หยวนชิงหลิงมองดูเขา หัวใจเต้นค่อนข้างรุนแรง พร้อมถามขึ้นด้วยเสียงแหบว่า “หมายความว่าอย่างไร?”
นิ้วมือของเขาค่อยๆชี้ไปที่หัวใจของนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ภายในนี้ เปลี่ยนเป็นคนอีกคน”
“หา?”นางขมวดคิ้ว แล้วก็หัวเราะ
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “อย่าทำเป็นนิ่ง ในใจเจ้าตื่นเต้นจะตาย”
หยวนชิงหลิงอืมหนึ่งที ก้มหน้าจัดการเสื้อผ้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าลองพูดมาสิว่าข้าตื่นเต้นยังไง”
หยู่เหวินเห้าประคองใบหน้าของนางไว้ จ้องมองดูดวงตาของนาง จ้องมองจนหยวนชิงหลิงใจไม่ดี จึงพูดขึ้นว่า “มองอะไร? มีอะไรก็พูดมา”
แววตาหยู่เหวินเห้าค่อยๆอ่อนโยนลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่พูด ไม่อยากเห็นเจ้าพยายามโกหก คำพูดของเจ้าพวกนั้น ตัวเจ้าเองยังพูดวกไปวนมา”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างเขินอายว่า “อะไรกัน?”
หยู่เหวินเห้ายักไหล่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รู้ว่าไปเรียนฝีมือการแพทย์มาได้อย่างไร ไม่รู้ว่าทำไมกล่องยานั่นถึงได้กลายเปลี่ยนเป็นใหญ่เล็กได้ในทันใด ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นมาจากไหน ถึงแม้ตอนนั้นท่าทีของเจ้าจริงจังมาก แต่ทุกสิ่งก็ไม่สามารถยืนหยัดนำมาพิจารณาได้”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “ตอนนั้นเจ้าเชื่อแล้ว”
“ข้าไร้เดียงสา เชื่อผู้หญิงชั่วร้ายอย่างเจ้าคนนี้”หยู่เหวินเห้าอุ้มนางขึ้นมา โรงอาบน้ำนี้ทำได้ไม่ดี ระบายน้ำช้า ทำให้พื้นลื่น
หยวนชิงหลิงซบอยู่ตรงหน้าอกของเขาพร้อมกับหัวเราะ ที่จริงเจ้าห้าค่อนข้างเถื่อนไปหน่อย แต่ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นละเอียดอ่อนแล้ว
อย่างน้อยเขาก็สามารถระงับความสงสัยภายในใจไว้ได้ ไม่มาบีบบังคับนาง
ช่างเถอะ คำพูดพวกนี้ไม่จำเป็นต้องพูดแล้ว ที่จริงเขาก็รู้อยู่แก่ใจแล้ว
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ทั้งสองสามีภรรยาก็พูดคุยกันอยู่สักพัก หยู่เหวินเห้าค่อยกลับไป
หยวนชิงหลิงกำลังจะนอน ก็ได้ยินหมันเอ๋อเดินมาอย่างเร่งรีบ พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “พระชายา อ๋องเว่ยมาอย่างโกรธจัด บอกว่าจะพบท่าน”
หยวนชิงหลิงอืมหนึ่งคำ พร้อมพูดขึ้นว่า “เร็วขนาดนี้เชียว? ข้ายังคิดว่าจะมาพรุ่งนี้เสียอีก”
“มาแล้ว อยู่ด้านนอก ท่าทางดุร้าย อย่างกับจะกินเนื้อคน พระชายา อย่าเจอเลยดีไหม”หมันเอ๋อค่อนข้างเป็นกังวล
หยวนชิงหลิงยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร เขาไม่กินเนื้อข้าหรอก พาไปยังห้องด้านข้าง ข้าจะรีบตามไป”
นางเปลี่ยนถอดชุดนอนออก สวมเสื้อผ้าตัวหนาแทน เอาไม้ปราบใส่เข้าไปในกระเป๋าแขนเสื้อด้วย พาแม่นมสี่กับอะซี่ออกไปพร้อมกัน
หลังจากอ๋องเว่ยกลับมาถึงจวน ก็ไม่ไปหาพระชายาเว่ย ตรงไปยังหอเวินกู้ เมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในวันนี้ แล้วก็มองดูใบหน้ากู้จือที่ร้องไห้จนบวม ไฟแห่งความโกรธเพิ่มพูนขึ้น พร้อมพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “นาง พระชายาอ๋องฉู่ กล้ามายุ่งเรื่องภายในจวนอ๋องเว่ยของข้า นางคิดว่านางเป็นใคร?”
เมื่อก่นด่าเสร็จแล้ว ก็ไม่สนใจที่จะไปหาพระชายาเว่ยก่อน มุ่งหน้าตรงมายังจวนเจ้าพระยาจิ้งทันที
หลังจากมาถึงจวนเจ้าพระยาจิ้ง ความโกรธเคืองของเขาก็ซ่อนไว้ไม่ไหวแล้ว คว้าคอเสื้อคนเฝ้าประตูด้วยมือเดียว พร้อมพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ไม่ว่าพระชายาพวกเจ้าจะนอนแล้วหรือยัง รีบไปตามนางมาพบข้า”
คนเฝ้าประตูเห็นท่าทีดุร้ายของเขาแล้วก็ตกใจ รีบวิ่งไปหาหมันเอ๋อ
เฮ้อ จวนเจ้าพระยาจิ้งจะกล้ามีเรื่องกับคนที่มีสถานะขนาดนี้หรือ?
เมื่อตอนที่หยวนชิงหลิงมาถึงห้องด้านข้าง อ๋องเว่ยก็นั่งอยู่บนเก้าอี้หลักแล้ว
เขาสวมชุดของประจำราชสำนัก พร้อมคลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำ แต่งตัวเหมือนกับเจ้าห้า และเมื่อมองดูตาคิ้ว ก็ดูคล้ายเจ้าห้ามาก
เพียงแต่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แผดเผาไปด้วยความโมโห ทำให้รูปร่างใบหน้าตระกูลหยู่เหวินแลดูดุร้ายขึ้นมา
เขาเห็นหยวนชิงหลิงเข้ามา ดวงตาดวงนั้นก็ลุกเป็นไฟขึ้นมาทันที จ้องมองหยวนชิงหลิง เป็นเหมือนกับที่หมันเอ๋อพูดจริงๆ แทบจะกินคนได้อยู่แล้ว
ส่วนหยวนชิงหลิง สีหน้าแดงระเรื่อ ตาคิ้วแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ค่อยๆเดินเข้ามา ย่อคำนับพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รู้ว่าพี่สามจะมา เสียมารยาทแล้ว ขอพี่สามโปรดอภัย”
พูดเสร็จ ก็ไม่รอให้เขาพูดอะไร เดินไปแล้วก็นั่งลง
ดวงตาอ๋องเว่ยฉายแววโกรธจัด ยกฝ่ามือขึ้น ตบลงบนโต๊ะอย่างแรง
“ปัง”ดังขึ้น มีอะไรบางอย่างตกลงใต้โต๊ะเร็วกว่าเขา เขาหันไปมองดู กลับเห็นในมือหยวนชิงหลิงถือไม้อะไรสักอย่างไว้ ตบอยู่บนโต๊ะโดยตรง
ตาของเขาไม่ได้บอด มองออกว่าเป็นไม้ปราบที่ไท่ซ่างหวงทรงประทาน
ความโมโหถูกไม้ปราบระงับไว้ทันที
เขาพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “ได้ยินว่าวันนี้เจ้าไปที่จวนอ๋องเว่ย”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ใช่ พี่สาม พี่สะใภ้สามดีขึ้นบ้างหรือยัง? ยังเจ็บอยู่ไหม? ยาที่ข้าให้ นางทานแล้วหรือยัง?”
อ๋องเว่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ไม่รู้ ข้าไม่ได้มาด้วยเรื่องนี้”
หยวนชิงหลิงมองดูด้วยแววตาแปลกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้? งั้นพี่สามมาด้วยเรื่องอะไร?”
ความโกรธของท่านอ๋องที่แน่นเต็มอกอดทนไม่ไหวแล้ว พูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “เจ้าไปทำให้กู้จือลำบากใจใช่ไหม?”
แววตาหยวนชิงหลิงค่อยๆเป็นประกายเยือกเย็น พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำให้ลำบากใจ? ทำให้ลำบากใจยังไง?”
“ในใจเจ้ารู้ดี”อ๋องเว่ยเพ่งมองนาง
หยวนชิงหลิงหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้ดี รู้ดีแน่นอน พี่สามเป็นถึงอ๋อง แต่กลับขืนใจกักขังหญิงสาวไว้ในจวน บีบบังคับให้นางมีลูกให้เจ้า หากไม่ใช่เพราะวันนี้ข้ากับพระชายาจี้พระชายาซุนไปพร้อมกัน ได้ยินกู้จือร้องไห้พูดขึ้นมาด้วยตนเอง ว่าเจ้าบีบบังคับขืนใจนาง ข้ายังจะไม่เชื่อว่าพี่สามจะเป็นคนเช่นนี้”
“เจ้าพูดไปเรื่อย กู้จือไม่มีทางพูดเช่นนี้”อ๋องเว่ยโกรธจนทนไม่ไหวตบโต๊ะลงไปหนึ่งที
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “ข้าได้ยินเองกับหู พระชายาจี้กับพระชายาซุนก็ได้ยินกับหู ยังมีอะซี่ นอกเสียจากหูของพวกเราทั้งสี่คนมีปัญหาพร้อมกัน แต่กู้จือถือว่าเป็นใครกัน? เรื่องของนางไม่คู่ควรที่ขาดจะไปยุ่ง สิ่งที่ข้าต้องการถามคือเรื่องพี่สะใภ้สาม นางตกลงมาจากตึกสูง จนขาหัก พี่สามไม่ถามอาการของนาง กลับมายังจวนเจ้าพระยาจิ้ง เพื่อถามข้าว่ารังแกหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งหรือไม่ ต่อให้ข้าบอกเจ้าว่า วันนี้ข้ารังแกนาง แล้วยังไง?”
อ๋องเว่ยตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “หยวนชิงหลิง เจ้าอย่ากำเริบเสิบสานจนเกินไป”
หยวนชิงหลิงก็ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “หยู่เหวินเว่ย เจ้าอย่าใจจืดใจดำเกินไป”
อ๋องเว่ยโกรธจนปากเบี้ยว ยื่นมือชี้หยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ข้าขอเตือนเจ้า เจ้าอย่ามายุ่งเรื่องภายในจวนของข้า ไม่เช่นนั้น เจ้าเจอดีแน่”
หยวนชิงหลิงยกไม้ปราบขึ้นมา ชี้ไปทางด้านเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะบอกเจ้า ข้าจะยุ่งอย่างแน่นอน”
“เจ้ากล้าหรือ? หากเจ้ากล้าเหยียบเข้าไปในจวนอ๋องเว่ยของข้าอีกก้าว ข้าจะไล่นางชุยออกจากจวนทันที ให้เจ้าไปช่วยนาง”
หยวนชิงหลิงได้ยินประโยคนี้ ความโกรธที่แน่นเต็มอกก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ยกไม้ปราบชูขึ้น แล้วตีลงไปบนตัวของเขา พร้อมก่นด่าว่า “หยู่เหวินเว่ย เจ้าอำมหิตโหดเหี้ยม ไม่สำนึกบุญคุณคน เห็นสนมดีกว่าภริยา ไม่ตายดีแน่ ในเมื่อเจ้าไม่รักพี่สะใภ้สาม ก็ไม่ควรที่จะไปยุ่งกับนางตั้งแต่แรก คนอื่นเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว เจ้ากลับดันทุรังทำทุกอย่าง ทำร้ายชีวิตคู่ของคนอื่น ตอนนี้เพิ่งแต่งงานได้กี่ปีเอง? เจ้าก็ทอดทิ้งนางแล้ว คุณหนูตะกูลชุยคนหนึ่ง ลูกสาวที่เขาเลี้ยงดูมาอย่างดี เพื่อให้เจ้าย่ำยีหรือ? ด้วยเหตุผลอะไร? เจ้าคนเนรคุณ ผู้ชายบนโลกล้วนต้องอับอายเพราะเจ้า เจ้าทอดทิ้งนางไม่เป็นไร ขอให้เจ้ารีบหย่ากับนาง วันที่พวกเจ้าหย่ากัน ข้าจะแนะนำคู่ชีวิตให้นางใหม่ แต่งงานอย่างสมศักดิ์ศรี และก็จะป่าวประกาศไปทั่วแผ่นดินว่าอ๋องเว่ยเห็นสนมดีกว่าภริยา ได้หงส์มาครอบครองอย่างง่ายๆไม่เห็นค่า ไปรักชอบแม่ใจแก่”
ตีลงไปในครั้งนี้ ตีจนอ๋องเว่ยไม่มีทางหลบ ภายใต้ความวุ่นวาย ใช้มือจับไม้ปราบไว้ มืออีกข้างหนึ่งยกขึ้น กำลังจะตบลงไปบนหน้าหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงยื่นท้องไปข้างหน้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ากล้าตบลงมา ข้าก็จะนอนลงบนพื้นไม่ลุกขึ้นมา ผมของข้าหลุดไปหนึ่งเส้น กู้จือของเจ้าก็จะถูกหั่นเป็นศพหมื่นชิ้น”
บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 380 เจ้าลองตีข้าดู
Posted by ? Views, Released on September 28, 2021
, บัลลังก์หมอยากเซียน
ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"
Recommended Series
Comment
Facebook Comment