหมือนกับยิ้มจริงๆเลย
ผมจำได้ว่าเขาถูกเรียกว่า “ลอร์ดเลือดเย็น” สินะ ใครกันที่คิดชื่อเล่นที่แสนหยาบคายแบบนี้กัน? มันเข้ากับเขามากเลยละ
「อย่างไรก็ตาม–」
ผมชูนิ้วมือขึ้นมา 3 นิ้ว
「ผมมีเงื่อนไขอยู่ 3 ข้อครับ」
「ไหนลองว่ามาสิ」
「ข้อแรก ผมอยากจะรู้ข่าวคราวที่เกี่ยวกับหินสกิล 5 ดาวหรือสูงกว่าครับ」
「หินสกิลงั้นรึ…」
บางทีเขาคงจะไม่ได้คาดการณ์เงื่อนไขข้อนี้ของผมเอาไว้ เพราะเขากำลังกระพริบตาด้วยความแปลกใจอยู่
ผมคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าไม่พูดชื่อลาร์คออกไป เพราะเธอเป็นคนที่มีหมายจับจากสหพันธรัฐคีทแกรนด์ เหตุผลที่ผมไม่จำกัดแค่ “6 ดาว” และใช้เป็น “5 ดาวหรือมากกว่า” ก็เพราะจะให้เจตนาของผมเป็นปริศนาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
「ข้อที่สอง ผมกำลังตามหาผู้หญิงที่ชื่อว่า “ลูลูช่า” อยู่ครับ ผมไม่แน่ใจเรื่องอายุแต่ก็น่าจะประมาณตัวผม และตัวเธอเองก็มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์อีกด้วยครับ ได้โปรดใช่อิทธิพลของท่านเพื่อตามหาเธอด้วยครับ」
「หืมม… เธอคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้ากัน เรย์จิซัง?」
「อา เธอไม่ใช่ญาติหรือศัตรูหรอกครับ ผมแค่ได้รับฝากข้อความมาจากคุณตาของลูลูช่าแล้วอยากจะส่งให้ถึงเธอก็เท่านั้นเองครับ」
「โหว」
ท่านเอิร์ลยิ้มมากขึ้น และถึงมันจะแค่เล็กน้อย แบบเล็กน้อยจริงๆ – ขนาดที่ถ้าไม่ใช่ผมก็คงจะไม่สังเกตเห็น – มันปรากฏอารมณ์ที่แท้จริงของเขาผสมอยู่ในรอยยิ้มนั้นด้วย
「เจ้านี้น่าสนใจดี ปกติเงื่อนไขจ้างวานและการต่อรองมักจะทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองนะ」
「มันก็กำไรมากพอสำหรับผมแล้วละครับ… แทนที่จะบอกว่ากำไร มันเป็นอะไรที่ผมต้องทำมากกว่าครับ…」
「ข้ายอมรับข้อเสนอทั้งสองข้อของเจ้า ยังไงซะการตามหาคนก็เป็นความถนัดของข้าอยูแล้ว」
ไม่ต้องสงสัยเลย เขาเองเจอผมในเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้นเอง นั่นแหล่ะทำไมผมถึงยอมรับงานคุ้มกันนี้
ท่านเอิร์ลเอนตัวมาข้างหน้าและวางศอกลงบนโต๊ะ โต๊ะส่งเสียงออกมาเล็กน้อย ในจังหวะนั้นเองคิ้วของเขาก็กระตุกไปเล็กน้อย – โอ้ ใช่แล้ว มือของเขาถูกยิงด้วยหน้าไม้นี่นา
ถึงแม้บาดแผลจะถูกปิดทันทีด้วย【เวทย์รักษา】ก็จริง แต่ความเจ็บปวดมันก็ไม่ได้หายในทันทีด้วย ส่งผลให้ยังคงเหลือความเจ็บปวดไปอีกสักพัก
ถึงแม้ว่าแผลเล็กๆน้อยๆจะหายขาดในทันทีก็เถอะ
「งั้นมาฟังเงื่อนไขข้อที่ 3 กันเถอะ เรย์จิซัง」