ตอนที่ 353
เตรียมหนี
ปึง!! ปึง!! ค้อนของทหารประจำเมืองทุบลงบนป้ายประกาศเพื่อติดกระดาษแผ่นหนึ่งเอาไว้ที่กลางเมือง ประกาศใบนี้วาดรูปใบหน้าชิงชิวเอาไว้อย่างชัดเจนแถมมันยังเหมือนจนตัวชิงชิวยังอดชื่นชมผู้วาดไม่ได้อีกต่างหาก
“ทำไมต้องลงแรงเรื่องของข้าขนาดนี้กัน”ชิงชิวกลืนน้ำลายลงคอพลางมองประกาศจับที่อยู่กลางเมือง โชคดีที่ชิงชิวยังไม่ไว้ใจว่าจะมีทหารตามมาอีกหรือไม่ ก็เลยหาหมวกฟางและเสื้อผ้าที่มิดชิดกว่าปกติมาใส่ โชคดีที่อากาศของอาณาจักรกู่ค่อนข้างหนาวการแต่งตัวของชิงชิวเลยไม่สะดุดตาเท่าไหร่
“อะไรเนี่ย ลอบโจมตีวังหลวง ไอ้เด็กนี่กล้าเกินไปแล้ว”ชายคนหนึ่งหัวเราะพลางมองรูปของชิงชิว ตอนนี้มันกลายเป็นผู้โจมตีวังหลวงที่โดนประกาศจับเป็นไปทั่วอาณาจักรกู่ไปแล้ว แม้ชิงชิวจะไม่รู้สถานการณ์ภายนอก แต่ยามนี้ตัวชิงชิวกลายเป็นคนที่ไม่ว่าจะอย่างไรอาณาจักรกู่ก็ต้องเอาตัวคืนมาให้ได้ เพราะการแลกเปลี่ยนคราวนี้มีชิงชิวเป็นข้อต่อรอง
“…..”ชิงชิวหลบไปจากป้ายประกาศ พลางเดินไปในเมือง ตอนนี้มันต้องเดินทางกลับอาณาจักรไป๋ให้เร็วที่สุด การผ่านประตูไม่ใช่เรื่องยากเพราะมันแค่ถอดเสื้อผ้าแล้วใช้ความสามารถของอสูรแมงมุมเดินผ่านไปก็พอ แต่การเดินทางด้วยเท้าของชิงชิวมันช้าเกินไป อย่างน้อยก็ต้องหาสัตว์ขี่สักตัว
“ยินดีต้อนรับ”ชิงชิวเดินเข้าไปในร้านค้าร้านหนึ่งในตัวเมือง ตอนนี้ที่ตัวมันมีเงินไม่มาก เพราะเงินเดือนส่วนใหญ่มันฝากไปให้ครอบครัวหมดแล้ว ทำให้ในแหวนมิติของมันมีแต่ของใช้ทั่วไป ตำรา และ สมุนไพรที่แจกจ่ายให้กับทหารเท่านั้น แน่นอนว่าของพวกนี้ขายไปก็ไม่พอซื้อม้าแน่ๆ แต่ชิงชิวมีของบางอย่างที่น่าจะช่วยได้
“ข้าขอขายสิ่งนี้ได้หรือไม่”ชิงชิวว่าพลางยื่นปิ่นปักผมไปให้พ่อค้าตรงหน้า
“โอ้ ของดีเลยนี่นา”พ่อค้าพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย แน่นอนเพราะมันคือปิ่นปักผมขององค์หญิงไป๋หลิน ย่อมไม่ใช่ของธรรมดาๆ จะว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายดีที่องค์หญิงเป็นคนซุกซน ไม่ค่อยสนใจเครื่องประดับเท่าไหร่ ทำให้นางเผลอทำของพวกนี้ตกบ่อยๆ ชิงชิวมักจะเก็บให้แล้วนำไปคืน แต่มันออกจะบ่อยไปหน่อยก็ชิงชิวก็เลยลืมเอาไปคืนก่อนจะโดนจับตัวมา
“ขอโทษทีไอ้หนู ของแบบนี้ข้าซื้อไม่ไหวหรอก”หลังจากสำรวจดูปิ่นปักผมไปสักพัก อยู่ๆเจ้าของร้านก็ทำหน้าเสียดายออกมา พลางเลื่อนปิ่นปักผมคืนให้ชิงชิว
“แล้วมีที่ไหนรับซื้อได้บ้างขอรับ”ชิงชิวถามพลางมองเจ้าของร้านด้วยท่าทีสงสัย
“ถ้าเป็นที่ร้านใหญ่ทางเหนืออาจจะรับซื้อไว้ก็ได้”เจ้าของร้านตอบพลางถอนหายใจออกมา ของที่ชิงชิวเอามาสวยงามมาก แถมของที่ใช้ทำยังเป็นของมีราคาอีกต่างหาก น่าเสียดายที่มันมีเงินไม่พอ
“ขอบพระคุณขอรับ”ชิงชิวตอบพลางหันหลังเดินจากไป มันมุ่งหน้าไปทางเหนือตามที่เจ้าของร้านบอก ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงทางเหนือ มันเป็นร้านขายผ้าและเครื่องประดับที่ใหญ่มาก ที่หน้าร้านมีหญิงสาวใบหน้างดงามควงชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อผ้าหรูหราเดินเข้าออกร้านอยู่ตลอด ท่าทางร้านนี้จะช่วยให้ชิงชิวหาเงินกลับอาณาจักรได้
“ขอโทษนะขอรับ”ชิงชิวเดินเข้าไปในร้านพลางยกมือขึ้นมาหมายจะเอาปิ่นปักผมขององค์หญิงขึ้นมาขาย
“อะไรกัน เจ้าเป็นขอทานหรือไง”หญิงคนที่ชิงชิวเข้าไปทักหันมามองชิงชิวด้วยท่าทางเหมือนเหม็นอะไรบางอย่าง แต่ชิงชิวก็ไม่เถียง ก็เสื้อผ้าที่มันสวมอยู่ตอนนี้ไม่ต่างจากขอทานนักหรอก เพราะมันหาเก็บมาได้นี่นา
“เปล่าขอรับ ข้ามาเพื่อขายของ”ชิงชิวว่าพลางยิ้มรับ มันทำงานให้กับองค์หญิงไป๋หลิน แม้ในอาณาจักรไป๋จะไม่มีพวกแบบนี้แต่ในอาณาจักรอื่นที่ไปเยี่ยมอย่างอาณาจักรอินก็มีขุนนางทำท่าทางแบบนี้เหมือนกัน
“ของขาย…ขอทานอย่างเจ้าจะเอาอะไรมาขายกัน ข้าไม่รับซื้อเศษหินหรอกนะ”หญิงคนนั้นว่าพลางกอดอกแน่นด้วยท่าทีหยิ่งยโส
“ป้ากง ข้าเตือนท่านแล้วนะว่าอย่าเสียมารยาทกับลูกค้า”หญิงสาวคนหนึ่งพูดพลางเดินเข้ามาหาชิงชิว
“คุณหนู ดูยังไงเจ้านี่ก็ไม่ใช่ลูกค้านะเจ้าคะ”ป้ากงพูดพลางหันไปทางหญิงสาวที่เหมือนจะเป็นเจ้าของร้านหรือไม่ก็ลูกสาวของเจ้าของร้าน
“เจ้ามาขายของงั้นเหรอ”หญิงสาวถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทางใจดี ทำให้ชิงชิวรู้สึกโล่งใจขึ้นมามาก
“ขอรับ”ชิงชิวตอบพลางยกมือขึ้นมาอีกรอบ ทันทีที่เห็นว่าชิงชิวสวมแหวนมิติ ท่าทางของป้ากงก็เหมือนคนเห็นผีทันที ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปิ่นปักผมขององค์หญิงที่ชิงชิวเอาออกมา
“ข้าเห็นท่านขายเครื่องประดับ ก็เลยคิดว่าท่านน่าจะสามารถรับซื้อได้”ชิงชิวตอบพลางยื่นปิ่นปักผมให้หญิงสาวดู
“…….”แม้แต่หญิงสาวเองยังนิ่งไปเมื่อเห็นของตรงหน้า นางขายเสื้อผ้าเครื่องประดับมาตลอดชีวิต มองครู่เดียวก็เข้าใจมูลค่าของที่ชิงชิวนำมา งานละเอียดด้วยวัตถุดิบล้ำค่า ของแบบนี้คนปกติธรรมดาหามาไม่ได้แน่ๆ
“ของชิ้นนี้ราคาค่อนข้างสูง เชิญคุณชายเข้ามารอในห้องพักก่อนเจ้าค่ะ”หญิงสาวตอบพลางมองไปทางป้ากง นางที่ได้เห็นแหวนมิติและปิ่นปักผมแล้วรีบเปลี่ยนหน้าตนเองให้ยิ้มแย้มทันที
“คุณชายตามข้ามาเจ้าค่ะ”เห็นป้ากงเปลี่ยนเป็นคนละคนแบบนี้ชิงชิวก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ มันเห็นคนแบบนี้จนชินแล้ว แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะ
“เชิญนั่งรอทางนี้เจ้าค่ะ คุณหนูกำลังให้คนไปเตรียมเงินรับซื้อมาให้ท่าน”ป้ากงว่าพลางพาชิงชิวเข้ามานั่งในห้องที่หรูหรากว่าข้างนอกมาก ภายในห้องนี้มีผู้คนอยู่น้อยกว่า แต่ดูภายนอกก็เข้าใจแล้วว่าลูกค้าพวกนี้คงเป็นพวกมีเงินกันแน่ๆ
“ชุดที่ใต้เท้าสั่งได้แล้วเจ้าค่ะ”ระหว่างที่ชิงชิวกำลังนั่งรอ อยู่ๆก็มีหญิงสาวคนหนึ่งนำหีบไม้ที่ตกแต่งอย่างหรูหราออกมายื่นให้ชายคนหนึ่ง ท่าทางร้านนี้จะรับตัดเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน ใส่กล่องเสียหรูหราแบบนั้นท่าทางชุดจะแพงไม่น้อยเลย
“สนใจหรือเจ้าคะ”คุณหนูเจ้าของร้านถามพลางเดินเข้ามาหาชิงชิว
“เอ่อ….ก็นิดหน่อยขอรับ”ชิงชิวว่าพลางมองเสื้อผ้าของตนเอง มันหาเสื้อผ้าพวกนี้มาจากข้างทาง แทบไม่ต่างจากเสื้อผ้าของขอทานเลย
“เสื้อที่ใต้เท้าท่านนั้นสั่งเป็นเสื้อผ้าที่ทำจากขนของอสูรเจ้าค่ะ มันบางแต่ให้ความอบอุ่น ราคาก็เลยสูง”เจ้าของร้านว่าพลางยิ้มบางๆ
“สูงขนาดไหนหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางกระพริบตาปริบๆ มันเคยสัมผัสขนของอสูรธาตุไฟในหมู่บ้านมาก่อน ขนของเจ้านั่นอุ่นมากแม้จะอยู่ในหน้าหนาวก็ตาม
“ไม่เท่าของที่คุณชายนำมาหรอกเจ้าค่ะ”เจ้าของร้านว่าพลางยิ้มออกมา ในมือของนางมีกล่องไม้ที่ดูหรูหราไม่ต่างจากกล่องของใต้เท้าคนเมื่อครู่อยู่ใบหนึ่ง พอนางเปิดให้ดูก็พบว่าภายในปรากฏเหรียญทองจำนวนมากถูกใส่เอาไว้ นี่คือราคาของปิ่นปักผมอันเมื่อครู่งั้นหรือ นี่องค์หญิงท่านทิ้งขว้างของราคาขนาดนี้ได้อย่างไรกัน หากได้กลับไปคงต้องสั่งสอนนางเสียหน่อย
“เหรียญทองในกล่องนี้สามารถซื้อชุดแบบนั้นได้เป็นสิบตัวเลยเจ้าค่ะ ไม่ทราบคุณชายจะซื้อเอาไว้สักตัวหรือไม่เจ้าคะ”เจ้าของร้านถามพลางยิ้มกว้างสมกับเป็นคนค้าขายจริงๆ
“เอ่อ ไม่ดีกว่าขอรับ”ชิงชิวยิ้มเจื่อนๆออกมา มันกำลังจะแอบออกจากเมืองและข้ามอาณาจักร มันคงต้องใช้ความสามารถของอสูรแมงมุมอีกหลายครั้ง แบบนั้นมันคงต้องถอดเสื้อผ้าทิ้งอีกแน่ๆ
“น่าเสียดายนะเจ้าคะ”เจ้าของร้านตอบด้วยท่าทีเสียดายจริงๆ แต่แค่ปิ่นปักผมนั่นก็ทำให้นางได้กำไรมากมายแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้นางอารมณ์ขุ่นเคืองแต่อย่างไร
“พวกท่าน….รับสั่งตัดหรือเปล่าขอรับ”ชิงชิวคิดอยู่ครู่หนึ่งพลางถามออกไป
“รับเจ้าค่ะ หรือว่าคุณชายอยากได้เสื้อแบบอื่น หากวัตถุดิบไม่หายากเกินไปเราก็สามารถทำได้ทันทีเจ้าค่ะ”เจ้าของร้านรีบตอบทันที นางไม่ปล่อยโอกาสค้าขายไปหรอก
“ถ้าเป็นเสื้อที่ถักจากใยของอสูรแมงมุมล่ะขอรับ”ชิงชิวถามออกไป เหมือนผ้าคลุมที่ทำจากใยของอสูรแมงมุม มันสามารถล่องหนไปพร้อมๆกับพลังของอสูรแมงมุมได้ หากทำชุดจากใยของอสูรแมงมุมละก็มันก็ไม่ต้องถอดเสื้อผ้าทิ้งตอนใช้พลัง แน่นอนมันจะทำให้ชิงชิวไม่ต้องเดินโทงๆกลางที่สาธารณะอีก
“ใยแบบไหนหรือเจ้าคะ”เจ้าของร้านถามพลางกระพริบตาช้าๆ นางเคยเห็นคนเอาใยของอสูรแมงมุมมาถักเสื้อผ้าเช่นกัน แต่ผู้หญิงไม่ค่อยจะชอบกันเพราะพวกนางไม่ชอบแมงมุม
“แบบนี้ขอรับ”ชิงชิวว่าพลางล้วงมือเข้าไปในเสื้อตนเอง มันเห็นองค์หญิงใช้ใยแมงมุมมาหลายครั้งแล้ว ทำให้มันสามารถใช้พลังอสูรสร้างใยแมงมุมออกมาได้เช่นกัน
“….”เจ้าของร้านรับใยแมงมุมไปถือพลางมองมันอย่างตั้งใจ ใยแมงมุมของอสูรแมงมุมล่องหนเป็นใยแมงมุมสีขาวล้วน ไม่มีอะไรโดดเด่นคงคาดหวังเรื่องความสวยงามไม่ได้ ไม่มีไอร้อนหรือเย็น สัมผัสพลังอะไรไม่ได้ ดูจากสายตาคนธรรมดาแล้วมันไม่ต่างจากเส้นด้ายเลย
ปึด… เจ้าของร้านทดลองดึงใยแมงมุมดู ปรากฏว่ามันขาดยากกว่าเส้นด้ายไม่มากเท่าไหร่
“ขะ ขออภัยเจ้าค่ะ ข้านึกว่ามันจะแข็งแรงกว่านี้”ปกติแล้วคนที่เอาใยแมงมุมมาสำเสื้อผ้ามักจะนำใยแมงมุมที่แข็งแกร่งมากๆมาใช้ แต่นี้แทบไม่มีความทนทานเลย แบบนี้ป้องกันอาวุธไม่ได้หรอก ยิ่งคิดนางก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะเอาชุดที่ทำจากใยแบบนี้ไปทำไม
“ท่านตัดให้ข้าได้หรือไม่”ชิงชิวถามพลางเลิกคิ้วสงสัย
“ใยแบบนี้พวกเราไม่มีเลยเจ้าค่ะ แต่หากท่านหาวัตถุดิบมาได้ พวกเราจะทอเป็นผ้าแล้วตัดเย็บให้ภายใน 2 วันเจ้าค่ะ”ได้ยินเช่นนั้นชิงชิวก็พยักหน้าช้าๆ 2 วันแลกกับการสร้างชุดที่จะใช้ไปพร้อมๆกับความสามารถของอสูรแมงมุมได้นับว่าคุ้มค่าแล้ว
“ข้าจะไปเอาวัตถุดิบมาให้”ชิงชิวว่าพรากลุกขึ้นยืน มันเก็บเอากล่องใส่เหรียญทองเข้าไปในแหวน ก่อนจะเดินออกจากร้านไป แน่นอนมันเพียงต้องสร้างใยแมงมุมจำนวนมากอกมาเท่านั้น เมื่อกลับเอาใยแมงมุมที่ม้วนเอาไว้เหมือนหลอดด้ายไปส่งให้ที่ร้าน เจ้าของร้านก็นัดวันมารับชุดและส่งใยแมงมุมของชิงชิวเข้าไปตัดเสื้อผ้าในทันที