ผ่านไปสองวันแล้ว หลังจากหยู่เหวินเห้าจัดวางกำลังคนเสร็จสรรพจึงออกจากเมืองหลวงรอบหนึ่ง เรื่องในราชสำนักก็มอบให้อ๋องชินลุ่ยและฝู่ฉู่จัดการ
เขาพูดเกลี้ยกล่อมหยวนชิงหลิงด้วยความยากลำบาก ข้างกายนอกจากพาสวีอีไปแล้ว ยังพาเสี้ยวหงเฉิงและคนของสำนักเหลิ่งหลังอีกไม่กี่คนไป องครักษ์ลับผีก็จัดเตรียมคนซุ่มติดตามไปแล้ว หากว่ามีคนลงมือ คิดว่าสามารถรับรองว่าจะไม่อะไรผิดพลาดได้ ทั้งยังสามารถจับกุมตัวได้อีกสักคนสองคน
ตั้งแต่เขาออกจากบ้าน หยวนชิงหลิงก็เป็นห่วงมาก อำนาจที่อยู่เบื้องหลังนี้ มองไม่เห็นและคลำไม่ทะลุปรุโปร่ง พวกเขาเตรียมจะทำอะไรก็ไม่รู้ เป็นศัตรูที่ค่อนข้างน่ากลัว
วันนี้เวลาช่วงใกล้ค่ำ พระชายาอานส่งคนมารายงาน บอกว่าเด็กตัวเหลืองค่อนข้างรุนแรง ให้นางเข้าไปตรวจดู
หมันเอ๋อมาพอดี ตอนนี้หมันเอ๋อเตรียมเรื่องที่จะกลับหนานเจียง อยากถือโอกาสอยู่เป็นเพื่อนหยวนชิงหลิงให้มากๆในขณะที่ยังไม่ได้กลับไป ได้ยินว่าไปดูเด็ก หมันเอ๋อก็ดีใจมาก บอกว่าอยากไปดูลูกของพระชายาอานสักหน่อย เพราะว่าตอนที่เด็กครบเดือน คาดว่านางก็กลับไปหนานเจียงแล้ว
วันนี้อะซี่ไม่ค่อยสบายเล็กน้อย จึงไม่ได้ตามไปด้วย หลังจากทังหยางเตรียมรถม้าให้พวกนางแล้ว ทั้งสองคนก็มุ่งตรงไปยังจวนอ๋องอาน
เมื่อถึงจวนอ๋องอานทันทีที่ตรวจดู เห็นว่าไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร เพียงแค่เกิดปฏิกิริยาโรคดีซ่านเท่านั้น และตี๋กุ้ยเฟยก็เชิญหมอหลวงมาแล้ว หมอหลวงก็รับรองแล้วรับรองอีกว่าปลอดภัย แต่อ๋องอานไม่วางใจ ต้องเรียกหยวนชิงหลิงมาตรวจดูให้ได้จึงจะวางใจ
“จริงๆแล้วท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องกังวลขนาดนี้ เด็กตัวเหลืองเช่นนี้ก็เป็นปกติ ผ่านไปไม่กี่วันก็สามารถจางหายไปได้เพคะ” หยวนชิงหลิงกล่าว
ตี๋กุ้ยเฟยกล่าว: “นั่นน่ะสิ? ข้าก็บอกกับเขาแล้ว ว่านี่เป็นปกติมาก ตอนนั้นที่เขาเพิ่งจะคลอดก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ? เหลืองไปเจ็ดแปดวัน สุดท้ายดื่มยาต้มดับอาการตับร้อนก็หายแล้ว”
“เช่นนั้นข้าจะบอกให้คนต้มยา” อย่างไรเสียอ๋องอานก็วางใจแล้ว ก็ฟังคำพูดของตี๋กุ้ยเฟยเข้าหูแล้ว กำลังอยากจะสั่งให้คนไปต้มยา หยวนชิงหลิงจึงเอ่ยคำห้ามไว้ “ไม่จำเป็นเพคะ ที่เรียกกันว่ายาย่อมมีพิษสามส่วน ไม่กินได้ก็พยายามไม่กิน มีปฏิกิริยาเป็นดีซ่านเป็นปกติมาก ป้อนน้ำให้มากหน่อยก็ได้แล้วเพคะ”
นางหยิบกลูโคสกระปุกเล็กๆกระปุกหนึ่งออกมาจากกล่องยา เดิมทีเป็นห่อใหญ่ ปรากฏอยู่ในกระเป๋ายา ขณะที่นางอยู่ในจวนก็แบ่งไว้อย่างดีแล้ว คิดจะเรียกคนให้เอามาให้เด็ก ตอนนี้มาเองแล้วจึงเอาติดมือมาให้ด้วยเสียเลย
“นี่คืออะไร? เป็นยาด้วยหรือ?” อ๋องอานเอ่ยถาม
“ไม่ใช่ นี่เป็นผงน้ำตาลที่ทำขึ้นเป็นพิเศษชนิดหนึ่ง ผสมน้ำให้เด็กดื่ม ไม่ควรเยอะเกินไป ปริมาณเหมาะสมก็ได้แล้วเพคะ” หยวนชิงหลิงกล่าว
อ๋องอานจึงถามวิธีการดื่มด้วยความรอบคอบ เอากลูโคสทำเป็นยาให้เด็กดื่มเช่นนั้น
ปัจจุบันนี้เขาไม่ได้เป็นข้าราชการ เรื่องของบุตรก็ทำการด้วยตัวเอง หยวนชิงหลิงกับหมันเอ๋อจึงเข้าไปสนทนากับพระชายาอานที่กำลังอยู่เดือน
พระชายาอานบำรุงเป็นอย่างดี เพิ่งจะไม่กี่วัน ความซีดเผือดขณะที่คลอดบุตรได้จางหายไปแล้ว สีหน้าแดงระเรื่อ แก้มก็ดูอวบอิ่มเล็กน้อย
สะใภ้น้อยใหญ่สามคนสนทนากันครู่หนึ่ง หยวนชิงหลิงก็ไม่รบกวนการพักผ่อนของนางแล้ว พาหมันเอ๋อขอตัวจากไป
ออกจากลานบ้าน อ๋องอานร้องเรียกคำหนึ่งจากหน้าระเบียง “น้องสะใภ้ รอเดี๋ยว”
หยวนชิงหลิงหันกลับไป เห็นเขาพับแขนเสื้อเดินลงมาจากบันไดหิน ท่าทางเหมือนทำงานยุ่งวุ่นวายกลับมา “ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีกหรือ?”
อ๋องอานมาถึงเบื้องหน้าของนาง ก็มองดูหมันเอ๋อก่อนแวบหนึ่ง กล่าวต่อหมันเอ๋อ: “ภรรยาของน้องเก้า เจ้าหลบไปก่อน ข้ามีคำพูดสองสามคำต้องการพูดกับพระชายารัชทายาท”
หมันเอ๋อมองดูหยวนชิงหลิงแวบหนึ่ง ไม่ได้จากไปทันที นางติดตามอยู่ข้างกายของหยวนชิงหลิงมานานขนาดนี้ คุ้นเคยในการเคารพความประสงค์ของหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงบอกให้นางไปนางจึงจะไป
หยวนชิงหลิงมองดูอ๋องอาน กล่าวว่า: “หมันเอ๋อไม่ใช่คนนอก ไม่ต้องหลีกไปเพคะ”
อ๋องอานมองดูนาง สีหน้าท่าทางไม่เป็นธรรมชาติมาก อาจจะเพราะหมันเอ๋ออยู่ตรงนี้ด้วย อ้ำๆอึ้งๆครู่หนึ่ง กล่าวว่า: “ก็ไม่มีอะไร ที่ผ่านมาติดค้างคำขอบคุณและคำขอโทษที่จริงใจต่อเจ้า ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร อย่างไรเสีย ข้าติดค้างเจ้าก็ถูกแล้ว”
สองสามวันมานี้พูดคำพูดเช่นนี้เป็นครั้งที่สอง อันที่จริงหยวนชิงหลิงก็รู้สึกไม่เป็นตัวเอง จะสนิทสนมกับพระชายาอานเพียงไร นางก็รู้สึกว่าควรจะรักษาระยะห่างที่เหมาะสมกับอ๋องอาน
ดังนั้น นางจึงกล่าว: “ขอโทษขอบคุณอะไร ไม่พูดก็ไม่เป็นไรเพคะ”
นางถอนสายบัว แล้วพาหมันเอ๋อจากไป
ตลอดทางที่ออกไป หมันเอ๋อกล่าว: “พระชายารัชทายาทเพคะ อ๋องอานเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากนะเพคะ เมื่อครู่เห็นเขาเลี้ยงดูบุตรด้วยตัวเอง เข้าๆออกๆจนวุ่น แตกต่างกันกับก่อนหน้านี้เป็นอย่างมากแล้วเพคะ”
หยวนชิงหลิงกล่าวเบาๆ: “หวังว่าจะเปลี่ยนจริงๆนะ เปลี่ยนก็ดีแล้ว”
เพียงแค่ในใจเลี่ยงไม่ได้ที่จะคิดถึงคำพูดของพระชายาอาน เขาไปวัดฮู่กว๋อสองสามครั้ง เพื่อเรื่องอะไร? คงไม่ได้ไปไหว้พระง่ายดายขนาดนั้น
ท้องฟ้ามืดแล้ว หยวนชิงหลิงกล่าว: “ข้าหิวเล็กน้อยแล้ว พวกเรารีบกลับไปหน่อยเถอะ”
“ได้เพคะ!” หมันเอ๋อออกไป ให้คนขับรถม้าวางที่ขึ้นม้าลง ยื่นมือไปประคองนางเล็กน้อย จึงขึ้นรถม้าแล้ว
คนขับรถม้าตะโกนเสียงหนึ่ง ยกแส้ขึ้นและร่วงลง รถม้าจึงเลี้ยวออกไปจากในซอย
หยวนชิงหลิงจัดเก็บกล่องยาเล็กน้อย แล้วอยากพิงหลังพักผ่อน นี่เพิ่งจะเก็บกล่องยาเสร็จ ม้าร้องคำรามขึ้นอย่างฉับพลัน และได้ยินเสียงร้องที่น่าเวทนาเสียงหนึ่งของคนขับรถม้า เลือดสดเปื้อนบนผ้าม่านรถม้า
ทันใดนั้น ดาบยาวเล่มหนึ่งก็แหวกม่านออก แล้วแทงตรงเข้ามาทางหยวนชิงหลิง หมันเอ๋อสายตาเฉียบคมฝีมือว่องไว ใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อด้านหลังของดาบแล้วเอามือคว้าไว้ทันที เมื่อผลักไปด้านหลัง เลือดสดๆไหลซึมออกมาจากในมือของหมันเอ๋อ ทว่ากลับช่วยหยวนชิงหลิงให้พ้นภัยครั้งนี้ไปได้
รถม้าโคลงเคลงไปมาอย่างฉับพลัน มีคนลงมาอยู่บนหลังคารถม้า กระบี่หลายเล่มแทงเข้ามาจากทุกสารทิศ ปราณของกระบี่เฉียบคม ท่วงท่าคล้ายกับไม่อาจต้านทานได้ หมันเอ๋อดึงให้หยวนชิงหลิงโน้มตัวลงทันที กลิ้งไปด้านหน้า ตกลงไปจากรถม้า
“พระชายารัชทายาท ท่านไม่เป็นไรนะเพคะ?” หมันเอ๋อพยุงนาง เอ่ยถามด้วยความกังวล
“ไม่เป็นไร!” หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้น เห็นเพียงคนผู้หนึ่งยืนบนหลังคารถม้า ข้างรถม้ายืนอยู่ด้านละหนึ่งคน นางรู้สึกว่าด้านหลังมีความรู้สึกดำรงอยู่อย่างแข็งแกร่ง คิดว่าด้านหลังก็มีอีกคนหนึ่ง ทั้งสี่คนนี้ทั้งหมดล้วนเป็นชุดดำปิดหน้า ถือกระบี่ยาว ตัวกระบี่เปล่งแสงระยิบระยับในยามค่ำคืนที่เหน็บหนาว
“พระชายารัชทายาท อีกครู่ท่านไปก่อน!” หมันเอ๋อชักกระบี่พกติดตัวออกมา ดึงหยวนชิงหลิงให้ยืนขึ้น
นางรู้ว่าพระชายารัชทายาทเคยเรียนวิชาตัวเบากับท่านชายสี่ อย่างอื่นไม่ได้เรียนรู้อะไร แต่วิ่งหนีก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่นางสามารถหาช่องโหว่ให้พระชายารัชทายาทได้ พระชายารัชทายาทก็สามารถวิ่งหนีออกไปได้
ระหว่างที่พูด เห็นเพียงทั้งสี่คนจู่โจมเข้ามาทั้งด้านหน้าด้านหลัง พลังกระบี่ของสี่คนนี้เฉียบคมเป็นอย่างมาก แทงเข้ามาพร้อมแรงลม จิตใจของหยวนชิงหลิงสั่นสะท้าน ฉวยโอกาสที่หมันเอ๋อเปิดช่องว่างให้นาง กลิ้งไปที่พื้น ถึงได้ฝืนผ่านไปได้
นางถอยไปถึงมุมกำแพง เปิดกล่องยาด้วยความรวดเร็ว ในช่วงเวลาคับขัน อย่างอื่นใช้การไม่ได้ ทว่ามีมีดผ่าตัดเล่มหนึ่งสามารถป้องกันตัวได้
วิทยายุทธของนักฆ่าไม่กี่คนนี้เยี่ยมยอด หยวนชิงหลิงเพิ่งจะยืนขึ้นมา ก็เห็นหมันเอ๋อบาดเจ็บแล้ว แอ่งเลือดบนแขนของหมันเอ๋อลึกจนเห็นกระดูก กระบี่ของนางร่วงหล่นลงบนพื้น ขณะที่โค้งตัว กระบี่ยาวจู่โจมมา หมันเอ๋อถูกบังคับให้ถอยไปด้านหลัง ถอยไปจนถึงมุมกำแพง แต่กลับเห็นนักฆ่าผู้หนึ่งมุ่งไปทางหยวนชิงหลิง นางกระวนกระวายใจจนใบหน้าซีดเผือด ตะโกนเสียงดังไปทางหยวนชิงหลิง “รีบไป!”
เงินแท่งหนึ่งในแขนเสื้อของนางลอยออกมา พุ่งเข้าใส่ท้ายทอยของนักฆ่าที่โจมตีไปทางหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงใช้วิชาตัวเบา ดึงหมันเอ๋อแล้ววิ่งไปทางด้านนอก
แต่ว่า สุดท้ายความสามารถในวิชาตัวเบาของนางก็ไม่ดี เพิ่งจะเดินไปได้สองก้าว ด้านหลังก็ได้ยินเสียงกระบี่อีก หมันเอ๋อลอยพลิกกลับหลังสูงขึ้นไปในอากาศ เท้าหนึ่งเตะนักฆ่าที่เข้ามาใกล้ลอยไปทันที แต่ทว่าไม่ได้ป้องกันอีกผู้หนึ่งที่เหาะเข้ามาใกล้ด้วยความรวดเร็ว กระบี่ยาวตวัด บนไหล่ของนางก็มีสายเลือดลอยกระเซ็นออกมาทันที