บทที่ 353 ตั้งชื่อลูก

บทที่ 353 ตั้งชื่อลูก

บทที่ 353 ตั้งชื่อลูก

โจวชิงไป๋รู้สึกร้อนใจขึ้นมาบ้างเหมือนกัน เห็นชัดว่าวันนี้ภรรยาของเขาอารมณ์ไม่ดีและเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมด้วย

หลินชิงเหอมาถึงบ้านแล้วก็เห็นเขาตามติดมาด้วย จึงเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ “ทำไมคุณถึงกลับมาล่ะคะ?”

“เจ้ารองอยู่ที่ร้านแทนแล้ว” โจวชิงไป๋บอก

หลินชิงเหอมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนเดินเข้าบ้าน

โจวชิงไป๋ชงน้ำผสมน้ำผึ้งให้เธอแก้วหนึ่ง เมื่อหลินชิงเหอดื่มน้ำผสมน้ำผึ้งเข้าไปแล้วเธอก็ยังรู้สึกมึนงงอยู่

“ภรรยาครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” โจวชิงไป๋อ้ำอึ้งไป

หลินชิงเหอเหลือบมองเขา เธอไม่อยากจะบอกเขาเลย มันจะกลายเป็นเรื่องไม่เข้าใจกันหรือเปล่า? แต่หญิงสาวก็รู้สึกว่าเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดเรื่องเข้าใจผิดกัน

เธอไม่อาจทรมานตัวเองได้ ชายนิสัยไม่ดีคนนี้ต่างหากที่เป็นตัวต้นเหตุ ดังนั้นเธอจึงควรบอกให้เขารู้

ในที่สุดเธอก็พูดออกมา “รอบเดือนของฉันมาช้าไป 3 วันแล้ว ตอนนี้มันยังไม่มาเลยค่ะ”

โจวชิงไป๋รู้ว่ารอบเดือนของภรรยามาตรงเวลาทุกรอบ แต่ช่วงนี้เขาจัดหนักไปหน่อย เขาจึงลืมเรื่องนี้ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

พอภรรยาเอ่ยเตือนความจำขึ้นมา เขาก็นึกขึ้นได้

เห็นเขามีท่าทางนิ่งงันไป หลินชิงเหอก็รู้ว่าเขาต้องเข้าใจผิดแล้ว เธอไม่มีอารมณ์แปรปรวนระหว่างมีรอบเดือนเลย “ฉันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมาน่ะค่ะ”

“แล้วหมอว่าอย่างไรบ้าง?” โจวชิงไป๋ถามรัวเร็ว

รอบเดือนของภรรยามาตรงเวลาตลอด น้อยครั้งที่จะเลื่อน ต่อให้เลื่อนไปก็เป็นแค่วันสองวัน ไม่เคยเลื่อนไปถึง 3 วันเลย

“ในผลการตรวจไม่มีอะไรผิดปกติหรอกค่ะ แต่คุณหมอเธอพูดว่า…” หลินชิงเหอเม้มปาก

“พวกเขาพูดว่ายังไง?” โจวชิงไป๋อดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

หลินชิงเหอทุบเขา “ดูสิว่าคุณทำอะไรลงไป”

ในตอนแรกโจวชิงไป๋ยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นภรรยามีอาการแบบนี้แล้วเขาก็ตกตะลึงไป จากนั้นก็มีสีหน้าไม่อยากเชื่อ

เขาจ้องมองภรรยาด้วยดวงตาเลื่อนลอย มือทั้งคู่สั่นเทิ้ม “ภรรยาครับ หมอ…หมอว่ายังไงบ้าง?”

หลินชิงเหอกลอกตาใส่เขาก่อนเอ่ยตอบ “อย่าเพิ่งตื่นเต้นนักเลยค่ะ ในผลการตรวจบอกว่าฉันไม่ได้ท้อง!”

โจวชิงไป๋ได้ฟังก็ห่อเหี่ยวลงราวกับลูกโป่งที่ถูกเจาะลม

หลินชิงเหออดไม่ได้ที่จะหยิกหน้าและเอ่ยต่อ “ผู้ชายไร้จิตสำนึก ฉันอายุ 35 แล้วคุณยังจะหวังให้ฉันท้องอีกเหรอคะ? คุณไม่กลัวว่าฉันจะแก่เกินไปจนเสี่ยงเกินที่จะมีลูกเหรอ?”

“คุณไม่แก่เลย คุณยังสาวอยู่นะครับ” โจวชิงไป๋เอ่ยปลอบ

หลินชิงเหอได้ฟังก็พอใจ เมื่อเห็นสีหน้าของเขาดูผิดหวังอย่างไม่อาจปิดบัง เธอก็หันหน้าหนี “คุณหมอบอกว่าต่อให้ผลตรวจบอกว่าฉันไม่ท้อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่ท้องเสมอไปหรอกนะคะ”

โจวชิงไป๋นิ่งไปและจ้องมองภรรยา

“มันเป็นไปได้เหมือนกันค่ะว่าเวลาตรวจสั้นเกินกว่าที่จะสรุปผลได้ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะท้องนะคะ” หลินชิงเหอเอ่ยเสียงอ่อย

เธอเองก็มีความรู้สึกเช่นนั้น ช่วงนี้เธอง่วงนอนบ่อยและเหนื่อยง่าย แถมยังกินจุอีกด้วย ซึ่งเธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

ใบหน้าเศร้าหมองของโจวชิงไป๋ดูสว่างสดใสขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้เขาขยันทำการบ้านหนักมากและภรรยายังตามใจเขา นอกจากเมื่อคืนนี้แล้ว เขาก็ไม่พลาดที่จะทำเลยแม้แต่วันเดียว

ดวงตาของโจวชิงไป๋เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความปิติยินดี เขารู้สึกราวกับว่าไม่รู้จะเอามือเอาเท้าไปไว้ที่ไหนบนร่างกายเลยทีเดียว

“ชิงไป๋ ถ้าฉันท้องแล้วเราจะทำยังไงกันดีคะ?” หลินชิงเหอกังวล

โจวชิงไป๋รีบเอ่ยปลอบเธอในทันที “คุณอย่ากลัวไปเลยนะครับ ด้วยฐานะของเราตอนนี้ ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วล่ะครับ”

หลินชิงเหอมองเขาด้วยสายตาเศร้าสลด “คุณอยากให้ฉันมีลูกขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” เธออายุมากขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่สาว ๆ อีกต่อไป ถ้ายังอยู่ที่ชนบท เธอก็อยู่ในวัยที่อุ้มหลานได้แล้ว

โจวชิงไป๋รีบปลอบโยนเร็วรี่ “ถ้าคุณท้อง คุณก็คลอดเขาเถอะ ชะตาเราถูกกำหนดมาให้มีเด็กคนนี้”

หลินชิงเหอรู้สึกสลดใจแทบตาย อายุเท่านี้แล้วเธอยังต้องคลอดลูกคนที่สี่อีก จะมีใครคนไหนโชคร้ายเท่าเธอบ้างเนี่ย?

“ปีหน้าจะมีการวางแผนครอบครัวแล้วนะคะ” หลินชิงเหอพูดต่อ

“เยี่ยมเลย ลูกเราก็จะเกิดปีหน้าพอดี หลังคลอดคนนี้แล้วเราก็พอแล้วล่ะ” โจวชิงไป๋ตอบ

เขาเคยถามภรรยาในเรื่องนี้ และรู้มาว่าถ้าตั้งท้องในช่วงสิ้นปี เด็กก็จะคลอดพอดีกับช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีหน้า

ชายผู้สุขุมอย่างโจวชิงไป๋รู้สึกตื่นเต้นอย่างเหลือล้น

“ภรรยาครับ มานอนที่เตียงเถอะ มีตรงไหนปวดเมื่อยบ้างไหมครับ? ผมนวดให้คุณดีไหม? ทำไมคุณไม่ขอให้อาจารย์คนอื่นสอนแทนคุณล่ะครับ?” โจวชิงไป๋ถาม

หลินชิงเหอโมโหก็จริง แต่ก็ไม่มีพลังพอที่จะตอบโต้จึงได้แต่ตอบไปว่า “ช่างเถอะค่ะ ฉันไม่รู้ว่าฉันท้องจริงหรือเปล่า อย่าพูดเรื่องนี้นอกบ้านจนเป็นที่ขายหน้าล่ะคะ”

“คุณต้องท้องแน่ ๆ ครับ” โจวชิงไป๋ยืนยันหนักแน่น “หลายวันมานี้คุณกินจุมากเลย”

หลินชิงเหอเหลือบค้อนเขา โจวชิงไป๋จึงบอกเธอ “ตกลงครับ ยังไม่บอกคนอื่นก็ได้”

แม้เขาจะบอกอย่างนั้น แต่ตราบใดที่คน ๆ นั้นเป็นคนฉลาด พวกเขาก็บอกได้ว่าเขากำลังมีความสุขจนตัวลอย

โดยเฉพาะตอนที่รอบเดือนของหลินชิงเหอยังไม่มาในวันรุ่งขึ้น

จนวันที่สี่แล้วมันก็ยังไม่มา

หลินชิงเหอรู้สึกท้อแท้แล้ว

“เจ้ารอง ไปส่งม้าที่มหาวิทยาลัยด้วย ตอนนี้บนพื้นมีแต่น้ำแข็ง คอยดูให้ดี ๆ ล่ะ!” โจวชิงไป๋สั่งโจวเฉวี่ยน

โจวเฉวี่ยนพยักหน้าตกลง

โจวกุยหลายเดินมาหาและถามขึ้น “ป๊า ป๊าเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ทำไมผมเห็นป๊ายิ้มไม่หยุดเลย ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว?”

โจวชิงไป๋กำลังอารมณ์ดีจึงไม่ได้ใส่ใจ เขาเอ่ยตอบ “ลูกเองก็พาม้าไปส่งที่นั่นด้วย แล้วค่อยไปโรงเรียน”

“กลายเป็นหลวงจีนเฒ่าไปแล้วเหรอเนี่ย” โจวกุยหลายพึมพำอย่างประหลาดใจ

ให้พี่รองไปก็พอแล้ว ทำไมต้องรวมเขาไปด้วย?

“อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของป๊าเลย รีบไปโรงเรียนได้แล้ว” หลินชิงเหอโบกมือ

จากนั้นเธอก็ไปสอนหนังสือด้วยตัวเอง โจวเฉวี่ยนไม่ได้ช่วยพยุงแต่คอยจับตามอง หลังมาถึงมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เขาก็ถามขึ้นมา “ม้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ? ม้าอยากจะลาพักไหม?”

“วันหยุดฤดูหนาวกำลังจะมาถึงแล้ว ทำไมม้าต้องลาพักด้วย?” หลินชิงเหอโบกมือ

ตอนนี้เป็นเดือนธันวาคมพอดี เหลือเวลาอีก 20 วันจนกว่าจะถึงวันหยุด ปีนี้วันหยุดนับว่ายาวเป็นพิเศษ นับตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมไปจนถึงเทศกาลโคมไฟกลางเดือนหน้าเลยทีเดียว

หลินชิงเหอเข้าไปทำการสอน ระหว่างที่สอนอยู่นั้น เธอก็หวังว่ารอบเดือนของตัวเองจะมา

แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าหรือตอนบ่าย มันก็ยังไม่มา เห็นแบบนี้ก็พอเดาอารมณ์ของหลินชิงเหอได้แล้ว

เมื่อเธอกลับมาและเห็นโจวชิงไป๋ เขาก็ไม่ได้ทำตัวตามปกติแต่อย่างใด ซึ่งมันไม่เจริญตาเธอเอาเสียเลย

“ภรรยาครับ มากินต้มเห็ดหูหนูกับพุทราจีนสักหน่อยสิครับ” โจวชิงไป๋ยื่นชามใส่ต้มเห็ดหูหนูกับพุทราจีนมาให้ หลินชิงเหอรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาเล็กน้อยจึงได้แต่แค่นเสียงใส่เขาและตักกินอย่างไม่เต็มใจ

หลังกินเสร็จ โทสะของเธอก็มอดลง จากนั้นเธอก็ถอนหายใจ

“ชิงไป๋ ลองคิดชื่อมาสิคะ” หลินชิงเหอเอ่ยขณะมองโจวชิงไป๋

นับจากวันนี้ก็เป็นวันที่สี่แล้ว ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย เมื่อรวมกับอาการต่าง ๆ ของเธอเข้าไปด้วย หลินชิงเหอก็ได้แต่สรุปเอาว่าเธอคงจะตั้งครรภ์จริง ๆ

ดวงตาของโจวชิงไป๋เต็มไปด้วยความปิติยินดี “ค่ำนี้ผมจะกลับไปดูพจนานุกรมและหาชื่อดี ๆ ให้นะครับ”

หลังกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น โจวชิงไป๋ก็พลิกเปิดพจนานุกรมอยู่ในห้อง

ถ้าเป็นลูกชาย เขาจะตั้งชื่อว่าโจวหวายเหวิน แต่ถ้าเป็นลูกสาวก็จะตั้งชื่อว่าโจวเป่าเปา

หลินชิงเหอถึงกับเงียบกริบ

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เอ๊ะ หรือว่าแม่จะท้องจริง ๆ ใครเชียร์ให้แม่ท้องกันบ้างคะ ดูแล้วน่าจะมีหลายคน ๕๕๕

แหมพ่อ พอรู้ว่าแม่เหมือนจะท้องนี่เสียอาการเลยนะคะ

แม่จะท้องจริงหรือท้องลม ลุ้นกันในตอนต่อไปค่ะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

*นิยายเรื่องนี้อยู่ในยุค 1960 เทียบกับ พ.ศ. คือ 2503 เป็นยุคที่ประเทศจีนอยู่ในช่วงปฏิรูปการปกครองโดยมีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้นำ ดังนั้นสรรพนาม ฉากเรื่อง ตัวละคร จะไม่เหมือนกับภาพในนิยายจอมยุทธ์กำลังภายใน จู่ ๆ ก็ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสามในยุคปฏิรูปการปกครองปี 60 … ใครจะไปคิดว่าชีวิตธรรมดาของ หลินชิงเหอ ผู้จัดการฝ่ายขายสาวจะเผชิญกับความไม่ธรรมดา หลังทะลุมิติเข้าไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่เธออ่าน ซึ่งต้องเผชิญกับความยากลำบากของสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ไม่มีอะไรจะกินและไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะสวมใส่ แต่โชคยังดีที่เธอได้พื้นที่มิติส่วนตัวไว้เก็บของ ทำให้เธอรอดตายไปได้ชั่วคราว แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่านั้นก็คือ บุตรชายทั้งสามของเธอดันเป็นตัวร้ายในอนาคตของนิยายเรื่องนี้น่ะสิ แถมสามีในมิตินี้ของเธอยังต้องพบกับจุดจบน่าอนาถอีกด้วย ตัวประกอบแม่ลูกสามอย่างเธอจะเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องและเอาตัวให้รอดอย่างไรดีเนี่ย…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset