บทที่ 2 ตอนที่ 42
ก้อนพลังงานสีดำดูจะระเบิดไปแล้ว ทว่ามันยังคงเหลืออยู่ มันอยู่ไกลเกินกว่าที่【World Ruler】จะให้ข้อมูล แต่จะปล่อยมันเอาไว้ไม่ได้
มือขวาของผมมีเลือดไหลออกมาเพราะเศษชิ้นส่อนของหินที่แตก ดังนั้นผมจึงใช้【สะดวกสะบาย】เพื่อสร้างน้ำขึ้นมาล้างมันออก ก่อนจะรักษาแผลด้วย【เวทย์รักษา】หินนั้นแตกไปแล้ว แต่… หวังว่าท่านเอิร์ลจะไม่ต่อว่าผมมากเกินไปละนะ
「ฝ่าบาทครับ ท่านเอิร์ลชายแดนครับ โปรดอยู่ที่นี่นะครับ」
「เจ้าจะไปงั้นรึ?」
「ครับ」
「เจ้าควรจะปล่อยให้ภาคีอัศวินรับช่วงต่อนะ」
「…คือ คุณหนูได้สั่งให้ผมปกป้องทุกคนเอาไว้นะครับ」
ผมไม่รู้ว่าคำตอบของผมมันถูกหรือเปล่า แต่มุมปากของราชันศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ยกขึ้น จนออกมาเป็นรอยยิ้มที่ดุร้าย
「เอานี้ไป」
ราชันศักดิ์สิทธิ์โยนมีดสั้นที่เอลมอบให้เขามาให้ มันเป็นมีดที่ใบมีดโค้งด้านเดียว ใบมีดนั้นทื่อ แต่มันคงจะถูกใช้แค่ในงานพิธีเท่านั้น ตามข้อมูลของ【World Ruler】มีดนี้ดูจะเก่าแก่มากๆเลยด้วย ดูเหมือนของโบราณเลย
「งั้นผมขอตัวนะครับ」
ราชันศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าให้ และเอิร์ลชายแดนก็ยกมือของเขาขึ้นเช่นกัน ผมมองไปที่ศพของหลุยส์สักพักก่อนจะเริ่มออกวิ่งไป ในทางกลับกัน เหล่าภาคีอัศวินก็ได้ตรงเข้าไปหาราชันศักดิ์สิทธิ์
(ไม่คิดเลยว่าเด็กคนนั้นจะมาตายแบบนี้…)
ผมเคยเจอหลุยส์อยู่หลายครั้งในตอนที่ผมคุ้มกันคุณหนูที่งานเลี้ยงน้ำชา เนื่องจากผมอยู่กับคุณหนูตลอดเวลา เขาจึงมีสีหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉาทุกครั้งที่เขาเห็นผมเลย เขาเป็นแค่เด็กผู้ชายธรรมดาๆคนนึงเท่านั้นเอง
(เขาไม่ควรจะมาตายแบบนี้)
ผมกำมีดในมือเอาไว้แน่น
…ผมจะทำลายไอ้ก้อนสีดำนั้นไม่ให้เหลือซากเลย!
* ราชันศักดิ์สิทธิ์ *
เหล่าอัศวินต่างวิ่งเข้ามาหาราชันศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเป็นห่วง ทว่าราชันศักดิ์สิทธิ์ก็ทำเพียงแค่โบกมือไล่พวกเขาไปด้วยความรำคาญเท่านั้น จากนั้นเขาก็หันไปทางเพื่อนร่วมสาบานที่ยืนอยู่ถัดจากเขาไป
「…เอิร์ลชายแดน เจ้าคิดว่าไง?」
ชุดของเอิร์ลชายแดนมิลล์นั้นทั้งขาดวิ่นตรงนั้นตรงนี้ และโชกไปด้วยเลือดที่เกิดจากการโจมตีที่เขาหลบไม่ได้
「เด็กนั่นโจมตีใส่ไอ้นั่นที่ถูกยิงออกมาด้วยความเร็วระดับนั้นเลย」
「ใช่」
「ท่านทำแบบนั้นได้ไหม ฝ่าบาท?」
「แน่นอนว่าไม่」
ทั้งสองคนแทบจะตามการโจมตีด้วยตาของเขาไม่ทัน ดังนั้นการจะโจมตีมันในขณะมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วระดับนั้น เอาตามตรง เป็นไปไม่ได้เลย
「ฮึมม… ข้าจะเอาเขามาเป็นคู่แต่งงานของมิร่าลูกสาวข้าได้ไหมนะ?」
「ว่าไงนะ!? เจ้าวางแผนที่จะเอาเขาไปที่ดินแดนของเจ้างั้นรึ!?」
「ยังไงซะที่ดินแดนของข้า ต่อให้มีคนมากความสามารถมากมายแค่ไหนก็ไม่พอหรอกนะ」
「ถ้ายังงั้น เขาก็ควรจะอยู่ที่เมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ยังไงซะที่นี่ก็เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว」
「เข้าใจแล้ว ถ้าเรื่องที่ [ทักษะดาบศักดิ์สิทธิ์] สูญหายไปแล้วรั่วไหลออกไป พวกที่พยายามจะหาประโยชน์ก็จะเริ่มโพล่ออกมาสินะ」
ราชันศักดิ์สิทธิ์เริ่มเอามือขวานวดขมับของตัวเอง
「…อย่าพูดแบบนั้นสิ บ้าเอ้ย ปวดหัวขึ้นมาทันทีเลย」
เห็นท่าทางของราชันศักดิ์สิทธิ์แบบนั้น เอิร์ลชายแดนก็ได้หัวเราะออกมา
「นี้ไม่ใช่เรื่องน่าตลกนะ ถ้าประเทศตกอยู่ในความวุ่นวายแล้วละก็ ดินแดนของเจ้าเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยเหมือนกันนะ」
「ใช่ แต่มันไม่ได้ทำให้ข้าปวดหัวซะหน่อย」
「อ่าห์?」
「ดูนั่นสิ」
เอิร์ลชายแดนชี้ไปยังเหล่าขุนนางที่อพยพออกไปจากพื้นที่วิหารและเหล่าเด็กๆขุนนางที่เป็นเจ้าภาพในงานพิธีวันนี้
เด็กที่กอดพ่อแม่ของตน, เด็กที่ร้องไห้ออกมา, และเอิร์ลซิวลิซส์ ผู้ว่าจ้างของเรย์จิ ที่กำลังพูดคุยกับลูกสาวของเขาเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง—แต่แน่นอนว่า ต่อให้เป็นราชันศักดิ์สิทธิ์ก็คิดไม่ถึงหรอกว่าเขากำลังให้หินสกิล【ควบคุมมานา】กับเธอ
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ราชันศักดิ์สิทธิ์ได้เห็นคลูฟชราทกับมิร่ากำลังตรงมาทางพวกเขาด้วย
「เด็กๆดูจะออกไปกันได้อย่างปลอดภัยนะ」
「…อืม นั่นสินะ」ราชันศักดิ์สิทธิ์ถอนหายใจ「เอิร์ลชายแดน」เขากล่าว
「อืม」
「…ถ้าข้าสูญเสียตัวตนไปอีกครั้งละก็ พาข้ากลับมายังทางที่ถูกต้อง ต่อให้เจ้าต้องอัดข้าลอยขึ้นฟ้าไปก็ตาม」
เอิร์ลชายแดนนั้นตัวใหญ่เท่ากับหมี ทว่าเมื่อเขาได้ยินราชันศักดิ์สิทธิ์พูดแบบนั้น เขาก็ยิ้มออกมาราวกับเด็กๆเลย
「ข้าจะอัดท่านด้วยทุกอย่างที่ข้ามีเลย ดังนั้นเตรียมใจเอาไว้ด้วยละ เกรนจิโด้」
แล้วทั้งสองคนก็กระแทกกำปั้นกัน
* *
ผมพุ่งออกจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์แล้วเข้าไปยังเขตศักดิ์สิทธิ์ที่ 1 เหล่าเจ้าหน้าที่ต่างๆออกมารวมตัวกันรอบๆสถานที่ที่ถูกทำลายจากพลังงานสีดำนั่น เมื่อตามล่องรอยความเสียหายไป ผมก็ได้มาถึง “กำแพงที่ 2”
「นี้มัน…!」
กำแพงได้ถล่มลงไปหลายสิบเมตร ตัวคฤหาสน์ของขุนนางตระกูลๆหนึ่งถูกทำลายย่อยยับ, ส่วนที่พักอาศัยถูกทำลายบางส่วน, และซากประหลักหักพังกระจัดกระจายอยู่ทั่วสวนอันกว้างขวาง
วิสัยทัศน์ย่ำแย่เพราะฝุ่นควัน ผมได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังออกมา
(…บ้าเอ้ย!)
ในตอนนั้น ผมดีใจที่สามารถเปลี่ยนทิศทางของก้อนพลังงานนั้นได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้น บางคนที่อยู่ตรงนี้ต้องมาบาดเจ็บหรือบางทีอาจถึงตายเลยก็มี เมื่อผมคิดแบบนั้น ความรู้สึกผิดก็ได้กัดกินจิตใจของผม
「นะ-นี้มันอะไรกัน?」
เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นที่ด้านหลัง
「นายคือคนทำความสะอาดใช่ไหม?」
กัปตันอาเธอร์จากภาคีอัศวินที่ 2 ได้ยืนอยู่ตรงนั้น
「คุณมาได้จังหวะพอดีเลย ดูเหมือนว่าคฤหาสน์หลังจะถล่มลงมาและมีบางคนได้รับบาดเจ็บด้วย ดังนั้นพวกเราเลยต้องการอัศวินมาช่วยพวกเขาครับ!」
「ว่าไงนะ!? นั่นมันคฤหาสน์ของตระกูลริเวียร์นี้!」
ตระกูลริเวียร์ หนึ่งใน 6 ดยุคผู้ยิ่งใหญ่
「พวกเจ้าได้ยินแล้วนะ? พวกเราจะทำการปฏิบัติการช่วยเหลือกัน!」อาเธอร์ตะโกนออกมา
ผมรู้สึกยินดีมากเลย กำลังคนเป็นสิ่งสำคัญในกรณีแบบนี้
จู่ๆ ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่ากัปตันอาเธอร์เป็นคนคุ้มกันของหลุยส์ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป มันเป็นสิ่งที่ผมไม่สมควรพูดในตอนนี้
ในระหว่างนั้น ผมก็ตรงไปยังก้อนพลังงานสีดำที่ผมยังคงรู้สึกถึงมันได้—ที่ใจกลางของสวนอันกว้างขวาง
สนามหญ้าที่ได้รับการดูแลอย่างดีแห่งนี้นั้นทั้งกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยพืชพรรณต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้มันกลับถูกปกคลุมไปด้วยตะกอนและซากปรักหักพังไปซะแล้ว และผมก็พบก้อนพลังงานสีดำอยู่ตรงกลางของสวนนี้
(…ความรู้สึกไม่ดีนี้มันอะไรกันเนี้ย)
พลังงานสีดำเหมือนกับเปลวไฟนั้นตั้งตระหง่านอยู่ มันสูงกว่าผมซะอีก มันสูงประมาณ 3 เมตรและกว้าง 2 เมตร
เมื่อผมกำมีดเก่าๆ—ผมก็เห็นเงาขนาดใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในเปลวไฟนั้น
==================================================
TL: ขออภัยที่หายไปนานครับ ติดงานมหาลัยกับเข้าสู่ช่วงสอบแล้วครับ