บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 210 มีคนหนึ่งสามารถหยุดยั้งได้

คนอย่างกู้ซือ ถ้าจะทำอะไรสักอย่าง ก็รวดเร็วเสียจริง
หลังจากออกจากวังตอนค่ำ ก็มีข่าวคราวแรกอยู่ในมือแล้ว รีบไปที่จวนอ๋องเพื่อประกาศความสำเร็จทันที
แต่กลับพบกับหยวนชิงผิงที่อยู่ตรงลานบ้านพอดี ชั่วขณะนั้นกู้ซือรู้สึกว่า การประกาศความสำเร็จครั้งนี้ช่างเหมาะเจาะเสียจริง มาได้ทันท่วงที
“คุณหนูรอง”กู้ซือเดินเข้าไปทักทาย จากเรื่องครั้งที่แล้ว นางน่าจะจำเขาได้แล้ว
หยวนชิงผิงมองเขา “คุณชายท่านนี้ รู้สึกหน้าคุ้นๆ ”
กู้ซืออดไม่ได้ที่จะใจสลาย จึงเอ่ยแนะนำตัว “ข้าชื่อกู้ซือ เป็นเพื่อนรักกับพี่เขยของเจ้า”
หยวนชิงผิงอึ้ง ก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าเขาคือคนที่เข้ามาทักทายตอนที่เกิดเรื่องนอกเมืองครานั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงได้จากไปอย่างรีบร้อน
“ที่แท้ก็เป็นท่านกู้นี่เอง ขออภัยด้วย”หยวนชิงผิงสีหน้าจริงจัง ท่าทีดูนอบน้อมขึ้นหลายส่วน
“เจ้ารู้จักข้า”กู้ซือจ้องมองนาง และถามขึ้น
“พวกเราเคยพบกัน แต่ท่านกู้คงจำไม่ได้แล้ว ”หยวนชิงผิงยิ้มบางๆ
จำไม่ได้ ชาติหน้าก็ยังจำได้
กู้ซือทำท่าราวกับใช้ความคิดอย่างหนัก จากนั้นก็ทำทีเป็นงงงวย “ไม่ทราบว่าเราเคยพบกันที่ไหน ”
หยวนชิงผิงเอ่ยเตือนความทรงจำ “ที่นอกเมือง ก็ตอนที่ซุ้มโจ๊กของพระชายาฉีเกิดเรื่องครานั้นไง”
“อ๋อ”กู้ซือเหมือนจะนึกขึ้นได้แล้ว “ใช่ ข้าจำได้แล้ว วันนั้นเจ้าอยู่กับพระชายาฉู่ ข้ายังไปพูดคุยกับพวกเจ้าด้วย”
หยวนชิงผิงพูดว่า “ใช่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงได้จากไปอย่างกะทันหัน”
“ใช่แล้ว วันนั้นสภาพการณ์แย่มาก ข้าเองก็กังวลไปอย่างยิ่ง ต้องรีบไปช่วยเหลือคน ขออภัยจริงๆ ”กู้ซือพูดอย่างรู้สึกขออภัย
หยวนชิงผิงย่อตัวคำนับ “ขุนนางรักประชาชนดุจลูกหลาน ข้าน้อยเลื่อมใสจริงๆ”
“ที่ไหนกัน ชมกันเกินไปแล้ว”กู้ซือโบกมือไปมา ยิ้มอย่างถ่อมตน ที่ระเบียง หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงยืนเคียงไหล่มองดูอยู่
“ทำอย่างไรดี ข้าอยากจะสั่งสอนเข้าสักตั้ง”หยู่เหวินเห้ามองกู้ซือ พูดกับหยวนชิงหลิง
“เขาชอบน้องรองจริงๆหรือ ”หยวนชิงหลิงถาม
“ไม่เช่นนั้นเขาจะตีกับข้าทำไม ก็ไม่ใช่เพราะเรื่องหาคู่ให้น้องรองหรอกหรือ”หยู่เหวินเห้าพูด
หยวนชิงหลิงฟังคำพูดที่กู้ซือพูด “แม้แต่เคยเจอกับน้องรองเขายังจำไม่ได้”
“แกล้งทำ”หยู่เหวินเห้าพูด
หยวนชิงหลิงเอ่ยเสียงเย็น “เช่นนั้นก็สมควรถูกตี แต่ว่าเบาหน่อย อย่าให้ว่าที่น้องเขยในอนาคตของข้าต้องบาดเจ็บ”
หยู่เหวินเห้าส่ายหน้า “ยาก จะแต่งกับน้องรองของเจ้า พ่อแม่ของกู้ซือต้องคัดค้านแน่ๆ ไม่เช่นนั้น กู้ซือคงไม่ต้องใช้เหล้าย้อมใจแล้ว”
หยวนชิงหลิงถอนหายใจเบาๆ อะไรคือคนที่คู่ควร ควรคู่กับคนที่คู่ควร นี่คือสังคมที่แบ่งชนชั้นกันอย่างชัดเจน จวนเจ้าพระยา คฤหาสน์เจ้าพระยา ฟังดูดี แต่ในเมืองหลวงมีใครเห็นจวนเจ้าพระยาอยู่ในสายตาบ้าง
พูดถึงจวนเจ้าพระยา ล้วนมีแค่คำเยาะเย้ยดูถูก
แน่นอน ชื่อเสียงที่เสียหายของหยวนชิงหลิง เจ้าของร่างเดิมหยวนชิงหลิงก็มีส่วนด้วย
ในเมืองหลวงมีใครไม่รู้บ้างว่าตำแหน่งพระชายาฉู่ของนางนั้นได้มาอย่างไร
แม้ว่าตอนนี้นางจะรักใคร่กลมเกลียวกันดีกับหยู่เหวินเห้า แต่ว่าประวัติดำมืดนั้นย่อมถูกคนขุดคุ้ยขึ้นมา
การช่วยคนนอกเมืองครั้งนั้น กู้ชื่อเสียงนางกลับมาได้บ้างเล็กน้อย แต่เกรงว่าจะไม่สามารถล้างมลทินให้สะอาดทั้งหมด
หยู่เหวินเห้าน้ำเสียงดุเอ่ยขึ้นว่า “กู้ซือ”
กู้ซือเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตามีแววโกรธเคือง ทำอย่างไรดี เขาอยากจะต่อยกับอ๋องฉู่อีกแล้ว
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “เข้ามาคุยกันข้างใน”
กู้ซือสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ ต่อหน้าหญิงงามจะเสียมารยาทไม่ได้
เขายิ้ม เผยให้เห็นฟันขาวเรียงสายมองไปทางหยวนชิงผิง “คุณหนูรอง แล้วพบกันใหม่”
“แล้วพบกันใหม่เจ้าค่ะ”หยวนชิงผิงรู้สึกว่าองครักษ์กู้ซือคนนี้ดูอ่อนโยนเป็นกันเอง ไม่มีทีท่าวางมาดเลยสักนิด
กู้ซือเข้าไปในเรือนกับหยู่เหวินเห้าและหยวนชิงหลิง นั่งลง เหลือบมองหยู่เหวินเห้าแวบหนึ่ง “ท่านจะแสดงอำนาจบาตรใหญ่ในการเป็นอ๋องกับข้าหรือ ไม่ให้หน้ากันเลยสักนิด ไม่เหมือนตอนที่มาขอร้องข้าเลย”
หยู่เหวินเห้าจับแก้วเล่น น้ำเสียงเรียบเฉย “ได้ยินพ่อตาที่ไม่ได้เรื่องของข้าบอกว่า เรื่องการแต่งงานของน้องรอง ข้าสามารถออกความเห็นได้ครึ่งหนึ่ง ”
กู้ซือมองเขาอย่างไม่ชอบใจนัก “ท่านอย่าใช้เรื่องนี้ข่มขู่ข้าเลย”
“ใครข่มขู่เจ้า เจ้าจะพูดหรือไม่ ดูเจ้าโม้เมื่อครู่สิ แม้แต่หมูยังเกือบจะถูกเจ้าโม้จนบินขึ้นฟ้าแล้ว เป็นห่วงประเทศชาติเป็นห่วงประชาชน มีความมุ่งมั่นจะช่วยคนอย่างจริงใจ รู้จักละอายหรือไม่ ”หยู่เหวินเห้าพูดเสียงฮึดฮัด
กู้ซือพูดอย่างไม่อายปากว่า “ข้าพูดเรื่องจริงนี่นา วันนั้นข้าช่วยไปตั้งหลายคน ท่านเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ”
หยวนชิงหลิงมองบุรุษทั้งสองที่กำลังห้ำหั่นกันด้วยความรัก รู้สึกรำคาญเต็มทน พูดขึ้นว่า “กู้ซือ ได้ข่าวว่าอย่างไรบ้าง”
ว่าที่พี่สาวภรรยาพูดขึ้น เช่นนั้นย่อมไม่เหมือนกัน กู้ซือเปลี่ยนสีหน้าทันที พูดว่า “เรื่องนี้พระชายาฉีเป็นคนพูดจริงๆ ฮองเฮาจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับไทเฮา และไปหาฮ่องเต้ด้วย และได้พูดเรื่องที่จะให้แต่งฉู่หมิงหยางเป็นพระชายารองด้วย เรื่องนี้แม้แต่โสวฝู่ฉู่ก็ต้องยอมรับโดยปริยาย คาดว่าถ้าผ่านการใคร่ครวญของฮ่องเต้แล้ว คงจะมีการออกคำสั่ง”
หยวนชิงหลิงอึ้งไป“แล้วฉู่หมิงหยางเล่า ฉู่หมิงหยางนางมีความคิดเห็นอย่างไร”
คนคนนี้ใจสูงเย่อหยิ่ง จะยินดีมาเป็นพระชายารองหรือ
ดูท่าทีของนางแล้ว แม้แค่พี่ใหญ่ในบ้านอย่างฉู่หมิงชุ่ยนางยังไม่สนใจ
ไม่ว่าอย่างไรฉู่หมิงชุ่ยก็เป็นถึงพระชายาฉี นางจะเต็มใจมาเป็นพระชายารองฉู่หรือ
“นางจะเห็นด้วยหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ หลังจากที่ท่านอ๋องออกจากหลังไปแล้ว โสวฝู่ฉู่ก็พานางเข้าหวังเพื่อพบกับไทเฮา ไทเฮาได้เชิญฮ่องเต้ไป และยังเชิญเสียนเฟยไปด้วย”
หัวใจของหยวนชิงหลิงกระตุก “แม้แต่เสียนเฟยก็ถูกเชิญไป เช่นนั้นคงมีความเป็นไปได้สูง”
หยู่เหวินเห้านั่งไม่ติดแล้ว “ไม่ได้การ ข้าต้องรีบเข้าวัง”
กู้ซือพูดว่า “เรื่องนี้ฮ่องเต้เองก็ยังไม่ตัดสินใจ ก่อนที่จะตัดสินใจ คงต้องถามความเห็นท่านก่อนแน่ ท่านรอให้ถึงตอนนั้นค่อยแสดงเจตนารมณ์ก็ยังไม่สาย”
หยู่เหวินเห้ามองหยวนชิงหลิง “เช่นนั้นไม่ได้ จะรอไม่ได้เด็ดขาด ไม่พูดให้รู้เรื่องคืนนี้ นางคงนอนไม่หลับแน่”
หยวนชิงหลิงยังคงสงบและสบายใจ “ข้าไม่ได้จะแต่งพระชายารองเสียหน่อย ทำไมข้าจะนอนไม่หลับ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ท่านจัดการเองเถอะ”
หยู่เหวินเห้าสีหน้าซีด “ไม่ได้การ เปลี่ยนเป็นข้าที่ต้องนอนไม่หลับสินะ”
กู้ซือเอ่ยอย่างเห็นใจ “ใช่แล้ว หากแต่พระชายารอง เช่นนั้นท่านคงนอนไม่หลับ พระชายาคงต้องทะเลาะกับท่านอย่างเอาเป็นเอาตาย”
หยู่เหวินเห้าเงยหน้าขึ้นทันที มองเขา “เจ้าว่าอะไรนะ”
กู้ซือนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ “ข้าก็บอกว่าท่านนอนไม่หลับไง”
หยู่เหวินเห้ายืนขึ้น มองไปทางหยวนชิงหลิง “ใช่แล้ว เจ้าคงต้องทะเลาะกับข้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ”
หยวนชิงหลิงกะพริบตาหนึ่งที มองเขา
“ทังหยาง ทังหยาง ”หยู่เหวินเห้าโก่งคอร้องตะโกน
ทังหยางเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ท่านอ๋อง ข้าน้อยอยู่นี่”
“เจ้าสั่งคนให้คอยสังเกตที่ปากทางเอาไว้ หากคืนนี้มีคนของไทเฮาหรือฮ่องเต้มา ให้รีบมารายงาน ”หยู่เหวินเห้าออกคำสั่ง
ทังหยางรับคำสั่ง
“คืนนี้จะมีคนมาหรือ”หยวนชิงหลิงถาม
“คืนนี้ต้องมาแน่ หากเสด็จพ่อจะถามความคิดเห็นข้า เช่นนั้นคืนนี้คงต้องให้คนออกจากวังมาถามข้า โสวฝู่ฉู่นั้นทำงานรวดเร็วมาก พรุ่งนี้คงต้องได้รับคำตอบแน่นอน ฉะนั้นคืนนี้เสด็จพ่อต้องส่งคนมาถามข้าแน่นอนเช่นกัน ”หยู่เหวินเห้าพูด
กู้ซือขมวดคิ้ว “แต่ว่า ถ้าหากโสวฝู่ฉู่ตั้งใจจะยกหลานสาวให้มาเป็นพระชายารองของท่านจริงละก็ ท่านค้านเขาไม่ได้หรอก ”
หยู่เหวินเห้ายืนขึ้น สายตามีแววเจ้าเล่ห์วาบผ่าน “ไม่ผิด ตอนนี้โสวฝู่ฉู่นั้นอยู่ใต้เพียงหนึ่งแต่อยู่เหนือนับหมื่น ข้าไม่สามารถยับยั้งเขาได้จริงๆ แต่มีสองคนที่ทำได้แน่ นั่นก็คือไท่ซ่างหวงกับฮ่องเต้”

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset