บทที่ 2 ตอนที่ 12
พูตตามตรงเลยนะ อย่างกับอยู่ต่างโลกเลยละ
ผมรู้ว่าคฤหาสน์ของท่านเอิร์ลนั้นมีราคาแพงมาก และก็ยังรู้ว่าชุดเดรสของคุณหนูเองก็มีราคาแพงมากเช่นกัน
แค่นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกทึ่งแล้ว แต่เมื่อมาอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยโคตรของโคตรความหรูหราแบบนี้ มันเกินกว่าที่ผมจะบรรยายได้เลย
「จากตระกูลเอิร์ลดอยล์ คุณหนูจูเลียตได้มาถึงแล้ว!」
「จากตระกูลเอิร์ลเรมี่ คุณชายไลก้าได้มาถึงแล้ว!」
「จากตระกูลเอิร์ลบูลเลี่ยน คุณหนูอลิซได้มาถึงแล้ว!」
บันไดหินอ่อนขัดเงาที่อยู่ตรงทางเข้าคฤหาสน์นั้นถูกขัดจนเงาวับ และมีคนรับใช้คอยปัดกวาดทุกครั้งที่มีคนเดินเข้าไปคนต่อคนเลยด้วย
ถัดจากประตูบานคู่ที่มีมือจับสีทองนั้น มีคนรับใช้ที่มีเสียงดีคอยประกาศชื่อของขุนนางที่มาถึง มันต้องเป็นเรื่องยากสำหรับเขาแน่เลยที่ต้องมาขานชื่อแบบนี้ถึง 22 ครั้ง
คุณหนูคนอื่นๆนั้นไม่เหมือนกับคุณหนูอีวา พวกเธอสวมใส่ชุดเดรสสีฉูดฉาดแบบสุดๆพร้อมกับอัญมณีมากมาย และมาพร้อมกับคนคุ้มกันที่สวมชุดเกราะเงาวับ – ทำเอาผมคิดว่าพวกเขาติดไฟ LED อะไรแบบนั้นเลย
เมื่อผมคิดว่ายังมีแบบนี้อีก 20 คู่ ผมก็รู้สึก “หยึย” มากกว่า “ทึ่ง” ซะอีก
อนึ่ง ผมที่ไม่เคยสนใจในสถานะของอุปกรณ์มาก่อนจนถึงตอนนี้นั้น หลังจากที่ได้ยินจากแม็กซิมซังว่ามีเกราะเวทมนตร์อยู่ ผมก็เริ่มตรวจสอบอุปกรณ์ทุกอย่างด้วย【World Ruler】
(พวกเขาไม่มีอาวุธ แต่สำหรับชุดเกราะละก็…「เสริมความสว่าง」?「ลบรอยเปื้อน」? นี้พวกเขาโง่รึไงกัน?)
ถึงจะพูดแบบนั้น ผมก็ดีใจที่พวกเขาไม่ได้ติดไฟ LED จริงๆ คิดว่าเสริมความสว่างด้วยเวทมนตร์ก็คงถือว่าเป็นไฟ LED ของโลกใบนี้แล้วละนะ… แถมมันยังกินมานาน้อยอีกด้วย
「ข้าหวังพึ่งนายนะ เรย์จิ」
「ผมจะทำเต็มที่เลยครับ」
แม็กซิมเรียกผมในขณะที่ผมกำลังคิดถึงเรื่องไฟ LED เพื่อหนีความจริงอยู่ ผมเป็นคนคุ้มกันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้สวมชุดเกราะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังเตี้ยและอายุน้อยที่สุดจากทั้งหมดด้วย ดังนั้นผมเลยตอบเขากลับไปอย่างหนักแน่นเพื่อทำให้ตัวเองโล่งใจขึ้น
การเข้าไปนั้นไม่จำเป็นจะต้องเรียงตามลำดับ แต่คนที่คอยประกาศจะขานชื่อคนต่อคนไป
「ระวังเท้าด้วยนะครับ คุณหนู」
「อื้ม ไปกันเถอะ เรย์จิ」
「………」
「เป็นอะไรไปหรอ?」
「ปล่าวครับ ไม่มีอะไร」
ผมตกใจเล็กน้อยกับคุณหนูที่กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง แล้วจากนั้นผมก็เดินขึ้นบันไดตามหลังของคุณหนูไป ขณะที่ผมเดนผ่านมันไป มันก็ถูกเช็ดถูอย่างรวดเร็วเลย นี้มันรู้สึกเหมือนกับตัวผมเป็นสิ่งสกปรกจนพื้นต้องถูกทำความสะอาดเลย
「จะ…… จากตระกูลเอิร์ลซิวลิซส์ คุณหนูอีวาได้มาถึงแล้ว!」
เมื่อคนประกาศเห็นคุณหนูและพยายามจะประกาศการมาของเธอนั้น เขาชะงักไปเล็กน้อย เหตุผลก็คือว่าเขามองเธออย่างไม่วางตาเลย
ผมเข้าใจ เข้าใจดีเลยละ ถ้าคุณหนูปรากฏตัวต่อหน้าผมพร้อมกับแต่งหน้าแต่งกายจัดเต็มแบบนี้ เป็นผมผมก็คงกรีดร้องออกมา ผมอยากจะกล่ามชมตัวเขาจริงๆที่ยังคงสติเอาไว้ได้
ผมไม่แน่ใจหรอกนะว่า “ตระกูลซิวลิซส์” นั้นมีอำนาจมากแค่ไหน แต่ทั่วทั้งคฤหาสน์ที่มีเสียงดังอยู่จนถึงเมื่อกี้นั้นอยู่ๆก็เงียบลง
มีพื้นที่เล็กๆหลังจากทางเข้าก่อนถึงสถานที่จัดงาน พวกเขาจะทำการตรวจเช็คอาวุธที่นี่ แต่แน่นอนว่าผมไม่มี
(…ดูเหมือนจะมีการใช้สกิลขัดขวางการใช้งานเวทมนตร์เอาไว้)
แต่มันต่างออกไปจากอันอื่นๆ ดูเหมือนว่าจะมีแค่สกิลจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ถูกห้ามเอาไว้ ส่วนสกิลอื่นๆนั้นยังใช้งานได้ ยกตัวอย่างเช่น สกิล【World Ruler】ของผมนั้นไม่เป็นไร แต่สกิลอย่าง【เสริมความแข็งแกร่ง】นั้นใช้ไม่ได้
เข้าใจละ… งั้นมันเป็นไปได้ที่จะจำกัดการใช้สกิลบางอย่างด้วยวิธีนี้ได้สินะ
บางทีสกิลประเภทต่อสู้คงจะถูกห้ามเอาไว้ แต่ในทางกลับกัน พวกสกิลที่จำเป็นต่อคนรับใช้ในสถานที่จัดงานก็ยังทำงานได้เหมือนเดิม
(นอกจาก【World Ruler】ที่ไม่มีใครใช้ได้แล้ว ยูนีคสกิลอื่นๆอย่าง【ราชันแห่งเงา】ก็น่าจะยังใช้งานได้นะ ใช่ไหม? ผมคิดว่ามันคงทำอะไรกับยูนีคสกิลมากไม่ได้หรอก)
ชายที่สวมเครื่องแบบของภาคีอัศวิน – โชคไม่ดีที่ไม่ใช่หนึ่งในคนที่ผมเคยทำความสะอาดห้องให้ – มองมาที่ผมพร้อมกับถามออกมาอย่างตรงๆว่า “จะเข้าไปโดยที่ไม่สวมชุดเกราะเลยจริงๆหรอ?” ดังนั้นผมก็เลยตอบกลับไปทันทีว่า “ครับ” ก่อนจะเข้าไปในโถงจัดงานเลี้ยงพร้อมกับคุณหนู
(ว้าว…)
เพดานนั้นสูงมากๆและมีโคมระย้าขนาดยักษ์ห้อยอยู่ตรงกลาง มันมีขนาดใหญ่เท่ากับรถยนตร์สองคันเลย
มีโคมระย้าขนาดเล็ก 8 อันห้อยอยู่รอบๆโคมระย้าขนาดยักษ์นั่นด้วย… ถึงผมจะพูดว่า “เล็ก” ก็เถอะ มันก็มีขนาดที่ใหญ่อยู่ดี
มีโต๊ะทรงกลม 4 ตัวถูกตั้งเอาไว้ใต้โคมระย้าขนาดเล็กแต่ละอัน และผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันถูกเตรียมเอาไว้ใช้สำหรับเป็นลานเต้นรำหรือปล่าว แต่พื้นที่ใต้โคมระย้าขนาดยักษ์นั้นไม่มีอะไรวางเอาไว้เลย
โถงนั้นถูกแบ่งออกตามสีของพื้นหินอ่อน พื้นตรงกลางของโถงนั้นเป็นทรงกลมสีฟ้า… เดี๋ยวนะ หินอ่อนสีฟ้ามันไม่มีอยู่จริงไม่ใช่หรอ? งั้นตรงนั้นก็ดูจะทำจากหินชนิดอื่นนะ
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ผมไม่มองไปรอบๆอย่างกระสับกระส่ายแม้จะอยู่ในที่แบบนี้ นั่นก็เพราะว่าผมถูกเตือนเอาไว้อย่างเข้มงวดจากหัวหน้าเมดและหัวหน้าพ่อบ้านมาแล้ว ถึงขนาดที่ทำเอาผมคิดว่าพวกเขาจะเตรียมตุ๊กตาวูดูเอาไว้ถ้าผมทำพลาด ผมไม่กล้าหันซ้ายหันขวาเลย
เหล่าลูกของขุนนางต่างๆพร้อมกับคนคุ้มกันของพวกเขาที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วนั้น ต่างจ้องมองมาที่พวกเราเป็นตาเดียวเลย
「—นั่นคุณหนูแห่งตระกูลซิวลิซส์ละ」
「—ว้าว น่ารักจัง」
「—ชุดเดรสนั่นไม่ใช่ว่ามันดูเรียบๆไปหรอ? ของชั้นยังดูดีกว่าซะอีก ใช่ไหมละ?」
ผมได้ยินบทสนทนาแบบที่เป็นไปตามคาดเลย เกือบทั้งหมดนั้นเอนเอียงไปที่ “ลูกสาวของลอร์ดเลือดเย็นมาแล้ว”
ผมได้ยินบทสนทนาพวกนั้นเพราะ【เสริมการได้ยิน】แต่ไม่ว่าเรื่องที่ตัวคุณหนูไม่ได้ยินหรือบางทีเธออาจจะมีจิตใจที่แข็งแกร่งจนไม่สนใจเสียงนกเสียงกาพวกนั้นก็ตาม คุณหนูก็ยังเดินต่อไปอย่่งลื่นไหลตามการนำทางของคนรับใช้
ผมตรวจสอบผู้คนที่อยู่ตรงโต๊ะที่พวกเราเดินผ่านมาทุกคน มีทั้งเผ่าเอลฟ์, คนแคระ, และก็มนุษย์สัตว์ สมกับเป็นประเทศที่ยอมรับทุกเผ่าพันธ์ุจริงๆ
โต๊ะที่อยู่ด้านหลังสุดนั้นมีเก้าอี้อยู่ 6 ตัว
คุณหนูได้นั่งลงไปยังเก้าอี้ตัวแรก มันจึงเหลืออยู่อีก 5 ตัวที่ยังว่างอยู่
โอ้ววว งั้นหรอ… มันคือประเพณี “บุคคลคนสำคัญๆจะมาทีหลัง” อย่างนั้นสินะ?
「จากตระกูลประจำชายแดน เอิร์ลมิวล์ คุณหนูมิร่าได้มาถึงแล้ว!」
เด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลดำที่ถูกตัดแต่งมาอย่างดีพร้อมกับกระบริเวณดวงตาของเธอก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ผมคิดว่าเธอน่าจะลบมันด้วยเครื่องสำอางได้นะ แต่【World Ruler】ก็ได้กระซิบกับผมว่า “เด็กคนนั้นไม่ได้แต่งหน้า” ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ผมไม่ได้ขอนะ!
ชุดเดรสสีเงินของเธอที่ซ่อนผิวของเธอแทบจะทั้งหมดนั้นดูจะเป็นการดีไซน์แบบเก่าแตกต่างจากคุณหนูคนอื่นๆนะ ทว่าผมกลับไม่ได้ยินบทสนทนาเยาะเย้ยเลยแม้แต่คำเดียว
เหตุผลหน่ะหรอ?
เพราะคนคุ้มกันที่น่าเหลือเชื่อที่ตามหลังเธอมายังไงละ คนคุ้มกันที่แต่งตัวราวกับเบอร์เซิร์กเกอร์ เขาสวมหนังหมีสีเทาอยู่บนหัวด้วย นั่นมันจำเป็นด้วยหรอ? มันเป็นอะไรอย่างการแต่งกายแถวๆ “ชายแดน” หรือยังไงกัน?
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าตระกูลซิวลิซส์จะมีตำแหน่งสูงที่สุดในหมู่ตระกูลเอิร์ลด้วยกันเอง คุณหนูเองก็ถูกบอกให้เข้ามาหลังจากเอิร์ลคนอื่นๆอีกด้วย
ถึงเอิร์ลประจำชายแดนเองนั้นจะเป็นเอิร์ลเหมือนกัน แต่พวกเขาจะมีอาณาเขตอยู่ใกล้กับชายแดนและได้รับอนุญาตให้มีกองทัพได้ เหตุผลก็คือว่าบริเวณชายแดนนั้นมันมีความอันตรายอย่างมาก เพราะแบบนั้น พวกเขาจึงมีฐานะสูงกว่าเอิร์ล — ทว่า พวกเขาจะไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับการเมืองส่วนกลางได้
คุณหนูมิร่าเดินตรงมายังโต๊ะที่อยู่ด้านหลังนี้ ก่อนที่อยู่ๆก็หยุดนิ่งไปหลังจากที่เธอเห็นคุณหนู
「ฮยูว~~~~」
…เมื่อกี้อะไรหน่ะ?
「นะ-นะ-น่า-น่า-น่ารัก-น่า–」
「ใจเย็นก่อน มิร่า เดี๋ยวคอยทักทายกันทีหลัง」
「ฮั้ย…」
คุณหนูมิร่านั่งลงบนเก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้ด้วยสีหน้าขาดสติ เธอจ้องมองมาที่คุณหนูอยู่ตลอดเวลาเลย
「จากตระกูลมาร์ควิสดอยล์เฟรส คุณหนูชาล็อตได้มาถึงแล้ว!」
ครั้งนี้ ทั่วทั้งห้องโถงก็เร้าร้อนขึ้นด้วยบรรยากาศที่แตกต่างออกไป คุณหนูผมยาวสีบอร์นสตรอเบอร์รี่เป็นลอนๆก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เธอแต่งกายด้วยชุดฟูฟ่องพร้อมกับแต่งหน้ามาจัดเต็มมาก ซึ่งมันก็ไม่เข้ากับใบหน้าอ่อนเยาว์ของเธอเลย เธอพาคนคุ้มกันผมสีฟ้าอ่อนสุดหน้าตาดีเข้ามาด้วย – ชายคนนี้ดูเหมือนกับจะถูกจ้างเพราะหน้าตาเลย – พวกเขาเดินตรงมาที่โต๊ะ
「…ว้าว!」
คนคุ้มกันหน้าตาดีคนนั้นดวงตาเบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาเห็นคุณหนู ทว่า ในทางกลับกัน คุณหนูชาล็อตมองมาทางคุณหนูอย่างเป็นศัตรู ก่อนจะหันไปทางคุณหนูมิร่า
「อาร่า เธอยังใส่ชุดไร้รสนิยมแบบนั้นอยู่อีกหรอเนี้ย」
「น่า-น่าร้าก~…」
อย่างไรก็ตาม คุณหนูมิร่าก็ยังคงมองไปที่คุณหนูอย่างไร้สติอยู่เหมือนเดิม
「………」
คุณหนูชาล็อตตัวสั่นเทาเพราะตัวเธอถูกมองข้ามอย่างสมบูรณ์ ทว่าเธอก็มองไปทางอื่นพร้อมกับส่งเสียง “ฮึ้ม!” ออกมาก่อนจะนั่งลง
「จากตระกูลดยุคเอเบเน่ คุณชายอีธานได้มาถึงแล้ว!」
โอ๊ะ ตระกูลดยุคที่มีสายเลือดของราชวงศ์นี่นา ผมคิดแบบนั้นก่อนจะมองออกไป ทว่าตัวผมก็ต้องผงะ
ผมสีอำพันดัดอย่างนุ่มนิ่มของเขานั้นถูกทักทอเอาไว้เป็นเส้นๆอย่างประณีตและปล่อยให้ไหลลงมาตรงขมับซ้ายของเขา ผมแต่ละเส้นถูกประดับประดาไปด้วยลูกปัดที่ทำจากอัญมณี
เขาสวมชุดพิธีที่ดูเหมือนกับเสื้อหางม้า และสามารถเห็นถึงสร้อยข้อมือที่ทำจากเส้นไยหลากสีตรงบริเวณข้อมือของเขาได้
และคนคุ้มกันที่ตามหลังเขามา – หญิงสาวที่สวมชุดเกราะ ทว่าเธอกลับตัวเตี้ยกว่าทุกคน ขนาดที่ยังตัวเตี้ยกว่าผมเล็กน้อยเลย ผมยาวของเธอถูกมัดเอาไว้ข้างหลังแถมยังเป็นสีอำพันเหมือนกับคุณชายอีธานอีกด้วย เธอสวมผ้าคลุมสั้นๆประดับประดาไปด้วยงานปักหลากสีเอาไว้ที่รอบๆคอของเธอ
「…ฮาล์ฟลิงอย่างนั้นหรอ?」
================================================================
TL: ขออภัยที่หายไปซักพักนะครับ โดนผลข้างเคียงของวัคซีนเล่นงานมาครับ