สองพี่น้องนี้มักจะต่อสู้กัน ดังนั้นทุกคนไม่มีใครห้ามได้ จึงต่างก็มองดูอยู่ด้านข้าง ที่ผ่านมาอ๋องเว่ยล้วนได้เปรียบ แต่วันนี้อ๋องอานทานยาผิดไปหรือเปล่าถึงได้เก่งขนาดนี้ มีครั้งนั้นครั้งหนึ่งอ๋องเว่ยแทบไม่สามารถตอบโต้
แต่อ๋องอานก็ไม่สามารถโจมตีได้สำเร็จ สุดท้ายอ๋องเว่ยกลับแพ้เป็นชนะ สู้จนเขาไม่สามารถหลบหลีกได้
คนในจวนอ๋องวิ่งมา พร้อมพูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า “ท่านอ๋อง ไม่ต้องต่อสู้แล้ว พระชายาเจ็บท้องแล้ว”
ทั้งสองคนที่กำลังต่อสู้กันแยกออกจากกันทันที อ๋องอานเช็คดินกับเลือดบนใบหน้า มีรอยเปื้อนเลือดที่มุมตาซ้าย แลดูดุร้าย พร้อมตะคอกพูดขึ้นว่า “ไปตามหมอมาแล้วหรือยัง?”
คนใช้รีบตอบว่า “เชิญมาแล้ว ท่านรีบกลับไปดูพะย่ะค่ะ”
เขาหารองเท้าเจออย่างวุ่นวาย เมื่อจะสวมใส่ แต่เพราะอาการบาดเจ็บที่ตา บวกกับมือที่สั่น ทำให้ยังไงก็ใส่ไม่ได้ อ๋องเว่ยเห็นแล้วจึงก้มลงช่วยสวมให้กับเขา แล้วเขาก็หยิบชายเสื้อผ้าขึ้นมาเช็ดหน้าให้เขา เช็ดดินกับรอยเลือดเสร็จแล้วก็พูดขึ้นว่า “ข้ากลับไปพร้อมกับเจ้า”
พูดเสร็จ แล้วก็คว้าดึงข้อมือของเขาวิ่งออกไปข้างนอก
ทั้งสองคนสู้กันจนต่างก็ได้รับบาดเจ็บ กะโผลกกะเผลก หลังจากพลิกตัวขึ้นม้าแล้วก็มุ่งหน้าวิ่งไปยังจวนอย่างสุดชีวิต
ครั้งนี้ที่พระชายาอ๋องอานสามารถตั้งครรภ์ได้ ที่จริงถือเป็นเรื่องบังเอิญ เริ่มตั้งแต่ตั้งครรภ์แล้วก็ไม่สบายมาตลอด อย่าว่าแต่แพ้ท้องอย่างรุนแรง ยังเคยตกเลือด ครั้งนี้หลังจากทะเลาะกัน ก็เกิดเจ็บท้องขึ้นมาในทันใด นางเองก็ตื่นตกใจอย่างมาก
หลังจากอ๋องอานกลับไปแล้ว ก็ตรงไปยังห้องพัก หมอกำลังเขียนใบสั่งยา เห็นเขาเข้ามา หมอก็พูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจว่า “ท่านอ๋อง ข้าเคยบอกหลายครั้งแล้ว? ตอนนี้พระชายาตั้งครรภ์ จะต้องพักผ่อนให้ดี ทำไมท่านถึงยังทะเลาะกับนาง?”
หมอจวนเจียงเป่ย ฝีมือทางการแพทย์ไม่ค่อยดี แต่อารมณ์ค่อนข้างรุนแรงพอสมควร และก็ไม่เห็นแก่สถานะว่าสูงส่งขนาดไหน จนถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะสนใจสถานะสูงส่งอะไรอีก?
ตอนที่ถามอาการ สาวใช้บอกแล้วว่า เพราะทะเลาะกันจนโกรธจึงทำให้เจ็บท้อง ดังนั้นเมื่อเห็นอ๋องอาน ก็ก่นด่าขึ้นมาทันที
ตอนนี้อ๋องอานไม่กล้ามีเรื่องกับหมอคนนี้ ที่จริงเคยมีหมอในเมืองหลวงมา เดิมตอนที่รักษาอาการบาดเจ็บบนหัวของพระชายาอ๋องอาน ถูกเขาโกรธจนไล่ตะเพิดไปแล้ว ตอนนี้จึงจำเป็นต้องขอร้องขอหมอจวนเจียงเป่ยคนนี้ พร้อมรีบถามขึ้นว่า “หมอ อาการของนางเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ ต้องพักผ่อนให้ดี ภายในสิบวัน พยายามอย่าลงจากเตียงเดินไปมาบ่อยครั้ง ข้าเขียนใบสั่งยาบำรุงครรภ์ สั่งคนตามข้าไปเอายามา” หมอพูดเสร็จ เก็บใบสั่งยาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สั่งสาวใช้ให้นางตามเขาไป
หลังจากหมอไปแล้ว อ๋องอานเปิดม่านเดินเข้าไป สีหน้าพระชายาอ๋องอานขาวซีด ผมเผ้ายุ่งเหยิงสยายอยู่บนหมอน เห็นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล ดวงตาแดงก่ำขึ้นมาพร้อมพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า “หากเจ้าโกรธข้า ก็ต่อว่าข้าก็ได้ เจ้าออกไปต่อสู้ทำไม?”
อ๋องอานนั่งลงด้านข้างเตียง ฉีกยิ้มเห็นฟัน ตามไรฟันล้วนเปื้อนไปด้วยเลือด จากนั้นเขาก็ตบหน้าตัวเอง ดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าสมควรตาย ไม่ควรที่จะโกรธและทะเลาะกับเจ้าในเวลาแบบนี้”
ไปหน้านั้นเดิมก็บวมอยู่แล้ว หลังจากถูกตนเองตบไปหนึ่งที จึงปรากฏรอยนิ้วมือหลายรอยให้เห็น มีสีสันยิ่งหนัก
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?” พระชายาอ๋องอานรีบดึงมือของเขาไว้ น้ำตาร่วงไหล ทั้งน้อยใจทั้งสงสาร
อ๋องอานลูบใบหน้าของนาง แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดว่า “ขอโทษ ข้าไม่ได้อยากทะเลาะกับเจ้า เพียงแค่ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ถึงมักจะค่อนข้างหงุดหงิด ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ต่อไปจะไม่ทำเช่นนี้อีก”
พระชายาอ๋องอานใช้ใบหน้าแนบชิดฝ่ามือของเขา หลับตาพริ้ม น้ำตายังคงร่วงไหล พยักหัว สะอึกสะอื้นอย่างพูดอะไรไม่ออก
อ๋องอานขยับกายอุ้มนาง เช็ดน้ำตาให้กับนาง หัวของอ๋องเว่ยปรากฏภายในม่าน พร้อมถามขึ้นว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
พระชายาอ๋องอานรีบดิ้นรนผละออก เช็ดหน้าอย่างเขินอาย พร้อมพูดขึ้นว่า ไม่คิดหลบหลีกเลยสักนิด ตามหัวล้วนเต็มไปด้วยบาดแผลเหมือนกับอ๋องอาน
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้ว” พระชายาอ๋องอานอยากลุกขึ้นนั่ง กลับถูกอ๋องอานห้ามไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้านอนไว้ หมอสั่งให้เจ้านอนพัก”
พระชายาอ๋องอานมองดูอ๋องเว่ยอย่างเกรงใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สาม ให้ท่านต้องเดินทางไปมา ลำบากท่านแล้ว”
อ๋องเว่ยโบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร ยังไงก็มีเวลาว่าง เดิมก็ตั้งใจที่จะมาเยี่ยมเจ้าอยู่แล้ว เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พักผ่อนให้ดี ข้าไปก่อนล่ะ”
เขาก้าวเท้ายาวๆเดินออกไป ไม่ทักทายอ๋องอานด้วยซ้ำ
มือทั้งคู่ของอ๋องอานยังวางอยู่บนใบหน้าของพระชายาอ๋องอาน พระชายาอ๋องอานใช้ข้อศอกสะกิดเขาเบาๆ เขานิ่งอึ้งไปสักพัก จากนั้นก็จูบบนตรงผากของนาง หันตัวเดินออกไป
“รอเดี๋ยว จะไปเจียงเป่ยเมื่อไหร่?” อ๋องอานไล่ตามเขามา พร้อมถามขึ้น
อ๋องเว่ยไม่หันกลับมา เผชิญหน้ากับเขาด้วยแผ่นหลังที่แข็งแรง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าคิดอยากทำอะไร?”
“ข้าไปพร้อมกับเจ้า” ในใจอ๋องอานเหมือนอัดอั้นตันใจ แต่ในใจเขารู้ดี ว่าเป็นการตัดสินใจเช่นนี้แล้วจริงๆ
อ๋องเว่ยหันกลับมามองดูเขาอย่างไม่อยากเชื่อ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไปพร้อมกับข้า?”
“ใช่ ตอนนั้นข้าติดค้างพวกเจ้า ครั้งนี้ข้าไปช่วยพี่สะใภ้สามพร้อมกับเจ้า หากสามารถช่วยกลับมาได้ ถือเป็นการไถ่โทษให้กับตนเอง ข้าไม่อยากให้ลูกหลานต้องมารับกรรม” อ๋องอานพูดขึ้น
เหตุผลที่เหยียนเอ๋อใช้เขาไปเขารู้ดี ก่อนหน้านี้ไม่สามารถรักษาลูกไว้ได้ ในใจของนางมักจะคิดว่าเป็นเพราะเขาทำความผิดบาปไว้ ตอนนี้กว่าจะท้องขึ้นมาได้อีก นางหวังว่าจะสามารถไถ่โทษ ไม่ต้องให้ลูกต้องมารับกรรมที่เขาก่อ
เขาโกรธก็เพราะนางมีความคิดเช่นนี้ แต่ไม่ว่ายังไงก็ดี ขอให้นางสบายใจก็พอ
อ๋องเว่ยมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ไม่ต้อง น้องสะใภ้กำลังตั้งครรภ์อยู่ เจ้าคอยดูแลอยู่ข้างกายนางก็พอ”
พูดเสร็จ แล้วก็หันตัวก้าวเดินออกไป
แต่เรื่องที่อ๋องอานตัดสินใจแล้ว ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ วันที่ออกเดินทาง เขาพาคนขี่ม้ามารวมตัวกับเขาที่ค่ายทหาร
อ๋องเว่ยก่นด่าเขา ไล่ให้เขากับไป ยังไงเขาก็ไม่ยอมกลับไป อ๋องเว่ยไม่รู้จะทำยังไง จึงจำต้องพาเขาไปด้วย
และหลังจากที่หยู่เหวิยเทียนออกจากเมืองหลวง ทั่วทั้งจวนตามหาหมันเอ๋อไม่เจอ สุดท้ายเจอจดหมายของนางหนึ่งฉบับภายในห้อง เขียนข้อความบ่งบอกว่าจะตามไปยังเจียงเป่ย ขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง
หยวนชิงหลิงไม่เป็นห่วงได้อย่างไร? รีบร้อนสั่งคนออกไปตาม สวีอีไปตามด้วยตนเอง ไล่ตามมาจนทันขบวนใหญ่ แต่ก็ไม่เห็นหมันเอ๋อ แสดงว่าหมันเอ๋อแอบตามมาอย่างลับๆ แม่นมฉินได้รู้ว่าหมันเอ๋อตามมาด้วย ก็ร้อนใจอย่างมาก นางถอนหายใจอย่างหนักใจ ให้สวีอีกลับไปบอกหยวนชิงหลิง ขอให้นางช่วยหมันเอ๋อแก้มนต์สาวหมอผี ไม่เช่นนั้นหากนางเข้าไปถึงเจียงเป่ย ก็จะกลับมาไม่ได้อีกแล้ว
หยวนชิงหลิงร้อนใจจนเหมือนดั่งมดดิ้นอยู่ในกระทะร้อน นี่แสดงว่า ต้องไปหาไทเฮาหลงแล้ว
ปรึกษาหยู่เหวินเห้า หยู่เหวินเห้าก็รู้ว่าเรื่องราวน่าเป็นห่วงมาก หากหมันเอ๋อถูกหมอผีพากลับไป งั้นแผนการของเขาก็จะสูญเปล่าเหมือนกัน กลับยิ่งเห็นท่าไม่ดี
เวลานี้ คนของสำนักเหลิ่งหลังที่ส่งไปสอดแหนมหนานเจียง ก็กลับมาแล้ว ยังพายายแก่คนหนึ่งกลับมาด้วย
ยายแก่คนนี้เป็นคนในหมู่บ้าน แต่จากการสืบความ เดิมนางเคยรับใช้อยู่ในจวนอ๋องหนานเจียง แต่ดวงตาทั้งคู่ของยายแก่บอดสนิท ขาขวาหัก
ท่าทางของนางน่าจะอายุราวๆห้าหกสิบ ผมหงอกขาว ดวงตาทั้งคู่ไม่ได้บอดอย่างง่ายๆขนาดนั้น แต่เป็นการถูกควักลูกกะตาทั้งคู่ไป เหลือไว้เพียงหลุมสีดำสองข้าง เห็นแล้วก็ค่อนข้างน่าตกใจ
นางเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยหมันเอ๋อออกมาจากจวนอ๋องหนานเจียงในตอนนั้น นางยืนยันหลังจากที่ช่วยออกมาแล้ว จวิ้นจู่ก็ถูกจับตัวไปยังเจียงเป่ย พวกนางรวบรวมคนไปช่วย หลังจากช่วยออกมาแล้ว ก็สั่งคนพาไปยังเมืองหลวงเพื่อไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้หมิงหยวน หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวอะไรอีกแล้ว