[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit – บทที่2 ตอนที่ 43

บทที่ 2 ตอนที่ 43

 

(ชิบหาย…)

 

บางอย่างที่ใหญ่และยาวจนน่าเหลือเชื่อถูกปล่อยออกมาจากเปลวเพลิงสีดำผ่านด้านข้างของผมไปพร้อมกับแรงลมมหาศาลราวกับรถไฟหัวกระสุน ผมถูกพลักกระเด็นด้วยแรงนั้นไปลงจอดห่างออกไปหลายเมตรเลย

 

…ยาว, ยาว, ยาว, ยาวเกินไปแล้ว!!! แถมยังออกมาเรื่อยๆเลยด้วย!

 

ลำตัวที่ยาวอย่างกับไม่รู้จบนั้นดูจะเป็นของงู ส่วนหัวนั้นไปไกลมากแล้ว และผิวของลำตัวก็อัดแน่นไปด้วยเกล็ดสีน้ำตาลดำที่ส่องแสงสีฟ้าออกมา ขนาดของลำตัวนั้นใหญ่พอๆกับรถไฟ แถมยังตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้

 

(อูโรโบรอส!)

 

งูที่กลืนกินหางของตนเอง สิ่งมีชีวิตในตำนานของหลายๆวัฒนธรรมบนโลกตั้งแต่อดีตกาล

 

สัญลักษณ์ที่แสดงถึง “ความตาย” และ “การกำเนิดใหม่”

 

อย่างไรก็ตาม ร่างของงูตัวนี้ยังคงปรากฏออกมาเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลยด้วย

 

ผมลุกขึ้นมาแล้วรีบพุ่งไปยังเปลวไฟสีดำที่ดูเหมือนจะทำงานเหมือนกับประตู ผมแทงมีดโปราณเข้าไปที่เปลวไฟด้วยด้วยมือของผม แสงสีฟ้าได้ระเบิดออกมาจากใบมีด และผมก็รู้สึกถึงรอยร้าวที่ใบมีดจากการสั่นสะเทือนตรงมือของผม

 

เอลซังบอกว่ามีดเล่มนี้สามารถใช้หยุดคนกลางได้ ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมยังไม่รู้เลย แต่เจ้าอูโรโบรอสกับคนกลางนี้อาจจะไม่ได้มาจากโลกนี้แน่ๆ ผมจำเป็นต้องใช้หินที่ท่านเอิร์ลนำมาในการทำลายโดมนั่นเลย ดูเหมือนมันจะมีอะไรบางอย่างที่ป้องกันไม่ให้อาวุธธรรมดาใช้ได้ผล

 

มือของผมที่ถือมีดเอาไว้เริ่มร้อน มันเหมือนกับถูกไฟเผาเลย …มือขวาของผมทำงานหนักจริงๆเลยวันนี้

 

แต่ไม่นาน ในจังหวะตอนที่เปลวไฟสีดำหดตัวลงในทันทีนั้น มันก็ได้บีบลำตัวของอูโรโบรอส

 

『—เกี้ยยยยยยยย』

 

ผมได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากที่ที่ไกลมากๆ

 

ไม่มีทาง… มันไปไกลขนาดนั้นแล้วหรอ!? เกือบจะถึงบล็อก 4, อาจจะบล็อก 5 ด้วยซ้ำ!

 

เปลวไฟสีดำบีบลำตัวของงูอย่างช้าๆ เมื่อมันมาถึงขนาดเท่ากับห่วงบาส มันก็ตัดลำตัวของงูออกในทันที ของเหลวสีดำสาดกระเซ็นไปทั่ว และถึงผมจะกระโดดถอยออกมาแล้ว ของเหลวสีดำก็ยังมาโดนตัวผมอยู่ดี กลิ่นมันอย่างกับปลาเน่าเลย

 

「นั่นมันบ้าอะไรกันหน่ะ!」อาเธอร์รีบวิ่งมาทางนี้พร้อมกับใบหน้าซีดเผือด

 

「อืม…–ผมจะอธิบายยังไงดีละ?」

 

「มีมอนสเตอร์อยู่ที่นี่งั้นหรอ!?」

 

「ใช่แล้วครับ มอนสเตอร์! โปรดอพยพทุกคนออกไปก่อนนะครับ!」

 

「ไม่มีใครเข้าใกล้ไอ้นั่นได้ตั้งแต่แรกแล้ว!」

 

「นั่นก็จริงครับ」ผมพูด ก่อนจะเริ่มออกวิ่ง

 

「จะไปไหนหน่ะ!?」

 

「ไปจัดการส่วนหัวครับ!」

 

ลำตัวของงูยังมีชีวิตอยู่ มองดูระยะทางแล้ว ร่างของมันได้ข้ามกำแพงของคฤหาสน์, เลื้อยไปตามอาคาร, และยังไปไกลกว่านั้นอีก มันคงจะเป็นหายนะแน่ถ้าเจ้านี้อาละวาดขึ้นมา

 

มันจะต้องถูกกำจัดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

ไอ้สารเลวคนกลางดันทิ้งของขวัญจากลาห่วยๆนี้เอาไว้ซะได้!

 

「คุณหนู อยากจะให้ผมปกป้องทุกๆคนจริงๆหรอครับเนี้ย!?」

 

…ถ้ามันตัวใหญ่ขนาดนี้ละก็ ผมก็คงทำอะไรไม่ได้ถ้ามีเหยื่อเพิ่มมากขึ้นหรอก แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็มั่นใจได้ว่าคุณหนูจะต้องหวังให้ผมทำให้ดีที่สุดเพื่อปกป้องทุกๆคนแน่ๆ

 

「แทนที่จะบอกว่าทำงานหนักเกินไป นี้มันเหมือนกับคำสาปไปแล้วชัดๆ!」

 

มีดในมือของผมนั้นไหม้เกรียมและเกือบจะพังแล้ว ผมเก็บมันเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อก่อนจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ผมเพิ่ม【เวทย์ซัพพอร์ต】เข้าไปพร้อมๆกับสกิลเสริมกล้ามเนื้อจำนวนมาก และถ้าผมไม่ใช้【เวทย์รักษา】อย่างต่อเนื่องละก็ ร่างกายของผมได้พังแน่นอนเลย

 

ทางลัดที่จะไปยังหัวของมันได้ แน่นอนว่าต้องตามร่างของมันไป ผมวิ่งไปบนตัวของมัน ผมวิ่ง, วิ่ง, และก็วิ่งเข้าไป จนผมข้ามผ่าน “กำแพงที่ 3”, “กำแพงที่ 4”, และ “กำแพงที่ 5” บ้านบางหลังถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง ทว่าผมก็ไม่อาจเข้าไปช่วยผู้คนข้างในได้ในตอนนี้

 

「คุ… อย่างที่คิด…」

 

บล็อก 5 เป็นที่อยู่ของประชาชนทั่วไป อาคารบ้านเรือนนั้นมีความทนทานน้อยกว่าเขตขุนนางมาก แถมยังอัดแน่นกันเป็นกระจุกด้วย อูโรโบลอสตกลงที่กลางถนนที่ชุกชุมไปด้วยผู้คนและร่างของมันก็ทับบ้านหลากหลายหลัง

 

เสียงร้องดังมาจากทั่วทิศทาง ผู้คนต่างวิ่งหนีกรีดร้อง มันวุ่นวายไปหมด

 

และผมก็ได้เห็นหัวของอูโรโบรอสชัดๆเป็นครั้งแรก หัวของมันยกสูงเหนืออาคารทั้งหมดในบริเวณนี้, มีดวงตาสีแดง 6 ดวงและเขาขรุขระ 4 ข้าง, ผิวสีเดียวกับเกล็ด, ปากขนาดใหญ่ที่มีฟันอันแหลมคมมากมาย, ลิ้นที่ยาวเหยียดพร้อมกับเสียงฟ่อๆ

 

อูโรโบรอสจ้องมองไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่กอดลูกของเธอเอาไว้แน่นด้วยความกลัว เห็นได้ชัดเลยว่ามันเล็งเป้าไปที่เธอ

 

「—ไม่ยอมหรอก!」

 

ผมวิ่งข้ามตัวของอูโรโบรอสและกระโจนเข้าไป ด้วยแรงจากทั้งโมเมนตัมและ【ทักษะการเตะ】ของผมที่ถูกฝึกจนฝังแน่นเข้าไปในร่างกายของผม ผมได้ม้วนตัวเตะไปที่หลังหัวของอูโรโบรอส หัวนั้นแข็งมากๆ รู้สึกถึงกระดูกขาของผมที่แตกออกเลย ทว่าผมก็รีบรักษามันทันทีด้วย【เวทย์รักษา】

 

หัวของอูโรโบรอสพุ่งไปข้างหน้าจากแรงกระแทก มันได้ชนเข้ากับร้านผลไม้ริมทางไป 2 ร้าน

 

「ยืนไหวไหมครับ? รีบหนีไปจากที่นี่เถอะครับ」

 

「ฮี้!」

 

เมื่อผมเข้าไปใกล้ผู้หญิงกับเด็กคนนั้น พวกเขาก็มีท่าทีหวาดกลัวออกมา อา… อืม เสื้อผ้าของผมก็ขาดรุ่งริ่ง, เลือดไหล, และยิ่งไปกว่านั้นยังมีของเหลวสีดำจากอูโรโบรอสติดตัวผมไปครึ่งนึงเลยนี่นะ

 

(อา… ตอนที่ลาร์คช่วยผม ผมเองก็หวาดกลัวเหมือนกัน)

 

ผมนึกถึงความทรงจำอันขมขื่นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถึงจะผ่านมา 4 ปีแล้ว แต่ผมก็ยังเสียใจอยู่ดี และยังรู้สึกน่าคิดถึงอีกด้วย

 

จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งหนีไปไปพร้อมกับลูกของเธอ

 

「ทุกคน โปรดวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ! เจ้ามอนสเตอร์นี้มีลำตัวยาวจากเขตศักดิ์สิทธิ์ที่ 2 มาจนถึงตรงนี้เลย! พวกคุณต้องไปให้ไกลมาก, มาก, มากยิ่งกว่านี้ครับ!」

 

ผมเตือนผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ ส่งผลให้พวกเขาเริ่มกรีดร้องและวิ่งหนีออกไป

 

อูโรโบรอสค่อยๆยกหัวของมันขึ้น และจ้องมองลงมาที่ผม ผมถูกนับว่าเป็นศัตรูโดยสมบูรณ์แล้วสินะ

 

「โอ้… ตอนนี้แกหันมาเล็งผมแล้วงั้นหรอ เข้าใจละ」

 

(…เอาละ ผมจะทำยังไงดี?)

 

มีอะไรที่ใช้ได้ผลกับศัตรูที่ตัวใหญ่ขนาดนี้มั้งนะ? ผมต้องการอาวุธ แต่ผมไม่สามารถออกไปเอามาได้นี่สิ

 

「เอ๊ะ?」

 

มีดาบสั้นลอยผ่านอากาศมาทางผม และผมก็คว้ามันเอาไว้ มองไปยังต้นทางของมัน มีเซอรี่ซังที่โบกมือให้กับผมจากเงาของอาคารอยู่

 

เยี่ยมไปเลย เซอรี่ซัง! มันจะดีกว่านี้ถ้าคุณหยุดเล่นพนันหลังจากนี้ด้วย! และทำความสะอาดห้องด้วย! และอาบน้ำด้วย! และอย่าดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปด้วย! โอ๊ะ ไม่นะ มีแต่อะไรแย่ๆออกมาเต็มเลย!

 

(ดีนะเนี้ยที่ผมขอให้เซอรี่ซังระมัดระวังตัวเอาไว้)

 

อะไรก็อาจเกิดขึ้นได้ในงายพิธีมอบหินสกิลวันนี้ ดังนั้นผมจึงขอให้เธอเตรียมพร้อมเผื่อเอาไว้ ดังนั้นผมจึงคิดว่าเธอคงจะเอาอาวุธของผมออกมาเพราะเหตุวุ่นวายในครั้งนี้แน่ๆ

 

ผมเคยใช้ดาบเล่มนี้ทั้งในการฝึกและต่อสู้จริงมาแล้ว ดังนั้นมันจึงเหมาะมือผมเลย

 

(ที่เหลือก็… ผมจะไปได้ไกลแค่ไหนสินะ!)

 

ทันทีที่ผมได้รับดาบมา อูโรโบรอสก็ได้พุ่งหัวของมันเข้ามาทางผม

 

…เร็ว!

 

ถึงจะมีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร มันก็มาถึงตรงหน้าของผมทันทีที่ผมรู้ตัวแล้ว!

 

ผมกลิ้งไปด้านข้างเพื่อหลบการโจมตี ก่อนจะฟันมันด้วยดาบสั้น

 

…ตื้นเกินไป แข็งชะมัด

 

「หว่า!?」

 

หัวของมันผ่านตัวผม ดังนั้นผมจึงประมาทไป มันได้กลิ้งตัวของมันมากระแทกกับผม ตัวผมจึงถูกส่งลอยขึ้นไปในอากาศและกระแทกลงกับพื้น

 

「โอ้ยยยยย…」

 

ผมสามารถลดแรงกระแทกได้เพราะผมกระโดดถอยหลังในจังหวะสุดท้าย ทว่ามันก็ยังเจ็บอยู่ดี

 

…ลำบากแล้วสิ ผมไม่เคยสู้กับงูตัวขนาดนี้มาก่อนเลย ดังนั้นผมจึงไม่สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของมันได้

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าผมใช้เวลามากไปละก็ งูนั่นจะทำลายอาคารรอบๆเอาได้ มันใหญ่ขนาดที่สามารถทำลายบ้านหลังสองหลังได้ง่ายๆเพียงแค่กลิ้งทับเลยด้วย

 

ผมจะต้องตั้งเป้าเป็นการต่อสู้ชี้ขาดระยะสั้น

 

(แต่ผมจะทำยังไงดีละ? ผมจะเอามันลงด้วยตัวคนเดียวได้หรอ? ถ้าผมโจมตีมันด้วยทุกอย่างที่มี อาวุธของผมได้พังก่อนแน่ แต่ถ้าผมออมมือละก็ ผมก็ไม่สามารถทำความเสียหายร้ายแรงได้เลย)

 

ถ้ายังงั้น ผมคงไม่มีทางเลือกนอกจากเสียสระอาวุธของตัวเองโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียวแล้ว

 

(ถ้าผมมีโอกาสสักครั้ง มากสุดสองครั้งละก็)

 

ความตึงเครียดวิ่งผ่านร่างกายของผม

 

(ผมจะต้องสร้างโอกาสให้ได้ แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามานาที่เหลืออยู่จะพอไหม แถมมันยังยากที่จะสร้างโอกาสแบบนั้นด้วยตัวคนเดียวด้วย… มีอะไรอีกบ้างที่ผมทำได้มั้งนะ?)

 

ในจังหวะนั้นเอง ผมก็ได้ยินเสียงเท้า

 

หูของผมสามารถรับรู้เสียงเล็กๆได้ด้วย【เสริมการได้ยิน】ยิ่งไปกว่านั้น เพราะผมมี【World Ruler】ผมจึงไม่มีทางลืมอะไรที่ผมจดจำลงไปในสมองแล้วได้

 

มีคน 3 คนกำลังตรงมาทางผม เสียงฝีเท้าของคน 3 คนที่ผมรู้จัก—ไม่สิ ถ้าจะให้เจาะจงละก็ พวกมันต่างออกไปนิดหน่อยจากความทรงจำของผม เพราะเสียงสามารถเปลี่ยนไปได้ถ้าเดินบนพื้นผิวที่ต่างกันรวมถึงรองเท้าที่ใส่ด้วย แต่ถึงอย่างไร ผมก็จำพวกมันได้

 

…และยิ่งไปกว่านั้น มันก็ 4 ปีมาแล้วนี่นะ

 

「…ข้าได้ยินว่ามีมอนสเตอร์ยักษ์ปรากฏตัวออกมาก็เลยมาที่นี่ แต่ไม่คิดเลยว่าพวกเราจะมาพบกันอีกครั้งในที่แบบนี้」

 

นักผจญภัยที่ถือคทา(mace)หนักๆและโล่ใหญ๋ที่ใหญ่เท่ากับตัวเขา เขาก็คือ ดันเต้ซัง ผู้มีชื่อเล่นว่า “โล่ใหญ่สีเงิน”

 

「ชั้นมีความรู้สึกว่าพวกเราจะได้พบกันในเมืองนี้ ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ชี้นำ」

 

คนที่เติบโตเป็นหญิงสาวเต็มตัวแล้ว – แถมหน้าอกคู่นั้นก็ยังใหญ่ขึ้นไปอีกเช่นกัน – ก็คือแม่ชี น็อนซัง

 

「…นั่นเธอจริงๆหรอ เรย์จิคุง?」

 

และก็คนที่สาม

 

「ครับ ผมเอง」

 

เธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลยจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เนื่องจากเธอยังคงสูงเท่าเดิม ตัวผมจึงสูงกว่าเธอไปแล้ว ใบหน้าของเธอแสดงออกราวกับกำลังจะร้องไห้ ทว่าเธอควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ให้ร้องออกมา

 

「ชั้นมีอะไรมากมายเลยที่อยากจะพูดกับเธอ!」

 

「ผมรู้」

 

「แต่พวกเราต้องจัดการกับเจ้านั่นก่อนสินะ หา?」

 

「ครับ ผมจะยินดีมากเลยถ้าได้รับการสนับสนุนครับ」

 

「ถ้าเธอว่ายังงั้นละก็ งั้นก็ช่วยไม่ได้ละนะ เรย์จิคุง!」

 

มิมิโนะซังก็ยังคงเป็นมิมิโนะซังคนเดิมเมื่อ 4 ปีที่แล้วเลย

 

…ตอนนี้ ผมไม่รู้สึกว่าจะแพ้อูโรโบรอสเลยแม้แต่นิดเดียว

 

==================================================

TL: ไม่ค้างเนอะ ?

 

 

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

Options

not work with dark mode
Reset