กลับไปจากจวนอ๋องซู่ โดยส่วนใหญ่หยวนชิงหลิงก็เข้าใจการวางตัวของอ๋องผิงหนานและเรื่องบางเรื่องของพวกเขาในตอนนั้นผ่านปากของแม่นมสี่ บางทีคนอาจจะเปลี่ยนไป แต่ปีนั้นพวกเขาก็เคยมีโอกาสมากมายขนาดนั้น สุดท้ายก็เลือกร่วมแรงร่วมใจกัน ทำให้ไท่ซ่างหวงได้ตำแหน่งฮ่องเต้ ตอนนี้น่าจะไม่มีความทะเยอทะยานเกิดขึ้นแล้ว
ดังนั้น หยวนชิงหลิงเห็นด้วยกับความคิดของเจ้าห้า อ๋องผิงหนานไม่ได้เป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังผู้นี้
เช่นนั้นเป็นผู้ใดที่สังหารหยู่เหวินจุนกันแน่นะ? หลินเซียวต้องการให้ฉู่หมิงหยางทำอะไรกันแน่? หลินเซียวดูแล้วไม่เหมือนคนที่ไร้ยางอายเพียงเท่านั้น เบื้องหลังของเขาน่าจะมีจุดประสงค์ที่ใหญ่ยิ่งกว่า ฉู่หมิงหยางถูกเขาทำจนญาติพี่น้องละทิ้ง ทั้งยังแบกภาระหนี้สินทั้งตัว ตอนนี้หยู่เหวินจุนตายแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลฉู่ทางนั้นจะบอกว่าไม่ให้นางกลับไปอาศัยที่จวน ดังนั้น จุดประสงค์ของหลินเซียวคือต้องการให้ฉู่หมิงหยางกลับไปที่จวนฉู่?
ดังนั้น หากว่าจุดประสงค์เป็นดังที่เจ้าห้าคาดเดาไว้จริง เป็นฝู่ฉู่?
แต่ติดที่ช่วงจังหวะสำคัญของการกลับมาของอ๋องผิงหนานตอนนี้หากว่าฝู่ฉู่เกิดเรื่อง……
หยวนชิงหลิงมักจะรู้สึกว่าในนี้ยังมีแผนการอะไรบางอย่างอยู่เสมอ อาจจะพุ่งไปที่อ๋องผิงหนาน หรือพุ่งไปที่โสวฝู่ฉุ่ และอาจจะพุ่งไปที่เจ้าห้า เบื้องหลังของหลินเซียว เป็นคนผู้ใดกันแน่นะ?
กุ้ยเฟยส่งให้คนมาเชิญ บอกว่าท้องของพระชายาอานปวดเล็กน้อย เพราะช่วงกำหนดคลอดก็ประมาณครึ่งเดือนนี้ หยวนชิงหลิงรู้สึกอาจจะคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นเมื่อได้ยินการมารายงาน จึงหิ้วกล่องยาแล้วพาอะซี่เข้าไป ก่อนมาได้ถามฮูหยินเหยาแล้ว ฮูหยินเหยาบอกว่าไม่ไป ตัวเองดวงไม่มี
จวนอ๋องอานได้เชิญนางผดุงครรภ์มาล่วงหน้าแล้ว อย่างไรเสียในช่วงเวลาที่กลับเมืองหลวงนี้ ไม่ว่าอะไรอ๋องอานก็เตรียมไว้แล้ว เกรงว่าจะเกิดเรื่อง
ร่างกายของพระชายาอานแย่มาก นี่เป็นเรื่องที่เขาเป็นห่วงที่สุดมาตลอด หลังจากที่หยวนชิงหลิงเข้าไป ยังไม่ได้เข้าไปตรวจถาม อ๋องอานก็เชิญนางไปอีกทาง พูดสองสามประโยคก่อน
“น้องสะใภ้ ก่อนหน้านี้ข้าเลอะเทอะไปหน่อย ทำเรื่องผิดไปมากมาย ตอนนี้รู้ว่าผิดไปแล้ว ดังนั้นเจ้าอย่าได้ถือสาเด็ดขาด” อ๋องอานกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
หยวนชิงหลิงไม่เคยเห็นเขาพูดจาเช่นนี้มาก่อน ยังจะยอมรับว่าตัวเองผิดตรงๆ ตอนนั้นที่วางแผนเรื่องของอ๋องเว่ยและพระชายาเว่ย ก็ไม่เห็นเขายอมรับผิดอย่างจริงใจเช่นนี้ ดังนั้นจึงมีความประหลาดใจชั่วขณะ กล่าวว่า: “ท่านพี่สี่ไม่จำเป็นต้องพูดเช่นนี้ ผิดไม่ผิด ฐานะของข้าว่าท่านไม่ได้”
“ว่าได้ ว่าได้ หากว่าเจ้ามีอะไรที่ไม่พอใจต่อข้า เจ้าจะทำอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น แต่เรื่องการคลอดบุตรของเหยียนเอ๋อ ก็ยังต้องวานให้เจ้าเป็นธุระให้แล้ว” อ๋องอานกล่าวเบาๆ
หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างราบเรียบ: “ข้าจะต้องทุ่มเทอย่างถึงที่สุดเป็นแน่ ท่านพี่สี่ไม่จำเป็นต้องกล่าวคำเหล่านี้”
ความดีที่อ๋องอานทำต่อพระชายาอาน อันที่จริงคนมากมายก็เห็นอยู่ในสายตา แต่ความจริงในใจของหยวนชิงหลิงก็ไม่ได้เห็นพ้องต้องกันเพียงนั้น เพราะว่าพวกเขาเคยมีการทรยศและทำร้าย แน่นอน การทรยศประเภทนี้ในยุคสมัยนี้ก็พูดไม่ได้ ภรรยาสามเมียน้อยสี่เป็นเรื่องธรรมดามาก คนมากมายรักภรรยาของตัวเองอย่างสุดซึ้งทั้งชีวิต แต่ก็มีผู้หญิงอื่น พวกเขาเอาเมียน้อยทำเป็นเครื่องมือในการให้กำเนิดเลี้ยงดูบุตรชายบุตรสาว หรือสามารถเอามาขายเป็นวัตถุได้
เพียงแต่หากต้องการจะถกเรื่องความรักที่แท้จริง หยวนชิงหลิงไม่อยากเห็นพ้องด้วย แต่นางก็ไม่สามารถพูดมากเกินไปได้ งานแต่งงานของคนอื่นนางไม่มีอำนาจในการออกความคิดเห็น
สำหรับอ๋องอานแล้วไม่ว่าอย่างไรหยวนชิงหลิงก็ไม่มีปัญญาที่จะมีความรู้สึกที่ดีได้ ความประทับใจครั้งแรกชั่งย่ำแย่เกินไป มักจะยังนึกถึงความทรงจำที่ลึกซึ้งครั้งแรกตรงด้านนอกห้องปลดทุกข์อยู่เสมอ
นางน้อมตัว ข้ามผ่านเขาไป แล้วเข้าไปในห้อง
กุ้ยเฟยอยู่ด้านในแล้ว ยังมีสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติอยู่ด้านข้างเต็มห้อง ท่าทางยิ่งใหญ่มาก ล้อมหน้าเตียงไว้แน่นจนอากาศไม่ระบาย หยวนชิงหลิงบอกให้ทุกคนกระจายตัวออกไปเล็กน้อยและกล่าว: “พวกเจ้าล้อมนางไว้หมด เป็นการสร้างแรงกดดันให้นางนะ กระจายออกไปสักหน่อยเถอะ ยังไม่ถึงเวลาคลอดน่ะ”
กุ้ยเฟยได้ยินนางที่นางกล่าว ก็ไล่คนออกไปบางส่วน แต่นางผดุงครรภ์ก็จำเป็นต้องอยู่ในห้อง
พระชายาอานนอนอยู่บนเตียง สีหน้ากลับดีมาก ในวันเวลาที่กลับเมืองหลวงมาบำรุงครรภ์ กุ้ยเฟยก็ออกมาดูแลด้วยตัวเอง กินดื่มดูแลอย่างทั่วถึง เมื่อเห็นหยวนชิงหลิงมา นางจึงยิ้มอย่างอ่อนหวาน “ต้องลําบากท่านอีกแล้ว”
หยวนชิงหลิงเปิดกล่องยาหยิบหูฟังของแพทย์ออกมา วางบนช่วงท้องของนางแล้วเคลื่อนไปมา ยิ้มพลางเอ่ยว่า: “ไม่ได้ลําบาก ก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันนี้ล่ะนะ ก็นับว่ารอจนมาถึงแล้ว”
เสียงหัวใจเต้นแรงของทารกในครรภ์ดังมา หยวนชิงหลิงพอใจมาก กล่าวว่า: “วางใจ เด็กสบายดีเป็นอย่างมาก การคลอดบุตรเป็นเรื่องธรรมชาติเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อผลแตงสุกงอมก็จะหลุดจากขั้ว ไม่ต้องกดดัน”
อ๋องอานเดินติดตามเหมือนกันทุกฝีก้าวอยู่ด้านหลัง ได้ยินหยวนชิงหลิงกล่าว เขาจึงเอ่ยว่า: “แต่ก็ยังต้องระวังสักหน่อย นี่ได้ยินมาว่าผู้หญิงคลอดบุตรก็คืออยู่ในประตูนรก……”
“พี่สี่!” หยวนชิงหลิงหันกลับไปกรอกตาขาวใส่เขาแวบหนึ่ง “ไม่ได้ร้ายแรงเช่นนั้น อย่าพูดเหลวไหล”
คนที่ตื่นเต้นก็คือเขา
อ๋องอานรู้ตัวว่าพลั้งปาก กล่าวอย่างเก้ๆกังๆว่า: “ใช่ เมื่อผลแตงสุกงอมก็จะหลุดจากขั้ว ง่ายดายมาก ไม่ต้องกลัว”
พระชายาอานวางมือสองข้างไว้บนท้อง ผ่อนลมหายใจเบาๆ “ข้าไม่ได้ตื่นเต้น ข้าเฝ้ารอเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะสู้ให้กำเนิดบุตรออกมา”
อ๋องอานแอบเข้าไป อ้อมหยวนชิงหลิงไปจับมือของนางเล็กน้อย เห็นหยวนชิงหลิงลุกขึ้น เขาก็รีบถอยไปทันที เกรงว่าจะขวางหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม: “ตอนนี้ปวดอย่างไรบ้าง?”
“ไม่ได้ปวดมาก แค่ปวดเล็กน้อยเป็นครั้งคราว” พระชายาอานกล่าว แล้วหัวเราะขึ้นเบาๆ “หากว่าให้กำเนิดลูกเจ็บปวดเพียงน้อยนิดเช่นนี้ ก็จะสบายมาก”
“อืม ประมาณนั้นเพคะ มากกว่าที่ท่านเจ็บปวดในตอนนี้เล็กน้อย” หยวนชิงหลิงมองออกว่าความจริงแล้วนางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพียงแค่แสร้งทำเป็นผ่อนคลายเท่านั้น
พระชายาอานดึงมือของนางไว้ ชำเลืองมองนาง “เห็นท่านอยู่ จิตใจของข้าก็สงบเป็นอย่างมาก ท่านคลอดตั้งห้าคนแล้ว ท่านมีประสบการณ์”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนล้วนหัวเราะขึ้นมาแล้ว ใช่สิ ในที่นี้ใครจะมีประสบการณ์กว่าพระชายารัชทายาทอีกล่ะ?
พูดคุยเป็นเพื่อนได้ครู่หนึ่ง อ๋องอานเอ่ยถามด้วยความกระวนกระวายใจ: “ตอนนี้คนก็มาครบแล้ว สามารถเข้าห้องคลอดได้แล้วใช่หรือไม่?”
กุ้ยเฟยหัวเราะแล้วตีเขาเล็กน้อย “อะไรคนมาครบก็สามารถคลอดได้? เมื่อครู่พูดแล้วนี่เป็นเรื่องเมื่อผลแตงสุกงอมก็จะหลุดจากขั้ว ลูกชายของเจ้ายังไม่ถึงเวลาออกมาน่ะ ยังต้องรอ ไม่รวดเร็วเพียงนั้น คืนนี้สามารถคลอดออกมาได้ก็นับว่าดีแล้ว”
อ๋องอานตะลึงงัน “ต้องนานขนาดนี้เชียว? เช่นนั้นจะต้องเจ็บปวดอีกกี่ชั่วยามล่ะ?”
“ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้เจ็บปวดมาก” พระชายาอานรีบส่งสายตาไปปลอบโยนเขา
อ๋องอานจึงขยับเข้าไปใกล้ “หิวหรือไม่? อยากจะกินหรือไม่?”
“ยังสามารถกินได้ ยังจำเป็นต้องกินเพคะ” หยวนชิงหลิงตอบแทน
“เช่นนั้นก็จะจัดเตรียมเดี๋ยวนี้” เขาพูดเช่นนี้ และหันกลับไปถามหยวนชิงหลิงอีก “น้องสะใภ้คิดว่ากินอะไรดีล่ะ?”
หยวนชิงหลิงกล่าว: “ไม่จำกัดเพคะ สามารถกินอะไรได้ก็กินอย่างนั้น”
“งั้นหรือ?” อ๋องอานมองดูนางด้วยความสงสัย มักจะรู้สึกว่านางทำอย่างขอไปทีเป็นที่สุด ถามอีกคำด้วยความไม่วางใจ “ดื่มซุปโสมจะดีกว่าหรือไม่ล่ะ?”
“ได้เพคะ แค่นางอยากกิน อยากดื่ม ล้วนได้ทั้งหมด เพิ่มกำลังกาย อีกครู่ต้องใช้แรง บอกให้คนเตรียมของหวานไว้เล็กน้อย น้ำตาลมากหน่อยก็ไม่เป็นไรเพคะ” หยวนชิงหลิงตอบเพิ่มไปสองประโยคเสียเลย เขาจะได้ไม่ต้องถามตลอดด้วยความกังวล
“อ่อ อ่อ ได้!” อ๋องทำตามดั่งเป็นกฎเกณฑ์ดังคาด รีบหมุนตัวไปสั่งงาน ขนมหวานแต่ละชนิดเตรียมไว้เล็กน้อย ต้องหวาน
อ๋องอานเพิ่งจะออกไปสั่งงานได้ไม่นาน พระชายาซุนและหรงเยว่ก็ถึงแล้ว พวกนางรู้มาว่าพระชายาอานจะให้กำเนิดแล้ว ล้วนหอบความคิดแต่ละอย่างเข้ามา พระชายาซุนต้องการมาอยู่เป็นเพื่อน หรงเยว่ต้องการมาสัมผัสความปีติยินดี