ตอนที่ 332
บุกรังโจร
“มีอะไร”ชายคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนกำแพงพลางถามชายอีกคนที่กำลังใช้กล้องส่งทางไกลส่องไปบนหมอกสีขาวที่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ สถานที่แห่งนี้เป็นเกาะกลางทะเลที่อยู่ในเขตที่มีหมอกปกคลุมตลอดเวลา จนชาวอาณาจักรไชน์ให้สมยานามว่าเกาะหมอกมรณะ เพราะการแล่นเรือเข้ามาในเขตหมอกเป็นเรื่องอันตรายมาก และต่อให้สามารถล่องเรือผ่านซอกหินไปได้ก็ยังโดนพวกโจรเล่นงานอยู่ดี ทำให้บนเกาะแห่งนี้มีเพียงพวกโจรเท่านั้นที่อยู่อาศัยได้
“เรือของพวกเด็กใหม่กลับมาไวกว่าปกติ”ชายที่ใช้กล่องส่องทางไกลตอบพลางเพ่งมองเรือที่กำลังแล่นตัดหมอกเข้ามาด้วยความเร็วเอื่อยเฉื่อยราวกับไม่อยากให้ใครเห็นว่าตนกำลังแล่นเรือเข้ามา
“ไหน”ชายคนแรกถามพลางหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาเช่นกัน เมื่อเช้าพวกมันพึ่งส่งเด็กที่พึ่งบรรลุนิติภาวะของเกาะออกไปลองเชิงเจ้าคนคุ้มกันเมือง เงื่อนไขคือสู้กับมันและรอดกลับมาให้ได้ แต่นี่อาทิตย์ยยังไม่ทันตกดินเลยพวกมันก็กลับมาแล้ว
“แปลก….มีคนอื่นนั่งเรือมาด้วย”ชายอีกคนว่าพลางขมวดคิ้วด้วยท่าทีไม่พอใจ
“คิดจะพาคนนอกเข้ามางั้นเหรอ เจ้าพวกนั้นได้ท่องกฎของเหาะหรือเปล่า”ชายอีกคนบ่นพลางกำหมัดแน่น มันลุกขึ้นก่อนจะส่งสัญญาณมือให้คนบนกำแพงคนอื่น
ฟุบๆๆๆๆ ไม่พูดพร่ำทำเพลงธรูเพลิงก็ถูกยิงใส่เรือที่ไป๋จูเหวินนั่งมาทันที ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดการนำคนนอกเข้ามาในเกาะถือเป็นโทษร้ายแรง ผลลัพธ์คือตายสถานเดียวเท่านั้น
ฟุบ….ร่างของไป๋จูเหวินกระโดดสวนทางธนูเพลิงเข้ามาหาคนที่ยิงธนูลงไป ก่อนจะซัดฝ่ามือเปรี้ยงหนึ่งล้มชายคนนั้นจนตกกำแพงไปได้อย่างง่ายดาย
ตั้งแต่เข้ามาในเขตเกาะแล้ว ไป๋จูเหวินก็เห็นเรือจำนวนมากจอดอยู่เต็มไปหมด ไม่ใช่แค่เรือของพวกโจร แต่มีเรือสินค้าที่เคยเห็นตอนมาเมืองของรูบี้เช่นกัน ท่าทางเจ้าพวกนี้จะเป็นพวกเดียวกับโจรที่ปล้นอยู่ในน่านน้ำตอนกลางจริงๆ
“ผู้บุกรุก”เสียงตะโกนดังออกมาจากภายในตัวเมือง พร้อมเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งเข้ามาจำนวนมาก
ตูมมม!!! หลินหลินที่คืนร่างเป็นแมงมุมแล้วกระโดดตัวลอยก่อนจะใช้ขาทั้ง 8 ข้างกระทืบลงไปกลางฝูงคนอย่างแรง ทั้งขวานทั้งธนูต่างทำอะไรนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เปรี้ยงๆๆๆๆๆ!! ไป๋จูเหวินเดินลงจากกำแพงด้วยท่าทีปกติ มันซัดฝ่ามือปัดคนที่วิ่งเข้ามาโจมตีออกพลางมองหาคนที่ท่าทางแข็งแกร่งที่สุด
ตูม!! คนของเกาะเต็มไปด้วยนักสู้ ผู้ชายทุกคนแทบจะพุ่งเข้ามาหาไป๋จูเหวินด้วยอาวุธ แม้แต่ผู้หญิงเองก็เข้ามาโจมตีเช่นกัน เพียงแต่ไป๋จูเหวินก็ยังสัมผัสพลังที่แข็งแกร่งไม่ได้เลย
ตูม!!ฝ่ามือเพลิงพิโรธฟาดออกไปกวาดเอาคนของพวกโจรลอยไปตามแรงกันหลายสิบคน เจ้าพวกนี้ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก มิน่าเล่าก่อนหน้านี้ถึงไม่เคยเหิมเกริมออกไปปล้นที่น่านน้ำอื่นเลย
โครม!! หลินหลินทิ้งร่างลงพื้นครั้งหนึ่งเพื่อโจมตีคนส่วนมากที่เข้ามาออใต้เท้าของตนเอง อาวุธของพวกโจรธรรมดามาก ไม่มีอันไหนแข็งแกร่งพอจะทำร้ายหลินหลินได้เลย
ตูม!! ฝ่ามือเพลิงพิโรธแสดงอำนาจไม่กี่ครั้ง พวกโจรเถื่อนก็ล้มไม่เป็นท่า ไม่นานรอบๆตัวไป๋จูเหวินก็มีแต่พวกโจรที่นอนกันเกลื่อนอย่างกับภาพสงครามหลังการรบจบ เพียงแต่ไป๋จูเหวินยังไม่พบชายที่บอกว่าเป็นหัวหน้าของพวกโจรเลย
“แก….”ชายคนหนึ่งพยายามจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ล้มลงไปอีกรอบด้วยท่าทีทุลักทุเล
“ได้ข่าวว่าพวกเจ้ามีหัวหน้าคนใหม่”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปรอบๆ
“มันอยู่ที่ไหน”ได้ข่าวว่าพวกมันเอาชนะทหารเรือได้ หัวหน้าคนใหม่ที่ว่าไม่น่าจะเป็นแค่ข่าวลือแน่ๆ
“อึก แกรู้ภาษาของพวกเราได้ไง”ชายคนนั้นตกใจมากที่เห็นไป๋จูเหวินพูดภาษาของตนเองได้ แต่ไป๋จูเหวินไม่ตอบ มันจ้องหน้าชายคนนั้นนิ่งราวกับจะรอให้อีกฝ่ายตอบคำถามแรกของตนเอง
“ฟังออกก็ดี….ข้าขอเตือนเจ้า หนีไปซะ ถ้าหัวหน้ากลับมาเจ้าตายแน่”ชายคนนั้นว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีดุดัน ท่านหัวหน้ากับพวกนักรบออกไปปล้นพอดี เจ้าบ้านี่บุกมาถูกจังหวะจริงๆ
“เหรอ มันจะกลับมาเมื่อไหร่”ไป๋จูเหวินถามพลางเงยหน้ามองพระอาทิตย์ด้านบน มันมีเวลาอยู่ที่อาณาจักรไชน์ไม่นาน ขืนเสียเวลามากกว่านี้ไป๋หลินต้องโกรธมันแน่ๆ
“หึหึ….ท่าทางเจ้าจะหนีไม่ทันแล้ว”ชายคนนั้นว่าพลางมองไปทางเส้นทางที่ไป๋จูเหวินพึ่งจะเดินทางเข้ามา ตอนนี้ที่ปากทางเข้าเกาะมีเรือลำหนึ่งกำลังแล่นเข้ามา ทำให้ไป๋จูเหวินปล่อยชายคนนั้นเอาไว้ แล้วเดินไปบนกำแพง
ท่าทางมันจะไม่ต้องรออีกแล้ว เพราะบนเรือลำนั้นมีคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 หลายคนทีเดียว เพียงแต่ชายคนไหนกันที่เป็นหัวหน้าของพวกมัน
“หัวหน้า มีคนแปลกหน้าอยู่บนเกาะของเรา”ชายที่นั่งอยู่บนเรือขนาดใหญ่ว่าพลางมองสบตากับไป๋จูเหวินเข้าพอดี
“ใครปล่อยมันเข้ามา”ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่กลางเรือพูดพลางมองไปบนกำแพงเช่นกัน เจ้านั่นไม่คุ้นตาเลย แถมสีผมยังแปลกอีกต่างหาก ไม่ใช่คนที่มันรู้จักหรือคนที่มีสิทธิ์ขึ้นมาบนเกาะแน่ๆ
“จะว่าไปก็ไม่มียามเลยนี่นา หรือว่ามันจะจัดการไปหมดแล้ว”ชายคนหนึ่งพูดพลางมองไปรอบๆกำแพง ปกติต้องมีคนส่งสัญญาณให้เรือเข้าเทียบท่าแล้วไม่ใช่หรือไง
“ท่าทางจะไม่ใช่เรื่องดีแล้ว หัวหน้าข้าจะไปจัดการมันเอง”ชายคนหนึ่งพูดพลางหยิบขวานขนาดพอดีมือออกมาพร้อมโล่เหล็กกลมหนึ่งอัน
ฟุบ..ชายคนนั้นกระโดดวูบขึ้นไปยังที่ๆไป๋จูเหวินอยู่โดยไม่มีใครห้าม แม้มันจะไม่ใช่พวกยอดฝีมือ แต่อีกฝ่ายพลังอ่อนกว่าพวกตนมาก คิดว่าคงไม่มีปัญหา
เปรี้ยง!! ยังไม่ทันจะได้กระโดดไปถึงกำแพง ร่างของชายคนนั้นก็โดนฝ่ามือบังคับหกปักษากระแทกเข้าอย่างจังจนร่วงตกลงไปในน้ำเสียก่อน ทำเอาเหล่ายอดฝีมือของเกาะพากันลุกฮือทันที
“อีกฝ่ายท่าทางจะไม่ธรรมดาซะแล้ว”วิชาของไป๋จูเหวินในแผ่นดินอาณาจักรไชน์นั้นนับว่าหายากมาก โจมตีศัตรูจากระยะไกล หากเมื่อครู่ไม่มีหมอกอยู่รอบๆพวกมันคงมองไม่เห็นแน่ๆว่าไป๋จูเหวินโจมตีออกมา
“คงต้องสั่งสอนให้มันรู้ซะแล้วว่ากำลังเล่นกับใคร”พูดจบเหล่าคนที่มีพลังระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 หลายคนก็กระโดดออกมาจากเรือ
เปรี้ยงๆๆๆ!! ฝ่ามือบังคับหกปักษาเข้าโจมตีก่อนที่พวกมันจะมาถึงกำแพงเสียอีก แต่เพราะหมอกที่ลงหน้าเอาเรื่องทำให้เห็นเส้นทางของฝ่ามือบังคับหกปักษาอย่างชัดเจนทำให้พวกโจรสามารถป้องกันฝ่ามือบังคับหกปักษาได้อย่างรวดเร็ว
ตูม!! ไม่พูดพร่ำทำเพลงชายที่รวดเร็วที่สุดยกขวานสองมือขึ้นฟาดใส่ร่างของไป๋จูเหวินในทันที แต่ความเร็วระดับนี้หากเทียบกับอู๋หมิงแล้วเรียกว่าเต่าคลานยังเกรงใจเต่าเลย
เปรี้ยง!! ร่างของชายคนแรกกระเด็นไปข้างหลังด้วยฝ่ามือเพลิงพิโรธเข้าอย่างจัง คนที่กระโดดออกมาจากเรือมี 8 คน ทุกคนระดับเทียนเซียนขั้น 10 ทั้งสิ้น ส่วนบนเรือนั้นยังมีลูกเรืออีกจำนวนหนึ่ง แต่คนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 นั้นเหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นหมายความว่าคนพวกนี้คือหน้าด่านก่อนที่หัวหน้าพวกโจรจะออกมาสินะ
ตูมๆ!! ไป๋จูเหวินซัดฝ่ามือเพลิงพิโรธออกไปสองครั้งติด อัดร่างของชาย 2 คนที่บุกเข้ามากระแทกพื้นหมดสติในทันที คนพวกนี้อยู่ระดับเทียนเซียนขั้น 10 ก็จริง แต่เทียบกันแล้วไม่ใช่ชนชั้นยอดฝีมือแต่อย่างไร พวกมันเป็นเพียงคนระดับเทียนเซียนขั้น 10 เท่านั้น
ตูม!! ชายคนหนึ่งหวดขวานลงมาที่ไป๋จูเหวิน แต่ขวานของมันกลับไม่สามารถทำร้ายผิวหนังของไป๋จูเหวินได้แม้แต่น้อย แต่กำลังของอีกฝ่ายไม่ใช่ธรรมดา หนักแน่นและรุนแรงไม่น้อย ในที่สุดก็มีชนชั้นยอดฝีมือเสียที
เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆ ไป๋จูเหวินดันขวานออกก่อนจะซัดฝ่ามือประกานอัสนีใส่อีกฝ่ายจนเซถอยไปหลายก้าว ก่อนจะตามไปซัดฝ่ามือเพลิงพิโรธเข้ากลางลำตัวอีกครั้งทำเอาชายคนนั้นกระอักเลือดออกมาล้มลงไปนอนกับพื้น
วูบ!! อยู่ๆพลังวิญญาณจากเรือของพวกโจรก็พุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ ท่าทางเจ้าหัวหน้าอะไรนั่นจะนั่งอยู่กับที่ไม่ไหวแล้ว
ตูม!!! ก่อนเจ้าตัวจะพุ่งเข้ามา อาวุธของมันกลับลอยเข้ามาหาไป๋จูเหวินก่อน แม้จะทำร้านอะไรไป๋จูเหวินไม่ได้ แต่ก็กวาดเอากำแพงหายไปหลายส่วนทีเดียว
“หึ”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางมองร่างของหัวหน้าโจรที่ลอยลงมาจากฟ้าด้วยท่าทียิ่งใหญ่ราวกับทวยเทพ มิน่าเล่ามันถึงโดนพวกลูกน้องนับถือเป็นบุตรของพระเจ้า พลังของมันเข้มข้นมากทีเดียว แถมยังหนุ่มกว่าพวกที่บุกมาก่อนหน้านี้มาก
“เจ้าคู่ควร”ชายคนนั้นยิ้มพลางปล่อยพลังวิญญาณออกมาจำนวนมาก เจ้านี่ไม่ใช่แค่ระดับพลังสูงเท่านั้น แต่ยังมีวิชาเพิ่มพลังวิญญาณอีกด้วย
โครม!! ร่างของหัวหน้าโจรทะยานเข้ามาหาไป๋จูเหวิน ก่อนจะหวดค้อนลงมาใส่ร่างของไป๋จูเหวินอย่างจัง ความเร็วของมันสูงมาก เหนือกว่าคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด แถมกำลังของมัน…..
“ยอดเยี่ยม เจ้ารับพลังของข้าได้”หัวหน้าโจรชื่นชมพลางหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ แม้แต่ไป๋จูเหวินเองยังรู้สึกเจ็บที่แขน นับว่ากำลังของอีกฝ่ายไม่ใช่เล่นๆเลย
ตูม!! ไป๋จูเหวินซัดฝ่ามือเพลิงพิโรธใส่หัวหน้าโจรอย่างจัง แต่ไม่เหมือนคนก่อนหน้านี้ ฝ่ามือเพลิงพิโรธทำได้แค่สร้างแรงสะเทือนเท่านั้น
“ยอดเยี่ยม”หัวหน้าโจรพูดออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้น อีกฝ่ายมีผิวหนังที่แข็งแกร่งเหมือนกัน ท่าทางการปราบกลุ่มโจรคราวนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว
ตูม!! ค้อนของอีกฝ่ายกระแทกเข้าร่างของไป๋จูเหวินอย่างจัง ส่วนไป๋จูเหวินก็ซัดฝามือเพลิงพิโรธใส่อีกฝ่ายเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างมีความทนทานที่สูงลิบ กำลังทำลายที่บดก้อนหินได้อย่างง่ายดายกลับดูเหมือนจะไร้ผล
“ฮ้าๆ”ฝ่ายตรงข้ามเริ่มหัวเราะพลางระดมค้อนโจมตีใส่ไป๋จูเหวินอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวไป๋จูเหวินนั้นไม่ได้ยิ่งย่อนไปกว่ากัน มันระเบิดฝ่ามือเพลิงพิโรธเข้าปะทะกับอีกฝ่ายตาต่อตาฟันต่อฟันแลก 1 ค้อนต่อ 1 ฝ่ามือราวกับจะวัดว่าใครจะทนทานมากกว่ากันแน่
ตูม!! อยู่ๆค้อนของอีกฝ่ายก็รุนแรงขึ้นพร้อมพลังวิญญาณที่เพิ่มสูงขึ้น
คลืนนนน ราวกับโดนคลื่นซัดเข้าใส่ ร่างของอีกฝ่ายแผ่พลังธาตุน้ำออกมาจนน้ำทะเลรอบๆไหลเข้ามารวมกันอยู่ที่ค้อนของหัวหน้ากลุ่มโจร มันยิ้มกว้างจ้องมาทางไป๋จูเหวินราวกับจะสังหารมันให้ตาย