“กลัว?” เจ้าพระยาหุ้ยติ่งยิ้มอย่างชั่วร้าย “ข้านั้นนับถือเจ้าจริงๆ เพื่อช่วยหยู่เหวินเห้าโค่นล้มข้า เจ้าไม่แม้กระทั่งจะเอาชีวิตตัวเอง”
เป็นเพราะความโกรธ กลับทำให้หยวนชิงหลิงใจเย็นลง
นางมองเจ้าพระยาหุ้ยติ่ง ค่อยๆเดินเข้าไป “ท่านเจ้าพระยาพูดผิดแล้ว ข้าไม่ได้ทำเพื่อเขา”
“ใช่รึ? แล้วเจ้าทำเพื่อใคร? หรือเพราะต้องการให้ข้าเสพสุขร่างกายที่สวยงามของเจ้า?” เจ้าพระยาหุ้ยติ่งยิ้มอย่างเย็นชา แต่ว่าสายตาของเขายังคงจ้องมองอยู่บนเรือนร่างของหยวนชิงหลิง จับจ้องอยู่บนหน้าอกของนาง ยังทำท่ากลืนน้ำลายอีกด้วย แววตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือดและป่าเถื่อน
หยวนชิงหลิงยิ้มเล็กน้อย สองมือซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ จับหลอดยาสลบเอาไว้
“ผู้หญิงล้วนชอบแม่ทัพที่เก่งกาจและมีอำนาจ” หยวนชิงหลิงจ้องมองเขาอย่างหลงใหล ก้าวเดินเข้าไปอีกหนึ่งก้าว แววตาแฝงด้วยความเศร้า “แต่น่าเสียดาย ข้ามองหยู่เหวินเห้าพลาดไป เขาไม่ชอบข้าก็ไม่เป็นไร แต่ยังเป็นคนที่ไม่มีศักดิ์ศรี”
“งั้นเหรอ?” เจ้าพระยาหุ้ยติ่งโยนเทียนทิ้ง คว้าเอวของนางเอาไว้ กดนางไว้ตรงหน้า ยื่นหัวลงไป กล่าวอย่างชั่วร้าย “วันนี้กลับใจ ยังทันอยู่ หยู่เหวินเห้าเดิมก็เป็นคนที่ไม่มีศักดิ์ศรี จะแน่สักแค่ไหนเชียว?”
มือของหยวนชิงหลิงเกาะอยู่บนหลังของเขา ยังคงมองเขาอย่างหลงใหล “ใช่ ข้าเกลียดเขามาก……….”
เล็บของนางได้กดลงไปผิวหนังของเขา ทำให้แววตาของเขาลึกลงไป สั่นไปทั้งตัว เพลิดเพลินกับความเจ็บเล็กๆนี้
หยวนชิงหลิงเอาหน้าไปซบอยู่ตรงอกของเขา ยิ่งอยู่ในเวลานี้ นางยิ่งใจเย็น เข็มยาได้อยู่ตรงตำแหน่งที่เล็บนางเลื่อนผ่าน ถูกฉีดเข้าไปแล้ว แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งจับกล้ามเนื้อที่อยู่ด้านข้างของเขา
มือที่แข็งแรงราวเหล็กก็ได้บีบคอของนางทันที มืออีกข้างหนึ่งยื่นไปที่หลัง จับมือของหยวนชิงหลิงเพื่อแย่งเข็ม แววตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ใช้ฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าของหยวนชิงหลิง “คิดจะใช้อาวุธลับ?”
หยวนชิงหลิงรู้สึกเหมือนหัวได้หลุดจากบ่าไปแล้ว ชาไปพักใหญ่จึงได้รู้สึกปวดร้อน ด้านหน้ามืดมน ความมึนขึ้นสมอง ในปากมีกลิ่นคาวของเลือด
นางพยายามฝืน มองเข็มฉีดยาไปแวบหนึ่ง ในใจจึงได้สงบลง ยาสลบได้ถูกฉีดเข้าไปหมดแล้ว
นางฉีกปากยิ้ม เลือดได้ไหลออกมาจากปากโดยตรง “ข้าเกลียดที่เขาใจอ่อน ที่ตอนนั้นไม่ฆ่าเจ้า”
นางไม่รู้ว่ารอยยิ้มของตัวเองนั้นเกือบจะโหดร้าย ความโหดร้ายนี้ได้ไปกระตุ้นเจ้าพระยาหุ้ยติ่ง ความอาฆาตแค้นก็บังเกิดทันที ใช้มือไปกระชากนาง จนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เผยให้เห็นเรือนร่างท่อนบน
เขาโน้มตัวมากัดไหล่ของหยวนชิงหลิงทันที
“……….สาม สอง หนึ่ง! หยวนชิงหลิงไม่สามารถที่หลบได้ ทำได้เพียงนับเลขอยู่ในใจ
เจ้าพระยาหุ้ยติ่งก็ล้มลงไปบนพื้นทันที
ยาสลบได้ออกฤทธิ์แล้ว
หยวนชิงหลิงเดินคิดจะหนีไปทันที แต่ว่า ในเมื่อยาสลบออกฤทธิ์แล้ว คนชั่วก็อยู่ในมือนาง คงจะไม่สามารถปล่อยเขาไปง่ายๆเช่นนี้
หยวนชิงหลิงทำในสิ่งที่นางคิดว่าเป็นสิ่งที่กล้าหาญที่สุดในชีวิตก่อนหน้านี้ของนาง
นางยกเก้าอี้ขึ้นมาหนึ่งตัว ใช้ขาเก้าอี้แทงลงไปที่เป้าของเจ้าพระยาหุ้ยติ่ง
แทงอย่างไม่ยั้งมือ!
นี่เป็นวิธีการที่อันตรายมาก เพราะว่าฤทธิ์ยาสลบไม่เยอะ วรยุทธ์ของเขาสูงส่ง มีความเป็นไปได้ว่าจะตื่นขึ้นมา แต่ว่า หากไปปล่อยไปแบบนี้ ต่อไปเขาก็ยังคงไปทำร้ายผู้หญิงคนอื่น
นางอยากจะฆ่าเขา แต่ว่า นางไม่เคยฆ่าคนมาก่อน จึงทำไม่ลง
โชคดี ที่เจ้าพระยาหุ้ยติ่งไม่ได้ตื่นขึ้นมา
นางเห็นกรรไกรเปื้อนเลือดอันหนึ่งอยู่บนพื้น จึงเก็บเข้าไปในแขนเสื้อ รีบถอยหลังไปถึงประตู ด้านนอกมีคน นางกลั้นหายใจไปหนึ่งที ตะโกนด้วยเสียงสูง “ขอโทษด้วย ท่านเจ้าพระยา วันนี้ข้าท้องเสียจริงๆ ข้าไปห้องน้ำเดี๋ยวก็กลับมา ไม่นานหรอก ท่านรอข้านะ”
นางจึงหันหลัง เปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว ด้านนอกคนที่ยืนอยู่เป็นสาวใช้สองคนที่คุมตัวนางเมื่อกี้
พวกนางก็ได้ยินคำพูดของหยวนชิงหลิง ก็กล่าวขึ้น “แม่นางไปห้องน้ำหรือ? ข้าน้อยจะพาท่านไป”
หยวนชิงหลิงกุมท้องเอาไว้กล่าว “ได้ ขอบใจนะ!”
นางพลางพูด พลางมองไปโดยรอบ นอกจากสาวใช้สองคนนี้แล้ว ก็ไม่มีคนอื่นเฝ้าอยู่เลย
ดูแล้ว เจ้าพระยาหุ้ยติ่งก็ไม่ชอบให้คนมากมายมาฟังเขา “แสดง”
ก็เดินตามสาวใช้ไป เพิ่งออกจากเรือน ก็ได้ยินสาวใช้อีกคนส่งเสียงตามมาจากด้านหลัง “นางทำร้ายท่านเจ้าพระยา รีบจับตัวนางเอาไว้”
หยวนชิงหลิงได้ยินเสียงเรียกของนางก็รู้ว่าเรื่องเมื่อกี้ความแตกเสียแล้ว ก่อนที่สาวใช้จะลงมือ นางก็หยิบกรรไกรออกมาอย่างว่องไวแทงไปที่ใบหูของสาวใช้
คนที่มีวรยุทธ์ หากจู่โจมไปส่วนอื่นของร่างกายนางในช่วงระยะเวลาสั้นจะสามารถจู่โจมกลับได้ แต่ถ้าแทงที่หูโดยตรง โดนเยื่อหุ้มหู มันจะเจ็บปวดมาก ทำให้นางต้องกุมหูโดยสัญชาตญาณ ไม่มีเวลาที่จะมีโจมตีกลับ
สาวใช้ร้องอย่างโหยหวน หยวนชิงหลิงก็รีบวิ่งหนีทันที
เสียงร้องของสาวใช้ได้ดึงดูดความสนใจของเวรยาม ก็เร่งฝีเท้าอย่างรีบร้อน นางที่ตื่นตระหนกวิ่งเข้าไปเรือนที่อยู่ด้านข้าง
เมื่อเข้าไปก็จ้องมองอย่างชัดเจน ทำให้นางตกใจจนเข่าอ่อน
ในนี้มีสุนัขดุร้ายอย่างน้อยยี่สิบตัว เห่าพร้อมกันอย่างดุร้าย สุนัขเหล่านี้หิวมาก ตาแดง ดูก็รู้ว่าเลี้ยงด้วยเนื้อดิบ
สุนัขที่เลี้ยงด้วยเนื้อดิบนั้นดุร้ายอย่างมาก เชื่อฟังเจ้าของอย่างมาก หากเจ้าของสั่งการ ก็จะฉีกเนื้อศัตรูทันที
หยวนชิงหลิงจับกำแพงเอาไว้ ค่อยๆถอยหลัง ทหารก็ใกล้จะมาถึงที่นี่แล้ว
“ทำร้ายท่านเจ้าพระยาแล้วคิดจะหนีรึ?” ชายอายุสามสิบคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าของหยวนชิงหลิงด้วยใบหน้าที่ดุดัน
หยวนชิงหลิงจำเขาได้ เขาคือคนที่ไปฟังเพลงกับเจ้าพระยาหุ้ยติ่งที่กระท่อมสุดหรูชิงเฉิงผู้คุ้มกันคนนั้น
หน้าหลังถูกปิดไปหมด นางหมดหวังในใจ คิดไม่ถึงเลยว่าแผนการหนีจะล้มเหลวเร็วเพียงนี้
นางทำลายระบบสืบพันธุ์ของเจ้าพระยาหุ้ยติ่ง มีหรือเจ้าพระยาหุ้ยติ่งจะไม่สับนางเป็นหมื่นๆชิ้น?
คิดถึงอุปกรณ์ลงทัณฑ์ในห้อง นางยอมที่จะให้สุนัขกัดตายดีกว่า หวังให้กัดโดนคอหอยของนางโดยตรง ให้นางตายเร็วหน่อย
ไม่รู้ว่าหากหยู่เหวินเห้ารู้ว่านางตายแล้ว จะดีใจหรือเปล่า?
ก่อนตาย คนที่นางคิดถึงกลับเป็นผู้ชายเลวคนนี้
ผู้คุ้มกันคนนั้นก้าวเข้ามาเรื่อยๆ ในมือถือแส้เอาไว้ ใบหน้าดุร้าย กระหายเลือด เมื่อเทียบกับแววตาของสุนัขร้ายเหล่าน่ากลัวยิ่งกว่า
หยวนชิงหลิงหันกลับไปอย่างแน่วแน่ มองดูสุนัขดุร้ายยี่สิบกว่าตัวที่กำลังเห่าอยู่ ไม่รู้ว่าพวกมันจะสามารถฟังที่นางพูดหรือเปล่า “มา มากัดคอหอยของข้า กัดให้แรงเลย ข้าไม่มีทางที่ยอมตายอยู่ในกำมือของพวกมัน”
เพิ่งจะสิ้นเสียงพูดของนาง สุนัขดุร้ายทั้งหมดก็หยุดเดินมาข้างหน้า ยืนอยู่ตรงที่เดิมไม่ขยับเลย ดวงตาที่แดงเหมือนจะจางลงไปบ้าง
ถึงขนาด มีความว่างเปล่าเล็กน้อย
หยวนชิงหลิงตกใจ ก็เกิดความดีใจ หรือว่ามันจะเหมือนฝูเป่า สามารถสื่อสารกับนางได้?
ไม่ว่ายังไงก็ตาย ลองดูก็ไม่เสียหาย นางก้าวเข้าไปหนึ่งก้าว ชี้ไปที่ผู้คุ้มกันเหล่านั้นแล้วพูดกับสุนัข พี่ชาย พวกเราเป็นพวกเดียวกัน พรรคพวก กัดพวกมันให้ตายไปเลย
สุนัขดุร้ายยี่สิบตัว เลือดก็พลุ่งพล่านขึ้นมา ก็เห่าไปทางนาง อีกทั้งยังได้มุ่งมาทางนางโดยตรง
หยวนชิงหลิงหน้าซีดขาว นางฟังเข้าใจ มันเป็นสัญญาณการจู่โจมของสุนัข
ชีวิตข้าจบแล้ว
เพียงแต่ว่าสถานการณ์ได้พลิกกลับอย่างรวดเร็ว สุนัขดุร้ายไม่ได้โจมตีนาง แต่วิ่งผ่านนางแล้วรีบวิ่งไปที่เหล่าผู้คุ้มกัน
ผู้คุ้มกันคิดไม่ถึงเลยว่าสุนัขดุร้ายจะหันมาเล่นงานพวกเขา ก็บันดาลโทสะทันที ขู่ไปหลายที เมื่อก่อนเวลาที่ส่งสัญญาณให้สุนัขเหล่ามันนี้ก็จะฟัง แต่วันนี้เหมือนบ้าไปแล้วอย่างนั้น เห็นคนก็กัด ทำผู้คุ้มกันอลหม่านกันไปเลย ทำได้เพียงเอาตัวรอดกันเอง แต่ว่าสุนัขดุร้ายไม่ได้กัดพวกเขาจริงๆ กัดเพียงแค่กางเกง หรือกัดแบบเห็นเลือดแต่ไม่เห็นกระดูก
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ว่าเหตุการณ์มันช่างวุ่นวายนัก
หยวนชิงหลิงถูกสุนัขดุร้ายตรงนั้นทำให้ตกใจจนอึ้งไปเลย ได้ยินสุนัขตัวที่ใหญ่ที่สุดแต่หางสั้นหูตั้งสีดำเห่ามาทางนาง ความหมายก็คือให้นางรีบหนีไปประมาณว่าเจ้าโง่รีบหนีไปสิ
นางสับสนจนหัวใจจะแหลกลาญ ก็ไม่แน่ใจว่ามีความหมายของคำว่าเจ้าโง่หรือเปล่า ไม่ว่ายังไงไม่สนแล้ว ก็วิ่งอย่างคนบ้าคลั่ง รอบกำแพงมีกรงเหล็ก นางอาศัยแรงวิ่งจะสามารถเหยียบกรงเหล็กแล้วปืนข้ามกำแพงไป
บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 96 หนีเอาตัวรอด
Posted by ? Views, Released on September 28, 2021
, บัลลังก์หมอยากเซียน
ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"
Recommended Series
Comment
Facebook Comment