บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 1051 ความสุขของกู้ซือ

หยวนชิงผิงจะต้องสืบรู้อะไรบ้างอย่างจากปาก ฮูหยินรองที่จิตใจกระสับกระส่ายให้ได้ ช่างเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก แต่ฮูหยินรองกลับไม่ได้พูดว่าคือหยวนชิงหลิง เพียงแค่พูดว่าเหลิ่งจิ้งเหยียน ไปมาหาสู่กับฮูหยินขุนนางคนหนึ่งบ่อยครั้ง อย่างมีลับลมคมใน
หยวนชิงผิงถามนางว่าใครเป็นคนพูด นางก็พูดอ้างว่าคนอื่นเค้าพูดกระซุบกระซิบกัน
พลบค่ำหยวนชิงผิงเล่าเรื่องที่ไปสืบมาให้กู้ซือฟัง กู้ซือค่อนข้างแปลกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “มีคำพูดซุบซิบเช่นนี้ด้วยหรือ? นี่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด อุปนิสัยของใต้เท้าเหลิ่ง ไปมาหาสู่กับผู้ชายยังน้อยครั้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮูหยินของขุนนาง เกรงว่าแม้แต่รูปร่างหน้าตาของเจ้า เขายังจำได้ไม่ชัดเจน”
“บางทีอาจจะเป็นคนที่หลงรักเขาแล้วผิดหวังพวกนั้นมั้ง?” หยวนชิงผิงพูดขึ้น
“คนที่มีความรักกลายเป็นความเกลียดน่ากลัวอย่างมาก” กู้ซือเป็นคนตรง ไม่คิดอะไรมาก
หยวนชิงผิงนิ่งไปสักพัก กลับขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “แต่ว่า ช่วงนี้ฮูหยินรองกับฉู่หมิงหยาง ไปมาหาสู่กันค่อนข้างบ่อยเป็นความจริง ภายในเดือนสองเดือนนี้ ห่างกันแปดวันสิบวันครั้ง ฉู่หมิงหยางมาหาฮูหยินรองถึงจวน เมื่อก่อนก็ไม่เคยเห็นพวกนางไปมาหาสู่กัน”
กู้ซือพูดขึ้นว่า “หรือว่าต้องการที่จะมาหวังผลประโยชน์”
“ไม่ ที่จริงฮูหยินรองขี้เหนียวมาก ฉู่หมิงหยางจะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากนาง แต่ข้าได้ยินเสี่ยวจุ๋ยพูดว่า ทุกครั้งที่หลังจากฉู่หมิงหยางมา ฮูหยินรองล้วนดีใจอย่างมาก เพราะฉะนั้นไม่มีทางมาเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างแน่นอน”
กู้ซือพูดขึ้นว่า “ฉู่หมิงหยางคนนี้เป็นคนเจ้าทุกข์อย่างมาก ยังไงก็ต้องคอยระวัง เจ้าเฝ้าจับตาดูไว้ ดูว่านางกับป้ารองมีเรื่องสำคัญอะไรต้องทำกัน ถึงต้องเว้นหลายวันมาหากันบ่อยขนาดนี้”
หยวนชิงผิงพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ เจ้าวางใจ เรื่องภายในจวนนี้ ข้าจะคอยจับตาดู”
กู้ซือประคองนางนั่งลงบนเก้าอี้กุ้ยเฟย พร้อมพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า “ลำบากเจ้าแล้ว เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ยังต้องให้เจ้าทำโน่นนี่นั่น”
หยวนชิงผิงหัวเราะอย่างมีความสุข พร้อมพูดขึ้นว่า “นิสัยของข้าก็คือนิ่งอยู่เฉยไม่ได้ ให้ข้านอนดูแลครรภ์อยู่เฉยๆจริง ไม่เกินหนึ่งเดือนก็ต้องเป็นบ้า เจ้าเชื่อไหม?”
กู้ซือกุมมือของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “แต่ข้าสู่ขอเจ้ากลับมา เพื่อให้เจ้าได้มีความสุข ไม่ใช่ให้เจ้ามาลำบาก สองสามปีมานี้ ข้ารู้สึกติดค้างเจ้าอย่างมาก”
หยวนชิงผิงจับมือของเขามาแนบแก้ม รอยยิ้มอย่างมีความสุขไม่ลดลง สายตายิ่งฉายแววรักใคร่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ กู้ซือ ความสุขมีหลายแบบมาก หากสู่ขอข้ามาแล้ว ข้าทำได้เพียงอยู่เพื่อกินแล้วรอวันตายอยู่ทุกวัน สำหรับข้าไม่ใช่ความสุข แต่เป็นการติดคุก ตอนนี้เป็นเช่นนี้ดีแล้ว อะไรที่สามารถควบคุมได้ข้าล้วนควบคุมไว้อยู่ในเมือ ทำให้โอกาสที่จะเกิดอันตรายกับพวกเรามีน้อยลง วันเวลาที่ปลอดภัยค่อยถือเป็นวันเวลาที่มีความสุข ส่วนเมื่อมีภัยอันตรายมาเยือน ข้าก็รู้ว่าเจ้าสามารถแก้ปัญหาได้ ปกป้องครอบครัวของเราได้เป็นอย่างดี กู้ซือ ข้าชอบแบบนี้”
ในใจกู้ซือตื่นเต้นอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “สามารถได้เจ้ามาเป็นภรรยา เป็นบุญวาสนาในสามภพสามชาติของข้ากู้ ข้ามีความสุขที่สุด”
หยวนชิงผิงกลับส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าแย่งกับข้าไม่ได้ ข้าต่างหากที่เป็นคนที่มีความสุขที่สุด บางครั้งที่ไปมาหาสู่พูดคุยกับกับพวกพี่สาว ฮูหยินเหยา พระชายาหวย พระชายาซุน ข้ารู้สึกว่าข้ามีความสุขมากกว่าพวกเขาอย่างมากอย่างมากจริงๆ เจ้าดูพี่สาว ถึงแม้องค์ชายรัชทายาทจะดีกับนาง แต่ที่จริงตั้งแต่นางแต่งงานเข้าไปในจวนอ๋องฉู่ ก็ไม่เคยได้มีชีวิตที่สงบสุข ตอนที่ท้องพวกขนมหวานทุกข์ทรมานอย่างที่สุด มีฉู่หมิงชุ่ยก่อน ต่อมาก็เสียนเฟย มีชีวิตอย่างเรียกได้ว่าอกสั่นขวัญหาย เฉียดตายแบบรอดมาได้หวุดหวิด ยังมีฮูหยินเหยา ตอนนี้นางแย่ขนาดไหน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพระชายาเว่ยกับพระชายาอาน”
นางซบแนบอกกู้ซือ พูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ส่วนข้า ข้ามีลูกของเราคนที่สองแล้ว เจ้าปฏิบัติต่อข้าเหมือนอย่างสิ่งของล้ำค่า ยังคำนึงถึงความรู้สึกของข้าด้วย เทียบกับพวกเขาแล้ว ชีวิตของข้าเหมือนดั่งน้ำที่ขังอยู่ ไม่มีเรื่องอันตราย ปลอดภัยและเป็นอิสระ”
กู้ซือจูบหน้าผากของนาง ยื่นมือโอบกอดนางแนบอก ความสุขก็อบอวลอยู่ในอ้อมอกของเขาเช่นกัน
เพราะหมันเอ๋อถูกแต่งตั้งให้เป็นอ๋องหนานเจียง ส่วนหมันเอ๋อเป็นคนที่ออกมาจากจวนอ๋องฉู่ ดังนั้นจึงก็ถือว่าข่าวดีข่าวใหญ่ของจวนอ๋องฉู่ หรงเยว่จึงคะยั้นคะยอให้หยวนชิงหลิงเป็นเจ้าภาพ จัดงานเลี้ยงเชิญทุกคนมาฉลองกันที่จวน
หรงเยว่ชอบความคึกครื้น หยวนชิงหลิงจึงรับปาก แต่ไม่ใช่เพื่อต้องการจัดงานเลี้ยงจริง แต่เพื่อเป็นการป่าวประกาศอ๋องหนานเจียงในจวนของนางคนนี้ให้เป็นที่รู้กันไปทั่ว ให้ทุกคนลืมไปว่านางเคยเป็นสาวใช้ของจวนอ๋องฉู่
เรื่องนี้เจ้าห้าก็เห็นด้วย เดิมหมันเอ๋ออยู่ในเมืองหลวงหลายเดือน ก็เป็นเพราะเขาจัดการวางแผน เหตุผลหลักก็คือเพื่อหลอกล่อคนหนานเจียงที่อยู่ในเมืองหลวงออกมา
ดังนั้น เรื่องที่หมันเอ๋อถูกยกให้เป็นอ๋อง จะต้องจัดงานเอิกเกริกครึกโครมสักครั้ง
ถึงแม้หยวนชิงผิงจะตั้งครรภ์ เดินเหินไม่สะดวก แต่ก็ยังมาร่วมคึกคักที่จวนอ๋องฉู่ด้วย พร้อมทั้งถือโอกาสให้พี่สาวตรวจดูครรภ์ให้กับนาง
หยวนชิงหลิงฟังเสียงหัวใจทารก แล้วก็ยิ้มหัวเราะบอกกับนางว่า “เด็กแข็งแรงอย่างมาก มีพลังมาก”
หยวนชิงผิงยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข ยื่นมือลูบท้อง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าขอให้เป็นลูกผู้ชาย แบบนั้นก็จะได้มีลูกชายลูกสาวครบแล้ว”
“อืม จะสมดังปรารถนาแน่” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างอิจฉา
มองเห็นถึงความอิจฉาของพี่สาว นางจึงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สาว พี่เขยอยากที่จะมีลูกสาว เจ้าไม่คลอดอีกคนแล้วจริงๆหรือ?”
“ไม่เอา” หยวนชิงหลิงเก็บของ พร้อมพูดปฏิเสธทันที
“ทำไม? คลอดลูกให้กับผู้ชายที่ตนเองรัก ไม่มีความสุขหรือ?” หยวนชิงผิงคิดว่ากู้ซือดีกับนางขนาดนี้ นางมีลูกให้กับเขาถือว่าคุ้มค่ามาก และลูกก็เป็นของนางด้วย ไม่ใช่มีเพื่อกู้ซือเพียงอย่างเดียว
“น้องสาว ความสุขสามารถแสดงได้หลายวิธีมากมาย การมีลูกเป็นอย่างหนึ่ง แต่การมีชีวิตอยู่ มีชีวิตอยู่อย่างสงบ ก็เป็นอย่างหนึ่ง ตอนนี้พี่เขยของเจ้าคาดหวังเพียงให้ข้ามีชีวิตอยู่อย่างดี” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
“พูดอย่างลำบากใจยิ่งนัก ตอนนี้เจ้าก็มีชีวิตอยู่อย่างดีไม่ใช่หรือ?” หยวนชิงผิงยิ้มพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงคิดถึงคำพูดของฟางหวู นั่นเป็นหนามเล่มหนึ่งที่อยู่ในใจ แต่นางยอมความคิดไม่มีอะไรแน่นอน ยังไงก็มีความเป็นไปได้สองอย่าง ขอเพียงไม่เปิดออก ยังไงก็ยังมีความความหวัง สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน
“ใช่ พี่สาว เจ้ารู้เรื่องที่ใต้เท้าเหลิ่งมีคนที่ชอบแล้วหรือยัง?” หยวนชิงผิงจัดเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วถามขึ้น
“ไม่รู้ ไม่เคยได้ยินพี่เขยของเจ้าพูดเลย” หยวนชิงหลิงหันไปมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมถึงถามถึงเขาขึ้นมาในทันใด?”
หยวนชิงผิงสวมรองเท้าเสร็จแล้วเดินลงมา พร้อมพูดขึ้นว่า “คุณหนูห้าของเราคนนั้น ชื่นชอบใต้เท้าเหลิ่งมาตลอดไม่ใช่หรือ? ฮูหยินรองก็สั่งคนร่ำลือออกไป รอคนของตระกูลเหลิ่งมาสู่ขอ แต่วันนั้นฮูหยินรองเรียกน้องเขยของเจ้าไปถามว่า ได้ยินข้างนอกร่ำลือกันว่า ใต้เท้าเหลิ่งกับฮูหยินขุนนางคนหนึ่ง มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง มีความหมายเหมือนแอบคบกัน”
หยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนี้ โกรธจนหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “คนพวกไหนกันที่ปากว่างจัดกันขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้อย่างที่สุด ที่เหลิ่งจิ้งเหยียนจะกระทำเช่นนี้ ใครเป็นคนพูดหรือ? เลวทรามมาก”
“บอกว่าคนข้างนอกร่ำลือกัน ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดออกมาก่อนกันแน่”
หยวนชิงหลิงหัวเราะก็ส่วนหัวเราะ และรู้สึกว่าคำพูดพวกนี้เลวทรามมากจริงๆ สร้างเรื่องพูดว่าเหลิ่งจิ้งเหยียนไปมาหาสู่กับฮูหยินขุนนางคนหนึ่งเช่นนี้ หากรู้ไปถึงหูขุนนางคนนั้นจริงๆ คิดว่าเป็นเรื่องจริง จะไม่อาละวาดหนักหรือ? เรื่องนี้หากเดือดร้อนขึ้นมาจะดูไม่ดี เหลิ่งจิ้งเหยียนเป็นจี้จิ่วกั๋วจื่อเจียน ชื่อเสียงสำคัญอย่างมาก
ดังนั้น หลังจากที่นางพูดกับหยวนชิงผิงเสร็จ ก็ออกไปหาทังหยาง ให้เขาออกไปสืบดู ใช่คนพวกนั้นพูดร่ำลือออกมาก่อนหรือเปล่า

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset