อ๋องหวยนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ รีบเรียกให้ดาดาเอาผ้าเช็ดหน้ามา จากนั้นก็รีบเดินลงไปข้างล่าง ตบไปที่แผ่นหลังของหรงเยว่เบาๆ “ทำไมจึงได้อาเจียนอีก ข้าถึงบอกให้มาตรวจดูตั้งแต่แรกแล้ว ทรมานหรือไม่”
หรงเยว่หันหน้ากลับไป สีหน้าเป็นทุกข์ “อาเจียนไม่ออก ทรมานมาก อาเจียนออกมาได้ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย แต่ว่าไม่ได้อาเจียนอะไรออกมาเลย แต่รู้สึกคลื่นไส้”
อ๋องหวยประคองนางลุกขึ้น ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดที่มุมปากของนาง “เข้าไปดื่มน้ำสักคำ พักประเดี๋ยวค่อยอาเจียนอีกที”
เจ้าห้าใช้แขนเสื้อปิดจมูกเอาไว้ เดินห่างออกไปหลายก้าว ขมวดคิ้วขึ้นมา “พวกเจ้าสองสามีภรรยาหมายความว่าอย่างไร เดินทางมาตั้งไกลเพื่อมาอาเจียนบ้านข้า หรงเยว่เจ้ากินอิ่มเกินไปหรือ”
หยวนชิงหลิงยกขาขึ้นเตะเขาเบาๆหนึ่งที “เข้าไป พูดจาเหลวไหลอะไร”
นางยื่นมือไปประคองหรงเยว่ ถามขึ้นว่า “เป็นอะไร กินของผิดสำแดงหรือ”
หยู่เหวินเห้าหัวเราะเยาะ “ที่เจ้าถามเรื่องกินของผิดสำแดงกับที่ข้าถามว่ากินอิ่มเกินไปไม่ใช่เรื่องเดียวกันหรอกหรือ”
หยวนชิงหลิงถลึงตามองเขาอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง “เจ้าหุบปากไปเถอะ”
อ๋องหวยก็โมโหพี่ห้าเช่นกัน “พี่ห้าท่านช่างไม่มีความเห็นใจเลย ดูหรงเยว่อาเจียนอย่างทรมานขนาดนี้ ท่านไม่รู้สึกสงสารหรือ”
หยู่เหวินเห้าพึมพำกับตนเอง ไม่ใช่ภรรยาข้าซะหน่อย ข้าจะสงสารทำไม
ประคองเข้าไปข้างในแล้วให้นางนั่งลง ฉี่หลอยกน้ำชามา อ๋องหวยถือถ้วยชาให้นางค่อยๆดื่มไปสองคำ จึงเห็นสีหน้าของนางดีขึ้นไม่ขาวซีดขนาดนั้นแล้ว
หยวนชิงหลิงมองนาง ถามขึ้นว่า “กินอะไรเข้าไป ปวดท้องหรือไม่”
“หลายวันมานี้ไม่ค่อยอยากอาหาร ไม่ได้กินอะไรเลย แต่รู้สึกคลื่นไส้อยู่ตลอด”หรงเยว่พูดอย่างไร้เรี่ยวแรง
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “คงไม่ใช่ตั้งครรภ์แล้วกระมัง ประจำเดือนไม่มานานแค่ไหนแล้ว”
หรงเยว่ยิ้มขึ้นมา และไม่หลีกเลี่ยงแม้จะมีรัชทายาทอยู่ด้วย “ช่างเถอะ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพิ่งจะหมดไปก่อนหน้านี้ประมาณสิบวัน”
บ่าวรับใช้ที่ชื่อดาดายืนอยู่ข้างๆและพูดว่า “ไม่ใช่เพคะ พระชายา ครั้งที่แล้วของท่านจนถึงตอนนี้ เป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว”
“จะเป็นไปได้อย่างไร ”หรงเยว่มองดาดา“เดือนกว่าแล้วหรือ ”
“เพคะ ข้าน้อยได้ช่วยท่านจำเอาไว้ ก่อนหน้านี้ท่านได้ให้ข้าน้อยช่วยจำตลอดมา ข้าน้อยไม่กล้าลืม”
หรงเยว่นิ่งอึ้ง จากนั้นก็ยกมือขึ้นมา “นั่นก็เป็นไปไม่ได้ ทรมานซ้ำไปซ้ำมา ก็ไม่เห็นจะตั้งครรภ์เสียที พอปล่อยวางแล้วคงเป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งครรภ์ขึ้นมา แม้แต่ยาข้าก็ไม่ดื่มแล้ว”
หยวนชิงหลิงพูดว่า “อย่างไรเสียก็ทดสอบดูซะหน่อย”
หรงเยว่โบกมือ “ไม่ ไม่อยากตรวจ ข้าเคยมีประสบการณ์แล้ว ตรวจแล้วก็คือไม่มี เจ้าให้ยารักษาอาการคลื่นไส้กับข้าดีกว่า เอาที่มีรสหวานไม่เอารสขม”
“อาการของเจ้า ข้าไม่อาจให้ยาเจ้าได้ ยังไงก็ต้องตรวจดูก่อน ”หยวนชิงหลิงหันกลับไปเปิดกล่องยาออก หาแท่งตรวจการตั้งครรภ์ออกมายื่นให้กับนาง “ไป รู้ใช่หรือไม่ว่าตรวจอย่างไร”
“ไม่ตรวจไม่ตรวจ ”หรงเยว่ไม่รับ แม้ว่าตอนนี้ได้คิดจะปล่อยวางอย่างเต็มที่แล้ว แต่การตรวจการตั้งครรภ์คือฝันร้าย นางเห็นท่านหมอที่พูดกับนางอย่างเสียใจว่าไม่มี ในทุกครั้งที่ตรวจมามากพอแล้ว
“เช่นนั้นข้าก็ให้ยาเจ้าไม่ได้ ถ้าหากตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงๆ เรื่องกินยาก็ต้องระวัง”หยวนชิงหลิงพูด
“หรงเยว่ ตรวจเสียหน่อยเถอะ ”เดิมทีอ๋องหวยคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ แต่ว่า บางทีวาสนามาถึงแล้วเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงๆเล่า
“ทำไมแม้แต่ท่านก็ยังพูดเช่นนี้เล่า ข้าบอกแล้วว่าไม่ตรวจ ให้ยากับข้าก็พอ”หรงเยว่รู้สึกรำคาญใจเป็นอย่างยิ่ง
เจ้าห้าถามหยวนชิงหลิงอย่างหดหู่ใจว่า “เจ้าสามารถวินิจฉัยโดยการจับชีพจรได้หรือไม่”
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ข้าทำไม่ได้”
“ท่านย่าอยู่ในจวน มิฉะนั้นก็ไปเชิญท่านย่าออกมาช่วยจับชีพจรดู”เจ้าห้าพูด
หยวนชิงหลิงจึงกล่าวกับหรงเยว่ว่า “เช่นนั้นก็ดี ในเมื่อเจ้าไม่ยินดีจะตรวจก็ไม่ต้องตรวจแล้ว ข้าเชิญท่านย่าออกมาตรวจชีพจรให้เจ้า ดูสิว่าเจ้ามีอาการของความเย็นเข้ากระเพาะหรือไม่ ถ้าหากความเย็นเข้ากระเพาะข้าก็จะให้ยาที่ทำให้กระเพาะอบอุ่นขึ้น แล้วก็เริ่มรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอีกครั้ง
“วินิจฉัยโรคอะไรออกมา ข้าก็จะให้ยาเจ้า ไม่ดื่มยาขม พอใจแล้วกระมัง”หยวนชิงหลิงเอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก หรงเยว่คนนี้ พอไม่สบายแล้วก็เรื่องมากขึ้นมาทันที ยังต้องพูดจาเกลี้ยกล่อมนางอีก
หรงเยว่ค่อยยิ้มออกมาได้ “ได้”
ลู่หยาไปเชิญคุณย่าหยวนออกมา คุณย่าหยวนกำลังเล่านิทานให้เด็กๆฟังอยู่ที่ลานด้านหลัง ยากมากที่วันนี้จะได้กลับมาสักครั้ง แต่ตอนเย็นยังต้องทำการตรวจรักษาโรค ฉะนั้นเวลาในครึ่งวันนี้ ก็ใช้ไปกับเด็กๆให้คุ้มค่า
ได้ยินลู่หยาบอกว่าหรงเยว่ไม่สบาย ก็เดินตามลู่หยาไปยังโถงใหญ่
อ๋องหวยกับหรงเยว่เคารพนับถือนาง ยืนขึ้นคำนับให้นางก่อน คุณย่าหยวนมองสีหน้าของหรงเยว่ ทำให้รู้สึกตกใจจริงๆ “ทำไมสีหน้าถึงได้ดูไม่ค่อยดีเลย รีบนั่งลง”
“กินไม่ลง คลื่นไส้ อยากอาเจียน”หรงเยว่พูดถึงอาการของตัวเอง พลางประคองฮูหยินเฒ่าให้นั่งลงก่อน ตัวเองค่อยนั่งลงข้างๆ
“ยื่นมือออกมา”คุณย่าหยวนพูด
หรงเยว่วางมือไว้บนโต๊ะ สองนิ้วของคุณย่าหยวนจับไปที่ชีพจรอย่างแม่นยำ พอฟังแล้ว คุณย่าหยวนก็รีบเงยหน้าขึ้นมองนางแวบหนึ่ง แต่ไม่แสดงสีหน้าใดๆ ยังคงฟังต่อไป
อ๋องหวยมองคุณย่าหยวนอย่างตื่นเต้น ก่อนหน้านี้คุณย่าหยวนตรวจชีพจรให้หรงเยว่นั้นใช้เวลาเร็วมาก ไม่กี่ทีก็รู้แล้ว แต่วันนี้ฟังนานมาก
“มืออีกข้างหนึ่ง”
หรงเยว่ก็เปลี่ยนสลับมืออีกข้างขึ้นมาวางไว้ ถามว่า “ฮูหยินใหญ่ ข้าเป็นอะไร เกี่ยวกับลำไส้กระเพาะ……”
“ไม่เกี่ยวกับลำไส้และกระเพาะ”หลังจากคุณย่าหยวนตรวจชีพจรแล้ว เอามือออกแล้วจ้องมองนาง สายตามีรอยยิ้มแห่งความเมตตา “หรงเยว่ เจ้าตั้งครรภ์แล้ว”
หรงเยว่หัวใจกระตุกชั่วครู่ ริมฝีปากก็สั่นเทาขึ้นมา ดวงตาเบิกกว้าง “ฮูหยินใหญ่ อย่าล้อเล่นเช่นนี้นะ”
“ล้อเล่นอะไรกัน ตั้งครรภ์ก็คือตั้งครรภ์ ชีพจรตั้งครรภ์แค่จับก็รู้แล้ว แต่เพื่อความแม่นยำ ข้ายังช่วยเจ้าฟังอย่างละเอียดอีกครั้ง”
นางเงยหน้าขึ้นมองไปยังอ๋องหวยที่มีอาการตกตะลึงอยู่ รอยยิ้มยินดีบนมุมปากยังไม่ลดน้อยลงไปเลย“ยินดีกับท่านอ๋องด้วย จะได้เป็นพ่อคนแล้ว ดีใจหรือไม่”
หัวใจของอ๋องหวยเต้นแรง ยิ้มโง่ๆ “เป็นพ่อแล้ว”
หรงเยว่รีบหันหน้าไปมองหยวนชิงหลิงทันที “สิ่งนั้นของเจ้า ที่ใช้ตรวจ ให้ข้า เร็วเข้า”
หยวนชิงหลิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อครู่ให้เจ้ายังไม่เอา เอาไป รู้ใช่หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร”
หรงเยว่ไม่สนใจเรื่องเวียนหัวคลื่นไส้แล้ว ดึงตัวนางขึ้นมาทันที “ท่านไปพร้อมกับข้า จะได้ไม่ผิดพลาด”
“เจ้าอย่าลากข้าสิ……”
“เร็วเข้า”หรงเยว่ตะคอกเสียงดุ
หยวนชิงหลิงเอามืออุดหูเอาไว้ ดีใจสุดขีด ปฏิกิริยาของหรงเยว่นี้ หมดหนทางจริงๆ
อ๋องหวยมองไปทางหยู่เหวินเห้าอย่างซื่อบื้อ “พี่ห้า ตามหลักแล้วนี่คงไม่ใช่เรื่องเท็จกระมัง”
“เจ้าโง่ ชีพจรที่ท่านย่าวินิจฉัย จะเป็นเท็จได้อย่างไร เป็นพ่อแล้ว”หยู่เหวินเห้าเองก็รู้สึกยินดีกับเขาจากใจจริง ยิ้มและเดินเข้าไปชกเบาๆให้เขา
“จริงหรือ หรงเยว่ตั้งครรภ์แล้ว ”อะซี่กับสวีอีเพิ่งจะเดินกลับมา ก็ได้ยินสิ่งที่หยู่เหวินเห้าพูด รู้สึกดีใจและเดินเข้ามาถาม
“ในที่สุดหรงเยว่ก็สมหวังแล้ว ไม่ง่ายเลยจริงๆ ”คุณย่าหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม
อะซี่เองก็ดีใจมาก ตอนนี้นางก็เป็นหญิงตั้งครรภ์ แทบอยากจะให้หญิงสาวในใต้หล้านี้เป็นหญิงตั้งครรภ์ทุกคน จะได้เป็นเพื่อนนาง
อ๋องหวยดีใจมาก การเป็นพ่อคนไม่ใช่เรื่องที่ดีใจที่สุด ที่ดีใจที่สุดคือในที่สุดหรงเยว่ก็สมปรารถนา นางจะได้ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
ผ่านไปครู่ใหญ่ ก็เห็นหรงเยว่เอามือเท้าเอวเดินเข้ามา ยังให้หยวนชิงหลิงช่วยประคองไว้ด้วย ภาพเช่นนั้นทำให้รู้สึกช่าง ……ไม่อยากจะดูเสียจริง
ใบหน้าของนางเปล่งประกาย ดวงตาแวววาว ทั่วร่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าก็อยู่ในอาการแห่งความยินดี เมื่อเห็นอ๋องหวย ก็รู้สึกจะคุมน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ จ้องมองเขานิ่ง พูดเสียงสะอื้นว่า “ข้าตั้งครรภ์แล้ว ท่านดีใจหรือไม่”
เมื่อครู่อ๋องหวยแค่ดีใจ เห็นท่าทีของนางเช่นนี้ รู้สึกสงสารแทบไม่ไหว ดึงมือของนางเอาไว้ สายตามีแววอยากจะร้องไห้ เอ่ยเสียงแหบว่า “ดีใจ ดีใจมาก”
บนเส้นทางการขอลูกที่ยาวนานราวกับไร้ที่สิ้นสุด ลำบากเจ้าแล้ว