บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 329 สถานการณ์ที่สิ้นหวัง

หยวนชิงหลิงเห็นถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยบนใบหน้าของนาง ยืนยันได้ว่าการคาดเดาของนางนั้นถูกต้อง
ฉู่หมิงชุ่ยกลัวตาย มิเช่นนั้นตอนที่นางอยู่ที่จวนอ๋องซุน นางคงไม่แสร้งทำเป็นถูกจับเป็นตัวประกัน
คนคนนี้เสแสร้งมาทั้งชีวิต แม้แต่ในตอนนี้ ไม่ยอมที่จะฉีกหน้ากากของตัวเองลงเพื่อเผชิญหน้ากับความในใจสรุปแล้วนางเป็นคนเช่นไรกันแน่
ฉู่หมิงชุ่ยมองดูนางอย่างดุดัน พร้อมพูดขึ้นว่า “แล้วยังไงล่ะ? ข้าตายไม่ตาย เจ้าก็มองไม่เห็นแล้ว”
หยวนชิงหลิงโน้มใบหน้าของตัวเองเข้ามาใกล้นาง และรอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง “เพราะฉะนั้น ข้าถึงบอกว่าเจ้าต้องตายก่อนหน้าข้า ข้าถึงจะรู้สึกสบายใจ”
“น่าเสียดายที่เจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้” ฉู่หมิงชุ่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชา
“นั้นมันไม่จำเป็น…” หยวนชิงหลิงพูดยังไม่ทันจบก็ได้หยิบมีดผ่าตัดออกมาก่อนที่จะกรีดไปบนข้อมือของนาง
นางเข้าใกล้ฉู่หมิงชุ่ย ลงมืออย่างแม่นยำ การกรีดครั้งนี้ กรีดโดนหลอดเลือดที่ข้อมือโดยตรง เลือดกระฉูดฉีดพุ่งออกมา
ในเมื่อฉู่หมิงชุ่ยไม่อยากตาย งั้นนางต้องกลับขึ้นฝั่งเพื่อช่วยเหลือ ดังนั้นนางจึงบังคับให้พวกเขาปล่อยเรือช่วยชีวิตล่วงหน้า
ฉู่หมิงชุ่ยโกรธจัด มือข้างหนึ่งจับที่ข้อมือของตนเอง และตะโกนเรียกอย่างโกรธเคืองว่า “ใครก็ได้มานี่ มานี่”
กรรมกรสองคนรีบวิ่งขึ้นมา เห็นฉู่หมิงชุ่ยยืนตัวสั่น ตรงมือมีเลือดไหลอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในคนนั้นดึงเชือกขึ้นมารัดเข้าที่บาดแผลทันที รัดบนข้อมือเพื่อลดการไหลของเลือด
อีกคนเข้ามาจับหยวนชิงหลิงด้วยมือข้างหนึ่งแล้วอีกข้างหนึ่งตบนางจนหน้าหัน
หยวนชิงหลิงถูกตบจนมึนตาลาย เลือดไหลออกจากมุมปาก แต่นางไม่ลืมที่จะพูดว่า “นางโดนตัดเส้นเลือด ถ้าไม่รีบส่งกลับโดยเร็วเพื่อรับการรักษา นางจะต้องเสียเลือดจนตายอย่างแน่นอน รัดให้แน่นแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้หยุดเลือดได้ มือนี้ก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน”
เปลวไฟแห่งความชั่วร้ายระเบิดออกมาจากดวงตาของฉู่หมิงชุ่ย นางกัดฟันพูดออกมาว่า “ฆ่านางเสีย แล้วรีบส่งข้ากลับบ้าน”
กรรมกรบีบคอของหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงได้มีการป้องกันไว้ก่อนแล้วจึงหยิบสเปรย์พริกออกมาแล้วฉีดไปที่ตาของกรรมกร กรรมกรไม่ทันได้ป้องกันจึงทำให้ตาของเขาปวดแสบขึ้นมาทันที เขาเอามือขึ้นปิดหน้าแล้วทรุดลงบนพื้น ร้องเจ็บปวดอย่างรุนแรง
ถือโอกาสนี้ หยวนชิงหลิงได้หยิบสเปรย์ฉีดไปที่อีกคน เพียงแต่ว่าคนนี้ได้มีการป้องกัน เขาเตะสเปรย์ในมือของหยวนชิงหลิงจนหลุดมือไป และตบหยวนชิงหลิงจนล้มลงกับพื้น กรรมกรได้หยิบเอามีดสั้นออกมา แทงไปยังหน้าอกของหยวนชิงหลิง
บนผิวน้ำ จู่ๆ ก็มีใครบางคนเหาะขึ้นมา สองเท้าเตะออกมากลางอากาศ ทำให้กรรมกรล้มลงไปกับพื้น คนคนนั้นลงมาถึงพื้น เข่าของคนนั้นก็ทับลงที่ซี่โครงของกรรมกรคนนั้น ได้ยินเพียงเสียง “แคร่ก” สองครั้งเท่านั้น กรรมกรคนนั้น ร้องด้วยความเจ็บปวดจนหายใจไม่ออก
คนคนนั้นรีบพยุงหยวนชิงหลิงขึ้น และรีบถามขึ้นว่า “พระชายา ท่านเป็นไรไหม?”
หยวนชิงหลิงเหลือบมองอย่างตั้งใจ ปรากฏว่าเป็นหมันเอ๋อคนที่พบที่ท่าเรือ
ที่ท่าเรือ นางเห็นแล้วว่าเป็นหมันเอ๋อ ดังนั้นนางจึงจงใจส่งเสียงไปเพื่อดึงดูดความสนใจของหมันเอ๋อ โดยหวังว่านางจะส่งข่าว ไม่คิดว่านางจะติดตามมาด้วย
พวกกรรมกรที่เหลือได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก็ได้ตามมาถึง หยวนชิงหลิงอยากจะเข้าไปหยิบสเปรย์ แต่ฉู่หมิงชุ่ยเร็วกว่าจึงเตะมันออกไป จนตกลงไปในน้ำ นางพูดด้วยเสียงที่หนักแน่นว่า “หยวนชิงหลิง วันนี้เจ้าจะต้องตายที่นี่”
หยวนชิงหลิงเห็นหมันเอ๋อต่อสู้กับพวกกรรมกร พวกกรรมกรทั้งสามคนนี้ดูเหมือนไม่ใช่กรรมกร ฝีมือการต่อสู้ของพวกเขาดีมาก หมันเอ๋อต้องรับมือสู้หนึ่งต่อสาม และฝ่ายตรงข้ามมีมีดสั้น หมันเอ๋อคงต้องลำบากที่จะจัดการแล้ว
ในขณะที่ไม่ทันได้ระวังตัว มีดสั้นก็แทงเข้าที่แขนของนาง หมันเอ๋อรีบถอยออกไป แต่ยังคงบังอยู่ด้านหน้าของ หยวนชิงหลิง หนึ่งในกรรมกรเตะเข้าที่ท้องของหมันเอ๋อ หมันเอ๋อก้มตัวลง ขางอเล็กน้อย พุ่งออกไปกระแทกคนคนนั้นล่วงลงไปในน้ำเหมือนเสือดาว
หยวนชิงหลิงรู้ว่านางไม่ควรเป็นภาระของหมันเอ๋อได้อีกต่อไป นางจึงหันหลังกลับจับเสื้อผ้าของฉู่หมิงชุ่ย จากนั้นดึงผมของนางอย่างแรง ดึงปิ่นปักผมจ่อไปที่คอของนาง พูดกับกรรมกรด้วยความโกรธว่า “พวกเจ้าถอยไป มิเช่นนั้นข้าจะฆ่านาง พวกเจ้าก็จะไม่ได้เงินแม้แต่แดงเดียว”
กรรมกรหยุดและมองหน้ากันอย่างค่อนข้างลังเล
งานขายชีวิตแบบนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเงินค่าจ้าง ถ้าหากฉู่หมิงชุ่ยตายไป พวกเขาก็เท่ากับทำงานฟรี
ฉู่หมิงชุ่ยพูดขึ้นด้วยเสียงดังว่า “ฆ่าพวกเขา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่เครื่องประดับที่ข้ากับนางใส่ก็ราคามากกว่าสองพันตำลึง นอกจากนี้ในตัวนางยังมีไข่มุกหนันซึ่งมีค่ามหาศาล ไม่เชื่อพวกเจ้าก็ค้นดู”
ทันใดนั้นสายตาแห่งความโลภก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของกรรมกร
มีค่ามากมายมหาศาล เมื่อพวกเขาทำงานนี้เสร็จ ก็สามารถที่จะวางมือได้ ไม่ต้องทำงานที่เสี่ยงเสียเลือดเสียเนื้ออีกต่อไป
ดวงตาของหยวนชิงหลิงมืดลง จับผมของฉู่หมิงชุ่ยแล้วดึงไปข้างหลังอย่างแรง ทำให้ใบหน้าของนางแหงนขึ้น หยวนชิงหลิงดึงมีดสั้นในมือของนางออกมา แล้วกรีดไปที่หน้าของฉู่หมิงชุ่ยสองสามแผล
ฉู่หมิงชุ่ยกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยเลือด หยวนชิงหลิงจับนางแล้วลากไปด้านหลัง เพื่อให้หมันเอ๋อมีช่องว่างในการต่อสู้
เห็นได้ชัดว่าศิลปะการต่อสู้ของหมันเอ๋อด้อยกว่าคนเหล่านี้ แต่นางมีพลังมาก
แต่ความแข็งแกร่งนี้ก็ทำให้นางได้แผลไปทั่วทุกที่ คนพวกนั้นโลภมากอยากได้ไข่มุกหนันบนตัวของหยวนชิงหลิงจนบ้าคลั่ง ต้องการเพียงแค่จะฆ่าหมันเอ๋อโดยเร็วที่สุด
หยวนชิงหลิงเห็นว่าหมันเอ๋อถูกทำร้ายจนไม่เหลือสภาพแล้ว จึงเกิดความกังวลอยู่ในใจ ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาได้ จึงตะโกนออกไปว่า “หมันเอ๋อ ศิลปะการแห่งความหลงใหลของเจ้า”
หมันเอ๋อฟื้นคืนสติ นางจึงยกกระดิ่งสีเงินในมือขึ้นแล้วเขย่าสองสามครั้ง
เสียงของกระดิ่งนั้นคมชัดมาก นางโรยผงสีขาวจากกระเป๋าแขนเสื้อของนาง เมื่อผงแป้งถูกลมพัด คนไม่กี่คนพวกนั้นได้สูดเข้าไปบางส่วน เมื่อได้ฟังเสียงของกระดิ่งนี้อีก ก็ตัวแข็งทื่อ มีดสั้นของพวกเขาก็ร่วงลงพื้น
ฉู่หมิงชุ่ยเหมือนกับคนบ้า พุ่งเข้ามากัดแขนของหยวนชิงหลิงอย่างบ้าคลั่งไม่ยอมปล่อย อยากที่จะตอบโต้หยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงรู้สึกเจ็บปวดมากจนนางหยิบปิ่นปักผมแทงเข้าที่ท้องและหน้าอกของฉู่หมิงชุ่ย ในที่สุดก็ทำให้ฉู่หมิงชุ่ย ปล่อยจากการกัด และค่อยๆล้มลงอย่างช้าๆ
หยวนชิงหลิงเหนื่อยมากจนไม่มีเรี่ยวแรง นางจึงนั่งลงอย่างช้าๆ หายใจอย่างแรง ความเจ็บปวดที่แขนของนางรุนแรงอย่างมาก เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน นางลูบดู มันเหมือนกับว่าชิ้นส่วนเนื้อจะหลุดเลยอย่างนั้น
หมันเอ๋อก็นอนอยู่บนดาดฟ้าเช่นกัน นางเหนื่อยจนหมดพลังและบาดเจ็บไปทั้งตัว
ส่วนพวกกรรมกรที่ยังคงอยู่บนเรือ ยังอยู่ในอาการลุ่มหลง นอนระเกะระกะอยู่บนดาดฟ้าทั้งหมด
น้ำยังคงไหลเข้าเรืออย่างต่อเนื่อง
อยากมีชีวิตรอดก็ต้องหนีกันต่อไป
หยวนชิงหลิงยืนขึ้นอย่างช้าๆ พยายามเดินไปหาหมันเอ๋อเพื่อพยุงนางขึ้น ฉู่หมิงชุ่ยดึงที่เท้าของหยวนชิงหลิง นางตัวสั่นเทาไปทั้งตัว พร้อมพูดขึ้นว่า “หยวนชิงหลิงช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากตาย รีบช่วยข้า ช่วยด้วย …”
หยวนชิงหลิงถูกนางดึงจนเกือบจะล้มลง
คนที่ถูกพ่นด้วยสเปรย์พริกอาการได้ทุเลาลงแล้ว เขาตรงเข้าไปหยิบมีดสั้นขึ้นมาปรี่ตรงเข้าไปหาหยวนชิงหลิง
หมันเอ๋อเห็นดังนั้น จึงเข้าไปกอดขาของชายคนนั้น ชายคนนั้นล้มลงกับพื้น เดิมทีมีดสั้นในมือของเขาเล็งไปที่ท้องของ หยวนชิงหลิง เมื่อโดนหมันเอ๋อกอดขาดึงล้มลง มีดสั้นนั้นจึงแทงเข้าที่เท้าของหยวนชิงหลิง เลือดไหลนองพื้น
หมันเอ๋อหยิบมีดผ่าตัดของหยวนชิงหลิงที่ตกบนดาดฟ้าขึ้นมา แล้วแทงไปที่คอของกรรมกรคนนั้น
นางคลานเข้าไปหาหยวนชิงหลิง อยากที่จะฉีกเสื้อผ้าเพื่อพันแผลให้หยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงหยิบกล่องยาออกมาอย่างรวดเร็ว หยิบยาฆ่าเชื้อ ผ้าพันแผลออกมา และหยุดเลือดฆ่าเชื้อของตัวเองอย่างรวดเร็ว และยังฉีกแขนเสื้อของนาง นางจึงเห็นว่าที่ฉู่หมิงชุ่ยกัดนั้นเนื้อเกือบหลุดออกมา
นางเทยาฆ่าเชื้อลงบนแผลโดยตรง เจ็บปวดจนทำให้นางสั่นสะท้านไปทั้งตัว

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset