บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 346 แทนคำขอบคุณ

ตอนที่ 346

แทนคำขอบคุณ

“ไป๋หลิน เจ้ามากับแม่”ทันทีที่ไป๋จูเหวินและเหม่ยหลินกลับมายังเมืองร้อยแปดอสูร พวกมั้นก็ได้รับฟังเรื่องต่างๆจากหยงเวยทันที แน่นอนว่าการใช้พลังมารเพื่อล่อลวงชิงชิวนั้นเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัย แม้จะทำไปด้วยความเอาแต่ใจแบบเด็กๆ แต่เหม่ยหลินก็ไม่อยากปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องธรรมดา

“ค่า….”ไป๋หลินตอบเสียงอ่อนพลางเดินตามเหม่ยหลินเข้าไปในห้องเก่าของมารดาทันที ทำเอาไป๋จูเหวินและเหล่าอสูรได้แต่ยิ้มส่งอยู่ด้านหลัง

“แบบนี้ก็ลำบากเจ้าหน่อยนะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองมาทางชิงชิว

“ขะ ขอรับ”ชิงชิวทำหน้าเหรอหราพลางเกาแก้มเขินๆ การได้พูดคุยอย่างสนิทสนมอย่างกับคนรู้จักกันกับองค์จักรพรรดิเช่นนี้ได้ไปคุยให้ใครฟังก็ยืดได้

“เด็กๆก็แบบนี้ล่ะขอรับ บางทีก็ปล่อยนางทำตามใจบ้างก็ได้ขอรับ”ชิงชิวเสนอออกมาด้วยท่าทีเขินๆ ตัวมันที่บ้านมีน้องสาวอยู่ 1 คนและน้องชายอยู่อีก 2 คน สาเหตุที่มันต้องออกมาหางานช่วยเหลือท่านแม่ก็เพราะมีน้องๆอยู่ด้วยนี่เอง

“งั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินนึกพลางยิ้มออกมา มันไม่ได้ถือสาที่ชิงชิวพูดเหมือนจะสอนตน แต่มันกลับนึกถึง 6 ปีที่ผ่านมานี้ต่างหาก แม้ไป๋หลินจะยังขี้อ้อนและอยากอยู่กับพ่อแม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็มีหลายๆครั้งที่นางอยากจะลองทำหลายๆอย่าง ซึ่งการไปนั่งรถไฟก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่นางอยากทำเช่นกัน พอมาลองนึกดีๆแล้วไป๋หลินก็ขาดอิสระไปไม่น้อยเลยเพราะกลายเป็นองค์หญิงไปแล้ว นี่มันกำลังทำพลาดเหมือนพวกจักรพรรดิองค์อื่นๆทำหรือเปล่านะ

“เด็กๆโตเร็วมากนะขอรับ ไม่ต้องพูดถึงองค์หญิงที่มีพลังวิญญาณระดับนี้ แถมนางยังมีไป๋ไป่อยู่ด้วย การเชื่อใจนางก็เป็นหน้าที่ของผู้เป็นพ่อนะขอรับ”ชิงชิวยิ้มพลางหัวเราะออกมา ตัวมันเลี้ยงน้องมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งน้องชายมันคนหนึ่งอายุเท่ากับองค์หญิงเลย เรียกได้ว่าความซนไม่ทิ้งห้างกันแม้แต่น้อย แม้น้องชายของมันจะปล่อยใยแมงมุมออกมามัดขามันไม่ได้ก็ตาม

“เจ้ารู้ดีเหมือนกันนะ”ไป๋จูเหวินชมออกมาด้วยคำพูดที่คลุมเครือไปเสียหน่อย ทำเอาชิงชิวสะดุ้งวาบ

“ขะ ข้าเพียงเคยชินกับการเลี้ยงน้องๆขอรับ ไม่ได้บังอาจสอนองค์จักรพรรดิแต่อย่างไร”ชิงชิวหน้าซีดเผือด เพราะมันมัวแต่นึกถึงน้องสาวน้องชายก็เลยลืมไปเลยว่าอีกฝ่ายคือจักรพรรดิ แต่ไป๋จูเหวินได้ยินกลับส่ายหน้าเบาๆด้วยท่าทีอ่อนโยน

“ข้าไม่ถือหรอก เจ้าทำดีแล้ว”ไป๋จูเหวินว่าพลางตบบ่าชิงชิวเบาๆ ทำเอาตัวมันสะท้านวาบ การที่องค์จักรพรรดิตบบ่ามันแบบนี้ทำเอามันใจเต้นเลย

“จริงสิ เอาไว้วันหลังข้าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเจ้าบ้างก็แล้วกัน”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางเดินไปหาหวงหลงและหงเยว่ที่มารอรับมันตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว

ตอนนี้ชิงชิวไม่ทราบจะทำอะไรดี องค์หญิงก็โดนพาตัวเข้าห้องสอบสวน?ไปแล้ว มันเลยเดินไปนั่งบริเวณที่ใกล้ห้องของเหม่ยหลินที่สุดเท่าที่มันเข้าใกล้ได้ เพราะหน้าที่ของมันคือองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิง มันนั่งลงแล้วนำตำราเทวะปราบมารออกมาจากแหวนมิติที่มันได้ยืมมาจากกรมทหาร ตัวมันไม่เคยฝึกวิชาระดับสูงแบบนี้มาก่อน มันจึงตื่นเต้นและตั้งใจอ่านมากทีเดียว แม้มันจะไม่ใช่อัจฉริยะอย่างไป๋จูเหวินที่อ่านเพียงผ่านๆก็จำได้หมด แต่สมองของชิงชิวก็ไม่ธรรมดา มันอ่านทวนอยู่ 4 รอบก็เริ่มจำเนื้อหาได้ ไม่นานมันก็เริ่มเดินพลังวิญญาณตามตำราช้าๆ

ตำราเทวะปราบมารเล่มนี้ไม่เหมือนเล่มที่อู๋หมิงเรียน เพราะตัวหยงเวยเอาไปศึกษาและเขียนอธิบายเพิ่มเติมในตำราหลายจุดทีเดียว ทำให้ชิงชิวเข้าใจได้ไวมาก

วูบ…ไม่ทราบเพราะหยงเวยเขียนอธิบายเพิ่มได้ยอดเยี่ยมหรือจริงๆแล้วชิงชิวมีพรสวรรค์กันแน่ เพียงผ่านไปคืนเดียวแสงสีขาวก็ส่องออกมาจากร่างของชิงชิว แม้จะเลือนราง แต่มันก็สามารถเปล่งประสิทธิภาพของพลังเทวะปราบมารได้เล็กน้อย แต่เพียงเท่านี้มันก็ทราบได้แล้วว่าพลังเทวะปราบมารเป็นเคล็ดวิชาพลังขั้นสูงที่เคล็กฝึกวิชาที่แจกจ่ายในค่ายทหารเทียบไม่ติดเลยแม้แต่เศษผง

“ท่านขยันฝึกจริงๆนะพี่ชิว”ไม่ทราบเวลาล่วงเลยมาถึงเช้าตั้งแต่เมื่อไหร่ ชิงชิวรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ไป๋หลินเดินออกมาจากห้องของเหม่ยหลินเสียแล้ว ท่าทางนางจะไม่พอใจเท่าไหร่ที่ชิงชิวผึกวิชาเทวะปราบมารได้รวดเร็วนัก

“องค์หญิง อรุณสวัสดิ์ขอรับ”ชิงชิวว่าพลางลุกขึ้นประสานมือคารวะให้ไป๋หลิน

“พี่ชิว ท่านเก่งจริงๆเพียงคืนเดียวก็เรียนวิชาเทวะปราบมารจนเข้าใจ แต่ยอดฝีมือจะขาดวิชาติดตัวไม่ได้นะ”ไป๋หลินว่าพลางเรียกเอาพัดหยกขาวขึ้นมา

“ให้ข้าช่วยท่านฝึกกระบวนท่าต่อเถอะ”ไป๋หลินพูดจบก็เรียกเอาน้ำแข็งออกมาจากพื้น ตัวชิงชิวพึ่งลองเปลี่ยนอาวุธ วิชามีดสั้นและดาบสั้นยังไม่ประสีประสาเสียด้วยซ้ำ มีหรือจะต้านรับวิชาพัดน้ำค้างแข็งของมาราคะได้

“หวา….”ชิงชิวใช้ท่าเท้าของตนขเองเพื่อหลบลิ่มน้ำแข็งที่ลามมาจากพื้น แต่ไป๋หลินที่ฝึกวิชามานานไม่ได้อ่อนด้อยขนาดจะจับชิงชิวไม่ได้ ลิ่มน้ำแข็งเองก็เปลี่ยนทิศทางพุ่งวาบเข้าแช่แข็งชิงชิวทันที แต่น้ำแข็งเกาะทั่วร่างชิงชิวได้ไม่นานมันก็สลายไป

“องค์หญิง ยั้งมือด้วย”ชิงชิวว่าพลางถอยออกมานิดหน่อย เมื่อครู่มันทราบแล้วว่าไป๋หลินไม่ได้เล็งโจมตีถึงชีวิต แต่ลิ่มน้ำแข็งที่พุ่งเข้าใส่อย่างไม่ปราณีมันก็น่ากลัวจริงๆ

“ไม่ได้ๆ ท่านต้องฝึกให้เก่งเท่าพี่ไป๋ไป่เข้าใจไหม”ได้ยินไป๋หลินพูดแบบนั้นชิงชิวพลันหน้าซีดเผือดทันที จะให้เก่งเท่าไป๋ไป่งั้นหรือ ตัวมันมีอะไรไปสู้ไป๋ไป่ได้กัน เมื่อวานพวกนักเลงที่เข้ามาหาเรื่องมันโดนซัดทีเดียวร่วงไปนอนกับพื้น แต่ไป๋ไป่ใช้แค่แขนเดียวจัดการพวกมันเสียอยู่หมัดเชียวนะ

“ไป๋หลิน”เห็นบุตรสาวตนเองรังแกชิงชิวแบบนี้ไป๋จูเหวินก็เข้ามาหยุดเอาไว้ พอได้ยินบิดาตนเองเรียกไป๋หลินก็สลายน้ำแข็งไปจนหมดทันที

“เจ้าไม่พอใจชิงชิวงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางเดินเข้ามาหาไป๋หลินมันเห็นว่าไป๋หลินเพียงใช้พลังธาตุน้ำแข็งหยอกล้อเท่านั้นไม่ได้เอาจริงมันเลยไม่ได้ว่าอะไรนางรุนแรงนัก

“เปล่าเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางซ่อนพัดหยงขาวเอาไว้ด้านหลัง แน่นอนจริงๆแล้วก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังอะไรชิงชิวหรอก แต่พอนึกว่าชิงชิวจะไล่จับนางทุกครั้งที่ทำอะไรมันก็รู้สึกไม่พอใจเสียเท่าไหร่ มันเหมือนมีพี่เลี้ยงคอยตามเลย

“ทั้งๆที่ชิงชิวอุตส่าห์ขอให้พ่อเดินทางขากลับด้วยรถไฟแท้ๆ ในเมื่อเจ้าไม่ชอบไม่เป็นไร”ได้ยินเช่นนั้นไป๋หลินก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที

“ชอบเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางเดินเข้ามาเกาะไป๋จูเหวินเอาไว้ทันที ถ้าเดินทางกลับอาณาจักรไป๋ด้วยรถไฟ นั่นหมายความว่านางมีเวลาเหลือเฟือเที่ยวชมบนรถไฟเลย

“งั้นเหรอ งั้นก็ขอบคุณชิงชิวเสียสิ”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางมองบุตรสาวที่กำลังทำท่าทีชอบอดชอบใจออกมา

“แล้วก็ขอโทษมันเรื่องเมื่อวานด้วย”ไป๋จูเหวินสั่งย้ำอีกรอบ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็เป็นการฝืนใจชิงชิวจริงๆ

“พี่ชิว”ไป๋หลินเดินเข้ามาหาพี่ชิวด้วยท่าทีเชื่องกว่าเมื่อครู่มาก นางมองช้อนสายตามาทางชิงชิวด้วยท่าทีอ่อนน้อมพร้อมรอยยิ้มบางๆ

“ขอบคุณนะเจ้าคะที่ช่วยบอกท่านพ่อให้”ไป๋หลินพูดด้วยท่าทางเขินอาย นางไม่นึกเลยว่าชิงชิวจะพูดเรื่องนี้ให้ แน่นอนว่าชิงชิวเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าตนเองไปพูดเรื่องนั้นตอนไหน

“มะ ไม่เป็นไรขอรับองค์หญิง”ชิงชิวเห็นไป๋จูเหวินขยิบตาให้มันก็เลยยอมรับออกไปด้วยท่าทีเขินอายไม่ต่างกัน

“แล้วก็ขอโทษเรื่องเมื่อวานกับเมื่อครู่ด้วยนะเจ้าคะ”ไป๋หลินก้มหัวลงเล็กน้อย ตัวนางเป็นองค์หญิงมาแค่ไม่กี่ปี ไม่ได้ถือตนเหนือคนอื่นแต่อย่างไร เมื่อผิดก็อมก้มหัวแต่โดยดี

“ไม่เป็นไรหรอกขอรับองค์หญิง”ชิงชิวยิ้มออกมาพลางโบกมือเบาๆเห็นไป๋หลินขอโทษเช่นนี้ทำเอานึกถึงน้องสาวที่บ้านเลย

“แต่เรื่องกระบวนท่าข้าพูดจริงๆนะ”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มออกมา เมื่อครู่นางบอกชิงชิวเรื่องกระบวนท่าในการต่อสู้ของชิงชิวยังต้องฝึกฝนอีกมาก ซึ่งชิงชิวก็ไม่ปฏิเสธ ยิ่งตอนนี้มันเหมือนเด็กอมมือในหมู่คนรอบข้างเลย แม้แต่องค์หญิงที่มันมีหน้าที่ต้องปกป้องก็ยังแข็งแกร่งกว่ามันอย่างเห็นได้ชัด

“ข้าจะพยายามขอรับ ถึงจะสู้ไป๋ไป่ไม่ได้ก็เถอะ”ชิงชิวตอบพลางหัวเราะเจื่อนๆออกมา

“แต่ท่านมีพรสวรรค์จริงๆนะ ท่านพ่อท่านมีวิชามีดสั้นบ้างหรือเปล่า”ไป๋หลินถามพลางกลับไปหาไป๋จูเหวิน

“มีสิ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมา ตัวไป๋จูเหวินเก็บกู้สมบัติจากยอดฝีมืออาณาจักรไป๋ที่ตายไปด้วยวิชาธาตุความมืด ทำให้ในตัวมันมีวิชาต่างๆอยู่ไม่น้อยเลย

“เจ้าใช้อาวุธคู่แล้วก็เป็นธาตุลมสินะ”ไป๋จูเหวินพูดลอยๆออกมาพลางมองไปที่มือของชิงชิว เมื่อครู่มันเห็นแล้วว่าชิงชิวใช้ดาบสั้นและมีดสั้นอย่างละข้าง แม้ทั้งสองจะต่างกันไม่มาก แต่พลังโจมตีของดาบสั้นเยอะกว่ามีดสั้นและมีดสั้นก็เร็วกว่าดาบสั้น หากผสานกันดีๆศัตรูก็งุนงงได้เช่นกัน ส่วนเรื่องธาตุลมนั้นไป๋จูเหวินสามารถดูได้ด้วยดวงตาสีม่วงนั่นเอง

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”ไป๋หลินยิ้มพลางรับตำรา 2 เล่มมาจากไป๋จูเหวิน ตำราทั้งสองเล่มนี้เป็นยอดวิชาของยอดฝีมือทั้งสิ้น แม้ไป๋จูเหวินจะไม่ได้อ่านตำราทั้งหมด แต่หากต้องเลือกวิชาที่สามารถผสานกันได้ก็มี 2 วิชานี้เท่านั้นที่โดดเด่นที่สุด

“พี่ชิว ถือว่านี้เป็นคำขอบคุณของข้านะ”ไป๋หลินยิ้มหวานพลางยื่นตำราทั้ง 2 เล่มให้ชิงชิวกับมือ เมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสของนางแล้วชิงชิวรู้สึกใจสั้นทันที ไม่ใช่ว่าพลังเทวะปราบมารจะช่วยให้มันไม่โดนผลของราคะงั้นหรือ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset