“องค์จักรพรรดิ”จักรพรรดิอาราจักรชูไปได้ไม่นาน อยู่ๆอสูรวัวสามเศียรก็กลับเข้ามาพร้อมคนส่งสารที่มันส่งไปยังอาณาจักรหลิว เห็นได้ชัดเลยว่ามันโดนทำร้ายร่างกายมา ทำเอาไป๋จูเหวินมีสีหน้าไม่พอใจออกมาทันที
“องค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวบอกว่า หากท่านไม่ส่งตัวองค์ชายหลิวอิงคืน พวกมันจะจัดกองทัพเข้ามาบุกเต็มกำลังขอรับ”คนส่งสารตอบพลางก้มลงคุกเข่ากับพื้น ทำให้ไป๋จูเหวินรีบใช้ดวงตาสีเขียวตรวจสอบร่างกายของมันทันที แต่อีกฝ่ายเป็นนอสูรที่มีพลังไม่น้อย ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย ท่าทางจะโดนทำร้ายฝ่ายเดียวไม่ได้ตอบโต้ถึงมีรอยช้ำตามตัวเช่นนี้
“เข้าใจแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองไปทางเหล่าขุนนาง 4 ภาคด้วยใบหน้าเคร่งเครียด องค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวไม่สนิทสนมกับไป๋จูเหวินนัก มันไม่ทราบความสัมพันธ์ของไป๋จูเหวินกับอาณาจักรอู๋และชิน ดูจากที่ขุนนางและพ่อค้าของอาณาจักรมันยังคิดว่าอาณาจักรไป๋เหลือกำลังคนไม่มากแล้วก็พอเข้าใจได้ว่าจักรพรรดิอาณาจักรหลิวคิดเช่นไร
ในสายตาขององค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวนั้นคงมองไม่ต่างจากบุตรชายเสียเท่าไหร่ สำหรับมันแล้วอาณาจักรไป๋คงเป็นอาณาจักรไร้กำลังคนที่สามารถโจมตีได้ง่ายๆ และจะยอมจำนนหากมันขู่เช่นนี้กระมัง
พรึบ… ไป๋จูเหวินกางแผนที่ออกมาพลางมองตำแหน่งที่อยู่ของอาณาจักรไป๋และอาณาจักรหลิวในปัจจุบัน พื้นที่ทางใต้ของอาณาจักรไป๋ติดต่อกับ 3 อาณาจักรคือ หลิว ชู และ อู๋ ซึ่งอาณาจักรหลิวนั้นกินพื้นที่ตั้งแต่ทางใต้ของอาณาจักรไป๋ลงไปอ้อมเขตอสูรผาไร้ก้นเอาไว้เหมือนทัพพี เรียกได้ว่าพื้นที่ทางเหนือของเขตอสูรผาไร้ก้นติดอาณาจักรอู๋ ส่วนทางใต้ติดอาณาจักรหลิวก็ว่าได้
“หึ…”ไป๋จูเหวินขำออกมาด้วยท่าทีแปลกๆ หากมองตามนี้ ทางเหนือคืออาณาจักรไป๋ ทางตะวันออกคืออาณาจักรชูและอู๋ที่ตอนนี้ไม่มีทางเข้ามาช่วยอาณาจักรหลิวแน่ๆ ทางใต้คือเขตอสูรผาไร้ก้น อาราจักรเดียวที่อาณาจักรหลิวสามารถขอความช่วยเหลือได้คืออาณาจักรทางตะวันตก อาณาจักรอินเท่านั้น
“ถ้าอาณาจักรไป๋มีเส้นทางไปหาพวกท่านน้าก็คงดี”ไป๋จูเหวินยิ้มออกมา พลางใช้นิ้วไล่จากอาณาจักรไป๋ข้ามผ่านอาณาจักรหลิวไปจนถึงเขตอสูรผาไร้ก้น แบบนี้หากวางค่ายกลอสูรเชื่อมกับเขตอสูรผาไร้ก้นได้ ก็เหมือนกับเขตอสูรที่ชื่ออาณาจักรไป๋คือบ้านของมันจริงๆแล้วไม่ใช่หรือ พอคิดแบบนั้นคำท้าทายของอาณาจักรหลิวช่างเป็นคำท้าทายที่พอเหมาะพอเจาะดีจริงๆ
“องค์จักรพรรดิ จะให้พวกเรารวมพลเลยหรือไม่ขอรับ”กวางหิมะถามพลางเดินเข้ามาหาไป๋จูเหวิน
“ส่งเรื่องไปทางเจ้าเมืองต่างๆ ให้คัดทหารมาจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือการรบ แต่อย่าให้กระทบกับการดูแลเมืองโดยเด็ดขาด”ไป๋จูเหวินสั่งออกไปพลางกลับไปนั่งที่บัลลังก์ ตอนนี้การพัฒนาเมืองต่างๆยังไม่สำเร็จดี หากดึงกำลังคนมาร่วมสงครามเสียหมดอาจจะส่งผลกระทบได้ ไป๋จูเหวินจึงสั่งให้เรียกกำลังคนมาเท่าที่เรียกได้ เพราะคราวนี้พวกมันไม่ได้มีแต่กำลังของอาณาจักรไป๋เท่านั้น
“กิ้ว…”อสูรปักเป้าที่ลอยอยู่ในท้องพระโรงมาตั้งแต่ต้นลอยลงมาหาไป๋จูเหวินราวกับสัมผัสได้ว่ามีอะไรให้มันทำ ทำเอาไป๋จูเหวินหัวเราะออกมาทันที
“คราวนี้พี่ปักเป้าลงมือได้เต็มที่เลย”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมา ความสามารถของอสูรปักเป้าน่ากลัวมาก แต่เพราะติดที่กำลังทำลายเป็นวงกว้างมากเกินไป ทำให้มันไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงออกมาเสียที คราวนี้เป็นการบุกอาณาจักรอื่น ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องความเสียหายอีกแล้ว
“กิ้ววววว”อสูรปักเป้าร้องออกมาอย่างดีใจ
“ข้าล่ะพี่ไป๋”หลินหลินที่อยู่ข้างๆถามพลางทำตาโตอย่างคาดหวัง ตอนที่สู้กับอัตตาหลินหลินเองก็สู้เต็มที่ไม่น้อย ถ้าต้องปะทะกับยอดฝีมือเชื่อว่าหลินหลินคงสามารถรับมือได้ไม่ยากแน่ๆ ทำให้ไป๋จูเหวินบอหให้หลินหลินลงมือได้เต็มที่เช่นกัน แน่นอนว่ารวมถึงไป๋ไป่และปิงปิงที่ตอนนี้อยู่กับไป๋หลินอีกด้วย
.
.
“เยอะขนาดนี้เชียว”ไป๋จูเหวินขมวดคิ้วพลางมองเอกสารรายงานเรื่องทหารที่ถูกส่งมาช่วยรบในการบุกอาณาจักรหลิวในครั้งนี้
“ขอรับ หลายๆเมืองเริ่มคุ้นเคยกับเหล่าอสูรแล้ว ก็เลยสามารถส่งคนมาช่วยได้มากขอรับ”อสูรงูเผือกรายงาน พลางมอบม้วนรายชื่อให้ไป๋จูเหวิน หลังจากเหล่าอสูรช่วยเหลือชาวเมืองอย่างเต็มที่ ทำให้หลายๆเมืองเริ่มไว้ใจอสูรที่ถูกนำมาเลี้ยงแทนสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น แม้จะไม่ถึงขั้นยอมรับเจ้าเมืองที่เป็นอสูรเหมือนเมืองของอสูรกิเลนขาว แต่งานส่วนใหญ่ก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ทำให้กำลังทหารยังไม่จำเป็นกับเมืองเท่าไหร่ เพราะแต่ละคนก็มีกำลังมากกันอยู่แล้ว
“ดี”ไป๋จูเหวินยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะออกไปที่ลานพิธีของวังหลวงอาณาจักรไป๋ ยามนี้มีร่างของทหารอสูรในคราบมนุษย์ยืนเรียงกันเกือบ 300 คน อาจจะดูไม่มาก แต่ทหารเหล่านี้คือยอดฝีมือทั้งสิ้น แถมในกลุ่มคนเหล่านี้ยังมีอสูรระดับบรรพกาลถึง 2 ตน รวมกับไป๋ไป่และอสูรปักเป้าแล้วนับว่าอาณาจักรไป๋ยามนี้มีอสูรระดับบรรพกาลขั้นต้น 3 ตนและอสูรระกับบรรพกาลขั้น 10 อีก 1 ตน
ส่วนทางด้านเขตอสูรผาไร้ก้น เมื่อได้รับจดหมายจากไป๋จูเหวิน พวกมันก็ไม่บ่นให้มากความ จัดเตรียมทัพอสูรจากป่าทั้ง 5 อย่างแข็งขัน ทางด้านกำลังรบแล้วนับว่าน่ากลัวไม่แพ้อาณาจักรไป๋ อสูรระดับบรรพกาลขั้นต้น 5 ตน ระดับมายาขั้นที่ 10 อีกเกือบ 30 คน และอสูรระดับต่างๆอีกนับหมื่นที่พร้อมใจกันลุกขึ้นมาทำตามคำสั่งของนายน้อย แม้แต่อสูรเต่าที่รักสงบยังคลานออกมาจากกระดอกเตรียมเดินทางผ่านเขตภูเขาดำไปยังพื้นที่ของอาณาจักรหลิวอย่างเร่งรีบ
.
.
โครม!! ทางด้านอาณาจักรหลิว เมื่อทราบข่าวว่าอาณาจักรไป๋ตั้งทัพจะโจมตีตนเอง แถมยังมีหน้าส่งคนมาเตือนล่วงหน้าก็ของขึ้นอย่างเห็นได้ชัด องค์จักรพรรดิที่ทราบว่าไป๋จูเหวินไม่ยอมปล่อยบุตรชายของตน แถมยังหน้าด้านเอากองทัพ 300 คนมาบุกอาณาจักรตัวเองที่มีกองทัพนับแสนอีกต่างหาก แบบนี้มันไม่เรียกดูถูกกันแล้วจะเรียกอะไร
“ดี เรียกเหล่ายอดฝีมือมาให้หมด วันนี้เราจะขยายอาณาจักรหลิวกัน”องค์จักรพรรดิคำรามพลางสั่งลูกน้องของตนด้วยท่าทีโมโหโทโสอย่างมาก ในอาณาจักรหลิวมียอดฝีมือนับร้อย หากรวมได้ครบแม้แต่อาณาจักรอู๋ก็ต้องกังวลกันบ้าง
“ขอรับ”เหล่าขุนนางแทบจะหัวเราะ กองทัพ 300 คน แถมส่วนใหญ่ยังไม่มีพลังวิญญาณเสียอีก ช่างน่าขำเสียเหลือเกิน ที่มันเหลือคนเท่านี้คงเพราะโดนกองทัพขององค์ชายตีแตกจนยับเยิน พวกมันคงใช้กำลังทั้งอาณาจักรหยุดกองทัพขององค์ชายเอาไว้ แม้ยอดฝีมือขององค์ชายหลิวอิงจะมีไม่มาก แต่อาณาจักรที่ไร้กำลังเช่นนี้สามารถหยุดกองทัพของท่านเอาไว้และจับตัวท่านไปได้ต้องชื่นชมเสียหน่อยหรือไม่
น่าเสียดาย พวกมันกลับโง่พอจะหันคมหอกเข้าหาองค์จักรพรรดิหลังจากโชคดีจับองค์ชายไว้ได้แล้ว หากพวกมันส่งตัวองค์ชายมาดีๆพร้อมของบรรณาการเสียหน่อยก็จะไม่เดือนร้อนแท้ๆ
.
.
หลังจากเรียกรวมพลออกไป เหล่ายอดฝีมือกว่า 80 คนก็เข้ามารวมตัวในเมืองหลวงตามคำสั่งทันที แม้จะขาดยอดฝีมือที่พ่ายแพ้ในกองทัพขององค์ชายหลิวอิง แต่จำนวนมันออกจะน้อยเกินไปหน่อยหรือไม่
“องค์จักรพรรดิ มีข่าวว่าทางใต้มีอสูรหลุดออกมาจากผาไร้ก้นขอรับ ยอดฝีมือหลายคนจึงไม่สามารถเดินทางมาได้”ขุนนางคนหนึ่งรายงาน แม้จะเป็นเรื่องแปลกที่เขตอสูรผาไร้กันมีอสูรหลุดออกมา แต่ข่าวเช่นนี้กลับไม่ทำให้องค์จักรพรรดิประหลาดใจหรือหวั่นใจแต่อย่างไร
“ไม่เป็นไร”องค์จักรพรรดิอาราจักรหลิวส่ายหัว พลางเดินออกมาสั่งการทัพของตนเองอย่างแข็งขัน ในเมื่ออาณาจักรไป๋อยากมอบอาณาจักรให้มันนักก็ดี แบบนี้มันจะได้ไม่โดนด่าว่าเป็นพวกฉวยโอกาสเสียด้วย
ตึงๆๆๆๆ เหล่ายอดฝีมือและทหารระดับต่างๆหลายหมื่นคนทะยานออกไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่ารถม้าเสียอีก ที่ด้านหลังมีเกี้ยวขององค์จักรพรรดิที่มีคนจำนวนหนึ่งทำหน้าที่แบกและเดินทางด้วยวิชาตัวเบาไปพร้อมๆกัน ทัพของวังหลวงที่เดินทางด้วยวิชาตัวเบาเช่นนี้น่าเกรงขามยิ่งกว่าทหารม้าที่เดินทางไปพร้อมกันเสียอีก สร้างความประหลาดใจให้กับชาวเมืองอย่างมาก
“องค์จักรพรรดิ ข้างหน้ามีอสูรตนหนึ่งขอรับ”ได้ยินรายงานของเหล่าทหาร องค์จักรพรรดิก็เปิดผ้าม่านของเกี้ยวตนเองออก พลางมองไปด้านหน้าตามที่ทหารรายงาน พวกมันเดินทางใกล้ถึงชายแดนทางเหนือแล้ว ไม่แปลกที่กองทัพของมันจะเจอกับกองทัพของอาณาจักรไป๋ระหว่างทาง เพราะกองทัพของอาณาจักรไป๋หลังจากส่งจดหมายเตือนแล้วก็เดินทางเข้ามาทันที
“ฮ้าๆ กองทัพ 300 คนจริงๆด้วย”องค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวหัวเราะพลางมองผ่านกองทัพนับหมื่นของตนเองไปยังทหารเดินเท้า 300 คนที่อยู่ข้างหน้าอสูรแมงมุมหยก แม้อสูรด้านหลังจะน่าหวั่น แต่ไม่มีทางทำอะไรยอดฝีมือทั้ง 80 คนของมันได้หรอก
“ดูเหมือนจักรพรรดิอาณาจักรไป๋จะอยู่บนหลังแมงมุมตัวนั้นสินะ ดีล่ะ”จักรพรรดิอาณาจักรหลิวว่าพลางเรียกกระบี่ออกมาถือ ยามนั้พของมันจัดแถวกันอย่างสวยงามดูยิ่งใหญ่อลังการไม่น้อย มันค่อยๆเดินมาด้านหน้าพลางมองกองทัพของอาณาจักรไป๋ที่กำลังใกล้เข้ามาด้วยรอยยิ้มขำขัน
“อาณาจักรไป๋ พวกเจ้า…..”
วี๊ดดดดดด… ก่อนที่องค์จักรพรรดิอาราจักรหลิวจะพูดอะไร ร่างของมังกรบินจำนวนหนึ่งก็พุ่งทะยานลงมาจากท้องฟ้า พร้อมร่างของเด็กสาวที่ทั้งสีผมร่างกายและเสื้อผ้าเป็นสีขาวทั้งหมด แม้จะแปลกใจนิดหน่อยที่นางต้องใช้มังกร 2 ตัวแบกมาก็ตาม
“กองทัพของอาณาจักรหลิว”ไป๋ไป่พูดพลางเท้าเอวด้วยท่าทียิ่งใหญ่ต่างกับขนาดตัวของนางมาก
“พี่…..องค์จักรพรรดิของเราทรงพระเมตตามอบโอกาสยอมแพ้ให้พวกเจ้า หากยอดยกอาณาจักรหลิวให้โดยดี ท่านจะดูแลพวกเจ้าอย่างอบอุ่นและไม่ถือโทษใดๆ”ไป๋ไป่พูดด้วยเสียงเล็กๆของนางทำเอาเหล่าทหารด้านหลังองค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวหัวเราะออกมา
“ยอมแพ้….ฮ้าๆ นี่ข้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหม พวกมันให้โอกาสเรายอมแพ้ แม่หนูน้อยกลับไปถามจักรพรรดิของเจ้าเสียดีกว่าว่าสติยังดีหรือไม่”จักรพรรดิอาณาจักรหลิวหัวเราะเสียจนปวดท้อง แน่นอนว่ามันไม่คิดจะฆ่าคนส่งสารอยู่แล้วแถมยังเป็นเด็กสาวตัวแค่นี้ มันอยากจะเก็บนางไว้ดูเล่นเสียมากกว่า
“……..”ไป๋ไป่ได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทีบูดบึ้งทันที พวกมันกำลังดูถูกพี่ไป๋ของนาง หากไม่ใช่เพราะพี่ไป๋ให้นางทำหน้าที่คนส่งสาร นางจะกลายร่างเป็นมังกรหินแล้วเริ่มอาลาวาดมันเสียตรงนี้เลย แต่ถึงนางจะไม่พูดอะไร พวกมันก็ยังพูดดูถูกไป๋จูเหวินพลางหัวเราะอย่างครื้นเครง
“ห้ามมาดูถูกพี่ไป๋ของข้านะ”หลังจากโดนหัวเราะใส่ ในที่สุดไป๋ไป่ก็หมดความอดทนตะโกนสวนองค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวออกไป
“ฮ้าๆ ดูนางสิ โกรธใหญ่เชียว พวกเจ้าหลังจากนี้ห้ามทำอะไรแม่นางน้อยคนนี้เข้าใจไหม จับมาให้ข้า ข้าอยากเล่นกับนาง”องค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวว่าพลางชี้มาทางไป๋ไป่ ทำเอานางอยากจะกัดนิ้วนั่นให้ขาด
“สรุปว่าพวกเจ้าไม่ยอมแพ้?”ไป๋ไป่ถามพลางพยายามข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้
“ยอมแพ้ เจ้าพูดเรื่องตลกเก่งจริงๆ”องค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวยังหัวเราะไม่เลิก ในที่สุดไป๋ไป่ก็หมดความอดทน นางหันหลังเดินย่ำเท้ากลับไปหากองทัพของตนเพื่อรายงานกับไป๋จูเหวิน จะได้เริ่มโจมตีเสียที
“อ่อ…พวกเจ้าก็ระวังบนหัวเอาไว้ดีๆล่ะ”ไป๋ไป่พูดแค่นั้นก็กลายร่างเป็นมังกรหินสะบัดปีกบินไปทางหลินหลินอย่างรวดเร็ว
“โอ้ ที่แท้นางเป็นอสูรนี่เอง มังกรหินสีขาวแบบนี้งดงามไม่น้อย หลังจบศึกข้าจะจับนางมาเป็นสัตว์เลี้ยงก็แล้วกัน”องค์จักรพรรดิอาณาจักรหลิวหัวเราะพลางมองร่างของไป๋ไป่ที่ลงจอดบนหลังของหลินหลิน หลังจากพูดคุยกับไป๋จูเหวินไม่นาน ไป๋จูเหวินก็ทำท่าอะไรบางอย่างเหมือนกำลังผิวปาก
“อะ..องค์จักรพรรดิ”อยู่ๆบนท้องฟ้าก็มีเงาๆหนึ่งออกมาบดบังแสงอาทิตย์จนมิด หากเป็นปกติคงนึกว่าเป็นก้อนเมฆที่ใหญ่มากแน่ๆ เพียงแต่มีทหารบางนายบังเอิญเงยหน้าขึ้นไปมองจนได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
“…….”เหล่าทหารที่รู้ตัวแล้วหยุดหัวเราะเปลี่ยนเป็นเกรงค้างด้วยความหวาดกลัวแทน
“อะไร ก้อนเมฆแปลกๆนั่น”องค์จักรพรรดิเงยหน้ามองพลางเพ่งสายตามองเงากลมๆที่บดบังแสงอาทิตย์จนมิดให้ชัดตา
ตูม!!!! ยังไม่ทันมองออกว่ามันคืออะไร กระสุนวายุเต็มกำลังของอสูรปักเป้าก็พุ่งเข้ามากลางกองทัพของอาณาจักรหลิวในทันที
“เฮ”เหล่าทหารของอาณาจักรไป๋เฮออกมาทันทีเมื่อเห็นกำลังทำลายมหาศาลกับตา พวกมันได้เห็นอสูรปักเป้ามาตลอด และสัมผัสพลังอสูรที่น่าสยดยองของมันได้ จึงไม่มีขุนนางคนไหนหรือทหารคนใดกล้าหือกับอสูรปักเป้าแม้แต่คนเดียว ยิ่งได้เห็ภาพกองทัพของอาณาจักรหลิวโดนเป่าหมายไป 4 ใน 5 ในการโจมตีเดียวแบบนี้คงไม่มีใครกล้าขัดใจอสูรปักเป้าอีกแน่ๆ
“พี่ปักเป้า แบบนี้ก็ไม่เหลือให้ข้านะสิ”ไป๋ไป่โวยวายพลางบินขึ้นไปต่อว่าอสูรปักเป้าทันที นางหรืออุตส่าห์อยากอาลาวาดเสียหน่อย แต่ยอดฝีมือและตัวองค์จักรพรรดิที่อยู่ตรงกลางโดนเป่าทีเดียวหายไปทั้งแถบ แบบนี้นางจะเอาอารมณ์โมโหเมื่อครู่ไปลงที่ใครกัน!
Related