หลังจากนั้น ในที่สุดชั้นก็สามารถอธิบายเรื่องราวในครั้งนี้ให้เซย์จังฟังได้สักที
ชั้นตัดเข้าเรื่องว่า “จริงๆเเล้ว..” ก่อนจะอธิบายสถานการณ์ให้เธอฟังว่าตอนนี้ โทโจวอิน คาโอริ ได้รู้เรื่องเดทระหว่างยูอิจิกับฟุจิเสะเข้าซะเเล้ว
“งั้นเหรอ ผู้หญิงคนนั้นรู้เข้าเเล้วสินะ..”
ในมุมมองของเซย์จัง เธอไม่ค่อยจะชอบ โทโจวอิน คาโอริ สักเท่าไหร่
ก็เพราะเป็นถึงคนที่เข้ามาขัดขวางเรื่องความรักของเพื่อนสนิทตัวเองเลยนี่นะ เธอคงจะทําใจชอบไม่ลงหรอก
“เเบบนี้หมายความว่าเธอจะเข้ามาขัดขวางการเดทสินะ?”
“บางทีนะ.. ไม่สิ ชั้นคิดว่าเธอจะต้องมาเเน่ๆ”
“เห้อ~ ดันทําให้คนที่ไม่ควรจะรู้มากที่สุดรู้เข้าซะได้เนี่ย หมอนั่นคิดอะไรอยู่นะ”
“เกี่ยวกับเรื่องนั้น.. ขอโทษด้วยนะ! ชั้นไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะถูกได้ยินเข้าน่ะ”
“เรื่องมันก็เกิดไปเเล้วด้วย ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็เถอะ สรุปคืออยากจะให้ฉันช่วยร่วมมือกับพวกนายเพื่อหยุดไม่ให้ โทโจวอิน เข้ามาขัดขวางการเดทสินะ?”
“อื้ม! ถ้าอิงตามคําขอร้องของยูอิจิ ก็ประมาณนั้นเเหละ”
พอชั้นพูดออกมาเเบบนั้น เซย์จังก็เงียบลงเเละใช้เวลาคิดเล็กน้อย
“เเน่นอนว่าจะปฏิเสธก็ได้นะ ไม่จําเป็นต้องสนพวกชั้นหรอก”
“ไม่หรอก ฉันเองก็จะให้ความร่วมมือด้วย ยังไงมันก็เป็นการทําเพื่อ ชิโฮะ ด้วยนี่นะ”
“เอ๊ะ! เเน่ใจเหรอ?”
“อา ชิโฮะ อุตส่าห์รวบรวมความกล้าเพื่อที่จะสารภาพรักออกมาได้ทั้งที จะให้มันถูกขัดขวางได้ยังไงล่ะ”
สมกับเป็นเซย์จังที่นึกถึงเพื่อนก่อนตัวเอง ดูเหมือนเธอจะตัดสินใจทันทีเลยว่าจะให้ความร่วมมือ
“เเต่ถึงจะบอกว่าให้พยายามหยุดเธอไม่ให้เข้ามาขัดขวางก็เถอะ เเต่ในความเป็นจริงเเล้วจะทํายังไงล่ะ? อีกฝ่ายเป็นถึงลูกคุณหนูจาก โทโจวอินกรุ๊ป นั่นเลยนะ?”
ใช่เเล้วล่ะ ชั้นพูดออกไปก็จริงว่าให้หยุดเธอไม่ให้เข้ามาขัดขวางการเดท เเต่พูดตรงๆชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทําเเบบนั้นได้ยังไง
ในโลกเเห่งนี้ โทโจวอินกรุ๊ป ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกเชียวล่ะ
เคยได้ยินมาว่าพวกเขามีสินทรัพย์กว่าพันล้านล้านเยนเลยทีเดียว.. ถึงชั้นที่ยังอยู่ม.ปลายจะไม่ค่อยเข้าใจมูลค่าของมันสักเท่าไหร่ก็เถอะ
บริษัทยักษ์ใหญ่เเบบนั้นในโลกเเห่งความจริงมันมีด้วยเหรอ? คงเพราะนี่เป็นโลกของมังงะด้วยล่ะมั้ง เรื่องเเบบนั้นเลยเป็นไปได้
เอาเป็นว่า โทโจวอิน คาโอริ เป็นลูกคุณหนูจากตระกูลที่รํ่ารวยสุดๆ ก็ว่าได้
ถ้าคนเเบบนั้นเข้ามาขัดขวางอย่างจริงจังล่ะก็ บางทีพวกเราคงจะทําอะไรไม่ได้เลยด้วยซํ้า
ก็เธอสามารถใช้อํานาจทางการเงินของเธอทําอะไรตามที่เธอต้องการได้หมดเลยนี่นะ
“ถึงจะบอกว่าให้เข้าไปหยุดก็เถอะ เเต่คิดจะทํายังไงล่ะ? นายมีเเผนอะไรสักอย่างรึเปล่า?”
“ไม่มีสักนิดเลยล่ะ พอมาคิดดูอีกที ไม่ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ได้เหรอ?”
“อา ฉันเองก็คิดว่ามันยากเกินไปเหมือนกัน ถึงจะไม่อยากให้เธอเข้ามาขัดขวาง ชิโฮะ เลยก็เถอะ…”
“..หืม? ไม่สิ.. เดี๋ยวก่อนนะ”
ถึงชั้นจะลืมไปซะสนิทเลย เเต่ถ้าจําไม่ผิดในมังงะเองเนื้อเรื่องมันก็ดําเนินไปเเบบนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
เเน่นอนว่ามันไม่มีสถานการณ์ที่ ฮิซามูระ สึคาสะ กับ ชิมาดะ เซย์ มาคุยกันในคาเฟ่เเบบนี้หรอก
เเต่มันเป็นการดําเนินเรื่องที่จะทําให้โทโจวอินเข้ามาขัดขวางการเดทในครั้งนี้
ถ้าเธอขัดขวางเเบบเดียวกับในเนื้อเรื่องล่ะก็… บางทีชั้นอาจจะสามารถหยุดเธอได้ก็ได้
เเต่ว่าในคราวนี้สิ่งที่ไม่ดําเนินไปตามเนื้อเรื่องคือการที่โทโจวอินรู้เรื่องของเดทเข้าซะก่อน
ถ้าตามเนื้อเรื่องในมังงะตอนที่โทโจวอินจะรู้ว่าพวกเขาไปเดทกันก็คือตอนวันเดทซะเเล้ว ทําให้เธอมีเวลานิดเดียวในการเตรียมการขัดขวางพวกเขา
เเต่ว่าในคราวนี้มีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะเตรียมการขัดขวางไว้เเล้วล่วงหน้า
ถ้าเธอไม่ขัดขวางเเบบเดียวกับในเนื้อเรื่องล่ะก็ ชั้นคงหยุดเธอไว้ไม่ได้เเน่ๆ… ช่างเถอะ คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทําสินะ
“คะ.. เเค่คิดขึ้นมาเฉยๆนะ บางทีชั้นอาจจะรู้ก็ได้น่ะ ว่าโทโจวอินซังจะเข้ามาขัดขวางยังไง”
“จริงเหรอ? เหตุผลล่ะ?”
“ถึงจะไม่มากก็เถอะ เเต่ถ้าให้พูดคงเป็นนิสัยของโทโจวอินซังล่ะมั้ง”
เเม้เเต่ในฉบับมังงะทั้ง ฮิซามูระ สึคาสะ เเละ โทโจวอิน คาโอริ ก็สนิทสนมกันดี
ฮิซามูระ สึคาสะ ไม่มีความคิดที่จะเข้าไปขวางไม่ให้ ยูอิจิ กับ โทโจวอิน คบเป็นเเฟนกัน กลับกันเขาสนับสนุนพวกเขาสองคนด้วยซํ้า
ถึงครึ่งนึงจะเป็นการหยอกล้อทั้งสองก็เถอะ
เพราะอย่างนั้นทําให้ชั้นเองก็รู้สึกสนิทกับโทโจวอินขึ้นมาเหมือนกัน เรื่องนิสัยของเธอชั้นก็คิดว่าตัวเองได้รู้เพิ่มด้วย
ถึงครั้งนี้จะไม่ใช่เพราะชั้นรู้นิสัยของเธอดี เเต่เป็นเพราะชั้นรู้เนื้อเรื่องในมังงะซะมากกว่าก็เถอะ
“งั้นเหรอ เเต่ก็ยังดีกว่าไม่มีมาตรการรับมือเลยนั่นเเหละ เเล้วคิดจะทํายังไงล่ะ?”
เซย์จังในขณะที่กําลังดื่มฟรานชิโน่อยู่ ถามชั้นออกมาเเบบนั้น
“เอาเป็นว่าก่อนอื่น ในวันก่อนที่จะไปเดทหรือก็คือวันเสาร์ ชั้นจะให้เจ้ายูอิจิมาค้างที่บ้านของชั้นก่อนละกัน”
“ห๊ะ? หมายความว่ายังไงน่ะ?”
“บางทีถ้าเป็นโทโจวอินซังล่ะก็ ในวันอาทิตย์เธออาจจะจับตามองอยู่หน้าบ้านของยูอิจิตั้งเเต่เช้าเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นจะให้ยูอิจิไปสถานที่เดทจากบ้านของชั้นเเทนน่ะ”
ในความเป็นจริงเเล้ว ถ้าอิงตามเนื้อเรื่องในมังงะ ทั้งๆที่เธอไม่ควรจะรู้เรื่องที่ยูอิจิจะไปเดทเเท้ๆ เธอก็จะไปรอที่หน้าบ้านของเขาอยู่ดี
บางทีเธออาจจะเเค่มาชวนเขาไปเล่นตามปกตินั่นเเหละ เเต่เพราะวันนั้นยูอิจิมีเดทพอดีทําให้เธอถูกไล่กลับไป
หลังจากที่ถูกยูอิจิไล่กลับไป ด้วยความสงสัยเธอเลยเเอบตามหลังเขาไป นั่นทําให้เธอได้ไปพบเข้าว่าทั้งสองจะไปเดทกัน
ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่คราวนี้โทโจวอินก็จะไปรออยู่ที่หน้าบ้านของยูอิจิ
“เป็นอย่างนั้นเองเหรอ งั้นให้ชิโฮะมาค้างที่บ้านของฉันด้วยดีไหม?”
“ไม่จําเป็นต้องทําถึงขนาดนั้นหรอก ชั้นคิดว่าโทโจวอินซังน่าจะยังไม่รู้เลยด้วยซํ้าว่ายูอิจิจะไปเดทกับใครน่ะ บางทีเธออาจจะยังไม่คิดว่ามันเป็นเดทเลยก็ได้”
“งั้นเหรอ?”
“ตอนนี้โทโจวอินซังคงจะคิดเเค่ว่า [ยูอิจิมีเเผนจะทําอะไรสักอย่างในวันอาทิตย์ที่บอกดิฉันไม่ได้อยู่] เพราะฉะนั้นตอนที่ได้เห็นยูอิจิกับฟุจิเสะอยู่ด้วยกันตามลําพัง นั่นถึงจะทําให้เธอคิดขึ้นมาจริงๆว่ามันเป็นเดท”
บางทีตอนนี้เธอคงยังไม่รู้หรอกว่ายูอิจิกับฟุจิเสะจะไปเดทกัน
เเต่ถึงอย่างนั้นชั้นมั่นใจเลยว่าในวันของการเดทเธอจะต้องเข้ามาขัดขวางอย่างเเน่นอน
“หืม? งั้นเเปลว่าเธอเองก็ยังไม่รู้สถานที่เดทเหมือนกันสินะ?”
“อา นั่นสินะ ชั้นคิดว่ายังไม่รู้หรอก”
“เเปลว่าถ้าโทโจวอินไม่เเอบตามชิเกโมโตะไปล่ะก็ เรื่องคงจะจบเลยสินะ? ฉันว่าถึงจะเป็นโทโจวอินก็คงไม่รู้ยันสถานที่เดทหรอก”
“..อา คงเป็นเเบบนั้นเเหละ”
ใช่เเล้ว เพราะในฉบับมังงะยูอิจิโดนเธอเเอบตามไปทําให้เรื่องที่พวกเขาจะไปเดทถูกรู้เข้า เลยโดนขัดขวางไปทั้งอย่างนั้น
เเต่ว่าในครั้งนี้โทโจวอินไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน
ดังนั้นถ้าชั้นสามารถส่งยูอิจิไปถึงสถานที่เดทโดยที่ไม่ให้โทโจวอินรู้ตัวได้ พวกเราก็จะเป็นฝ่ายชนะ
“อืม เเต่เเบบนี้ดูเหมือนฉันจะไม่ต้องทําอะไรเลยนะ”
“คงจะเป็นเเบบนั้นเเหละ โทษทีนะ ดันทําให้เสียเวลาหลังเลิกเรียนไปเปล่าๆซะได้”
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามันทําให้เดทของชิโฮะดําเนินไปได้อย่างราบรื่นล่ะก็ เเค่นั้นก็คุ้มเเล้วล่ะ”
เท่สุดๆไปเลยน้า~
เธอเท่ยิ่งกว่าผู้ชายตัวจริงเสียงจริงซะอีก ทําชั้นตกหลุมรักเลยน้า~ อ๊ะ ชั้นตกหลุมรักเธออยู่เเล้วนี่นา
“อย่างที่คิดเซย์จังนี่อ่อนโยนจริงๆเลยนะ”
“มะ.. ไม่ใช่ซะหน่อย.. เเค่นี้มันเป็นเรื่องปกติอยู่เเล้ว”
“ฮ่าฮ่า~ สมกับเป็นเซย์จัง”
พอชั้นชมเธอออกไป เซย์จังก็หน้าเเดงกํ่าขึ้นมาทันที
บางทีเธอคงจะยังไม่ชินกับการถูกคนอื่นชมล่ะมั้ง
ชั้นอยากเห็นเธอเเบบนี้ไปตลอดจังเลย ก็มันน่ารักสุดๆเลยนี่นะ
หลังจากนั้นชั้นกับเซย์จังก็คุยกันเรื่อยเปื่อย ก่อนจะออกจากคาเฟ่
ถึงจะบอกว่าเป็นการคุยกันเรื่อยเปื่อยก็จริง เเต่พวกเราก็นั่งคุยกันในคาเฟ่นานกว่า 30 นาทีเลยทีเดียว
มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ทําให้ชั้นมีความสุขชะมัดเลย… จะสุดยอดเกินไปเเล้ว
พวกเราคุยกันเรื่องโรงเรียนบ้างล่ะ เรื่องยูอิจิกับฟุจิเสะบ้างล่ะ มันเหมือนกับว่าหัวข้อที่พวกเรานํามาพูดจะไม่มีวันจบสิ้นเลย
ถึงจะออกจากคาเฟ่มาเเล้ว พวกเราก็ยังคุยกันในขณะที่เดินไปด้วย
“เอ๊ะ? เซย์จังนี่มีพี่ชายด้วยเหรอ?”
“อา มีอยู่คนนึงน่ะ ถึงตอนนี้เขาจะกลายไปเป็นสมาชิกของสังคมอย่างเต็มตัวเเละไม่กลับมาบ้านเเล้วก็เถอะ”
ชั้นพึ่งรู้เป็นครั้งเเรกเลยนะเนี่ย
เรื่องนี้เองก็คงเป็นข้อมูลที่ไม่ได้บอกในฉบับมังงะเหมือนกันสินะ
เป็นยังไงกันเเน่นะ เซย์จังในฉบับมังงะเองก็จะมีพี่ชายเหมือนกันรึเปล่านะ?
อา เเต่ว่า จริงด้วยสินะ
“เพราะอย่างนั้นเธอเลยชอบพวกมังงะหรืออนิเมะเเนวโชเน็นสินะ”
“ห๊ะ? ทําไมนายถึงรู้เรื่องนั้นได้ล่ะ!?”
“เอ๊ะ อะ…”
จริงด้วย! เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับ ฮิซามูระ สึคาสะ นี่นา
ในฉบับมังงะเซย์จังจะเข้าไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับยูอิจิเพื่อช่วยฟุจิเสะ ในระหว่างนั้นพวกเขาสองคนสนิทกันมากขึ้น ทําให้เธอพูดเรื่องนี้ให้เขาฟัง
สาเหตุที่เซย์จังชอบมังงะเเนวโชเน็นหรืออะไรทํานองนั้นคงเป็นผลมาจากพี่ชายของเธอนั่นเเหละ
“คือว่า.. ชั้นได้ยินมาจากยูอิจิอีกทีน่ะ”
“อ๊ะ! หมอนั่นทั้งๆที่บอกว่าให้เก็บเป็นความลับเเท้ๆ..!”
ขอโทษนะ ยูอิจิ
หมอนั่นไม่ได้บอกอะไรชั้นหรอก เเต่จะให้พูดออกไปได้ยังไงล่ะว่าเป็นข้อมูลที่รู้มาจากมังงะน่ะ
“มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายซะหน่อยหนิ? ชั้นเองก็ชอบมังงะเเนวโชเน็นเหมือนกันด้วย”
“จริงๆเหรอ? ผู้หญิงเเบบฉันมาชอบมังงะเเนวโชเน็นเเบบนี้ มันคงไม่เหมาะสินะ?”
“ชั้นคิดว่าการที่จะชอบมังงะเเนวไหน มันไม่เกี่ยวว่าจะเหมาะหรือไม่เหมาะหรอกนะ”
ชั้นคิดเเบบนั้นจริงๆ
ถึงชั้นจะไม่ค่อยอ่านมังงะเเนวโชโจวสักเท่าไหร่ เเต่พวกผู้ชายที่ชอบอ่านมังงะเเนวโชโจวก็มีให้เห็นบ่อยๆเเละชั้นก็ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่เเปลกเเต่อย่างใด
เพราะคนเรามีงานอดิเรกไม่เหมือนกันนี่นะ
“เเถมถ้าชั้นได้คุยเรื่องมังงะเเนวโชเน็นกับเซย์จัง คงจะมีความสุขมากเลยล่ะ”
“งะ.. งั้นเหรอ.. ถ้าอย่างนั้นก็ดี…”
เซย์จังที่เเก้มเเดงระเรื่อจากความเขินอาย รีบเบือนหน้าหนีจากชั้น
ไม่เกี่ยวว่ามันจะเหมาะหรือไม่เหมาะกับเธอหรอก เเค่การที่เธอกังวลกับเรื่องเเบบนั้น มันก็น่ารักซะจนทําให้ชั้นหลุดยิ้มออกมาเเล้ว
“นะ.. นายขําอยู่นี่!”
“ฮ่าฮ่า~ โทษทีนะ เเต่ไม่ได้ขําเพราะคิดว่ามันไม่เหมาะกับเซย์จังหรอก พอคิดในใจว่าเซย์จังน่ารักจังเลยน้า~ มันก็หลุดขําออกมาน่ะ”
“คุ… เเบบนั้นมันก็ไม่ต่างจากการล้อเลียนฉันนั่นเเหละ!”
ในขณะที่กําลังเดิน ชั้นกับเซย์จังก็คุยเรื่องที่สนุกสนานกันเช่นนั้น
ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่ Ao2Sides