ตอนที่ 328
ช่วยได้มาก
การเดินทางไปยังเขตอสูรเพื่อเจรจากับเหล่าอสูรคราวนี้ไม่ได้เหมือนครั้งของอาณาจักรโฮเสียทีเดียว เพราะนอกจากจะไปเขตอสูรแล้วพวกไป๋จูเหวินจำเป็นต้องแวะตามเมืองต่างๆเพื่อแนะนำตัวและให้ประชาชนได้เห็นจักรพรรดิและมเหสีของตนเองด้วย เพราะเมืองของอาณาจักรหลิวนั้นไม่เหมือนเมืองของอาณาจักรโฮ คนที่นี่มีความรู้ความสามารถ พวกมันไม่ยอมรับจักรพรรดิองค์ใหม่ง่ายๆอย่างประชาชนของอาณาจักรโฮ และการยอมรับอสูรก็ยากกว่าเช่นกัน
“คุกเข่า”ขุนนางเก่าของอาณาจักรหลิวสั่งพลางเดินออกมาด้านหน้าขบวนเสด็จของไป๋จูเหวิน ข่าวเรื่องจักรพรรดิพระองค์ใหม่น่าจะแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรแล้ว ทำให้ชาวเมืองไม่แปลกใจเสียเท่าไหร่ที่เห็นจักรพรรดิองค์ใหม่มาเยือน แต่กลับพากันวิพากษ์วิจารณ์กันเสียมากกว่า
“นั่นนะเหรอองค์จักรพรรดิ….”ชาวบ้านต่างพากันมองไป๋จูเหวินจากระยะไกลกันด้วยท่าทีตื่นเต้น การเปลี่ยนองค์จักรพรรดิแม้จะเป็นเรื่องร้ายแรงของอาณาจักร แต่สำหรับชาวบ้านในเมืองห่างไกลนั้นไม่ค่อยต่างเสียเท่าไหร่
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่าน”ไป๋จูเหวินทักทายพลางเดินเข้าไปหาชาวเมืองด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย มันยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเหล่าอสูรตัวเล็กตัวน้อยที่เดินตามเข้าไปด้วยเช่นกัน
“อสูร?”เหล่าชาวเมืองมีท่าทีประหลาดใจทันทีที่เห็นว่ารอบกายของไป๋จูเหวินนั้นเต็มไปด้วยอสูร การที่ไป๋จูเหวินพาอสูรเหล่านี้มาก็มาจากแผนการของเหล่าอสูรเจ้าเมืองในเขตทางเหนือ มันต้องการให้เหล่าชาวเมืองคุ้นชินกับอสูรบ้างสักเล็กน้อยก่อนจะส่งอสูรเข้ามาช่วยงานที่นี่
“อสูรพวกนั้นดูเชื่องจริงๆ หรือท่านจะเลี้ยงอสูรเป็นงานอดิเรก”เหล่าชาวเมืองพากันหันไปถามกันเองด้วยความสนอกสนใจ
“ข้าได้ข่าวมาว่าท่านเป็นนายของเหล่าอสูร หากมีท่านอยู่ไม่ว่าอสูรจะดุร้ายเพียงไรก็เป็นมิตรทั้งนั้น”ชาวเมืองคนหนึ่งพูดออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ
“ข้าเองก็ได้ยินเช่นนั้น ตราบใดที่ท่านเป็นองค์จักรพรรดิก็ไม่ต้องกลัวอสูรอีกต่อไป”ชาวบ้านอีกคนพูดทำเอาชาวบ้านที่เหลือฮือฮากันยกใหญ่ แน่นอนว่าข่าวพวกนี้ไม่ยังไม่ควรมาถึงเมืองที่ห่างไกลเช่นนี้ แต่ชาวบ้านที่พูดออกมานั้นล้วนเป็นหน้าม้าที่ไป๋จูเหวินส่งเข้าไปช่วยพูดเท่านั้น
หลังจากแนะนำตัวและสร้างความคุ้นชินแล้ว ไป๋จูเหวินก็เดินทางร่วมกับเจ้าเมืองเข้าดูปัญหาต่างๆของเมืองเหมือนที่เขตทางเหนือ เพียงแต่ปัญหาของเขตทางใต้ไม่เหมือนทางเหนือ เขตทางเหนือมีปัญหาเรื่องผลผลิตและความรู้ของประชาชนเพราะอาณาจักรโฮก่อนหน้านี้สร้างบาดแผลเอาไว้ลึกทีเดียว แต่ปัญหาของทางใต้นั้นเป็นเรื่องขั้วอำนาจของเหล่าสำนักและร้านค้าในเมืองมากกว่า แม้จะเป็นการแข่งขันที่ดี แต่สำนักบางสำนักกลับไม่ถูกกันจนโจมตีกันเองกลางเมืองเลยทีเดียว
.
.
ทางด้านไป๋หลินที่เสนอตัวมาช่วยงานบิดานั้น นางกำลังเดินทางไปพร้อมกับเหม่ยหลินผู้เป็นมารดา แน่นอนว่านางสามารถช่วยไป๋จูเหวินเรื่องเจรจากับเหล่าอสูรได้อย่างเหลือเฟือ เพราะแค่นางทำหน้าขอร้องพลางเอ่ยปากไปไม่กี่คำ ราชาในเขตอสูรก็อ่อนระทวยยอมทำตามนางอย่างง่ายดายแทบไม่ต่างจากพลังของบิดาเลย
“ตายแล้ว นั้นนะเหรอองค์หญิงไป๋หลิน”แน่นอนว่าไป๋หลินเองก็ต้องไปเยี่ยมเยียนชาวเมืองเช่นเดียวกันกับไป๋จูเหวิน ทำให้เหม่ยหลินได้ทราบว่านอกจากนางจะช่วยงานเรื่องเจรจาอสูรได้แล้วนางยังช่วยเหลือเรื่องชักจูงจิตใจชาวเมืองอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนทั้งแม่ทั้งลูกคู่นี่ก็เรียกสายตาหลงใหลจากชาวเมืองได้เป็นอย่างดี ตัวเหม่ยหลินนั้นดึงดูดสายตาของเหล่าบุรุษได้เป็นอย่างดี แม้แต่หญิงสาวเองยังมองนางด้วยท่าทีนับถือ เรียกได้ว่าความงดงามและสง่างามของนางเหมาะสมกับตำแหน่งมเหสีอย่างมาก แต่ทางไป๋หลินเองนอกจากผู้ชายแล้วนางยังดึงดูดความสนใจของเหล่าหญิงสาวหญิงชราหรือวัยกลางคนได้อีก ทำเอาการเยี่ยมชมเมืองของฝั่งเหม่ยหลินนั้นผ่อนคลายกว่าด้านของไป๋จูเหวินหลายเท่า ยิ่งเห็นไป๋หลินเล่นกับเหล่าอสูรตัวน้อยก็แทบไม่ต้องใช้หน้าม้าอะไรอีกแล้ว
“นั่นนะเหรอขบวนเสด็จของมเหสี”แม้จะได้รับความชื่นชมจากชาวเมืองส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งยังไม่ยอมรับจักรพรรดิและมเหสีองค์ใหม่อยู่บางส่วน
“องครักษ์มีฝีมือไม่กี่คนเองไม่ใช่หรือไง ถ้าจำไม่ผิดพวกมันเป็นพวกองครักษ์ปลายแถวที่เคยช่วยงานพวกองครักษ์ยอดฝีมือนี่”ชายอีกคนพูดพลางเพ่งมองขบวนเสด็จของเหม่ยหลิน องครักษ์ที่คุ้มครองเหม่ยหลินและไป๋หลินอยู่นั้นส่วนใหญ่เป็นอสูร และมีองครักษ์เก่าของอาณาจักรหลิวไม่กี่คน ทำให้สายตาของคนธรรมดามองว่ามีคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ไม่กี่คน แถมพวกมันยังไม่ได้เป็นยอดฝีมืออีกด้วย
“เอาเลยไหม”ชายคนที่ 3 ถามพลางเรียกเอากระบี่ออกมาจากมิติของมัน
“แก้แค้นให้พี่ใหญ่”ชายคนแรกพูดออกมาพล่งปล่อยพลังวิญญาณออกมาอย่างดุดัน ยอดฝีมือไม่ได้ไปเข้าร่วมสงครามทุกคน ทำให้ยังเหลือยอดฝีมืออยู่ตามเมืองต่างๆอยู่บ้าง แต่ท่าทางพี่ใหญ่ของมันจะเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่ร่วมทัพของจักรพรรดิอาณาจักรหลิวกระมัง
โครม!! ยังไม่ทันได้ลงมือร่างของชายคนแรกก็โดนเงาสีดำเงาหนึ่งร่อนลงมากดลงกับพื้นในทันที
ตูม!! ชายอีกคนโดนเงาร่างของจิ้งจอกตนหนึ่งจับเอาไว้ เช่นเดียวกันกับชายคนที่สาม มันโดนงูตนหนึ่งรัดร่างเอาไว้แน่นจนขยับไม่ได้
“คิดจะทำร้ายคุณหนูงั้นหรือ”อสูรทั้งสามคนนี้คือราชาแห่งเขตอสูรที่ไป๋หลินไปพบมาก่อนหน้านี้ พวกมันยังไม่คุ้นชินกับการแปลงกายเป็นมนุษย์นักเลยแอบอยู่รอบนอก ไม่นึกว่าจะเจอพวกคิดจะป่วนงานของเหม่ยหลินเข้าพอดี แต่ที่พวกมันยอมไม่ได้คือการหันอาวุธเข้าหาไป๋หลินของพวกมันนั่นเอง
“ฆ่ามันเลยไหม”อสูรอีกาที่ใช้กรงเล็บกดคอของยอดฝีมือคนแรกเอาไว้ถามพลางมองไปทางอสูรจิ้งจอกที่อยู่ด้านหลัง
“อย่าพึ่ง พาพวกมันไปหานายหญิงก่อน”อสูรจิ้งจอกที่มีขนสีแดงเพลิงทั้งตัวว่าพลางใช้หางของมันพันร่างของชายคนที่สองเอาไว้
โครม!!! หลังจากขบวนเยี่ยมชมเมืองเสร็จสิ้นลง เหล่าอสูรทั้งสามก็พาคนร้ายกลับมาที่ปราสาทของเจ้าเมือง ซึ่งเป็นที่พักของเหม่ยหลินในวันนี้นั่นเอง
“คุณหนู เจ้าพวกนี้คิดจะลงมือโจมตีคุณหนู ให้ข้าทำเช่นไรดี”อสูรอีกาถามพลางจ้องมองไป๋หลินด้วยท่าทีเป็นห่วง
“โจมตี….”เหม่ยหลินที่อยู่ด้วยมีท่าทีลำบากใจออกมาทันที ความจริงความผิดโทษฐานโจมตีเชื้อพระวงศ์ไม่มีอย่างอื่นนอกจากประหาร เพียงแต่ยอดฝีมือเหล่านี้ต่างเป็นคนรู้จักของประชาชน การสังหารพวกมันไปนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องดี
“พวกท่านลุงจะโจมตีพวกเราหรือเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางเดินเข้าไปหาเหล่ายอดฝีมือด้วยท่าทีเศร้าๆ
“……”อยู่ๆพวกมันก็พูดไม่ออก พอมาเห็นองค์หญิงไป๋หลินชัดๆพวกมันถึงได้ทราบว่านางดูน่าเอ็นดูเพียงใด พวกมันกล้าลงมือกับนางจริงๆงั้นหรือ
“ข้า….ข้าต้องแก้แค้นให้พี่ใหญ่”ชายคนแรกว่าพลางกัดฟันกรอด ทำไมพอเห็นไป๋หลินใกล้ๆแล้วความโกรธกลับลดลงไปเสียดื้อๆ นี่มันเรื่องอะไรกัน
“พี่ใหญ่ของพวกท่านลุงอยู่ในสงครามก่อนหน้านี้งั้นเหรอ”ไป๋หลินถามออกไปเพราะนางทราบเรื่องการสู้รบกับอาณาจักรหลิวแล้ว พี่ปักเป้าโจมตีกวาดเอายอดฝีมือจำนวนมากตายหมดในทีเดียว การที่คนพวกนี้โจมตีเหม่ยหลินด้วยเหตุผลว่าจะแก้แค้นให้พี่ใหญ่ ก็ย่อมหมายความว่าพี่ใหญ่ของพวกมันคือหนึ่งในคนที่ตายไปนั่นเอง
“ใช่”ชายคนแรกตอบออกมาสั้นๆ มันเห็นไป๋หลินตรงหน้าแล้วลดท่าทีดุดันลงไปมาก จนอสูรอีกาที่จับตัวมันเอาไว้ไม่รู้สึกถึงแรงต้านเลย
“ท่านลุงต้องเข้าใจพวกเรานะเจ้าคะ พวกหนูเองก็ไม่อยากให้มีสงครามเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้หนูเองก็ไม่อยากให้พี่ใหญ่ของพวกลุงต้อง…”ไป๋หลินว่าพลางทำหน้าหมองเศร้าลง
“ข้าเข้าใจ”อยู่ๆชายคนที่ 3 ก็พูดออกมา ทำให้อสูรงูปล่อยมันให้พูดโดนการคลายกล้ามเนื้อของมันลงเล็กน้อย
“มันเป็นสงครามนะพี่รอง หางบิดาของแม่หนูไม่ฆ่าพี่ใหญ่ อาณาจักรของมันก็ถูกรุกราน”ชายคนที่ 3 ว่าพลางมองมาทางไป๋หลินด้วยท่าทีสงสาร
“ใช่เจ้าค่ะ ท่านพ่อเองก็ไม่อยากทำหรอกเจ้าค่ะ ท่านเป็นคนใจดีมาก พวกท่านลุงอย่าโกรธท่านพ่อของหนูเลยนะเจ้าคะ”ไป๋หลินขอร้องพลางเลื่อนมือไปจับมือของชายคนแรกเอาไว้ ทำเอาท่าทีของมันเปลี่ยนไปทันที
“อืม..ข้ารู้แล้ว ข้าจะปล่อยเรื่องของพี่ใหญ่ไป”ชายคนนั้นตอบพลางสลายท่าทีคุกคามออกไปจนหมด ตอนแรกมันกะจะแลกชีวิตกับการโจมตีขบวนเสด็จของเหม่ยหลินเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่ทราบทำไมพอโดนไป๋หลินขอร้องเข้ามันกลับยอมทิ้งเรื่องของพี่ใหญ่ไปเสียอย่างนั้น
“พี่ๆ ปล่อยพวกท่านลุงเถอะ”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มออกมาช้าๆ
“แน่ใจนะคุณหนู”อสูรอีกาถามพลางกดกรงเล็บของมันให้หนักกว่าเดิม คนพวกนี้หากปล่อยให้มีโอกาสสู้ก็อันตรายไม่น้อย ครั้งแรกเพราะพวกมันลอบโจมตีเลยจับได้ง่ายๆเท่านั้น
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”ไป๋หลินตอบพลางมองไปข้างหลัง นางยังมีมารดาและพี่ไป๋ไป่อยู่ ต่อให้พวกมันอาลาวาดอีกก็ไม่เป็นไร
“ขอรับ”อสูรอีกาว่าพลางปล่อยชายคนแรกเป็นอิสระ เช่นเดียวกันกับเหล่าอสูรตนอื่นๆที่ปล่อยคนที่มันจับเอาไว้ให้เป็นอิสระเช่นกัน
“ท่านลุง พวกหนูจะพยายามดูแลอาณาจักรของพวกท่านลุงให้ดี เพราะฉะนั้นอย่าคิดร้ายกับท่านพ่อเลยนะเจ้าคะ”ไป๋หลินยิ้มพลางส่งสายตาขอร้องไปทางชายทั้งสาม
“อะ อืม…”พวกมันตอบรับพลางเกาคอตนเองด้วยท่าทีเชื่อฟัง
“ถ้าอย่างนั้น พวกเราจะขอสมัครเป็นองครักษ์ได้หรือไม่”ชายคนที่สามถามพลางมองไปทางเหล่าองครักษ์ด้านหลัง หากไม่นับพวกอสูรแล้วยอดฝีมือที่รับใช้ราชวงศ์ก็เหลือน้อยมาก
“ท่านแม่ ให้พวกท่านลุงช่วยเป็นองครักษ์ได้หรือเปล่าเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางหันไปมองมารดาของตน
“จ่ะ..”เหม่ยหลินตอบเสียงเบาพลางมองภาพตรงหน้า นางทราบอยู่แล้วว่าในร่างของไป๋หลินมีอะไร แต่ก็ยังไม่ทราบว่านางได้พลังของมารมารหรือไม่ แต่ดูจากการเกลี้ยกล่อมที่ไม่สมเหตุสมผลเมื่อครู่แล้วเหม่ยหลินกลับแอบคิดว่าอาจจะเป็นผลของราคะก็ได้
“ท่านแม่ เป็นอะไรเหรอ”ไป๋หลินถามพลางเดินกลับมาหาเหม่ยหลิน นางเห็นมารดานิ่งไปก็ถามออกมาทันที
“เปล่าจ่ะ แม่ไม่เป็นไร”เหม่ยหลินตอบพลางถอนหายใจออกมา แม้จะเป็นพลังของราคะ แต่ไป๋หลินก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร บางทีพลังนี้อาจจะเป็นผลดีกับไป๋หลินและเป็นผลดีกับพวกนางเองก็ได้ เพียงแต่หวังว่าพลังของนางจะไม่ทำให้นางเปลี่ยนไปเท่านั้น