ตอนที่ 403
คู่หมั้น
วูม!! ร่างของไป๋ไป่ทะยานลงมากลางหมู่บ้านของชิงชิวท่ามกลางสายตาประหม่าของเหล่าสมาชิกในหมู่บ้าน ท่าทางเรื่องที่ไป๋หลินแอบตามชิงชิวมาจะโดนรู้เข้าเสียแล้ว ไป๋ไป่จึงต้องออกมาตามตัวไป๋หลินด้วยตนเองเช่นนี้
“ไป๋น้อย กลับกันได้แล้ว”ไป๋หลินพูดพลางเดินเข้าไปในบ้านของชิงชิวที่ตอนนี้หาไม่ยากเลย เพราะเหล่าประชาชนทั้งในหมู่บ้านหรือในเมืองต่างมารุมล้อมบ้านของชิงชิวเอาไว้จนแน่นขนัด พวกมันไม่เหมือนคนในเมืองหลวงที่นานๆทีจะได้เห็นองค์หญิงออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกบ้าง ข่าวว่าองค์หญิงไป๋หลินเสด็จมานั้นทำให้พวกมันแตกตื่นมากทีเดียว
“ท่านแม่ ถ้าอย่างนั้นข้าต้องขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางก้มหัวให้แม่ของชิงชิวอย่างอ่อนน้อม
“ชิงชิวเจ้าจะกลับด้วยกันเลยหรือเปล่า”ไป๋ไป่มองมาทางชิงชิวเผื่อมันจะกลับวังไปพร้อมกันเพราะตอนนี้บ้านของชิงชิวคงไม่สงบเท่าไหร่แล้ว
“ยังก่อนขอรับ ข้าคงต้องอยู่จัดการเรื่องที่บ้านต่ออีกหน่อย”ชิงชิวว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา พอทราบข่าวเรื่องึคู่หมั้นของชิงชิว ชาวเมืองก็ทำท่าจะจัดงานฉลองให้ชิงชิวเสียแล้ว คงจะหนีกลับวังหลวงเอาตอนนี้ไม่ได้
“ก็ได้ ข้าจะบอกพี่ไป๋ให้ว่าเจ้าอาจจะกลับช้าหน่อย”ไป๋ไป่ตอบพลางพาไป๋หลินเดินทางกลับไปท่ามกลางสายตาเสียดายของเหล่าประชาชน แม่จะได้ทราบข่าวแล้วว่าองค์หญิงไป๋หลินกำลังจะหมั้นหมายกับชิงชิงชายหนุ่มในเมืองของตนเอง แต่การได้เห็นองค์หญิงด้วยตาตนเองก็นับเป็นบุญของชายหนุ่มทั้งเมืองแล้ว
.
.
“อะไรกัน…”ไม่ใช่เพียงเหล่าชายหนุ่มในอาณาจักรไป๋เท่านั้นที่ใจสลายเมื่อได้ทราบข่าวการหมั้นหมายของไป๋หลิน แต่องค์ชายต่างอาณาจักรทั้งหลายที่ยังมีความหวังว่าจะได้คู่ครองกับองค์หญิงไป๋หลินมากกว่าประชาชนธรรมดานั้นต่างพากันน้ำตาตกกันยกใหญ่เมื่อได้รับจดหมายเชิญร่วมงานหมั้นของไป๋หลิน
“องค์หญิงไป๋หลินกำลังจะหมั้น…ไม่จริงใช่ไหม”องค์ชายที่ได้รับจดหมายต่างมีท่าทีผิดหวังกันทั้งนั้น บ้างถึงขั้นซึมไปเลยก็มี
“องค์ชาย มีจดหมายมาขอรับ”ทหารคนหนึ่งพูดพลางวิ่งเข้ามา
“จดหมายอะไรอีก”องค์ชายอาณาจักรจินที่อยู่ทางเหนือของอาณาจักรไป๋ถามพลางมองมาทางทหารที่นำจดหมายเข้ามาหาตน
“เป็นจดหมายจากองค์ชายไป๋ชินอี้ขอรับ”ได้ยินเช่นนั้นองค์ชายของอาณาจักรจินก็เข้าไปรับจดหมายมาเปิดอ่านในทันที เพียงแต่เนื้อความในจดหมายไม่ได้เขียนอะไรเอาไว้มากมาย มีเพียงตัวหนังสือไม่กี่คำเท่านั้นโดยมีเนื้อหาว่าอยากให้ตัวองค์ชายของอาณาจักรจินมาเข้าร่วมงานหมั้นด้วยเท่านั้น และยังบอกอีกด้วยว่าตัวชินอี้มีเรื่องสำคัญจะพูดคุยกับตนก่อนที่พิธีหมั้นจะเริ่ม แม้ตนจะไม่อยากไป แต่หากองค์ชายไป๋ชินอี้ระบุว่าอยากให้ตนไปแบบนี้มันจะไม่ไปเลยก็คงไม่ได้
สุดท้ายองค์ชายจากอาณาจักรจินก็ต้องเข้าร่วมงานหมั้นของไป๋หลินจนได้ แถมมันยังเดินทางมาก่อนพิธีหมั้นจะเริ่มร่วม 5 วันอีกต่างหาก
“องค์ชายจินกงหลาง ยินดีที่ได้พบ”ไป๋ชินอี้พูดพลางเดินเข้ามาในห้องพักขององค์ชายอาณาจักรจิน
“น้องอี้ เจ้าบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับข้า มีอะไรงั้นหรือ”จินกงหลางถามพลางบอกให้เหล่าองครักษ์ออกไปจากห้องก่อน
“องค์ชาย ท่านคงจะได้ทราบข่าวการหมั้นหมายของพี่สาวข้าแล้ว”ชินอี้พูดด้วยท่าทีหมองๆอย่างประหลาด แม้แต่จินกงหลางยังสัมผัสได้ว่าชินอี้ดูไม่ชอบใจเรื่องข่าวการหมั้นหมายนี้นัก
“ข้าทราบแล้ว สำหรับพวกข้านับเป็นข่าวร้ายทีเดียว”จินกงหลางตอบพลางถอนหายใจออกมา
“ข้าเองก็เหมือนกันขอรับ จริงๆแล้วข้าไม่ชอบคนที่จะหมั้นกับพี่หญิงเลย”ชินอี้ตอบพลางมองมาทางองค์ชายจินกงหลาง “ข้ายังไม่ทราบเลยว่าใครเป็นคนที่กำลังจะหมั้นกับองค์หญิงไป๋หลิน”จินกงหลางตอบ แม้จะมีบางส่วนทราบแล้วแต่จักรพรรดิไป๋ไม่ยอมบอกเลยว่าใครคือคนที่จะมาหมั้นกับบุตรสาวตน
“มันเป็นแค่องครักษ์ของพี่หญิงขอรับ ข้ารับไม่ได้เลยที่พี่หญิงจะหมั้นกับคนธรรมดาอย่างชิงชิว”ชินอี้พูดพลางมองท่าทีตกใจของจินกงหลางนิ่ง แม้ไป๋จูเหวินจะมีท่าทีไม่ใส่ใจเรื่องความรักของบุตรสาวและบอกเสมอว่าจะให้บุตรสาวเลือกคนรักด้วยตนเอง แต่จินกงหลางก็ไม่คิดว่าองค์หญิงไป๋หลินจะไปเลือกองครักษ์ที่เป็นคนธรรมดามาเป็นคู่หมั้น ตามปกติแล้วนางควรจะหมั้นหมายกับองค์ชายไม่ใช่หรือ ก่อนหน้านี้มันยังคิดอยู่เลยว่าองค์ชายคนไหนกันแน่ที่สามารถครองใจไป๋หลินได้ ถึงกับคิดว่าองค์ชายอินสิงจะเป็นผู้ได้ใจนางเสียด้วยซ้ำ
“ท่านเองก็คิดเหมือนกันใช่หรือไม่พี่กงหลาง อย่างน้อยถ้าพี่หญิงจะหมั้นหมายกับใครข้าก็หวังว่าอีกฝ่ายจะเป็นองค์ชายผู้มีศักดิ์เสมอกันเสียมากกว่า”ชินอี้ว่าพลางมองมาทางจินกงหลาง ไม่ทราบตัวจินกงหลางสังเกตหรือไม่ว่าชินอี้เริ่มเปลี่ยนวิธีเรียกตัวมันไปเล็กน้อย
“ใช่อย่างน้อยก็น่าจะเป็นองค์ชาย….”จินกงหลางพูดด้วยท่าทีเสียดาย สำหรับมันแล้วรู้สึกเหมือนว่าระหว่างราชสีห์กำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงตัวเมีย อยู่ๆก็มีม้าลายเข้ามาพานางสิงห์ที่เหล่าราชสีห์ต่างแย่งชิงกันแทบเป็นแทบตายไปเสียดื้อๆ
“ขอรับ หากให้หมั้นกับคนธรรมดา สู้ให้พี่หญิงหมั้นกับองค์ชายแบบพี่กงหลางยังจะดีเสียกว่า”อยู่ๆจินกงหลางก็ชะงักไปเมื่อได้ยินสิ่งที่ชินอี้พูด
“น้องอี้เจ้าว่าอะไรนะ”จินกงหลางถามพลางมองชินอี้นิ่ง เมื่อครู่มันบอกว่าให้ไป๋หลินหมั้นหมายกับตนยังจะดีกว่างั้นหรือ
“ขอรับ ข้าบอกว่าอยากจะให้พี่หญิงหมั้นหมายกับองค์ชายดีกว่า”ชินอี้ว่าพลางมองมาทางจินกงหลาง
“นะ แน่ใจนะน้องอี้ แต่ก่อนหน้านี้เจ้ายังบอกข้าว่าอย่ายุ่งกับพี่สาวเจ้าอยู่เลยไม่ใช่หรือ”จินกงหลางถามด้วยท่าทีไม่มั่นใจ เพราะมันเองก็เป็นหนึ่งในองค์ชายที่โดนชินอี้กันท่าเอาไว้เช่นกัน
“นั่นเพราะข้าไม่อยากให้พี่หญิงออกเรือนไปต่างหาก แต่ตอนนี้ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว อย่างน้อยข้าก็อยากให้พี่หญิงได้หมั้นกับชายที่เพียบพร้อมกว่าองครักษ์คนหนึ่ง”ชินอี้ว่าพลางยิ้มบางๆ แม้จะไม่รวบเท่าอาณาจักรไป๋ แต่อาณาจักรจินก็ยิ่งใหญ่ไม่น้อย องค์ชายของอาณาจักรจินจะกระจอกกว่าองครักษ์คนหนึ่งได้อย่างไร
“แน่นอน นางสมควรจะได้ชายที่ดีกว่านี้”ตอนแรกจินกงหลางนึกว่าคู่หมั้นของไป๋หลินจะเป็นองค์ชายคนใดคนหนึ่งเลยไม่ได้ข้องใจเรื่องการหมั้นหมายครั้งนี้นัก แต่หากนางจะหมั้นกับคนธรรมดาตนเองกลับรู้สึกรับไม่ได้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ถูกแล้ว ข้าหวังเหลือเกินว่าจะมีใครสักคนช่วยให้พี่หญิงของข้าได้ตาสว่าง หากทำสำเร็จบางทีข้าอาจจะช่วยสนับสนุนคนๆนั้นให้ได้หมั้นหมายกับพี่หญิงก็ได้”ชินอี้ยิ้มพลางมองมาทางจินกงหลาง แม้จะพูดลอยๆแต่จินกงหลางกลับผูกเรื่องราวเสียเสร็จเรียบร้อย ตัวมันเองก็อยากจะประท้วงหากไป๋หลินจะไปหมั้นกับคนธรรมดาเช่นกัน ยิ่งชินอี้ผู้เป็นองค์รัชทายาทให้การสนับสนุนด้วยแล้วมันยิ่งต้องการเข้าไปใหญ่
“เจ้าพูดจริงนะน้องอี้”จินกงหลางถามพลางสูดหายใจเข้าปอดด้วยความตื่นเต้น ได้หมั้นกับองค์หญิงไป๋หลินงั้นหรือ มีใครเล่าจะไม่อยากได้สิทธิ์นี้
“แน่นอนขอรับ พี่กงหลาง”ชินอี้เน้นคำพูดตัวเองอย่างช้าๆทำให้จินกงหลางเกิดใจฮึกเหิมขึ้นมา หากได้น้องชายอย่างชินอี้ช่วย ขอเพียงไป๋หลินไม่ได้หมั้นหมายตัวมันก็นับว่ามีหวังมากกว่าคนอื่นๆ
“เช่นนั้นก็ไม่ต้องห่วงน้องอี้ ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้พี่สาวของเจ้าไปหมั้นกับสามัญชนแน่ๆ”องค์ชายจินกงหลางว่าพลางกำหมัดแน่น ทำให้ชินอี้ที่มองอยู่ด้านข้างลอบยิ้มอย่างพึงพอใจ
.
.
เวลาไม่กี่วันก่อนพิธีหมั้นนั้นหมดไปไวมากทีเดียว แต่ดูเหมือนเหล่าแขกผู้มาร่วมงานฉลองที่มีนานๆครั้งของอาณาจักรไป๋ต่างก็เดินทางมาร่วมงานจนวังหลวงดูเล็กลงไปทันตา
“ท่านแม่ ทางนี้ขอรับ”ชิงจื่อที่ทำงานอยู่ในวังรับหน้าที่พาแม่ๆและน้องๆเข้ามาในวังด้วยตนเอง ยามนี้ชิงจื่อกำลังจะเป็นน้องชายของของคู่หมั้นองค์หญิง เรียกได้ว่าก้าวขามาเป็นพระญาติของไป๋จูเหวินได้ครึ่งก้าวแล้ว ไม่มีใครกล้าขวางมันและครอบครัวอยู่แล้ว เมื่อเข้างานไปไม่นานทุกคนก็พากันหลีกทางเชิญแม่ของชิงชิวเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับไป๋จูเหวินทันที ทำให้ทั้งแม่ของชิงชิว ชิงหมิง ชิงชิง แม้แต่ชิงจื่อเองยังประหม่าจนหยิบจับอาหารกันไม่เป็นเลยทีเดียว
“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องเกร็งหรอก”ไป๋หลินยิ้มพลางเข้าไปนั่งข้างๆแม่ของชิงชิว
“จ่ะ”แม่ของชิงชิวเหงื่อตกพลางมองไปรอบๆ ไม่ว่าใครก็เป็นคนใหญ่คนโตทั้งนั้น เทียบกับหญิงชาวบ้านธรรมดาๆอย่างนางแล้วช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว
“คุณนายชิง ยินดีที่ได้พบขอรับ”เสียงของไป๋จูเหวินแทบจะกระชากวิญญาณของแม่ชิงชิวออกมา ยิ่งเห็นร่างของไป๋จูเหวินที่คนทั้งอาณาจักรเคารพนับถือเดินเข้ามานั่งใกล้ๆตนเองแม่ของชิงชิวก็แทบจะลมจับอีกรอบ
“อะ อะ อะ อะ องค์จักร…..”แม่ของชิงชิวพูดไม่เป็นคำพลางมองไปทางไป๋จูเหวินด้วยอาการสั่นๆ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกขอรับ ข้าอายุน้อยกว่าท่านให้ข้าได้ทักทายท่านเถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางประสานมือให้แม่ของชิงชิว
“จะ เจ้าค่ะ”แม่ของชิงชิวทำหน้าเหวอๆพลางประสานมือรับไป๋จูเหวินด้วยท่าทีลนๆ
“เป็นงานหมั้นที่ยิ่งใหญ่จริงๆนะเจ้าคะ….ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกชายของข้าจะได้หมั้นหมายกับองค์หญิงไป๋หลินแบบนี้”แม่ของชิงชิวว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา ชุดที่นางสั่งตัดล่วงหน้าด้วยงบเต็มกำลังนั้นแทบจะกลายเป็นชุดธรรมดาไปเลยเมื่ออยู่ในงาน โชคดีที่ตัวไป๋จูเหวินไม่ได้ชมชอบแต่งกายหรูหรานักชุดของมันและเหม่ยหลินผู้เป็นภรรยาจึงไม่ได้ต่างจากชุดของแม่ชิงชิวเท่าไหร่
“ท่านแม่ นี่เป็นงานเลี้ยงต้อนรับแขกขอรับ งานหมั้นจะจัดขึ้นพรุ่งนี้”ชิงชิวกระซิบบอกแม่ของตน วันนี้เป็นเพียงงานเลี้ยงต้อนรับแขกเท่านั้นจริงๆ
“งะ งั้นเหรอ แหมจัดแบบนี้แม่ไม่ชินเลย”แม่ของชิงชิวหัวเราะพลางมองไปรอบๆ
ปึง!! ยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรต่อ อยู่ๆเสียงทุบโต๊ะก็ดังขึ้นกลางงานฉลอง ทำให้เหล่าแขกหันไปมองที่มาของเสียงทันที ซึ่งที่มาของเสียงนั้นก็คือองค์ชายจินกงหลางนั่นเอง
“รับ…..”
“รับไม่ได้”องค์ชายจินกงหลางยังไม่ทันพูดอะไรออกมา องค์ชายจากอาณาจักรอื่นก็ลุกพรวดขึ้นประกาศคำพูดเสียก่อน
“เจ้าพูดอะไร ข้าต่างหากที่รับไม่ได้”องค์ชายอีกคนพูดพลางลุกขึ้นยืนเช่นกัน
“องค์หญิงไป๋หลิน ท่านจะหมั้นหมายกับสามัญชนได้อย่างไร ข้ายอมรับไม่ได้หรอก”ชายอีกคนพูดพลางลุกขึ้นมาด้วยท่าทีขึงขัง มันคือองค์ชายจินเหลียงพี่ชายขององค์ชายจินกงหลางนั่นเอง
“ข้าเองก็เหมือนกัน…”จินกงหลางเหมือนโดนคนอื่นแย่งพูดไปจนหมดพูดออกมาด้วยท่าทีงงๆ หรือว่าคนอื่นๆก็ไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมายขององค์หญิงไป๋หลินเช่นกัน แต่เสียใจด้วยคนที่มีไป๋ชินอี้หนุนหลังอยู่มีเพียงมันคนเดียวเท่านั้น เมื่อพิธีหมั้นนี้ยกเลิก คนที่จะได้หมั้นกับองค์หญิงไป๋หลินคือตัวมันเท่านั้น