นั่งอยู่สักพักใหญ่ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะดังขึ้น ห้าทุ่มแล้ว
คืนนี้ชั่งยืดยาวจังเลยนะ!
หยู่เหวินเห้ากลับมาแล้ว เข้ามาพร้อมกับทังหยาง ทังหยางจัดการให้คนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องออกไป แล้วปิดประตู
หยู่เหวินเห้าก็ใช้แก้วของหยวนชิงหลิงดื่มชาร้อนไปทั้งแก้ว ถอดเสื้อคลุมแล้วนั่งลง มองดูพระชายาจี้ “ท่านพี่สะใภ้ใหญ่ ในนี้ไม่มีคนอื่น เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ท่านบอกมา”
พระชายาจี้มองดูหยู่เหวินเห้า กล่าวถามด้วยเสียงแหบพร่า: “ท่านบอกข้าก่อน แผนที่ทางการทหารนั่นค้นออกมาได้จากในห้องลับของเขา จะถูกตัดสินชี้ขาดว่าเป็นการก่อกบฏหรือไม่?”
หยู่เหวินเห้าถอนหายใจ กล่าว: “พร้อมกับวิชามนต์ดำ ทั้งสองอย่างทูลถวายให้เสด็จพ่อ ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ?”
สีหน้าของพระชายาจี้ซีดขาว “ข้า…..ข้าไม่รู้ว่าทำไมแผนที่ทางการทหารนั่นถึงอยู่ด้านใน”
นางก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง เงยหน้ามองหยู่เหวินเห้าแล้วกล่าว: “ท่านก็น่าจะเดาออกคร่าวๆแล้ว คืนนี้จวนอ๋องจี้ไม่ได้มีการถูกขโมยของ เป็นข้าที่บอกให้คนทำ จุดประสงค์ก็คือล่อพวกท่านมาดูสิ่งของด้านในห้องลับนั่น เหล่านี้ก็ไม่ใช่ข้าที่ใส่ร้ายป้ายสี เป็นเขาทำเอง ข้ารู้เรื่องสิ่งของด้านในมาระยะหนึ่งแล้ว แต่วิธีการเช่นนี้ข้าไม่ได้เห็นค่าโดยสิ้นเชิง จึงไม่ได้สนใจ หลังจากนั้นเขาจะคิดหมายปองเมิ่งเยว่ ข้าจึงจำเป็นต้องเปิดโปงเขา จุดประสงค์ของข้าเพียงแค่ต้องการให้เขาถูกลงโทษเท่านั้น”
นางหมุนขยับแก้วน้ำในมือ กล่าวต่อ: “ตอนนั้นข้าพาเมิ่งเยว่มาหาพระชายารัชทายาท ต้องการให้นางไหว้พระชายารัชทายาทเป็นอาจารย์ ป้องกันก็คือมีวันหนึ่งที่ข้าอดไม่ได้ต้องการทำเช่นนี้ ข้าและเขาสามีภรรยาเป็นคนคนเดียวกัน เขาถูกลงโทษ ข้าก็จะถูกลดขั้นเป็นประชาชน ดังนั้นจึงได้ไตร่ตรองจัดการเมิ่งเยว่ให้ดีก่อน สำหรับเมิ่งซิง ข้าก็ได้ฝากฝังกับพี่ชายที่ครอบครัวของตัวเองล่วงหน้าแล้ว ไม่สามารถเอาพวกเขาทั้งสองฝากฝังให้พวกท่านดูแลทั้งหมดได้……จัดการอุบัติเหตุการถูกขโมยครั้งนี้ ข้าก็ได้ครุ่นคิดทบทวนแล้ว เสด็จพ่อจะลงโทษเขาอย่างเฉียบขาด แม้ว่าจะลงโทษเขา ก็จะไม่พัวพันถึงข้าและจวิ้นจู่มากนัก ใครจะรู้ ด้านในห้องลับนั่น จะมีแผนที่ทางการทหารที่ถูกขโมยของกรมการทหารอย่างคาดไม่ถึง ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ หากว่าพิจารณาด้วยโทษของการก่อกบฏจริงๆ กลัวเพียงแค่ทั้งบ้าน……”
เสียงของพระชายาจี้ค่อยๆลดต่ำลง เช่นนั้นผลลัพธ์นางก็สามารถเดาได้
หยวนชิงหลิงได้ฟังนางพูดเช่นนี้ ตกใจเป็นที่สุด “แผนที่ทางการทหารเป็นอ๋องจี้ขโมยหรือ? เขา……ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเขา เพียงแค่รู้สึกว่าเขาไม่สามารถวางแผนการใหญ่เช่นนี้ได้ ขโมยแผนที่ทางการทหารไปก่อน แล้วค่อยหยิบเอาป้ายเหล็กของเสด็จพ่อไป ต่อจากนั้นก็วางแผนทำให้เจ้าเจ็ดเกือบจะตกเข้าไปในหลุมพรางลึก เขาไม่สามารถทำได้”
หยู่เหวินเห้ากล่าว: “ดูแล้วเขาไม่ได้รู้เรื่อง ยังคิดว่าข้าใส่ร้ายป้ายสีเขาอยู่เลย”
มือสองข้างของพระชายาจี้กำที่เท้าแขนของเก้าอี้แน่น นิ้วมือกดไว้ เล็บมือล้วนขาวเป็นแผ่นใหญ่แล้ว “เช่นนั้นบุคคลเบื้องหลัง ลึกลับขนาดนี้อีกทั้งแข็งแกร่งขนาดนี้ ข้างกายข้าเกรงว่าจะมีคนที่ถูกเขาติดสินบนแล้ว คนผู้นั้นต้องการกำจัดหยู่เหวินจุนอย่างสมบูรณ์”
“กำจัดพระโอรสองค์หัวปี เอื้อประโยชน์อะไรต่อคนผู้นี้ล่ะ?” หยวนชิงหลิงมองไปทางหยู่เหวินเห้า
หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้วแน่น “เจ้าคิดดู ผู้ใดที่เห็นเขาขวางหูขวางตาต้องการจะกำจัดล่ะ? ใครเป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด? คนที่สมควรโดนสงสัยที่สุดเกรงว่าก็คือข้าหรือเจ้าเจ็ดแล้ว”
“ดังนั้น จุดประสงค์ของคนผู้นี้คือต้องการตีให้พ่ายแพ้ไปทีละขั้นหรือ?” หยวนชิงหลิงตกตะลึง
หยู่เหวินเห้าคิดไตร่ตรองอย่างละเอียดครู่หนึ่ง “ไม่แน่ว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาต้องการทำให้ความขัดแย้งภายในของพวกเราเลวร้ายขึ้น ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อล้มป่วย พวกเราพี่น้องถึงได้ปรองดองสามัคคีกัน ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น จะต้องระแวงกันและกันอีกแน่นอน อย่างน้อย มองวิเคราะห์ไปจากตอนนี้ ถ้าหากคนที่อยู่เบื้องหลังแผนการไม่ใช่พี่สี่ เช่นนั้นพี่สี่จะต้องคิดว่าข้าลงมือต่อพี่ใหญ่แน่ ในเมื่อข้าสามารถขุดรากถอนโคนพี่ใหญ่ได้ ก็จะต้องขุดรากถอนโคนเขา อย่างน้อยเขาก็จะสงสัยเช่นนี้”
ทังหยางพูดต่อ “ในทางกลับกัน ก็เช่นกัน เกรงเพียงแค่ว่ารัชทายาทก็จะสงสัยอ๋องอาน”
“การป้องกันรักษาของจวนอ๋องจี้ละเอียดรอบคอบเป็นที่สุด คนผู้นี้เอาแผนที่ทางการทหารเข้าไปวางไว้ในห้องลับอย่างไร้วี่แวว ก็ไม่ใช่คนธรรมดา” พระชายาจี้กล่าว
“ท่านมีคนที่สงสัยหรือไม่?” หยู่เหวินเห้าถาม
พระชายาจี้ส่ายศีรษะช้าๆ “ไม่มี ในเวลาอันสั้นก็คิดไม่ออกจริงๆว่าเป็นผู้ใดกันแน่ เดิมทีคนที่รู้จักห้องลับก็ไม่มาก อีกทั้งคนข้างกายของเขาโดยปกติข้าล้วนเตรียมการป้องกัน ข้าวางแผนการคืนนี้ก็จะต้องปิดบังพวกเขาอย่างแน่นอน”
ทังหยางเรียบเรียงครู่หนึ่ง กล่าวว่า: “หากคนผู้นี้ต้องการรู้การเคลื่อนไหวในคืนนี้ของท่าน อีกทั้งต้องสามารถเข้าออกห้องลับได้โดยไม่ทำให้คนสนใจ คิดว่าจะต้องเป็นคนที่มีอำนาจพอควรในจวนอ๋องจี้เป็นแน่ อย่างน้องเข้าออกห้องหนังสือกระทั่งเดินเหินข้างกายของท่านก็ล้วนไม่ได้ดึงดูดให้คนสนใจ”
พระชายาจี้คิดแล้วคิดอีก “ไม่มีคนเช่นนี้จริงๆ”
นางชะงักครู่หนึ่ง “แต่ก่อนหน้านี้ฉู่หมิงหยางมีการจัดคนมาข้างกายของข้า หลังจากถูกข้ามองออก ข้าก็ไม่ได้ไล่ไป เพียงแค่ทำแผนซ้อนแผนปล่อยให้นางอยู่ในบ้าน กิจธุระต่างๆใกล้ตัวของข้า ทั้งหมดไม่ใช่นางรับผิดชอบ เพียงแค่มีบางเวลาที่ถ่ายทอดข่าวสารปลอมให้นาง นางก็จะไปรายงานฉู่หมิงหยาง จะเป็นได้หรือไม่?”
ทังหยางไม่ได้รู้จักฉู่หมิงหยางสักเท่าไหร่ เพียงแค่คิดถึงการกระทำทุกอย่างของนาง จึงกล่าว: “กลัวเพียงแค่นางจะสมคบกับใคร อีกทั้ง คนผู้นี้บุ่มบ่ามเป็นอย่างมาก อาจจะไม่ใช่นาง”
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่ เจ้าบอกว่านางบุ่มบ่าม นั่นคือมองนางผิดไป อันที่จริงฉู่หมิงหยางมีแผนการในใจที่ชั่วร้ายมาก ที่บอกว่าบุ่มบ่ามใช้อำนาจบาตรใหญ่เป็นเพียงภายนอก หากว่าพูดเรื่องแผนการในใจ นางไม่ได้แพ้ฉู่หมิงชุ่ยแม้แต่น้อย พวกท่านสามารถถามหมันเอ๋อได้”
นึกถึงตอนนั้นที่ฉู่หมิงหยางทำเรื่องสกปรก ก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งฉู่หมิงหยางดูถูกฉู่หมิงชุ่ยพี่สาวผู้นี้มาจากก้นบึ้งของจิตใจ คิดว่าวิธีการของนางต่ำเกินไป
พระชายาจี้พยักหน้า “ไม่ผิด ในวันปกตินางอยู่ในจวนอ๋องจี้ก็ก่อความวุ่นวายตื้อไม่หยุด เป็นศัตรูกับข้า เป็นเพราะนางรู้ว่าเล่นแผนการในใจเล่นไม่ชนะข้า จึงนอนลงพื้นกลิ้งไปกลิ้งมาทำให้ข้าลำบากใจเสียเลย แตกหักกับข้าเช่นนี้ ข้ากลับจัดการนางอย่างโจ่งแจ้งได้ยาก บอกว่ามีแผนการในใจ ก็เป็นเรื่องจริง”
“ยังมี……” หยู่เหวินเห้าหรี่ดวงตาลง “แม้ว่าจะนางจะเป็นชายารองของจวนอ๋องจี้ แต่นางเป็นคนของตระกูลฉู่ เกิดเรื่องขึ้นจริง ตระกูลฉู่สามารถปกป้องนางไว้ได้”
พระชายาจี้ใบหน้าซีดขาว “วันก่อนนางสร้างความลำบากให้เมิ่งเยว่ เคยถูกข้าขังอยู่ในห้องลับ หลังจากที่ออกมาก็กลับบ้านของนาง ดังนั้นถ้าหากว่าจวนอ๋องฉู่ต้องถูกถามโทษ ยังมีความมั่นใจอย่างมากว่าตระกูลฉู่จะสามารถปกป้องนางได้”
จิตใจของทุกคนล้วนฟื้นฟูขึ้นเล็กน้อย เพราะคนผู้นี้ซ่อนตัวอยู่ลึกมากเกินไปจริงๆ หากว่าฉู่หมิงหยางสมคบกับเขา ก็สามารถยืนยันจุดนี้ได้ เช่นนั้นก็รอฉีกรอยแตกออกทีละนิดพร้อมกัน
หยู่เหวินเห้ากล่าว: “ท่านพี่สะใภ้ใหญ่ เรื่องนี้ข้ากดไว้ก่อน พรุ่งนี้ตอนเที่ยงถึงจะเข้าวังไปรายงานเสด็จพ่อ ท่านกลับไปตรวจสอบหน่อย ดูว่าคนที่ฉู่หมิงหยางสอดแทรกเข้ามาอยู่ข้างกายของท่านได้เคยออกไปหรือไม่ หากว่ามี เช่นนั้นคาดว่าก็คือได้รับข่าวสารไปแจ้งแก่ฉู่หมิงหยางแล้ว โดยพื้นฐานสามารถตัดสินได้ว่าฉู่หมิงหยางสมคบกับคนผู้นั้นแล้ว”
พระชายาจี้ตอบรับคำหนึ่ง มองดูหยู่เหวินเห้า เอ่ยถามอย่างลำบากใจ: “มีวิธีชำระล้างโทษข้อกล่าวหาการขโมยแผนที่ทางการทหารของเขาหรือไม่?”
พระชายาจี้ก็จนปัญญาเป็นอย่างมาก วางแผนลอบทำร้ายสามี เป็นสิ่งที่โลกไม่สามารถปรานีได้ นางล่อคนของกรมการพระนครมา เอาเรื่องชั่วช้าของเขาประกาศต่อโลก จากความรักความเมตตาของฮ่องเต้ที่มีต่อเขา ชีวิตสามารถปกป้องไว้ได้
แต่ว่า ด้านในนี้มีแผนที่ทางการทหาร เช่นนั้นก็ไม่ใช่ศีรษะของเขาง่ายดายขนาดนั้นแล้ว
คิดถึงความประมาทชั่วขณะของตัวเอง มีความเป็นได้ที่จะทำให้จวนอ๋องจี้ทั้งจวนล่มสลายได้ นางก็คับแค้นใจจนทนไม่ได้
บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 766 ค่อยๆฉีกออกเป็นช่องหนึ่ง
Posted by ? Views, Released on November 10, 2021
, บัลลังก์หมอยากเซียน
ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"
Recommended Series
Comment
Facebook Comment