ตอนที่ 516
ต้อนรับอย่างดี
“น้าทำไม่ได้หรอกนะ”หลังจากให้พาซาลเจียระไนอัญมณีชิ้นอื่นๆด้วยแล้ว พวกจูล่งก็เดินทางมาที่เมืองหลวงของอาณาจักรไชน์เพื่อมาหารูบี้ตามที่จูล่งคิดเอาไว้แต่แรกทันที
“ทำไมล่ะขอรับ”จูล่งถามด้วยท่าทีสงสัย มันเห็นน้ารูบี้ทำอะไรตั้งเยอะแยะ ไม่นึกว่าจะทำเครื่องประดับไม่ได้
“เจ้าน่าจะเข้าใจผิดนะว่าระหว่างช่างทำเครื่องประดับกับนักประดิษฐ์ต่างกันยังไง”รูบี้ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ น่าเสียดายนางไม่ใช่พวกมีความวิจิตรบรรจงอะไรขนาดนั้น แม้จะสามารถวาดพิมพ์เขียวของเครื่องจักรซับซ้อนได้ แต่ถ้าหากต้องมาออกแบบเรื่องเครื่องประดับสวยๆงามนี่นางเองก็ไม่มั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่เช่นกัน
“เจ้านี่เป็นของชั้นดีเลย น้าคิดว่าเจ้าควรไปหาช่างทำเครื่องประดับฝีมือดีๆนะ”เพิร์ลว่าพลางนำทับทิมเพลิงขึ้นมาดู ของชิ้นนี้นานๆจะได้เห็นสักที แต่น่าเสียดายที่เพิร์ลกับรูบี้ไม่ได้ชมชอบเครื่องประดับเสียเท่าไหร่ก็เลยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับเจ้านี่ดี แต่หากเป็นพวกขุนนางคนอื่นๆที่ต้องการของชิ้นนี้คงมีหลายคนเลยทีเดียว
“ขอรับท่านน้า เช่นนั้นข้าจะขอตัวกลับไปที่อาณาจักรอู๋ก่อนนะขอรับ”จูล่งว่าพลางรับทับทิมเพลิงกลับมาจากเพิร์ล
“อาณาจักรอู๋? ทำไมเจ้าต้องเดินทางกลับไปด้วยเล่า ในอาณาจักรไชน์ก็มีช่างทำเครื่องประดับฝีมือดีหลายคนนะ”รูบี้ถามด้วยท่าทีสับสน อยู่ๆจูล่งก็จะนำทับทิมเพลิงกลับไปสร้างเครื่องประดับที่อาณาจักรอู๋เสียอย่างนั้น
“ไม่ได้หรอกขอรับ ช่างทำเครื่องประดับในอาณาจักรไชน์ไม่มีใครยอมทำเครื่องประดับให้ข้าเลย ถ้าไม่กลับไปอาณาจักรอู๋หรือไป๋ก็คงทำไม่ได้”จูล่งตอบออกมาตามตรงทำให้ทั้งรูบี้ทั้งเพิร์ลพากันทำหน้างงเข้าไปในใหญ่ ช่างทำเครื่องประดับไม่มีใครรับทำเลยสักคนงั้นหรือ ทั้งๆที่มีอัญมณีหายากอยู่ตรงหน้าเนี่ยนะ…..
จะว่าเป็นเพราะความเสี่ยงก็ไม่ใช่ เพราะขั้นตอนที่เสี่ยงที่สุดอย่างการเจียระไนก็ผ่านไปแล้ว ที่เหลือก็เพียงออกแบบเครื่องประดับให้สมบูรณ์และงดงามพอที่จะนำทับทิมเพลิงเข้าไปประดับเท่านั้น ต่อให้ทำออกมาผิดพลาดขนาดไหนก็สามารถแก้ไขได้อยู่ดี ทำไมช่างฝีมือพวกนั้นถึงไม่ยอมรับงานกัน….
“มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ”รูบี้ถามพลางจ้องมองไปที่ทับทิมเพลิงในมือของจูล่งนิ่ง ไม่ว่าจะคิดอย่างไรมันก็แปลกมากจริงๆ
“เรื่องนั้น…..”ยี่เจินที่นั่งอึ้งอยู่กับเก้าอี้มาได้พักใหญ่เสนอตัวออกมาพลางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้รูบี้ฟังด้วยท่าทีประหม่า แค่เข้ามาในบ้านพักของขุนนางก็เป็นเรื่องประหลาดใจสำหรับยี่เจินอยู่แล้ว นี่ยังได้มานั่งคุยกันอย่างเป็นกันเองกับตำนานอย่างรูบี้อีกต่างหาก ยามนี้มันไม่สงสัยก็คงไม่ได้แล้วว่าเจ้าหนูจูล่งนี่เป็นใครกันแน่ จะว่าไปคนที่พาอสูรอย่างเอมิลและเกว็นมาหาก็เป็นจูล่งนี่นะ
“เจ้านั่นมันช่างกล้า…”ทันทีที่ฟังเรื่องที่ช่างทำอัญมณีทำลงไป เพิร์ลก็มีน้ำโหขึ้นมาทันที นี่มันเรื่องอะไรกันพอพวกจูล่งไม่ยอมขายทับทิมเพลิงให้มันในราคาถูก มันก็เลยขัดขวางการนำทับทิมเพลิงให้เป็นเครื่องประดับงั้นหรือ ช่างน่าละอายจริงๆ
“จูล่ง ท่านยี่เจิน พวกท่านไม่ต้องกลับอาณาจักรอู๋หรอกนะ”รูบี้เองพอได้ฟังเช่นนี้ก็อดรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาไม่ได้ นางไม่ทราบหรอกนะว่าเจ้าช่างทำอัญมณีคนนั้นยิ่งใหญ่มาจากไหนถึงสามารถคุมช่างทำอัญมณีและช่างทำเครื่องประดับเอาไว้ได้ แต่คราวนี้มันเล่นผิดคนเสียแล้ว
“ท่านน้าจะทำเครื่องประดับให้พวกเราหรือขอรับ”จูล่งถามด้วยท่าทีประหลาดใจ หรือท่านน้ารูบี้จะเปลี่ยนใจยอมทำเครื่องประดับให้ตนเองแล้ว
“เปล่าหรอก น้ามีวิธีที่ดีกว่านั้น”รูบี้ว่าพลางเรียกลูกน้องของตนเข้ามาในห้อง
“พวกเจ้า ไปเรียกช่างทำเครื่องประดับทุกคนในเมืองมาให้หมด กำชับด้วยว่าเป็นงานเร่งด่วน”รูบี้ว่าพลางสั่งให้ลูกน้องของตนรีบออกไปทันที
“จูล่ง น้าคิดอะไรสนุกๆออกแล้ว”เพิร์ลยิ้มออกมาพลางนำเครื่องประดับที่ตนมีออกมาจากแหวนมิติ นอกจากแหวนของตระกูลโรซารี่แล้วเพิร์ลยังมีเครื่องประดับมีค่าอีกมากมาย แต่มันก็เก็บเอาไว้เพียงเป็นสมบัติเท่านั้นไม่ได้สวมติดตัวเหมือนแหวนของตระกูล เพียงแต่เครื่องประดับที่เพิร์ลเอาออกมานั้นมีแต่เครื่องประดับที่ออกจะธรรมดาหน่อยทั้งนั้น
“เจ้าเคยเข้างานประมูลหรือไม่”เพิร์ลถามพลางเลือกเอาแหวนและสร้อยคอออกมาวางเอาไว้บนโต๊ะ ของพวกนี้เป็นของมีราคาทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีชิ้นไหนมีอัญมณีหายากอย่างทับทิมเพลิงเลย การที่เพิร์ลทำเช่นนี้ก็เพราะต้องการให้เครื่องประดับที่ทำจากทับทิมเพลิงเป็นดาวเด่นของงานนั่นเอง
“เคยขอรับ”จูล่งตอบพลางพยักหน้าช้าๆ เพราะงานประมูลนี่ล่ะเลยทำให้จูล่งอยากลองออกมาหาเงินดู
“ดี น้าจะจัดงานประมูลขึ้น แล้วเอาเครื่องประดับของเจ้าออกขายอย่างโจ่งแจ้งไปเลย”เพิร์ลหัวเราะพลางกำหมัดแน่น แน่นอนว่ามันได้เตรียมเชิญช่างทำอัญมณีที่ขัดขาพวกจูล่งมาร่วมงานด้วยอยู่แล้ว
.
.
“ท่านรูบี้…..”หลังจากรูบี้เรียกตัวช่างทำเครื่องประดับในเมืองหลวงมาทั้งหมด นางก็สั่งให้พวกมันเข้ามาในห้องที่ตนใช้คุยกับไป๋จูล่งทันที
“ท่านหญิงรูบี้ ท่านมีเรื่องอะไรต้องการจะใช้พวกข้าหรือขอรับ”เหล่าช่างทำเครื่องประดับพูดพลางก้มหัวอย่างนอบน้อม รูบี้เป็นทั้งศาสดาแห่งวิทยาการในปัจจุบัน และยังมีตำแหน่งนายหญิงแห่งตระกูลโรซารี่อีกด้วย ไม่มีช่างทำเครื่องประดับคนไหนในไชน์กล้าเสียมารยาทกับนางเป็นแน่
“ข้าคิดว่าพวกเจ้าคงจะทราบเกี่ยวกับสิ่งนี้ดี”รูบี้ว่าพลางนำทับทิมเพลิงของจูล่งออกมา ทันทีที่ช่างทำเครื่องประดับเห็น พวกมันก็พากันสะดุ้งโหยงทันที ก่อนหน้านี้มีจดหมายเวียนจากสมาคมช่างทำอัญมณีและช่างทำเครื่องประดับถูกส่งมาให้กับทุกร้าน โดยระบุอย่างชัดเจนว่าหากใครรับทำหรือรับซื้อทับทิมเพลิงจะมีความผิดต่อสมาคมและจะถูกทางสมาคมลงโทษ ทำให้ไม่มีใครกล้ารับซื้อหรือนำทับทิมเพลิงไปเป็นเครื่องประดับเลยสักคน
“ท่านหญิง…เรื่องนี้พวกเราอธิบายได้”เหล่าช่างทำอัญมณีหันไปมองพวกจูล่งก่อนจะรีบหันมาขอร้องไปทางรูบี้ทันที ไม่นึกเลยว่าผู้ครอบครองทับทิมเพลิงจะรู้จัดกับท่านหญิงรูบี้ ไม่อย่างนั้นต่อให้ต้องขัดกับสมาคมพวกมันก็ต้องรับทำเครื่องประดับให้กับจูล่งอย่างแน่นอน
“ไม่จำเป็น ข้าพอจะทราบเรื่องราวมาบ้างแล้ว และข้าก็ไม่คิดจะโทษพวกท่านเพราะพวกท่านถูกสมาคมกดดันมา”รูบี้ว่าพลางวางทับทิมเพลิงลงบนโต๊ะช้าๆ
“แต่ที่ข้าเรียกพวกท่านมาในครั้งนี้ เพราะต้องการให้พวกท่านนำทับทิมเพลิงเม็ดนี้ไปสร้างเป็นเครื่องประดับด้วยฝีมือทั้งหมดที่มี”รูบี้พูดพลางยิ้มออกมา ทำเอาเหล่าช่างทำเครื่องประดับพากันโล่งใจกันเป็นแถบ
“แน่นอนขอรับ พวกข้าจะทำอย่างสุดความสามารถ”เหล่าช่างทำเครื่องประดับว่าพลางก้มหัวลง เท่านี้การรำทับทิมเพลิงไปสร้างเป็นเครื่องประดับก็จบลงแล้ว ที่เหลือก็คือการสร้างงานประมูลขึ้นมาและเชิญแขกพิเศษท่านหนึ่งมางานให้จงได้
.
.
“เจ้านาย มีจดหมายมาส่งขอรับ”หลังจากจัดการเรื่องทับทิมเพลิงได้ สิ่งที่เพิร์ลทำต่อมาก็คือการจัดงานประมูลขึ้น แน่นอนว่าด้วยชื่อตระกูลโรซารีการจัดงานประมูลนั้นง่ายดายราวกับนัดสหายมาร่วมโต๊ะอาหารไม่มีผิด สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับงานนี้คือการเชิญช่างทำอัญมณีที่ก่อเรื่องกับจูล่งเอาไว้มาร่วมงานให้ได้
“จดหมาย?”ช่างทำอัญมณีพูดพลางรับจดหมายมาช้าๆ เมื่อเปิดอ่านก็พบว่าในเนื้อความของจดหมายนั้น ดวงตาของช่างทำอัญมณีก็เบิกกว้างด้วยท่าทีดีใจทันที
“ฮ้าๆ แขกรับเชิญของตระกูลโรซารี่งั้นเหรอ”ช่างทำอัญมณียิ้มออกมาด้วยใบหน้าตื่นเต้นดีใจ ก่อนหน้านี้พึ่งจะมีเรื่องทำให้มันไม่พอใจเพราะทับทิมเพลิงที่หายากหลุดมือไปเสียได้ แต่วันนี้มันกลับได้รับเชิญไปเป็นแขกของตระกูลโรซารี่ในงานประมูลเครื่องประดับ ท่าทางชื่อเสียงของมันจะโด่งดังไปถึงหูคนตระกูลโรซารี่เข้า หากใช้โอกาสนี้แสดงความสามารถให้เต็มที่เพื่อดึงความเชื่อใจของตระกูลโรซารี่ได้ก็จะทำให้มันมีเส้นทางทำมาหากินเพิ่มขึ้นหลายทางเลยทีเดียว
“เตรียมรถม้า ข้าจะไปเมืองหลวงทันที”ช่างทำอัญมณีว่าพลางสั่งให้ลูกน้องออกไปเตรียมรถม้าทันที หากเป็นที่ยอมรับของตระกูลโรซารี่ละก็ บางทีมันอาจจะได้ไปเป็นช่างตรวจสอบอัญมณีให้ตระกูลโรซารี่ก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นอย่าว่าแต่ทับทิมเพลิงเลย อัญมณีหายากชิ้นอื่นๆก็อาจจะได้มาอยู่ในมือมันเพราะเงินทุนของตระกูลโรซารี่นั้นหนามากเลยทีเดียว
“เจ้านาย เกรงว่าจะไม่ต้องใช้รถม้านะขอรับ”ลูกน้องของช่างทำอัญมณีว่าพลางมองไปทางประตูร้านช้าๆ ที่หน้าประตูร้านนั้นมีมังกรบินตนหนึ่งยืนรออยู่พร้อมคนขับ หลังจากสอบถามแล้วก็พบว่าตัวผู้ขับได้รับคำสั่งให้รอรับตัวช่างทำอัญมณีไปด้วยทันทีที่ช่างทำอัญมณีตกลงจะมาร่วมงาน
“มังกรส่วนตัวงั้นเหรอ….”ช่างทำอัญมณีเลือดลมสูบฉีดทันทีเมื่อได้เห็นมังกรที่รออยู่ การเช่ามังกรบินเพื่อเดินทางนั้นใช้เงินจำนวนมาก แม้แต่พ่อค้าใหญ่หรือเจ้าของร้านอัญมณีที่ช่างทำอัญมณีทำงานอยู่ก็ไม่สามารถทำได้บ่อยๆ การที่ตระกูลโรซารี่เรียกมังกรบินให้มารอรับมันได้ก็ย่อมแสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยของตระกูลโรซารี่อย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ช่างทำอัญมณีไม่รอช้ารีบขึ้นหลังมังกรบินมุ่งตรงไปที่เมืองหลวงของอาณาจักรไชน์ทันที
“เชิญขอรับ ท่านเพิร์ลได้จองโรงแรมเอาไว้ให้ท่านแล้ว”ทันทีที่มาถึงเมืองหลวงมังกรบินก็ลงจอดที่ลานกว้างของโรงแรมหรูขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงทันที ดูเหมือนเพิร์ลจะจัดการจองโรงแรมและสิ่งต่างๆเอาไว้ให้ช่างทำอัญมณีแล้ว
“ห้องไหนงั้นเหรอ”ช่างทำอัญมณีถามพลางมองไปรอบๆ โรงแรมหรูขนาดนี้ต้องใช้คืนละกี่พันเหรียญทองกัน ขืนมันมาพักที่แบบนี้มีหวังเงินเก็บแสนกว่าเหรียญทองของมันได้หมดลงในเวลาไม่กี่เดินแน่ๆ
“ทั้งหมดขอรับ นายท่านเพิร์ลเหมาทุกห้องให้ท่านใช้พักผ่อนได้ตามสบายก่อนงานประมูลจะเริ่มขอรับ”พนักงานของโรงแรมตอบพลางก้มหัวลงอย่างนอบน้อม
“…….งั้นเหรอ”ช่างทำอัญมณีตอบด้วยท่าทีอึ้งๆ สมแล้วที่เป็นตระกูลโรซารี่เจ้าของธุรกิจรถไฟและเจ้าของสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์จำนวนมาก
“ท่าทางข้าคงต้องแสดงความสามารถในงานประมูลเสียหน่อยแล้ว”ช่างทำอัญมณีว่าพลางยิ้มออกมา ยามนี้ภายในเมืองหลวงมีภาพประกาศเรื่องงานประมูลของเพิร์ลอยู่เต็มไปหมด ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าจะต้องมีคนใหญ่คนโตของอาณาจักรไชน์มาร่วมงานกันมากมายเป็นแน่ งานนี้หากสามารถแสดงความสามารถในฐานะที่ปรึกษาด้านอัญมณีกับตระกูลโรซารี่ได้ แม้จะไม่ได้งานที่ตระกูลโรซารี่ก็คงต้องถูกตาต้องใจพวกขุนนางเป็นแน่ แค่คิดช่างทำอัญมณีก็หัวเราะไม่หยุดแล้ว