จัดการเด็กๆให้อยู่ในวังเรียบร้อยแล้ว หยู่เหวินเห้าก็กำชับหลายครั้ง ยังคงเป็นคำพูดเดิมของหยวนชิงหลิง เพื่อไม่ให้คนอื่นมองเห็นถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในจวน เขาแอบหัวเราะหยวนชิงหลิงในใจ นางอาลัยอาวรณ์ลูกๆ
แต่เมื่อถึงในวังแล้วก่อนจะจากกัน เขาเพิ่งจะรู้สึกว่า ตัวเองก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์มาก
แต่เป็นพวกลูกๆที่ไล่เขาราวกับไล่แมลงวัน “รู้แล้ว ท่านพ่อจู้จี้จริงๆ รีบกลับไปเถอะ”
สำหรับลูกๆที่ไร้น้ำใจเหล่านี้ หยู่เหวินเห้าโมโหจนกัดฟันกรอด อยากจะพูดอีกหลายประโยค แต่ลูกๆกลับไปน้อมทักทายเสด็จปู่ทวดแล้ว เขาได้แต่เดินตามไปอย่างขุ่นเคือง น้อมทักทายแล้ว อยากจะปรับทุกข์กับไท่ซ่างหวงเสียหน่อย ไท่ซ่างหวงก็ไล่เขาเช่นเดียวกัน “พอแล้ว ส่งเข้ามาก็พอ กลับไปเถอะ”
เขาสูญเสียความโปรดปรานไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ถูกลูกของตัวเองแย่งชิงความโปรดปรานไปจากรุ่นพ่อรุ่นปู่ แม้จะแสดงความไม่พอใจยังทำไม่ได้
กลับไปปรับทุกข์กับหยวนชิงหลิง เดิมทีหยวนชิงหลิงก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง เห็นใบหน้าที่คับแค้นใจของเขาแล้ว ก็รู้สึกดีใจสุดขีดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
หยู่เหวินเห้าหอมนางแรงๆหนึ่งที “ข้าไม่มีที่ยืนแล้ว เจ้ายังหัวเราะอีก”
“อายุปูนนี้แล้ว ยังแย่งเป็นคนโปรดกับลูกตัวเองอีก”หยวนชิงหลิงมองเขาอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง
หยู่เหวินเห้ามองดวงตาที่สวยงามของนาง หัวใจยังคงหวั่นไหว “เมียจ๋า ถ้าหากพวกเรามีลูกสาวสักคน งดงามเหมือนกับเจ้า จะดีแค่ไหน”
“อยากจะพูดอะไร อยากให้คลอดลูกสาวหรือ ”หยวนชิงหลิงพูดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
หยู่เหวินเห้ารีบโบกมือ “ไม่เอาแล้ว พวกเรามีลูกตั้งห้าคนแล้ว ถ้าหากให้กำเนิดอีกคน ถ้าหากยังเกิดมาเป็นแฝดเจ้าแฝดสาม เช่นนั้นคงกลายเป็นแม่หมูแล้ว”
หยวนชิงหลิงโมโหจนทุบตีกลับไป “พูดจาเป็นหรือไม่ แม่หมูอะไรกัน ข้าให้กำเนิดทั้งหมดสองครรภ์”
ทันใดนั้นก็รู้สึกขึ้นมาว่าชีวิตตัวเองลำบากจริงๆ
หยู่เหวินเห้าไม่ได้หลบหลีก ให้นางตีตามใจ ฉีกปากยิ้มกว้าง “ข้าผิดไปแล้ว พูดผิดไม่ได้หรืออย่างไร”
เขาดึงมือนางเอาไว้ ทันใดนั้นก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “หยวน ประจำเดือนของเจ้าเหมือนจะไม่มาสักระยะแล้วกระมัง”
หยวนชิงหลิงพูดว่า “เมื่อก่อนก็ไม่ตรงเวลา สามเดือนมาหนึ่งครั้งก็เป็นเรื่องปกติ”
เขามองนางด้วยความรู้สึกกระสับกระส่าย “คงไม่ใช่ว่าตั้งครรภ์แล้วกระมัง”
ที่จริงหยู่เหวินเห้าได้แอบคำนวณเป็นการส่วนตัว หลายครั้งที่พวกเขาไม่ได้สวมเครื่องป้องกัน ตอนนั้นไม่เคยคิดมาก ตอนนี้เมื่อนึกขึ้นมาแล้วก็รู้สึกว่าอาจเป็นไปได้ที่จะตั้งครรภ์ อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลขึ้นมา
หยวนชิงหลิงพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยสักนิด อยากกินอะไรก็กิน อยากดื่มอะไรก็ดื่ม”
“ตอนที่เจ้าตั้งครรภ์แฝดสองก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรนี่นา”หยู่เหวินเห้าพูด
“ก็แค่ความประมาทสองสามครั้ง ตามหลักแล้วเป็นไปไม่ได้ ตอนนั้นก็ไม่ใช่ช่วงอันตรายด้วย”ที่จริงหยวนชิงหลิงได้คำนวณดูแล้ว ตอนนั้นไม่ได้อยู่ในช่วงอันตราย โอกาสที่จะตั้งครรภ์มีไม่สูง
หยู่เหวินเห้าอืมหนึ่งเสียง มองนาง “วันหน้าพวกเราต้องสวมเครื่องป้องกันตามระเบียบ อย่าให้ตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงๆ”
หยวนชิงหลิงนั่งอยู่ข้างกายเขา พูดว่า “พูดจริงๆนะ ข้าเคยคิดเรื่องคลอดลูก แต่ถึงแม้จะคลอดลูก ข้าก็หวังว่าเจ้าแฝดอย่างน้อยจะมีอายุสักสี่ห้าขวบแล้วค่อยคลอด อย่างนี้จะได้มีเวลาอยู่กับพวกเขาให้มากหน่อย”
หยู่เหวินเห้ารีบทำลายความคิดของนางทันที เอ่ยอย่างจริงจังมีเหตุผลว่า “ไม่ พวกเรายอมรับเลี้ยงสักคน ดีกว่าต้องคลอดเอง”
หยวนชิงหลิงมองเขา “ทำไมจึงได้ปฏิเสธเช่นนี้ เมื่อก่อนท่านก็ไม่ได้ต่อต้านมากเช่นนี้นี่นา ”
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “ก่อนหน้านี้พวกเราล้วนมีการป้องกันล่วงหน้า รู้ว่าไม่มีทางตั้งครรภ์ พูดให้สนุกปากน่ะทำได้ แต่ว่าครั้งนี้พวกเรามีสองสามครั้งที่ไม่สวมเครื่องป้องกัน”
“ปล่อยไปตามธรรมชาติเถอะ ที่ควรมาก็เดี๋ยวก็มาเอง ดูหรงเยว่ก็รู้แล้ว ร้องขอให้ตายก็ไม่มา พอปล่อยวางแล้วจึงมา สวรรค์ชอบกลั่นแกล้งคนเสมอ”
หยู่เหวินเห้าดึงมือของนางมา วางไว้บนใบหน้าของตนเอง “ตอนนี้พวกเรามีความสุขมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องบังคับร้องขอสิ่งอื่น”
หยวนชิงหลิงซุกซบอยู่ในอ้อมอกของเขา มุมปากมีรอยยิ้มหวานแห่งความสุขประดับอยู่ เป็นเช่นนั้นจริงๆ
พูดไปเช่นนั้นเอง แต่หลังจากที่หยวนชิงหลิงรอให้เจ้าห้าออกไปแล้ว ก็แอบเอาที่ตรวจการตั้งครรภ์ไปยังห้องน้ำ
ตอนที่ผลปรากฏออกมา นางจ้องมองแท่งตรวจครรภ์อยู่นาน ให้ตายเถอะ
ราชวงศ์ของเป่ยถังช่วงนี้ไม่มีเรื่องอื่นแล้วกระมัง จึงได้มีแต่เรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น ทำไมจึงได้ตั้งครรภ์ขึ้นมาเป็นกลุ่มเชียว
นางทำหน้าไม่ถูกจริงๆ ในใจมีความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าดีใจหรือว่าโมโห ที่สำคัญที่สุดคือ วันนี้เจ้าห้าคัดค้านถึงขนาดนี้ ถ้าหากบอกกับเขาว่าตั้งครรภ์แล้ว เกรงว่าเขาคงทั้งตื่นตกใจและดีใจมากกระมัง
นางไม่เข้าใจจริงๆ นางเป็นคนที่เคยดื่มยาจื่อจิน ทำไมจึงได้ตั้งครรภ์อย่างไม่หยุดหย่อน
น่ากลุ้มใจจริงๆ
นางเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์มานานแค่ไหนแล้ว แต่เมื่อนับถอยหลังไปจนถึงตอนที่ไม่สวมเครื่องป้องกัน ครั้งแรกสุดตอนที่อยู่พระที่นั่ง ครั้งนั้นเป็นได้มากที่สุด ถ้าหากตั้งครรภ์ตั้งแต่ครั้งนั้น คำนวณหน้าหลัง ก็สองเดือนกว่าแล้ว
พูดอีกอย่างคือ นับเดือนแล้วละก็ อายุครรภ์มากกว่าลูกของหรงเยว่
แต่นางไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยจริงๆ กินดื่มปกติ ไม่คลื่นไส้ไม่อาเจียน ไม่มีอาการวิงเวียนอึดอัด
“พระชายารัชทายาท ท่านเป็นอะไรไป”ฉี่หลอยกน้ำชาเข้ามา ก็เห็นนางนั่งเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้คนเดียว สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
หยวนชิงหลิงเก็บอารมณ์ “ไม่เป็นไร คิดถึงพวกลูกๆ ”
ฉี่หลอวางน้ำชาไว้บนโต๊ะ รวดหยิบเอาผ้าเช็ดโต๊ะขึ้นมาเช็ดทำความสะอาด พูดยิ้มๆว่า “เพิ่งจะเข้าวังไป ท่านก็คิดถึงแล้ว ถ้าหากเป็นห่วงมากละก็ พรุ่งนี้ก็เข้าวังไปดูสักครั้ง”
“ไม่ไปดีกว่า ให้พวกเขาปรับตัวกันก่อน”หยวนชิงหลิงรวบรวมกำลังใจขึ้นมา มองฉี่หลอและถามว่า “คืนนี้รัชทายาทจะกลับมากินอาหารค่ำหรือไม่ ”
“ไม่ได้พูดอะไรเลย”ฉี่หลอมองนาง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย รัชทายาทจะกลับหรือไม่กลับ นางควรจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุด เรื่องของรัชทายาทแต่ไหนแต่ไรจะพูดกับนางด้วยตนเอง
แต่เห็นท่าทีของพระชายารัชทายาทที่ดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เห็นทีคงจะคิดถึงเหล่าพระราชนัดดาจริงๆ
“ข้าจะไปดูเจ้าแฝด”หยวนชิงหลิงลุกเดินออกไป
เจ้าแฝดอุ้มเจ้าเสือน้อยนั่งอยู่ในสวน เดิมทีแม่นมพาพวกเขาออกมาเล่น แต่ว่าเจ้าแฝดเวลาเล่นก็เอาแต่มองเท่านั้น มองไปทุกที่ แทบจะไม่เคลื่อนไหวเลย
พวกเขาพูดได้แล้ว แต่ว่าพูดน้อยมาก เรียกแม่กับพ่อเป็นบางครั้ง แต่ก็สามารถทำให้หยวนชิงหลิงอารมณ์ดีไปได้ครึ่งวัน
เห็นหยวนชิงหลิงมา เจ้าแฝดหันหน้ามาพร้อมกัน ดวงตาทั้งสี่ดวงดูแล้วแทบจะคล้ายเป็นพิมพ์เดียวกัน แต่ใบหน้ากลับไม่ค่อยเหมือนกันสักเท่าไหร่
ใบหน้าของเจ้าโค้กใหญ่กว่าเซเว่นอัพอยู่บ้าง ใบหน้ากลมอวบอิ่ม มีกระจับปากชัดเจน ริมฝีปากอวบอิ่ม ใบหน้าของเซเว่นอัพกลมมนเล็กน้อย แต่องคาพยพทั้งห้างดงามมาก ก่อนหน้านี้แม่นมเคยพูดด้วยรอยยิ้มว่า ถ้าหากเปลี่ยนชุดผู้หญิงให้กับเซเว่นอัพ เช่นนั้นคงจะดูดีกว่าเด็กหญิงมาก
“ท่านแม่”เจ้าแฝดร้องเรียกขึ้นพร้อมกัน แต่ก็ไม่เคลื่อนไหว ยังคงนั่งนิ่งๆอยู่เช่นเดิม
หยวนชิงหลิงเดินเข้าไปนั่งข้างๆพวกเขา ยื่นมือไปลูบที่ศีรษะของพวกเขา “ดูอะไรอยู่”
“มองหญ้า”ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกัน
หยวนชิงหลิงมองตามสายตาของพวกเขาไป ในพุ่มดอกไม้มีหญ้าต้นหนึ่งงอกออกมา ยื่นยาวออกมาตามแนวนอน ใบเรียวเล็กแหลม เป็นหญ้าวัชพืชที่เห็นได้ทั่วไป
หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าหญ้าชนิดนี้ชื่อว่าอะไร แต่เห็นพวกเขาทั้งสองคนจ้องมองแต่หญ้าต้นนั้น ราวกับสนใจเป็นอย่างยิ่ง จึงถามขึ้นว่า“หญ้าต้นนี้มีอะไรน่าดูหรือ ”
“ท่านแม่ดูข้างล่าง”เซเว่นอัพชี้นิ้ว และพูดกับหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงมองไปยังบริเวณรากของหญ้าต้นนั้น นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ที่แท้หญ้าต้นนี้งอกขึ้นมาจากเปลือกแตงกวาที่เน่าเสียแล้ว แตงกว่าลูกนี้ได้เน่าเปื่อยแล้ว มีส่วนหนึ่งที่ซึมเข้าไปอยู่ในดิน ข้างๆมีก้อนหินกองไว้เต็มไปหมด
แต่แล้วอย่างไรเล่า
แล้วก็ได้ยินเซเว่นอัพพูดว่า “หญ้าต้นนี้เดิมทีแม่นมฉีได้ถอนออกมาทิ้งไว้ตรงนี้ ก่อนหน้านี้ถูกตากแห้งไปแล้ว แต่ว่าตอนนี้กลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง”
หยวนชิงหลิงพูดว่า “พลังชีวิตของวัชพืชนั้นแข็งแกร่งมาก”
เซเว่นอัพมองหยวนชิงหลิง “ท่านแม่ก็เช่นกัน”
หยวนชิงหลิงรู้สึกสับสนมึนงงจริงๆ