บทที่ 2 ตอนที่ 21
“พ่อค้าทาส” นั้นถูกนำตัวไปสอบสวนที่กองทหารรักษาการณ์ เนื่องจากที่นั่นมีห้องคุมขังอยู่ด้วย เหล่าอาชญากรทั้งหลายจึงถูกจับเอาไว้ที่นั่นเป็นการชั่วคราว คำตัดสินนั้นจะเกิดขึ้นหลังจากรับฟังคำให้การอย่างยุติธรรมแล้ว ทนายความนั้นดูจะไม่มีตัวตนอยู่ในโลกไปนี้นะ คดีที่เกิดจากบุคคลชั้นสูงอย่างขุนนางนั้นจะถูกปฏิบัติแตกต่างออกไป ในกรณีนี้ ตัวของราชันศักดิ์สิทธิ์กับขุนนางคนอื่นๆจะเป็นคนตัดสินด้วยตัวเอง
ห้องสอบสวนนั้นมีขนาดเล็กที่มีเพียงแค่เก้าอี้กับหน้าต่างเล็กๆเท่านั้น บริเวณพื้นนั้นไม่ได้ปูอะไรไว้เลย
พ่อค้าทาสตัวอ้วนสะดุ้งเมื่อเห็นชั้นเดินเข้ามาในห้องสอบสวน
「พะ-พวกแกรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าใช้ความรุณแรงกับข้าหน่ะ!?」
「ใจเย็นก่อน ไม่มีใครจะทำอะไรแกหรอกนะ」หัวหน้ายามพูดขึ้น
หัวหน้ายามนั้นเป็นคนผิวแทน เขากลายเป็นคนรู้จักของผมหลังจากเหตุการณ์ “บดขยี้ธุรกิจค้าทาส” ที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง
「ยกเว้นว่าแกจะไม่สารภาพความจริงออกมาหน่ะนะ」
“พ่อค้าทาส” ตัวสั่นจากการข่มขู่ของหัวหน้ายาม
หัวหน้ายามก้าวถอยหลังไปอยู่ใกล้กับกำแพงพร้อมกับพูดว่า “หมอนี้เป็นของนายแล้ว” ผมเคลื่อนตัวไปอยู่ด้านหน้าของ “พ่อค้าทาส” มีเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมจดบันทึกเรียบร้อยแล้ว
「งั้น ผมขอถามคำถามซักเล็กน้อ–」
「พวกข้าทำธุรกิจ “จัดการทรัพยากรมนุษย์” อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถึงข้าจะหลุดปากพูดว่า “ทาส” ก็จริง แต่นั่นเป็นแค่ความเข้าใจผิดเท่านั้นเอง แล้วที่ข้าทำตัวไม่เหมาะสมต่อขุนนางนั้นก็เป็นเพราะว่าพวกท่านใช้ชื่อของบริษัทที่ไม่มีอยู่จริงด้วย」
「………」
ผมรู้สึกคร่ำครวญอยู่ในใจ
(เหมือนกับคำให้การของ “พ่อค้าทาส” คนอื่นๆเด๊ะ… เกือบจะเหมือนกับที่ท่านเอิร์ลพูดเอาไว้เลยด้วย… หืมมม? เดี๋ยวก่อนนะ…)
อยู่ๆผมก็นึกเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมาได้
ท่านเอิร์ลอนุญาตให้คุณหนูทำการ “บดขยี้ธุรกิจค้าทาส” ได้ ในตอนนั้นผมเข้าใจว่าตัวเขานั้นเป็นพวกโอ๋ลูก แต่พอมาคิดดูดีๆแล้ว มันก็ค่อนข้างแปลกเลยนะ?
(ผมมั่นใจว่าท่านเอิร์ลนั้นรู้ว่าที่ไหนเป็นศูนย์จัดการทรัพยากรมนุษย์ของจริงกับที่ไหนที่ใช้ของพวกนี้มาบังหน้า ต่อให้จัดการกับพวกนี้ไป มันก็ไม่ได้ส่งผลมากมายอะไรกับเศรษฐกิจของเมืองศักดิ์สิทธิ์อยู่ดีนี่)
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นอันตรายต่อคุณหนูอีกด้วย เธออาจจะถูกโจมตีจากผู้คนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจก็ได้ ท่านเอิร์ลจะต้องรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วเพราะตัวเขาเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ผมต้องช่วยชีวิตเขาไปแล้วด้วย
(รายชื่อของ “ศูนย์จัดการทรัพยากรมนุษย์” ที่ถูกเตรียมเอาไว้โดยท่านเอิร์ล กับ “คำให้การที่เหมือนกัน” จากเหล่าพ่อค้าทาสที่ถูกสอบสวน… ทั้งหมดชี้ไปเป็นสิ่งเดียวเท่านั้น)
สมมติฐานก่อตัวขึ้นมาในหัวของผม สิ่งที่จะตอบคำถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมาในตอนนี้
หัวหน้ายามตะโกนออกมาว่า “ตอบให้ตรงคำถามสิวะ!” ทว่าผมก็ได้หยุดเขาโดยการยกมือขึ้น
「ถ้ายังงั้น ผมขอถามคำถามอื่นแล้วกัน ได้ไหมครับ?」
「หึม ข้าจะต้องตอบคำถามอะไรให้เด็กกัน?」
「คุณทำธุรกิจนี้มานานแค่ไหนแล้วครับ?」
「……อะไรนะ?」
เขาดูจะไม่ได้คาดการณ์คำถามนี้เอาไว้เลยนะ ในวันนั้นผมได้เข้าใจแล้วว่าตาลุงอ้วนๆที่ทำหน้างงๆนั้นไม่ได้ดูน่ารักเลยซักนิด (TL:ก็แหงสิ)
「คุณเริ่มทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?」
「อืม เออ… มันก็ 15 ปีมาแล้วนะ」
「15 ปีในเมืองศักดิ์สิทธิ์หรอครับ?」
「ใช่แล้ว」
「บริษัทของคุณมีอะไรที่เอาชนะคู่แข่งของคุณได้หรอครับ?」
「…ข้าคงต้องบอกว่า “ศูนย์จัดการทรัพยากรมนุษย์” นั้นก็เหมือนๆกันหมดนั่นแหล่ะ ทว่าพวกข้านั้นมีเส้นสายกับเหล่าขุนนางด้วย สิ่งที่พวกข้าทำได้ก็เลยกว้างมากๆยังไงละ」เขาพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจ
「คุณจะทำธุรกิจเดิมอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นการสำเร็จโทษแล้วหรือเปล่าครับ?」
「นั่น… คือ สกิลของข้ามันเป็นแบบนั้น…」
「【Slave Master ★★★】หรือครับ?」
「ใช่แล้ว แต่อาชีพนั้นมันผิดกฎหมายนะรู้ไหม?」
「รู้ครับ งั้น นี่เป็นคำถามสุดท้ายแล้ว」ผมพูด「คุณได้เงินจากท่านเอิร์ลซิวลิซส์ไปเท่าไหร่ครับ?」
「?!!!」
…และผมก็ได้รู้ว่าตาลุงที่กำลังทำหน้าประหลาดใจนั้นไม่ได้น่ารักเลยสักนิดเช่นกัน
ในทางกลับกัน ผมก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าสมมติฐานของผมน่าจะจริง
หลังจากจบการสอบสวน ผมก็ตรงไปยังที่อยู่ของเซอรี่ซัง เธอเองก็กำลังสืบหาข้อมูลของลาร์คกับลูลูช่าด้วยตัวของเธอเองอยู่
เซอรี่ซังเป็นเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องของผมกับลาร์ค ถึงอาการขึ้เมาจะเป็นข้อเสียของเธอก็เถอะ เธอมักจะหลับในตอนเช้าบ่อยๆ แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิด วันนี้เธอก็ยังหลับอยู่เช่นกัน หลังจากที่ผมปลุกเธอขึ้นมา เธอก็ได้รายงานข้อมูลที่เธอหามาได้; ต่อให้เป็นกิลด์นักผจญภัยก็ดูจะไม่มีข้อมูลของสกิล 5 ดาวหรือสูงกว่าสินะ เอาเถอะ ขนาดท่านเอิร์ลซิวลิสซ์เองก็ยังหาข้อมูลใดๆไม่ได้เลย คงทำได้เพียงแค่ค้นหาต่อไปอย่างใจเย็นสินะ?
「จะว่าไปแล้ว…」
เซอรี่ซังนั้นอาศัยอยู่ในห้องส่วนตัวภายในโรงแรม มันเป็นห้องเล็กๆก็จริง แต่เธอเคยพูดเอาไว้ว่า “ชั้นไม่ต้องการห้องใหญ่ๆหรอก เพราะชั้นใช่มันเพื่อนอนเท่านั้นแหล่ะ” – แล้วทำไมถึงเห็นมีขวดเหล้ากองอยู่บนพื้นละนั่น?
「คุณช่วยส่งจดหมายให้กับปาร์ตี้นักผจญภัยปาร์ตี้นึงได้หรือปล่าวครับ?」
「…อา ใช่ซิวเวอร์บาลานซ์หรือปล่าว?」
「เดาแม่นดีนะครับ」
「ก็เพราะว่าเธอไม่ได้รู้จักคนอื่นอยู่แล้วนี่นา หนุ่มน้อย」
「………」
นั่นก็จริง แต่ว่า… มันรู้สึกเหมือนกับผมถูกบอกว่าผมเป็นคนไร้เพื่อนเลย
เซอรี่ซังใช้น้ำที่ผมสร้างขึ้นล้างหน้าล้างตาของเธอ ไม่ใช่โบราณว่าไว้ว่า “ฝนจะตกเมื่อแมวล้างหน้า” ไม่ใช่หรอ? อืม วันนี้ฟ้าก็ครึ้มจริงๆด้วยสิ
「เธอสามารถส่งได้ก็จริง แต่การส่งข้ามพรมแดนนั้นยุ่งยากมาก แถมยังแพงมากด้วยนะ」
「ผมก็คิดเอาไว้แล้วละครับ…」
「ยังไงก็ตาม เธอรู้ไหมว่ากิลด์นั้นมีการขนสัมภาระระหว่างกิลด์ด้วย ถ้าเธอส่งมันผ่านช่องทางนี้ละก็ มันจะช่วยเพิ่มความแน่นอนให้ได้นะ」
「เข้าใจแล้วครับ」
ตามที่เซอรี่ซังพูด เอกสารที่จำเป็นอาจจะถูกขนย้ายไปมาระหว่างกิลด์ และภารกิจ “ส่งของ” กับ “คุ้มกัน” นั้นจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่กิลด์จะส่งด้วย
「ส่วนรางวัลนั้นมันจะถูกเกินไปแล้ว! แถมเมื่อถูกรับเลือกแล้วปฏิเสธก็จะถูกลดขั้นจากกิลด์อีก ไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากยอมรับมัน ขนาดนักผจญภัยระดับสูงก็ยังปฏิเสธมันไม่ได้เลยด้วย อ๊าก คิดแล้วก็โมโห ถึงจะะบ่ายแล้ว แต่ชั้นก็อยากจะดื่มอีกจริงๆ」
「ถ้าคุณกลายเป็นขี้เมาไม่ได้เรื่องแล้วละก็ ผมจะทิ้งคุณไปนะครับ รู้ไหม?」
「…อา-อะฮ่าๆ แค่ล้อเล่นเองหน่าหนุ่มน้อย ในกิลด์เรียกชั้นว่า “เซอรี่ผู้ขยันขันแข็ง” เลยนะ รู้ไหม?」
ไม่ใช่แค่ผมให้เซอรี่ยืมเงินไปจ่ายหนี้แล้ว แต่ผมก็ยังให้ค่าขนมเธอด้วยนะ
ผู้ใหญ่เต็มตัวอายุ 20 ปีต้องให้เด็กอายุ 14 ปีคอยช่วยแบบนี้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้คนเดียวละก็ คนๆนี้จะต้องเกินเยียวยายิ่งกว่านี้แน่ๆเลย
「นอกจากนี้ ผมยังได้ยินชื่อ “ขี้เมาเซอรี่” ด้วยนะครับ」
「โฮะโฮะโฮะ ชั้นจะไปฉีกร่างของไอ้คนที่พูดอย่างนั้นให้เป็นชิ้นๆเลย! ไปกันเถอะ หนุ่มน้อย! บอกชั้นมาว่าใครกันที่พูดแบบนั้น!」
「ผมเป็นคนพูดเองแหล่ะครับ คุณจะฉีกผมเป็นชิ้นๆหรือเปล่าครับ?」
「หนุ่มน้อย… นั่นแค่ล้อเล่นหน่ะ มุกของเซอรี่ผู้น่ารักเลยนะ รู้ไหม? เอ๊ะเห่ะๆ…」
เธอเปลี่ยนท่าทีจากกำหมัดแน่นมาเป็นการถูมือไปมาเหมือนกับพ่อค้าหน้าตาระรื่นที่พยายามขูดรีดเงินทันที เป็นท่าทางที่ลื่นไหลดีจริงๆ คนๆนี้คงเกินเยียวยาแล้วละ
「เพลาๆเรื่องมุกบ้างนะครับ เข้าใจนะครับบบ? ในกรณีนี้ผมคงจะเขียนจดหมายถึงพวกเขาไม่ได้ถ้าไม่รู้ที่อยู่ของพวกเขางั้นสินะครับ?」
「อยู่เธอก็คิดถึงพวกเขางั้นหรอ?」
「คะ-ครับ คิดว่านะ」
มันเป็นเพราะผมได้พูดคุยกับฮาล์ฟลิงซังในงานเลี้ยงเมื่อวานหน่ะสิ ผมสงสัยจังว่าคุณจะยังสบายดีอยู่หรือปล่าวนะ มิมิโนะซัง… ผมเองก็คิดที่จะอธิบายเหตุผลที่ผมออกมาในตอนนั้นด้วยเหมือนกัน
「หนุ่มน้อย」
「หืมม?」
「…คิดจะทำงานให้กับท่านเอิร์ลไปจนถึงเมื่อไหร่กันละ?」
「ทำไมอยู่ๆถึงพูดถึงเรื่องนั้นละครับ?」
「ชั้นแค่รู้สึกร้อนตัวแปลกๆหน่ะ ชั้นสงสัยจังว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า?」
「………」
เป็นสัญชาตญาณที่เฉียบคมจริงๆ
ผมลังเลเล็กน้อย แต่ก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อวานให้กับเซอรี่ซังฟัง
「ระวังตัวเอาไว้นะหนุ่มน้อย สิ่งที่หน้ากลัวที่สุดในโลกใบนี้ไม่ใช่มังกรหรือนักผจญภัยระดับมิธริลพวกนั้นหรอกนะ」เซอรี่ซังพูดขึ้นหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่ผมอธิบายออกไป
「เอ๊ะ?」
「ผู้คนที่มีอำนาจต่างหากละที่น่ากลัวที่สุด」
ผมนั้นตกตะลึง
แน่นอนว่า “ทหารรับจ้างเขี้ยวทมิฬ” นั้นถูกทำลายด้วยคริสต้าที่เป็นนักผจญภัยระดับมิธริล และไรเครียซังที่เฝ้ารอโอกาสจนฆ่าเขาได้สำเร็จไปแล้วจริง ทว่าเรื่องทั้งหมดก็มีผู้มีอำนาจคอยชักใยอยู่ในเงามืดอยู่ดี
「ท่านเอิร์ลเองก็เป็นหนึ่งในคนพวกนั้นก็จริง แต่มันก็ยังมีคนที่มีอำนาจมากกว่าเขาอยู่ด้วยนะ ระวังตัวเอาไว้ละ พวกนั้นอาจจะจัดฉากให้เธอเป็นคนร้ายเลยก็ได้นะ รู้ไหม?」
「ไม่จริงหน่า…」
「ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณหนูอีวาตกเป็นผู้ต้องสงสัยละก็ ท่านเอิร์ลก็คงไม่ลังเลที่จะใส่ร้ายเธอแน่นอน จริงไหม?」
「……」
「สำหรับท่านเอิร์ลหน่ะมันคงง่ายมากเลยละ เนื่องจากเขามี “เนตรเวทมนตร์แห่งการสืบสวน” อยู่ด้วยนี่นา」
「…ครับ」
เป็นอย่างที่เซอรี่ซังพูดเอาไว้เลย บางทีผมคงเชื่อใจท่านเอิร์ลมากไปเพราะผมเชื่อใจในตัวคุณหนู
「ผมจะจำเอาไว้นะครับ」
「ดีแล้ว งั้น… นี่」
เซอรี่ซังยื่นมือของเธอออกมา ทว่ามันกลับไม่มีอะไรอยู่บนมือเลย
「หืมม?」
「เอ๊ะเห่ะๆ… หนุ่มน้อย」
「………」
เซอรี่ซังมองมาที่ผมอย่างเขินอาย เธอกำลังขอค่าขนมจากผมอยู่ ดังนั้นผมก็เลยยื่นเหรียญเงินให้เล็กน้อย เซอรี่ซังนั้นเกินเยียวยาแล้ว ทว่าผมเองก็เกินเยียวยาแล้วเหมือนกันที่มักจะให้เงินกับเธอตลอด
「เอาละ ถ้างั้น… ผมขอตัวนะครับ」
หลังจากทานอาหารกลางวันที่ไหนซักที่เสร็จแล้ว ผมก็ได้เดินมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ ผมมีอะไรหลายๆอย่างอยากจะถามกับท่านเอิร์ลด้วย ในตอนนี้ผมจะลดการป้องกันของตัวเองลงไม่ได้แล้ว