<มุมมองของ ชิมาดะ เซย์>
ในขณะที่เงยหน้ามองใบหน้าของฮิซามูระที่กําลังหัวเราะอยู่ เซย์ก็ฉีกยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ในตอนเเรกหลังจากที่พวกเราต้องอยู่กันเเค่สองต่อสองหลังเลิกเรียน ฉันไม่รู้เลยว่าจะทํายังไงดี เเต่ดีจังที่สามารถกลับมาคุยกันเเบบปกติเหมือนตอนก่อนที่จะถูกสารภาพรักได้
(ไม่สิ คงจะบอกว่าเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้หรอก… หมอนี่บางทีก็พูดอะไรเเปลกๆออกมาด้วยนี่นะ)
ก่อนที่จะถูกสารภาพรัก ฮิซามูระไม่เคยบอกกับเซย์ว่า [น่ารัก] เลยสักครั้ง
อย่างไรก็ตาม วันนี้ในระหว่างที่คุยกันที่คาเฟ่ เเม้กระทั่งตอนที่ออกจากคาเฟ่มาเเล้วก็ตาม คําพูดเช่นนั้นออกมาจากปากของเขาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง
สําหรับเซย์ที่ไม่เคยชินกับการถูกชมจากเพศตรงข้ามนั้น มันเป็นอะไรที่น่าอายเป็นอย่างมาก
(ทั้งอย่างนั้นหมอนี่กับพูดเเบบนั้นซํ้าเเล้วซํ้าเล่า…. หรือว่าบางทีหมอนี่อาจจะคุ้นชินกับการพูดเรื่องเเบบนั้นใส่ผู้หญิงก็ได้?)
พอคิดเช่นนั้น ไม่รู้ทําไมหัวใจของฉันถึงรู้สึกมัวหมองขึ้นมา
ฉันไม่คิดว่าฮิซามูระจะเป็นพวกที่ชมผู้หญิงคนอื่นไปทั่วหรอก เเต่พอคิดขึ้นมาเเล้ว มันก็หยุดไม่ได้เลย
“หืม? มีอะไรรึเปล่า เซย์จัง”
คงเพราะอยู่ๆฉันก็หยุดพูดเเละเงียบไปล่ะมั้ง ฮิซามูระเลยถามออกมาเเบบนั้น
“ไม่สิ.. คือว่า.. นายน่ะ มะ.. ไม่มีอะไรหรอก!”
“อะไรเหรอ? พูดทิ้งไว้เเบบนั้น ชั้นก็สงสัยสิ”
นอกจากฉันนายได้ชมคนอื่นว่าน่ารักรึเปล่า?
(ยังไงฉันก็ถามออกไปเเบบนั้นไม่ได้ใช่ไหมล่ะ! ถะ.. ถ้าถามออกไปล่ะก็ มะ.. มันก็จะดูเหมือนว่าฉันหึงน่ะสิ)
ถึงจะลังเลที่จะถามออกไปเเบบนั้น เเต่ถ้าไม่ถามก็จะไม่สามารถลบความมัวหมองในใจนี้ได้ ฉันเลยรวบรวมความกล้าเเล้วพูดออกมา
“นะ.. นายนี่บอกว่าฉันน่ารักบ่อยจังเลยนะ…”
“อืม จริงด้วยสินะ ก็เซย์จังน่ารักนี่นา อะ.. เเน่นอนว่าไม่ใช่เเค่น่ารักอย่างเดียวหรอกนะ เซย์จังยังสวยด้วยอีกต่างหาก”
“นะ.. นายเองก็คงพูดเรื่องเเบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นด้วยเหมือนกันล่ะสิ ก็ดูคุ้นชินมากเลยนี่นา”
“เอ๊ะ?”
ไม่รู้เพราะไม่คาดคิดที่ฉันพูดเเบบนั้นออกมารึเปล่า ฮิซามูระเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
เเต่ถึงอย่างนั้นก็รีบตอบกลับทันที
“ชั้นไม่เคยพูดเรื่องเเบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นมาก่อนเลยนะ พูดจริงๆ ชั้นพูดเเค่กับเซย์จังคนเดียวเท่านั้น… อ๊ะ.. ไม่สิ โทษทีนะ ดูเหมือนจะมีอยู่อีกคนนึงเเฮะ”
“หะ.. เห็นมั้ยล่ะ ก็มีอยู่ไม่ใช่รึไง”
ในตอนเเรกที่บอกว่า [เซย์จังคนเดียวเท่านั้น] มันทําให้ฉันรู้สึกดีใจมาก เเต่ดีใจไปได้ไม่นาน หมอนี่ก็รีบปฏิเสธออกมาทันที
กะเเล้วฮิซามูระเองก็เป็นพวกที่จะพูดอะไรเเบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นเหมือนกันสินะ
(ไม่สิ มันก็ไม่ใช่เรื่องเเย่หรอก การที่เป็นคนที่สามารถชมผู้หญิงออกมาเเบบนั้นได้น่ะ ถึงจะไม่ได้ชมเเค่ฉันคนเดียวก็เถอะ…)
“เช้านี้ชั้นพูดเเบบนั้นกับน้องสาวไปน่ะ”
“ห๊ะ? นายมีน้องสาวด้วยเหรอ?”
“หืม? อา จริงด้วยสินะ คงจะยังไม่รู้สินะ”
“ก็นายยังไม่ได้บอกฉันเลยนี่ จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ”
“นั่นก็จริงเเหละนะ มีน้องสาวที่ชื่อว่า ริเอะ อยู่น่ะ ชั้นเลยพูดเเบบนั้นกับริเอะไป เเต่ไม่ได้พูดกับคนอื่นจริงๆนะ”
“งะ.. งั้นเหรอ”
ถ้าเป็นน้องสาวก็คงไม่เป็นไรมั้ง… ฉันคิดเเบบนั้น กลับกันฉันเริ่มกังวลเรื่องอื่นขึ้นมาเเทน
“ฮิซามูระนี่เป็นซิสค่อนงั้นเหรอ?”
“ไหงเป็นงั้นไปได้ล่ะ? ไม่ใช่ซะหน่อย ชั้นไม่ใช่ซิสค่อนหรอกนะ”
“งั้นถ้าน้องสาวพาเเฟนกลับมาบ้าน คิดจะทํายังไงล่ะ?”
“อืม.. ยังไงดีล่ะ เเฟนของริเอะเหรอ เดิมทียัยนั่นก็เป็นนางรองด้วยสิ ชั้นคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้หรอก…” (พึมพํา)
ฮิซามูระครุ่นคิดด้วยสีหน้าที่เข้าใจยาก
“ถ้านายลําบากใจขนาดนั้น ไม่ใช่ว่านายเป็นซิสค่อนเหรอ”
“ไม่ล่ะ เเค่กังวลว่าน้องสาวจะหาเเฟนได้รึเปล่าน่ะ ถ้าเกิดเป็นเเฟนที่ยัยนั่นชอบจริงๆ ชั้นก็ไม่มีปัญหาหรอก”
“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ซิสค่อนสินะ”
“งั้นกลับกัน เซย์จังเองก็บอกว่ามีพี่ชายเหมือนกันไม่ใช่เหรอ หรือบางทีเซย์จังจะเป็นบราค่อน?”
“ไม่ล่ะ ชั้นไม่ใช่หรอก เเต่ฝั่งเขาอาจจะเป็นซิสค่อนก็ได้ ถึงตอนนี้ชั้นจะโตเเล้วก็เถอะ เเต่สมัยประถมกับม.ต้นเขารักฉันมากเลยล่ะ”
“งะ.. งั้นเหรอ งั้นถ้าสมมติเซย์จังมีเเฟนขึ้นมาเเละไปเเนะนํากับเขาล่ะก็…”
“อาจจะถูกคัดค้านก็ได้”
“จริงเหรอเนี่ย… ดูลําบากพอตัวเลยเเฮะ”
ฮิซามูระพูดออกมาเเบบนั้นด้วยสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อย
พอเห็นเเบบนั้น เซย์จึงคิดขึ้นมาว่าบางทีฮิซามูระอาจจะกําลังหมดความสนใจในการคบกับตัวเองเพราะรําคาญพี่ชายของเธอรึเปล่า
“มะ.. ไม่ใช่หรอกนะ เเน่นอนว่าถ้าชอบกันเเละคิดจะคบกันจริงๆล่ะก็ ฉันคิดว่าพี่เขาจะต้องยอมรับเเน่”
“หืม? อย่างงั้นเหรอ เอ๊ะ เมื่อกี้พูดโดยสมมติว่าชั้นกับเซย์จังจะคบกันเเละเธอจะเเนะนําชั้นกับเขาสินะ?”
“มะ.. ไม่ใช่สักหน่อย! ฉันยังไม่ได้พูดไปถึงเรื่องนั้นเลยนะ!”
“งะ.. งั้นเหรอ เข้าใจเเล้วล่ะ”
ด้วยคําพูดของเซย์ ทําให้บรรยากาศระหว่างทั้งคู่กลับมาอึดอัดอีกครั้ง
(คุ… ดันเผลอพูดเรื่องไม่จําเป็นออกไปซะเเล้วสิ เเต่ว่าฮิซามูระเองก็มีพี่น้องเหมือนกันสินะ คุณน้องสาวงั้นเหรอ… จะเป็นเด็กเเบบไหนกันนะ)
เมื่อกี้ฉันคิดถึงสถานการณ์ที่ฮิซามูระจะมาพบกับพี่ของฉันก็จริง เเต่สถานการณ์ตรงกันข้ามก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฮิซามูระจะเเนะนําน้องสาวของเขาให้ฉันรู้จัก ต้องเตรียมคําทักทายดีๆไว้ด้วย
ถ้าจะคบกัน ก็ต้องสนิทกับครอบครัวของอีกฝ่ายด้วยนี่นะ….
(มะ.. ไม่ใช่สิ! เเล้วไหงฉันถึงตัดสินเอาเองว่าจะคบกับหมอนี่ล่ะ…!)
หน้าของฉันเเดงกํ่าขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะพยายามส่ายหัวเพื่อให้มโนเหล่านั้นหายไป
“ปะ.. เป็นอะไรไปน่ะ เซย์จัง”
“มะ.. ไม่มีอะไรหรอก”
ในขณะที่พูดกันไปเเบบนั้น พวกเราก็มาถึงทางเเยกกลับบ้านของเเต่ละคน
“ลาก่อนนะ เซย์จัง เกี่ยวกับเรื่องของเดทวันอาทิตย์ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวชั้นจะส่ง RINE ไปให้”
“อา จะว่าไป… พอพูดถึง RINE ทําไมเมื่อวานนายถึงไม่ตอบเเชทฉันกลับล่ะ?”
“เอ๊ะ? อะ.. ขอโทษนะ พอเห็น RINE ของเซย์จัง ชั้นก็ผล็อยหลับไปเลยน่ะสิ”
“งะ.. งั้นเหรอ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี…”
กลางดึกของเมื่อวานฉันกังวลมาก พอได้ยินเเบบนี้ ค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย
“ขอโทษจริงๆนะ ต่อจากนี้ชั้นจะระวังมากขึ้น ไม่สิ จะต้องตอบกลับให้อย่างเเน่นอนเลยล่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เเต่ว่าอย่างที่ ชิโฮะ พูดเอาไว้เลย นายผล็อยหลับไปจริงๆด้วยสินะ”
“ขอโทษนะ… เเต่ หืม? อย่างที่ ฟุจิเสะ พูดเอาไว้ นั่นหมายความว่ายังไงน่ะ? เธอรู้เรื่องที่ชั้นคุย RINE กับเซย์จังด้วยเหรอ?”
“อ๊ะ…”
จะว่าไปฉันยังไม่ได้บอกเรื่องนั้นกับฮิซามูระนี่นะ
พวกเราหยุดเดินตรงนั้น ก่อนที่ฉันจะบอกเรื่องที่ ชิโฮะ ไปได้ยินคําสารภาพรักเข้า
“เอาจริงดิ… งั้นที่ชั้นรู้สึกว่าถูก ฟุจิเสะ หันมามอง เป็นเพราะเเบบนั้นเองสินะ”
“ทะ.. โทษทีนะ ดูเหมือนชิโฮะจะได้ยินประโยคสุดท้ายประโยคเดียว เเต่ฉันเข้าใจผิดเลยเเทบจะบอกเธอไปหมดเลยน่ะสิ”
“นะ.. น่าอายชะมัดเลย…!”
“นะ.. เเน่นอนว่าทั้งฉันเเละชิโฮะไม่คิดจะเอาไปบอกคนอื่นหรอก วางใจได้”
“ระ.. เรื่องนั้นชั้นก็เข้าใจอยู่หรอก…!”
(ว่าไปเเล้วเรื่องน่าอายเเบบนั้น ฉันไม่มีทางเอาไปบอกคนอื่นเด็ดขาด…!)
ในท้ายที่สุดทั้งสองคนที่เขินอายอย่างสุดขีดก็กลับบ้านของตัวเองไป
ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่ Ao2Sides