บทที่ 2 ตอนที่ 8
เรื่องก็ได้ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
พวกเราได้ทำลายธุรกิจค้าทาสไป 6 แห่งแล้ว และกำลังเดินทางกลับไปที่คฤหาสน์ของท่านเอิร์ล
「วันนี้พวกเราก็ทำลายธุรกิจค้าทาสได้สำเร็จอีกแล้วคะ!」คุณหนูรายงานออกไปอย่างมีความสุข
「งั้นหรอ ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ」ท่านเอิร์ลตอบกลับมาตามปกติพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
ที่แตกต่างจากปกติก็คือว่าหลังจากนี้ ผมจะต้องเข้า “ช่วงรายงาน” ทุกๆ 10 วันกับท่านเอิร์ลด้วย คุณหนูก็เลยถูกพาออกไปโดยหัวหน้าพ่อบ้านเซบาส
มีเพียงแค่ผมกับท่านเอิร์ลเหลืออยู่ในห้อง
กำแพงของห้องนี้นั้นทำจากไม้ที่มีลายไม้งดงามมาก แค่ตัวลายไม้อย่างเดียวก็ดูออกแล้วว่าไม้แต่ละแผ่นต้องมีราคาสูงมากถึงจะเป็นพนังห้องธรรมดาก็เถอะ ผมรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่างภายในห้อง ถึงแม้มันจะไม่มีของประดับอย่างภาพวาดหรือแจกันอยู่เลยก็ตาม
「โชคร้าย การตามหาคนที่ชื่อลูลูช่า–」ท่านเอิร์ลเริ่มพูดรายงานออกมาตามปกติ
ไม่มีข่าวคราวของลูลูช่าซังและหินสกิล 5 ดาวหรือมากกว่าเลย ท่าเอิร์ลนั้นถูกผูกมัดเอาไว้ด้วยเวทย์พันธสัญญา ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าเขากำลังโกหกหรอก
หลังจากที่เขารายงานจบ ผมก็ได้บอกเขาถึงชื่อ “นักบดขยี้ธุรกิจค้าทาส” ว่ามันกำลังแพร่กระจายอยู่ในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ท่านเอิร์ลก็ตอบกลับมาแค่ว่า “งั้นรึ?” ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนอย่างทุกที
「…มันไม่แปลกไปหน่อยหรอครับ ท่านเอิร์ล? ถ้าพวกเราทำลายสำนักงานจัดการทรัพยากรมนุษย์ไปเรื่อยๆแบบนี้ละก็ สังคมในเมืองนี้จะเจอปัญหาเอานะครับ」
「พูดได้น่าสนใจดีนะ เรย์จิซัง เจ้าเข้าใจถึงสภาพสังคมของเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ทุกอย่างเลยงั้นรึ?」
「มันก็ชัดเจนมากนะครับถ้าคิดถึงสภาพเศรษฐกิจของเมืองนี้ คนที่ฉลาดเช่นท่านต้องรู้ถึงเรื่องนี้อยู่แล้วแน่นอนครับ」
「งั้นรึ เจ้ามีความรู้ที่วิเศษไปเลยนะ เรย์จิซัง」
「โปรดหยุดหลบคำถามด้วยครับ แล้วข้อมูลการสืบสวนจากพวกพ่อค้าทาสที่พวกเราจับได้ละครับ?」
ท่านเอิร์ลยื่นเอกสารรายงานมาให้กับผม 5 แผ่น ดูเหมือนเขาจะเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ในโลกใบนี้ กระดาษนั้นทำมาจากพืช สภาพกระดาษนั้นไม่เป็นระเบียบและไม่มีเทคโนโลยีการพิมพ์ด้วย ดังนั้นมันจึงถูกเขียนด้วยมือทั้งหมด
…ที่ด้านบนขวาของเอกสารเขียนไว้ว่า “ห้ามนำออกไปจากสำนักงาน” ไม่ใช่เหรอ?
「ข้าได้รับอนุญาตให้นำมันออกมาแล้ว」ท่านเอิร์ลพูดขึ้นจากที่คาดเดาคำถามของผมเอาไว้แล้ว
จากที่มองผ่านๆ เอกสารพวกนั้นบอกว่าพวกหัวหน้าของสำนักงานจัดการทรัพยากรนั้นให้คำให้การที่เหมือนๆกันราวกับว่าได้เตี๊ยมกันมาก่อน – ตัวอย่างเช่น「ผมทราบว่าการทำเหมือนเป็นทาสแบบนั้นมันผิด แต่มันเป็นสิ่งจำเป็นครับ」,「ผมขออภัยที่เรียกทรัพยากรมนุษย์ว่าเป็นทาสครับ」, และตามด้วย 「พวกเราไม่ทราบว่าเป็นคุณหนูของท่านเอิร์ลซิวลิซส์ครับ」
(…พวกเขาได้รับอนุญาตให้ทำการมาจนถึงทุกวันนี้ได้เพราะมันเป็นสิ่งจำเป็น ทว่า เนื่องจากคำว่า “ทาส” นั้นออกมาจากปากของพวกเขาโดยตรง พวกเราก็เลยหยุดพวกเขาแล้วเรียกยามมา)
ผมถอนหายใจหนักๆออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ถึงพวกเราจะทำลายพวกมันไปแค่ไหน ตราบใดที่ยังมีผู้คนที่ต้องการ “ขาย” ตัวเองอยู่ละก็ มันก็จะโพล่ขึ้นมาเรื่อยๆ และพวกนี้ก็จะยิ่งเจ้าเล่ห์มากขึ้นกว่าเดิมอีก
สิ่งที่คุณหนูกับผมทำลงไปนั้นไร้ค่า บางทีท่านเอิร์ลคงจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วและป่อยให้คุณหนูทำตามใจตัวเองเพื่อให้ตัวเธอรู้สึกดีงั้นหรอ?
เมื่อผมเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสาร ท่านเอิร์ลก็จ้องมองตรงมาที่ผม
เขาสงสัยอะไรงั้นหรอ? ไม่สิ มันเหมือนกับว่าเขากำลังหาอะไรบางอย่างอยู่
เนื่องจากท่านเอิร์ลเป็นคนที่ไม่แสดงสีหน้าอยู่แล้ว การอ่านตัวเขาจึงยากยิ่งขึ้นไปอีก
「ท่านครับ หรือว่าบางทีท่านปล่อยคุณหนูให้ทำตามใจก็เพ–」
「เรย์จิซัง ข้าจะตอบทุกอย่างเกี่ยวกับการคุ้มกันให้กับเจ้า แต่ไม่ตอบคำถามในเรื่องส่วนตัวหรอกนะ」
ชายคนนี้…
「ถ้ายังงั้น ผมอยากจะเข้าร่วมการสืบสวนพ่อค้าทาสในครั้งนี้ครับ」
「…ไม่มีปัญหา ข้าจะแจ้งยามให้เอง」
โอ้ เขาอนุญาตผมอย่างง่ายดายเลยแห่ะ หืมม…
จากนั้นผมก็ออกมาจากห้องทำงานของท่านเอิร์ลด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับผมขาดอะไรบางอย่างไป
(ไปติดต่อกับเซอรี่ซังละกัน)
เซอรี่ซังที่เฝ้ามองพวกเราจากเงามืดในตอนที่พวกเราทำลายธุรกิจค้าทาสนั้นปกติจะทำงานเป็นนักพจญภัย มันก็ 4 ปีแล้วที่พวกเรามาที่เมืองนี้ ดังนั้นเธอก็น่าจะรู้ที่ที่เราสามารถใช้ซื้อขายข้อมูลได้อยู่
…ให้เธอไปหาข้อมูลของสำนักงานจัดการทรัพยากรมนุษย์ละกัน
***
ตารางของคุณหนูนั้นกว้างขวาง ทั้งเรียนหนังสือ, คาบเรียนส่วนตัว, และทำลายธุรกิจค้าทาส ทว่าในวันนี้นั้นต่างออกไป
มันเป็นงานเลี้ยงยามบ่าย ไม่ใช่งานที่เธอตามท่านเอิร์ลไป แต่เป็นตัวของเธอเองที่ถูกเชิญไปในฐานะตัวหลัก คุณหนูที่เคยเป็นแค่ “คนที่ไปด้วย” ของท่านเอิร์ลจนกระทั่งอายุ 12 ปีจะได้กลายเป็นขุนนางเต็มตัวในสังคมขุนนางแล้ว
“งานเลี้ยงต้นกล้าและจันทร์ดวงใหม่” ที่สนับสนุนโดยท่านราชันศักดิ์สิทธิ์นั้นจัดขึ้นเพื่อเหล่าเด็กๆตระกูลขุนนางที่มีอายุครบ 12 ปีในปีนี้ ในโลกใบนี้ที่ไม่มีพิธีประถมนิเทศหรือพิธีจบการศึกษา สำหรับครอบครัวขุนนางแล้ว “งานเลี้ยงต้นกล้าและจันทร์ดวงใหม่” ก็คืองานเลี้ยงใหญ่งานแรกและงานสุดท้ายสำหรับลูกๆของพวกเขา ขุนนางที่ร่ำรวยจะสั่งตัดชุดก่อนงานเลี้ยงจะเริ่ม 1 ปี ขนาดขุนนางที่ยากจนก็ยังต้องเช่าชุดมางานเลี้ยงต่อให้พวกเขาจะต้องไปหายืมเงินมาเช่าก็ตาม
สำหรับเหล่าลูกสาวก็จะเป็นชุดเดรส สำหรับลูกชายก็จะเป็นดาบล้ำค่าที่ห้อยอยู่ตรงเอว
ถึงมันจะเป็นดาบที่ฉูดฉาดและตกแต่งเว่อวังขนาดไหนก็ตาม มันก็ยังมีใบดาบที่คมกริบและสามารถฆ่าคนได้ การเรียนรู้ที่จะใช้มันนั้นจะถือเป็นก้าวแรกสู่การเป็น “ผู้ใหญ่”
บรรยากาศภายในคฤหาสน์นั้นกระสับกระส่ายมาตั้งแต่เช้าแล้ว
「ว้าว…」
「ช่างงดงามจริงๆ!」
ชุดเดรสของคุณหนูนั้นถูกตัดเย็บโดยช่างเย็บผ้าและนักออกแบบมือหนึ่ง – ที่ถูกจองตัวเอาไว้ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว – มันถูกวางเอาไว้บนโต๊ะ
มันทำจากผ้าสีแดงสว่างจากผ้าไหมที่ 3 แห่ง “ป่าไฮเอลฟ์” ที่มีอาณาเขตอยู่ในการปกครองโดยตรงของราชอาณาจักรเกฟเฟริดแห่งสหพันธรัฐคีทแกรนด์
ผ้าไหมที่ 3 ที่มีความเข้มข้นของมานาที่สูงมากนั้นใช้เวลาในการย้อมสีนานมากๆ แต่ดูท่านเอิร์ลซิวลิซส์จะได้มันมาทันนะ
…ขุนนางนี้สุดยอดไปเลยนะ
เหล่าเมดต่างก็อธิบายข้อมูลพวกนี้ให้กับผม ถึงแม้ผมจะไม่ได้ถามพวกเขาเลยก็ตาม
「คุณหนูอาบน้ำเสร็จแล้วค่ะ」
「งั้นก็นำชุดเดรสไปให้ใส่ให้คุณหนูได้แล้ว」
「ค่ะ จะนำไปเดี๋ยวนี้」
ประตูถูกเปิดออกมาเล็กน้อย ผมเหลือบไปเห็นคุณหนูอีวา คุณหนูตอนนี้กำลังสวมผ้าขนหนูสำหรับอาบน้ำอยู่ ผิวที่ขาวนวลของเธอแดงขึ้นจากการอาบน้ำทว่าสีหน้าของเธอกลับแข็งทื่อ แม้แต่คุณหนูเองก็ยังเครียดเลยหรอเนี้ย
「เรย์จิซังคะ」
「โอ๊ะ ครับ มีอะไรงั้นหรอครับ?」
หัวหน้าเมดจ้องมาที่ผม
「ต่อจากนี้ คุณหนูจะต้องเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงค่ะ」
「ครับ ผมรู้เรื่องนั้นแล้ว」
「แล้ว?」
「…คุณหมายความว่ายังไงหรอครับ?」
「แล้วคุณจะยืนแอบมองอยู่แบบนี้หรอคะ!? ออกไปได้แล้วคะ!」
เพราะแบบนั้นผมก็เลยรีบพุ่งตัวออกมาจากห้อง
ใช่แล้ว ต่อให้ผมเป็นคนคุ้มกัน ผมก็ไม่ควรมองคุณหนูเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าอยู่ดี
ตามจริงแล้ว ปกติคนคุ้มกันก็ต้องยืนรอเตรียมพร้อมอยู่ข้างนอกห้องด้วย ใช่ไหม?
…ผมคิดว่าผมคงจะกระสับกระส่ายเกินไปหน่อย อืม ก็มันเป็นงานเลี้ยงนี่นะ ผมเลยรู้สึกสนใจว่าจะมีอาหารแบบไหนมาเสิร์ฟในงานกัน
เมื่อผมเดินไปตามโถงทางเดิน ผมก็พบเข้ากับแม็กซิมซังที่สวมใส่ชุดเกราะแม้จะอยู่ในอาคาร ดูเหมือนเขาจะเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาเลยตั้งแต่เหตุการณ์ลอบสังหารท่านเอิร์ล
「โอ๊ะ เรย์จิ ข้ากำลังตามหานายอยู่พอดีเลย」