บทที่ 2 ตอนที่ 41
สมองของผมไม่อาจประมวลผลข้อมูลที่ได้ยินเมื่อกี้ได้เลย
「ไม่สมเหตุสมผลสำหรับข้าเลยสักนิด แต่ยังไงก็เถอะ พวกเราจะเอายังไงกันดีละ?」
เช่นเดียวกับผม เอิร์ลชายแดนก็ดูจะไม่เข้าใจเหมือนกัน ทว่า เขายังทำให้บทสนทนาคืบหน้าต่อไปได้อยู่
…เขาพูดถูก พวกเราจะมามัวเสียเวลาคิดเรื่องนั้นไม่ได้
「การยกเลิกพันธสัญญายังไม่เสร็จสมบูรณ์ขอรับ, เออ, งั้น, ฝังคนกลางตนนั้นให้เร็วที่สุดคือสิ่งที่สำคัญที่สุดขอรับ」เอลพูด
「ท่านเอิร์ลชายแดนครับ! มันกำลังลุกขึ้นมาครับ!」
ผมเห็นคนกลางกำลังยืนขึ้นมาในความมืด
「งั้น เราก็แค่ต้องบดขยี้มันให้ระเอียดงั้นสินะ」
「เออ, ขอรับ」
「เอาละ เจ้าหนู มาร่วมมือกัน」
ผมพยักหน้าตอบรับ นั้นเป็นเป้าหมายของผมมาตั้งแต่แรกแล้วละ
「แล้วก็อีกอย่างนึง…」เอิร์ลชายแดนมองไปที่ข้างหลังของเขา
เขากำลังมองไปที่ราชันศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงซังกะตายอยู่
「ตื่นได้แล้ว เกรนจิโด้(Grenjido)!!!!!!」
เสียงดังลั่นจนถึงขนาดสร้างคลื่นไปกระทบกับราชันศักดิ์สิทธิ์เลย
「อย่าล้มลงไปง่ายๆเพียงแค่ทำผิดพลาดครั้งสองครั้งสิ!! นายเป็นถึงจุดสูงสุดของประเทศนี้เลยนะ!!!!」
มันดังขนาดที่ผมต้องอุดหูตัวเองเลย ทว่าสำหรับราชันศักดิ์สิทธิ์นั้น—แสงสว่างได้หวนคืนสู่ดวงตาของเขาแล้ว
「ข้าคือ… ของประเทศนี้…」
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาที่แก้มของเขา ราชันศักดิ์สิทธิ์เช็ดตาของตัวเองด้วยกำปั้นของเขา
「อย่ามาเรียกชื่อเก่าของข้าสิ…」
「…เพราะดูเหมือนนายจะลืมเลือนวันเก่าๆไปไง」
…เกรนจิโด้เป็นชื่อเก่าของราชันศักดิ์สิทธิ์งั้นหรอ? เพราะชื่อของราชันศักดิ์สิทธิ์จะหายไปหลังจากที่เขาได้ขึ้นครองบัลลังก์ นั่นหมายความว่าเอิร์ลชายแดนเป็นเพื่อนกับราชันศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วสินะ
「ข้าคือราชันศักดิ์สิทธิ์」
「ใช่ นายคือราชันศักดิ์สิทธิ์」
「ข้าจะชี้นำประเทศนี้」
「ใช่ นายคือผู้นำประเทศนี้」
ผมอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับชายที่มีสมญานามราชันศักดิ์สิทธิ์คนนี้มาตลอดจนถึงตอนนี้เลยก็ได้
เขาเป็นคนใจดี เข้ากับคนอื่นง่าย แถมยังรักเจ้าชายคลูฟชราทด้วย ผมเอาแต่มองด้านที่เป็น “พ่อที่ดี” ของเขา แต่ แล้วอีกด้านละ ด้านที่เป็น “ราชันศักดิ์สิทธิ์” ของเขาละ?
「–เอล พวกเราจะฆ่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นได้ยังไง?」
ถ้าคนกลางคือความมืดอันบริสุทธิ์ งั้นบรรยากาศรอบๆตัวราชันศักดิ์สิทธิ์–ความกระหายเลือดที่อยู่รอบๆตัวเขา ก็คือความมืดที่เกิดจากความผิดบาปของมนุษย์, ความเต็มใจจะทำบาปใดๆก็ตาม, ความเย่อหยิ่งของพระมหากษัตริย์, อำนาจสูงสุดอันเปื้อนเลือดที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางมันเอาไว้
ผมถูกกดดันจากอารมณ์อันดำมืดที่ปะทุขึ้นจากบรรยากาศของราชันศักดิ์สิทธิ์
「ด้วยสิ่งนี้ขอรับ」เอลแสดงมีดสั้นเก่าๆขึ้นมา「แทงมันไปที่ร่างของคนกลางขอรับ」
「เข้าใจแล้ว… ไปกันเถอะเอิร์ลชายแดน และเจ้าก็ด้วย เจ้าหนู」
ดูเหมือนผมเองก็จะถูกนับรวมด้วยสินะ
「ข้าจะทำให้เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นต้องเสียใจที่มาหยามกับประเทศนี้」
การคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งของราชันศักดิ์สิทธิ์นั้นรุณแรงมาก เขาลดระยะห่างกับคนกลางด้วยไม่รีรอใดๆเลย และแทนที่จะใช้มีด เขากลับปล่อยหมัดออกไปเป็นจำนวนมาก คนกลางนั้นกังวลเกี่ยวกับมีดนั่นอย่างชัดเจน ดังนั้นมันจึงตัดสินใจรับหมัดพวกนั้นตรงๆแทน
จากนั้น ราชันศักดิ์สิทธิ์ก็ได้หยิบคฑาทองคำที่อยู่บนพื้นขึ้นมาเหวี่ยงด้วยมือเดียวราวกับไม้เบสบอลเลย คฑาโดนเข้าใส่สีข้างด้านขวาของคนกลางจนร่างกายงอเป็นรูปตัว “V” แล้วส่งมันลอยออกไป
「นูวอาาา!」คนกลางกรีดร้องออกมา
ขณะที่คนกลางตกลงมาบนพื้น แขนจำนวนมากก็ได้งอกออกมาจากร่างของมันและเข้าเล่นงานราชันศักดิ์สิทธิ์ ทว่า ถึงรูปร่างของเขาจะเป็นแบบนั้น แต่ราชันศักดิ์สิทธิ์ก็หลบทุกการโจมตีได้อย่างว่องไวเลย การโจมตีหลายอันกระทบกับพื้นจนเป็นรู
「ภาคีอัศวิน! พวกเจ้าไม่ต้องเข้ามาช่วย! ไปช่วยอพยพเหล่าขุนนางซะ!」เอิร์ลชายแดนออกคำสั่ง
「ตะ-แต่ว่า…」
「แค่ทำตามคำสั่งซะ เจ้าพวกโง่!!」
การเคลื่อนไหวของภาคีอัศวินนั้นหย่อนยาน หน่วยที่ 1 นั้นควรจะมีความสามารถ ทว่าพวกเขาอาจจะได้รับผลกระทบจากการตายของกัปตันอัศวินก็ได้ จะยังไงก็ตาม ดูเหมือนหน่วยทหารระดับสูงสุดของประเทศก็ไม่อาจตามจุดสูงสุดของประเทศที่แท้จริงอย่างราชันศักดิ์สิทธิ์ได้ทันเลย
「เอิร์ลชายแดน! เจ้าจะเอาแต่ยืนกินลมชมวิวอยู่ตรงนั้นหรือไง!?」
「หา แค่ปล่อยให้นายวอมมือก่อนเท่านั้นเองหน่า!」
เอิร์ลชายแดนเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยจากคำยุยงของราชันศักดิ์สิทธิ์
「โอ้ร่าาาาาาาาาห์!!」
「ฟุฮ้าาาาาาาาาห์!!」
ยักษ์สองคนคำรามออกมา ว้าว… ผมเกือบจะรู้สึกสงสารคนกลางที่ถูกกระทืบจากยักษ์สองตนเลย ผมคิดว่าสองคนนั้นน่าจะสามารถล้มมังกรได้เลยด้วยซ้ำ
「มันจะสวนกลับมาแล้ว!!」
ราชันศักดิ์สิทธิ์กับเอิร์ลชายแดนรีบทิ้งระยะห่างจากคนกลางทันที ทันทีหลังจากนั้น หนามสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับหอยเม่นได้ปรากฏขึ้นในความมืดพร้อมกับเสียงหึ่ง
「เหล่าผู้อ่อนแอ, โลกที่แสนน่ารังเกียจ… อย่าได้ใจให้มันมากนัก!」
หนามพวกนั้นถูกยิงออกมาทั่วทิศทาง ราชันศักดิ์สิทธิ์ควงคฑาของเขาเพื่อเป่ามันออกไป ส่วนเอิร์ลชายแดนนั้นได้ตัดอันที่ตรงมาทางเขาด้วยดาบล้ำค่า ผมกระโดดไปที่ด้านหน้าของเหล่าขุนนางที่ยังไม่ได้อพยพออกไปแล้วเปลี่ยนทิศทางของหยามด้วย【เวทย์ลม】
ผมกวาดสายตามองรอบๆเพียงแวบเดียว ดูเหมือนว่าท่านเอิร์ลซิวลิซส์จะพาตัวคุณหนูออกไปแล้วสินะ
「พันธสัญญาได้ถูกยกเลิกแล้ว พวกเจ้าไม่อาจหวนกลับได้!!」
「ไม่ มันยังไม่ถูกยกเลิก… ก่อนที่แกจะประกาศยกเลิกสำเร็จ เจ้าหนูนั่นก็ได้สร้างรูขึ้นมา พวกเราอยู่ที่โลกของพวกเราแล้วตอนนี้ “จุดกึ่งกลาง” ระหว่างอีกโลกนึงได้หายไปแล้ว」
「ุนุ นุนุ นุนุนุ…!!」
「และแกก็ได้เสีย “ข้อห้ามในพันธสัญญา” ไปแล้ว จนเจ็บปวดจากการโจมตีของพวกข้าด้วย」
「ุนุนุวว…!!」
「กลับไปยังโลกของพวกแกซะ!!」
จังหวะที่ราชันศักดิ์สิทธิ์ลดระยะห่างแล้วตวัดคฑาของเขานั้น–
「ุอย่าดูถูกพันธสัญญาให้มากนัก」
คนกลางได้จับไปที่คฑาด้วยสองมือ สีทองของคฑาเริ่มสึกกร่อนกลายเป็นสีดำ
「ราชันศักดิ์สิทธิ์!! โปรดระวังตัวด้วย!! ดูเหมือนมันจะยังมีบางอย่างซ่อนอยู่!」เอิร์ลชายแดนตะโกนเตือน
「ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็จบแล้ว!!」
เมื่อผมคิดว่าจนมุมแล้ว ราชันศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ปลีกตัวออกไปด้านข้างแล้วแทงมีดเข้าไปที่อกของคนกลาง
「ตายซะ!」
มีดฉายแสงแวววาบและตัดผ่านความมืดของคนกลาง
บรรยากาศและพื้นดินสั่นไหว
ผมคิดว่าพวกเราเอาชนะมันได้แล้ว ทว่า【World Ruler】ได้ร้องเตือนออกมาว่ามันแตกต่างไปจากที่เห็น
「ฝ่าบาท โปรดถอยออกมาครับ!」ผมตะโกนออกไป
「อา? หมอนี้ตายไปแล้ว—」
「ถอยออกมาครับ!!」
ผมใช้งาน【ทักษะการวิ่ง】และพุ่งชนราชันศักดิ์สิทธิ์ จนพวกเราทั้งคู่กลิ้งออกมาจากคนกลาง
「จะ-เจ้าต้องกล้าพอตัวที่จะชนข้าแบบนี้นะ เจ้าหนู!!!」
「หมอบลง!!」
ผมจับหัวของราชันศักดิ์สิทธิ์แล้วกดลงกับพื้น
「ความมืด, เปิดประตู, แสงสว่าง, เปิดทาง」
ราวกับไม่สามารถทนต่อความสว่างของแสงได้ ร่างของคนกลางได้สลายกลายเป็นชิ้นเล็กๆก่อนจะหายไปในอากาศเหมือนกับกระดาษที่ถูกเผาไหม้ ทว่าในเวลาเดียวกัน ได้มีมวลสีดำที่เหมือนกับไฟบอลหมุนวนไปรอบๆตัวของมันด้วย มวลนั่นหมุนไปมาด้วยความเร็วสูงราวกับว่าพร้อมที่จะยินออกมาได้ทุกเมื่อ
「อ้า–」
【World Ruler】วิเคราะห์ได้ว่ามวลพวกนั้นกำลังเล็งไปที่เหล่าขุนนางที่ภาคีอัศวินกำลังนำทางออกไปจากโดมอยู่
ไม่ใช่แค่ภาคีอัศวินเท่านั้น แต่เหล่าคนคุ้มกันที่มาสายก็ด้วย พวกเขาไปรวมตัวกันอยู่ที่ทางออกของโดมนี้
(มิมิโนะซัง—)
ผมจำมิมิโนะซังผิดกับคนอื่นไปแวบนึง
เลเลนอร์ซังที่กำลังเข้าช่วยเหลือในการอพยพอยู่ ถ้ามวลนั่นโดนใส่พวกเขาเต็มๆละ? ตามที่【World Ruler】บอกเอาไว้ มวลนั่นคือมวลพลังงานสูงที่อีดแน่นเต็มที่ โดดจังๆอาจทำให้ร่างกายมนุษย์เหลือแต่ฝุ่นได้เลย
ผมเริ่มออกวิ่งตรงไปยังมวลสีดำนั่นอย่างทุลักทุเล
มวลสีดำนั่นจะถูกยิงแล้ว–
—ปกป้องทุกๆคน
นั่นคือคำสั่งของคุณหนู
ช่างระลึกได้ถูกเวลาจริงๆ!!
「โอ้วววววว!!」
ความเร็วของผมยังไม่พอ ผมใช้งาน【เวทย์ซัพพอร์ต】เพื่อเพิ่มความเร็วของผมโดยไม่รู้ตัว และผมก็ได้กระแทกหมัดของผมที่ถือหินอยู่เข้าใส่ด้านข้างของมวลสีดำนั่น
มันเกิดขึ้นเพียงแต่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ผมเห็นหินปริแตกออกในแบบสโลวโมชั่น หินได้แหลกระเอียด ไม่อาจหยุดมวลสีดำได้ ถึงยังนั้น – ทิศทางของมันก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว
มันลอยออกไปด้านข้างห่างจากจุดที่ขุนนางรวมตัวกันประมาณ 10 เมตร มันทำลายโดมอย่างง่ายดาย และสร้างคลื่นกระแทกจนส่งผลให้อัศวินที่อยู่ใกล้ๆกระเด็นออกไปเลย
เมื่อมวลนั่นได้ลอยออกไปจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์ ต้นไม้ใบหญ้าฝุ่นฟุ้งกระจัดกระจาย และมันก็ได้ไปถึง “กำแพงที่ 1” ที่แยกระหว่างพระราชวังกับเขตศักดิ์สิทธิ์ที่ 1
กำแพงเองก็ถูกเจาะทะลุได้อย่างง่ายดาย และมันก็เจาะผ่านบันไดกลางตึกรัฐสภาของราชันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเขตศักดิ์สิทธิ์ที่ 1 ตัดผ่านมันไปชนเข้ากับ “กำแพงที่ 2” ทำลายมันลงไปอย่างสวยงาม
「นั่นมันอะไรกัน…」
พร้อมกัยเสียงที่ดังลั่น คลื่นกระแทกจากการชนยังลอยมาถึงที่พวกเราอยู่เลย
ไม่เหลือล่องลอยของคนกลางอีกต่อไปแล้ว–มีเพียงร่างอันเย็นชืดของหลุยส์ที่ตายไปแล้ว
ความมืดเริ่มสูญสลายไปจากด้านบนของโดม บริเวณรอบๆเริ่มกลับมาสว่างขึ้นในชั่วพริบตา
「มันจบแล้วรึ…?」ราชันศักดิ์สิทธิ์ถามขึ้น
「ไม่ครับ」
【เสริมการมองเห็น】ของผมเห็นถึงความมืดที่กำลังปรากฏขึ้น
「มันยังไม่จบหรอกครับ」