วันนี้อ๋องชินเฟิงอันเข้าวังไปแล้ว อยู่ภายในพระตำหนักฉินคุน
อาการบาดเจ็บของไท่ซ่างหวงไม่เป็นอะไรมากแล้ว แต่ภรรยาคู่สมรสจากไปแล้ว ก็ถือว่าส่งผลกระทบต่อเขาอยู่แน่นอน แถมล้มจนเสียเลือดมาก แลดูเหี่ยวเฉาหมดแรงอย่างมาก
อ๋องชินเฟิงอันตามฮ่องเต้หมิงหยวนมาด้วย ทั้งสามคนคุยกันถึงเรื่องที่อ๋องชินเป่าร้องขอ
ฮ่องเต้หมิงหยวนยังไม่พูดอะไร ไท่ซ่างหวงก็พูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “คนทรยศ จะให้มีพระอิสริยยศเป็นเสด็จ ตอนนั้นเสด็จพ่อแก้ชื่อให้กับเขา ได้กบฏต่อเจตจำนงของฮ่องเต้เซี่ยนแล้ว ตอนนี้จะให้เขามาข่มขู่ไม่ได้เด็ดขาด”
ถึงแม้ฮ่องเต้หมิงหยวนจะเห็นด้วยกับคำพูดของไท่ซ่างหวง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ตอนนี้แผนที่ทางการทหารกับพระศพฮ่องเต้ฮุยจง ล้วนอยู่ในมือของเขา เสด็จลุง เสด็จพ่อ ท่านทั้งสองคิดว่า ควรทำอย่างไรดี?”
ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า ลูกหลายตระกูลหยู่เหวิน จะรับการถูกข่มขู่ไม่ได้เด็ดขาด อย่าว่าแต่พระศพ ต่อให้เอามีดมาจ่อตรงคอของข้า จะเอาชีวิตของข้า ก็จะตอบตกลงไม่ได้ การกระทำนี้ถือเป็นการอกตัญญู แต่เมื่อคิดดูดีๆแล้ว ยังไงก็เป็นการอกตัญญู จะให้เขาสมหวังได้อย่างไร?
“งั้น…เงื่อนไขแรกไม่ตกลง เงื่อนไขที่สองก็ไม่ตกลงอยู่แล้ว” ฮ่องเต้หมิงหยวนแอบมองดูอ๋องชินเฟิงอันแว็บหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จลุง ท่านมีหนทางระงับความไม่พอใจของเขาไหม?”
“ทำไม? เจ้าจะให้ข้าไปขอโทษขออภัยเขาหรือ?”อ๋องชินเฟิงอันมองดูเขาแวบหนึ่ง สีหน้าเคร่งขรึม
“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนี้”ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้น
ไท่ซ่างหวงถามขึ้นว่า “ทางด้านองค์ชายรัชทายาท สืบไปถึงไหนแล้ว?”
ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นว่า “องค์ชายรัชทายาทได้ส่งคนไปซีเจ้อแล้ว แต่ไปถึงซีเจ้อแล้วมากสุดก็สามารถช่วยฮูหยินใหญ่กลับมาได้ แผนที่ทางการทหารกับพระศพของฮ่องเต้ฮุยจง จะต้องไม่อยู่ที่ซีเจ้ออย่างแน่นอน”
ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างเด็ดขาดว่า “ฮูหยินใหญ่จะต้องช่วยกลับมา หากเกิดอะไรขึ้นกับฮูหยินใหญ่ จะเป็นการล่วงเกินแคว้นต้าซิง เพื่อช่วยลบล้างความคิดให้กับหยู่เหวินจุน ที่ขโมยแผนที่ทางการทหาร เจ้าอาศัยคนอื่น ประกาศต่อภายนอกว่า นางมีส่วนร่วมในการหล่ออาวุธร่วมกับแคว้นต้าโจว ทำให้นางถูกคนร้ายหมายปอง ตกอยู่ในมือหัวขโมย ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไร จะต้องช่วยฮูหยินใหญ่กลับมาให้ได้”
ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นว่า “ขอรับ”
อ๋องชินเฟิงอันพูดขึ้นว่า “ท่านวางใจ ทางด้านฮูหยินใหญ่มีหมาป่าหิมะติดตามอยู่ ไม่เป็นอะไรแน่ ตอนนี้ต้องมีคนคนหนึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้ จะมอบหมายภารกิจสำคัญนี้ให้กับองค์ชายรัชทายาทได้หรือไม่?”
ฮ่องเต้หมิงหยวนลังเลสักพัก พร้อมพูดขึ้นว่า “ให้องค์ชายรัชทายาทรับผิดชอบ ประสบการณ์ของเขาน่าจะไม่เพียงพอ เรื่องนี้เกี่ยวข้องโยงใยเยอะเกิน”
“ข้ามีความเชื่อมั่นในตัวเขา”อ๋องชินเฟิงอันพูดขึ้นกะทันหัน
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองดูไท่ซ่างหวง ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างเบื่อหน่ายว่า “มองข้าทำไม? เขาเป็นใหญ่ ฟังที่เขาพูด”
ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่ค่อยอยากเห็นด้วย เพราะเรื่องแผนที่ทางการทหาร กับพระศพของฮ่องเต้ฮุยจงถูกขโมย ตอนนี้ถูกปิดบังไว้อยู่ แต่หลังจากเอิกเกริก ก็ไม่สามารถที่จะปิดบังได้
แคว้นต้าโจวจะต้องสืบสาวราวเรื่องแผนที่ทางการทหาร แคว้นต้าซิงจะสืบสาวราวเรื่องฮูหยินใหญ่
พระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนเหล่าขุนนางจะสืบสาวราวเรื่องที่พระศพฮ่องเต้ฮุยจงถูกขโมย เท่ากับว่า หากมอบอำนาจทั้งหมดให้เจ้าห้ารับผิดชอบ หากเขาทำได้ดีนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นการสร้างผลงานอย่างใหญ่หลวง
แต่หากทำได้ไม่ดี เขาก็จะกลายเป็นเป้าที่ประชาชนโจมตี
แต่ความหมายของไท่ซ่างหวงกับอ๋องชินเฟิงอัน ล้วนมอบให้กับเจ้าห้า เขาเองก็ไม่มีคนที่เหมาะสมน่าเชื่อถือในทันใด คิดๆดูแล้ว จึงตอบตกลง
พระราชโองการมีมาถึงจวนอ๋องฉู่ ในพระราชโองการกล่าวว่า หยู่เหวินเห้าสามารถให้อำนาจทุกอย่างแม้แต่อำนาจสั่งการกองทหาร เพื่อไปจัดการเรื่องนี้ จะต้องได้ทั้งสามอย่างกลับคืนมา
นี่เป็นครั้งแรก ที่ฮ่องเต้หมิงหยวนมอบอำนาจยิ่งใหญ่ให้กับหยู่เหวินเห้า แม้แต่อำนาจสั่งการทหาร ล้วนสามารถยกให้กับเขา นี่ทำให้หยู่เหวินเห้ารู้สึกเครียด
เขาตามกู้ซือเหลิ่งจิ้งเหยียนกับทังหยางมาร่วมกันหารือทั้งคืน ภายในเมืองหลวงมีคำสั่งการ ห้ามออกจากเคหสถานในยามค่ำคืน ประตูเมืองถูกจำกัดการเข้าออก โรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ ร้านน้ำชาทั้งหมด ต่างต้องได้รับการตรวจค้นอย่างเข้มงวด วัด สถานที่ร้าง หมู่บ้านห่างไกล ตลอดจนหมู่บ้านพื้นที่ราบบริเวณรอบๆภูเขา ล้วนส่งทหารไปตรวจค้น
การเคลื่อนไหวนี้ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนอยู่แล้ว แต่ที่ทำการปกครองกับภายในวังต่างปิดปากเงียบ ขุนนางมากมายต่างก็ไม่รู้ว่ากระทำเช่นนี้ทำไม เริ่มเคลื่อนไหวไถ่ถามบ่อยขึ้น
ส่วนทางด้านอ๋องอาน หยู่เหวินเห้ารู้ว่าเขามีเรื่องปิดบัง ฉะนั้นจึง ทำทุกวิถีทาง ไม่ได้ด้วยเลห์ก็เอาด้วยกล ให้หยวนชิงหลิงไปหาพระชายาอ๋องอาน ให้พระชายาอ๋องอานที่นอนเคียงหมอนไปหลอกถาม
เมื่อหลังจากหยู่เหวินเห้ามีการวางแผนจัดการทั้งหมดแล้ว ก็ให้ชายาเฟิงอัน พาหมันเอ๋อไปยังจวนอ๋องชินเป่า
จวนอ๋องชินเป่าก็มีคนแอบเฝ้าอยู่อย่างลับๆ แต่ส่งคนไปเฝ้าไม่เยอะ เป้าหมายก็เพียงจับตาดูความเคลื่อนไหวเท่านั้น
ชายาเฟิงอันมาถึงจวนอ๋องชินเป่า เท้าแรกก้าวเข้าไป ก็มีคนรีบวิ่งไปรายงานอ๋องชินเป่าแล้ว
เมื่อชายาเฟิงอันเดินเข้ามาถึงหน้าลาน ก็มองเห็นเงาร่างของอ๋องชินเป่า รีบวิ่งออกไปทางด้านหลังลาน ท่าทีแทบหนีอย่างหัวซุกหัวซุน
เขาไม่พบชายาเฟิงอัน
พ่อบ้านชราในจวนเดินมา ทำความเคารพพร้อมพูดกับพระชายาว่า “ท่านอ๋องกลับมาแล้วหรือ? เชิญท่านไปนั่งข้างใน”
“เขาวิ่งหนีไปไหนแล้ว?”ชายาเฟิงอันมองดูทางด้านระเบียง พร้อมถามขึ้น
พ่อบ้านชราหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านดูผิดแล้ว ท่านอ๋องไม่อยู่ในจวน”
“หลบไปเถอะ” ชายาเฟิงอันพาหมันเอ๋อเข้าไป พร้อมพูดขึ้นว่า “ไปบอกเขา หลบไปเถอะ ดูสิว่าเขาจะหลบได้กี่วัน เจ้าไปเก็บกวาดห้องให้ข้า ข้าจะกลับมาอยู่หลายวัน”
พ่อบ้านชราพูดขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่า “ท่าน…ทำไมท่านถึงคิดที่จะกลับมาพักกะทันหันล่ะ?”
“ทำไม? จวนอ๋องชินเป่านี้ ข้าพักอาศัยอยู่ไม่ได้แล้วหรือ?”สีหน้าชายาเฟิงอันเยือกเย็นลง
“ได้แน่นอนอยู่แล้ว”เดิมพ่อบ้านชราเป็นคนใกล้ชิดพระชายา หลังจากอ๋องชินเป่า ถูกแต่งตั้งให้เป็นอ๋อง มีจวนเป็นของตนเอง ชายาเฟิงอันจึงส่งเขามาคอยปรนนิบัติรับใช้อ๋องชินเป่า คอยดูแลจัดการเรื่องงานภายในภายนอกจวนให้กับเขา
“งั้นก็ดี ไปเอาน้ำชามา”ชายาเฟิงอันเข้าไปนั่งในเรือนหลัก แล้วก็ไล่พ่อบ้านชราออกไป
“ขอรับ”พ่อบ้านชราลังเลสักพัก แล้วก็ทำได้เพียงหันตัวเดินออกไป
ชายาเฟิงอันมองดูหมันเอ๋อ พร้อมถามขึ้นว่า “เจ้าลองดมดู มียาวิชาลวงตาหรือไม่?”
ที่จริงหมันเอ๋อได้กลิ่นตั้งแต่ตอนที่เข้ามาแล้ว จึงย่อตัวพร้อมพูดขึ้นว่า “เรียนพระชายา เป็นควันหุยหุน ควันหุยหุนนี้คือยาหลอนจิตที่ใช้เฉพาะสำหรับหมอผีดำ สามารถทำให้คนเห็นภาพหลอน เห็นภาพหลอนเป็นเหมือนสิ่งที่ประสบพบเห็นด้วยตาตัวเอง จึงทำให้คนเชื่ออย่างสนิทใจ ควันหอมนี้กับที่กู้จือเคยใช้กับอ๋องเว่ย มีความคล้ายคลึงกันในทิศทางเดียวกัน”
“มียาถอนพิษไหม?”
หมันเอ๋อส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าน้อยทำยาถอนพิษไม่เป็น มีเพียงหมอผีดำที่มียาถอนพิษ ควันหอมนี้พบเห็นน้อย และก็ใช้กันน้อยมาก เพราะควันหอมนี้ราคาแพงอย่างที่สุด กล่องเล็กๆนิดเดียวก็มีค่าถึงทองพันชั่ง และใช้ควันหอมนี้ สถานะของคนที่ใช้ก็ถูกเปิดเผยแล้ว ควันหอมนี้มีเพียงหมอผีดำที่มี”
“มีเพียงยาถอนพิษ ถึงจะสามารถถอนพิษวิชาลวงตาหรือ?”
หมันเอ๋อพูดขึ้นว่า “ควันหอมนี้ผสมเนื้อหนังกลิ่นอายเลือดเข้าไปด้วย หากไม่ใช้ยาถอนพิษ จะไม่สามารถถอนพิษได้ ดังนั้น นี่จึงลึกล้ำยิ่งกว่าตอนนั้นที่กู้จือใช้อย่างมาก แต่…. เมื่อก่อนข้าน้อยเคยได้ยินคุณยายพูดว่า เคยมีคนคนหนึ่งสามารถหายได้โดยไม่ต้องทานยาถอนพิษ แต่ไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไร”
“คุณยายของเจ้าอยู่ที่ไหน?”ชายาเฟิงอันรีบถามขึ้น
หมันเอ๋อพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “คุณยายของข้าน้อยสิ้นไปแล้ว”
“ในเมืองหลวงมีคนหนางจียงเท่าไหร่ เจ้ารู้ไหม?”
หมันเอ๋อพูดขึ้นว่า “นั่นไม่น้อยเลย คาดว่าไม่หนึ่งพันก็น่าจะหลายร้อยคน บางทีพระชายา หาคนหนานเจียงคนอื่นๆมาถามดู มีบางคนที่อายุมากแล้ว จะค่อนข้างรู้เรื่องหมอผีดำ”
หมันเอ๋อพูดพร้อมกับ มีท่าทีลังเลเล็กน้อย
ชายาเฟิงอันมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “มีอะไรก็พูดมา”
บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 802 หมอผีดำหนานเจียง
Posted by ? Views, Released on November 26, 2021
, บัลลังก์หมอยากเซียน
ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"
Recommended Series
Comment
Facebook Comment