บทที่ 159 จ้าวเฮ่า เจ้าเป็นคนดีจริงๆ
เมืองเล็กหมอกลับแลนอกเมืองหมอกลับแล ตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพังไปนานแล้ว
ก่อนหน้านี้กระแสหมอกย้อนกลับใส่เมืองหมอกลับแล เมืองเล็กก็ต้องรับไปก่อนแรกสุด
ตอนนี้เมืองเล็กมีแต่ซากศพ จ้าวเฮ่าที่เดินอยู่กลางเมืองเล็กยังอดสั่นกลัวมิได้
ตอนนี้พลังบำเพ็ญเขาฟื้นกลับมาแล้ว มือถือสมบัติวิเศษดาบใหญ่ที่เก็บมาได้เล่มหนึ่ง พลังฤทธิ์ทั่วร่างทรงพลังอย่างมาก ภายในกายเขามีอัคคีอรุณใต้กำลังลุกโชตช่วงพร้อมใช้สังหารศัตรูทุกเมื่อ ใช้ปราบปีศาจได้ดีมาก
นี่ก็เป็นเหตุผลที่เขากล้าเดินทางมาตามหาเสิ่นเทียนในเมืองเล็กหมอกลับแลเพียงลำพัง
ช่วงที่จ้าวเฮ่ากำลังเดินหาเสิ่นเทียนอย่างยากลำบากแต่ไม่พบนั้นพลันได้ยินเสียงขอให้ช่วย นั่นเป็นเสียงขอร้องของสตรี น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว ทำให้คนอดใจอยากจะเข้าไปช่วยมิได้
จ้าวเฮ่าสูดลมหายใจเข้าลึก พลังฤทธิ์ถูกกระตุ้นทั่วร่างทันที ก่อนทั้งตัวเขาจะกลายเป็นเศษเงาพุ่งไปตามเสียง พบกับปีศาจหมาป่าสีม่วงกำลังล่าสังหารผู้หญิงชุดขาวคนนั้น อีกไม่นานจะตามไปกัดนางทันอยู่แล้ว
จ้าวเฮ่าตะโกนเสียงดัง ก่อนปาดาบใหญ่ในมือไปทางปีศาจหมาป่านั้น สายลมกระบี่ลากผ่านมวลอากาศไปฟันร่างปีศาจหมาป่า
อาวู้ อาวู้ อาวู้~!
ปีศาจหมาป่าส่งเสียงร้องเจ็บปวด ตรงเอวโดนฟันเป็นบาดแผลโลหิตสดสาดกระจาย
หมาป่าเป็นสัตว์หัวทองแดงกระดูกเหล็กเอวเต้าหู้อยู่แล้ว แม้จะเป็นสัตว์อสูรแล้วก็ยังเหมือนกัน เอวคือจุดอ่อนมัน
ตอนนี้เอวโดนฟันบาดเจ็บ ปีศาจหมาป่านั้นพลันร้องโหยหวนแล้ววิ่งหนีไปด้วยสภาพสะบักสะบอม ดูหวาดกลัวมาก
จ้าวเฮ่าใช้มือขวาดูดไปทางดาบใหญ่ที่ปักบนพื้น ดาบใหญ่พลันลอยเข้ามาในมืออีกครั้ง จากนั้นเก็บไว้ในฝักดาบข้างหลัง
จ้าวเฮ่าเผยรอยยิ้มที่ตนคิดว่าหล่อเหลาน่าหลงใหล “แม่นางไม่ต้องกังวล ข้าไล่เจ้าปีศาจไปแล้ว”
ผู้หญิงชุดคลุมขาวถึงได้หยุดวิ่งหนีตาย ใบหน้ามอมแมมมีความดีใจที่รอดตายมาได้
นางมองจ้าวเฮ่าก่อนจะมีสีหน้าตกตะลึงทันที “เจ้าเองรึ”
เสียงคุ้นหูทำให้จ้าวเฮ่าอึ้งไปนิดๆ เขาเพ่งมองหญิงชุดคลุมขาวแล้วก็เข้าใจแจ่มแจ้ง
ใช่ จ้าวเฮ่าจำผู้หญิงคนนี้ได้ นางไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นองค์หญิงเสวี่ยอู๋เสียแห่งอาณาจักรอู้อิ่น
รอยยิ้มบนใบหน้าจ้าวเฮ่าหายไปโดยพลัน ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้มีมิตรภาพอะไรกับผู้หญิงคนนี้ ในทางตรงข้ามกลับมีความขัดแย้งกันไม่น้อยด้วยซ้ำ
เสวี่ยอู๋เสียมองจ้าวเฮ่าที่แบกดาบใหญ่อย่างองอาจห้าวหาญ ใบหน้าสกปรกค่อยๆ ซับซ้อนขึ้น
ตอนนั้นที่เด็กหนุ่มคนนี้โดนนางถอนหมั้น ยังพูดสวยหรูไว้ว่าสามสิบปีสายน้ำไปทางตะวันออก สามสิบปีให้หลังสายน้ำจะไปทางตะวันตก
ตอนนั้นนางไม่คิดเช่นนั้น แต่ไม่นึกเลยว่าเขาจะทำมันได้จริงๆ!
ตอนนี้จ้าวเฮ่าฟื้นพลังบำเพ็ญกับพรสวรรค์แล้ว กลายเป็นโอรสสวรรค์หมายเลขหนึ่งของอาณาจักรอู้อิ่นคนนั้นอีกครั้ง ส่วนนางกลับเจอเถาจองจำเซียนคลุ้มคลั่งระหว่างเดินทางไปเมืองเล็กหมอกลับแล องครักษ์สู้สุดชีวิตถึงปกป้องนางไปถึงที่ซ่อนเอาไว้ได้
ตอนนี้หมอกลับแลสลายไปหมดแล้ว เสวี่ยอู๋เสียออกมาจากค่ายกลอำพราง แต่กลับเจอสัตว์อสูรล่าสังหาร แต่ก็ได้จ้าวเฮ่าช่วยเอาไว้แบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ตนผู้เคยอยู่สูงส่งตอนนี้กลับอยู่ในสภาพอับจนราวกับลูกหมาตกน้ำ นี่ทำให้เสวี่ยอู๋เสียละอายใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่เสวี่ยอู๋เสียก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ลืมบุญคุณ ไม่ว่าอย่างไรจ้าวเฮ่าก็ช่วยชีวิตนาง ด้วยเหตุนี้นางจึงยินดีจะขอโทษและขอบคุณสำหรับเรื่องที่ผ่านมา!
เมื่อคิดได้ดังนั้น เสวี่ยอู๋เสียก็สูดลมหายใจเข้าลึก “จ้าวเฮ่าขอบใจที่เจ้าลืมเรื่องในอดีตและช่วยข้า”
จ้าวเฮ่ามองเสวี่ยอู๋เสียอย่างเฉยชา “ไม่จำเป็น ถ้าข้ารู้ว่าคนที่โดนไล่ล่าเป็นเจ้าก็คงอาจจะไม่ช่วย”
เสวี่ยอู๋เสียกลับไม่โกรธ “เรื่องถอนหมั้นก่อนหน้านี้ข้าผิดเอง ข้าขอโทษเจ้าด้วย จากนี้ไปข้าเป็นหนี้ชีวิตเจ้า บุญคุณช่วยชีวิตไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ เพียงแค่ใจของอู๋เสียมอบให้ท่านเซียนไปนานแล้ว ชาตินี้ถูกลิขิตไว้ว่าไม่มีวาสนากับเจ้า หากชาติหน้ามีวาสนาได้พบกันอีก อู๋เสียยินดีเป็นวัวเป็นม้าเพื่อหมดกรรมกับเจ้า”
ตอนที่พูดเรื่องพวกนี้ นัยน์ตาเสวี่ยอู๋เสียเต็มไปด้วยความซื่อตรงและจริงใจ
เวลานี้ จ้าวเฮ่าโกรธไม่ลงอยู่นิดๆ แล้ว
ถึงอย่างไรเขาก็เคยเห็นใบหน้าเสิ่นเทียนมาก่อน อย่าว่าผู้หญิงอย่างเสวี่ยอู๋เสียเลย ต่อให้เป็นจ้าวเฮ่าเอง ถ้าเป็นผู้หญิงก็เกรงว่าคงไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของเสิ่นเทียนได้
เสวี่ยอู๋เสียเห็นใบหน้าเสิ่นเทียนแล้วไม่ยอมแต่งงานกับจ้าวเฮ่าตามบัญญัติของบรรพบุรุษก็เป็นเรื่องปกติมาก
ตอนนี้พลังบำเพ็ญของจ้าวเฮ่าก็ได้เสิ่นเทียนช่วยฟื้นฟู ติดน้ำใจคนยิ่งใหญ่แล้ว จึงมองบุญคุณความแค้นระหว่างตนกับเสวี่ยอู๋เสียเป็นเรื่องเล็กไปเลย
เป็นสามีภรรยากันไม่ได้ก็เป็นสหายกันก็ได้! ถึงอย่างไรพวกเขาสองคนก็มีขวัญใจเหมือนกัน นั่นคือเสิ่นเทียน
สำหรับผู้คลั่งไคล้แล้ว ขอแค่ขวัญใจที่เจ้าตามเหมือนกับขวัญใจที่ข้าตามอยู่เป็นขวัญใจคนเดียวกัน
เช่นนั้นก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว แค่ยิ้มก็ลบเรื่องบาดหมางบุญคุณความแค้นก่อนหน้านี้ไปได้ทั้งหมดแล้ว!
จ้าวเฮ่าถาม “องค์หญิง เจ้าพบสหายเสิ่นหรือไม่”
เสวี่ยอู๋เสียส่ายหน้า “ข้าอยู่เมืองเล็กมาตลอด ไม่เจอท่านเซียนเลย”
ใบหน้านางเต็มไปด้วยความเลื่อมใส “ได้ยินคนพูดว่าท่านเซียนคาดการณ์หายนะในที่ราบหมอกลับแลครั้งนี้ไว้ก่อนแล้ว ข้าเดาว่าตอนนี้ท่านเซียนจะต้องเดินทางลึกไปในที่ราบหมอกลับแลแล้วแน่ๆ คงกำลังปราบปีศาจจากต้นตออยู่”
จ้าวเฮ่าใคร่ครวญ ในเมื่อสหายเสิ่นคาดการณ์ได้ว่าให้เขารอโชคลิขิตฟื้นฟูพลังบำเพ็ญกับพรสวรรค์หน้าหลุมศพมารดา เช่นนั้นกับอีแค่เถาปีศาจก่อความวุ่นวายคงคุกคามสหายเสิ่นไม่ได้แน่ ตนเป็นห่วงและว้าวุ่นใจไปเอง น่าขำจริงๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น จ้าวเฮ่าก็ถอนหายใจโล่งอก “องค์หญิง เมืองเล็กหมอกลับแลดูเหมือนยังไม่ปลอดภัยดี ข้าจะปกป้องเจ้ากลับเมืองหมอกลับแลแล้วกัน!”
การกระทำของจ้าวเฮ่าที่ไม่สนใจเรื่องในอดีตทำให้เสวี่ยอู๋เสียละอายใจยิ่งกว่าเดิม “จ้าวเฮ่า เจ้าเป็นคนดีจริงๆ เจ้าจะพบเจอแต่ความสุข!”
จ้าวเฮ่าพยักหน้า “ได้ยินว่าองค์หญิงเคยเจอสหายเสิ่นตอนอยู่อาณาจักรต้าเหยียน พอจะเล่าเรื่องของเขาให้ฟังได้หรือไม่ ความจริงแล้วที่แซ่จ้าวฟื้นพลังบำเพ็ญได้ก็เพราะได้สหายเสิ่นชี้แนะ ข้าอยากรู้จักเขามาก!”
เมื่อได้ฟังคำพูดของจ้าวเฮ่าแล้ว เสวี่ยอู๋เสียก็ยิ่งรู้สึกแค้นที่เหตุใดเพิ่งมาพบกันเอาป่านนี้ “เจ้าอยากรู้เรื่องของท่านเซียนรึ เจ้าอยากรู้ด้านใดล่ะ ข้าเป็นสาวกที่ศรัทธาลัทธิปรมาจารย์เซียนที่สุดแล้ว
ถ้าไม่อย่างนั้นให้ข้าแนะนำให้เจ้าเป็นผู้อาวุโสให้แล้วกัน เจ้าก็มาร่วมลัทธิปรมาจารย์เซียนด้วยเถอะ!”
จ้าวเฮ่าดวงตาลุกวาวขึ้นมาทันที “นี่ มันจะได้จริงๆ หรือ”
……
ฮัดชิ้ว~!
ณ หุบเขาหมอกลับแล เสิ่นเทียนจามออกมา
ช่วงนี้ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงมักจะรู้สึกว่ามีคนพูดชมว่าเขาหล่อเหลาลับหลัง
เสิ่นเทียนเก็บเถาวัลย์ไป หลับตาลงสัมผัสสภาพในกายตัวเอง เวลานี้เขาชื่นใจมาก
แม้การมาฝึกฝนในที่หุบเขาหมอกลับแลครั้งนี้จะอันตรายยิ่ง แต่เขาก็ได้ของมาอู้ฟู้ เรียกได้ว่าได้มามากมายก่ายกอง
ไม่ใช่แค่ได้สมบัติสูงสุดอย่างเถาจองจำเซียนกับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานจำนวนมากแล้ว ในด้านพลังบำเพ็ญยังก้าวกระโดดเช่นกัน
ในด้านศาสตร์หลอมปราณแก่นพลังทอง ฐานรากมรรคในจุดตันเถียนเขาเริ่มผลัดเปลี่ยนแล้ว ลวดลายเทพที่ประทับตรามาจากเคราะห์ภัยสวรรค์นั้นทำให้พลังฤทธิ์บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ความจุพลังฤทธิ์ในตัวเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า พลานุภาพของอัสนีเทพปัญจธาตุยังแกร่งขึ้นถึงขีดสุด
และที่สำคัญกว่านั้นคือเสิ่นเทียนควบคุมแก่นรากอัสนีเทพในกายได้อย่างสมบูรณ์ อานุภาพที่สอดคล้องกับอัสนีเทพปัญจธาตุก็แกร่งขึ้นเช่นกัน
นี่สะท้อนมาในด้านปรากฏการณ์ของเสิ่นเทียนด้วย ห้าปรากฏการณ์ใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า ค่อยๆ สำแดงพลังของสัตว์เทพแท้จริงออกมา
แม้ตอนนี้พลังบำเพ็ญเขาจะยังอยู่เพียงระดับสร้างฐานตอนกลาง แต่เขามั่นใจว่าจะใช้เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมต้านระดับแก่นพลังทองได้
และนี่ยังเป็นเพียงในด้านศาสตร์หลอมปราณแก่นพลังทอง ความจริงศาสตร์หลอมกายเทพมารของเขาก้าวหน้ามากที่สุด
กายหยาบเขาถูกปรับแก้เป็นกายเทพอัสนีหยาง ทั้งยังใช้สุดยอดรูปแบบการต่อสู้แบบใหม่ได้อีกหลายแบบ
รูปแบบชาวไซย่าอัสนีระเบิด รูปแบบชาวไซย่าเผาโลหิต รูปแบบชาวไซย่าสองถัง
รูปแบบค้อนม่วงทองถูกปลุกตื่น รูปแบบโล่เต่าดำปลุกตื่น รูปแบบโล่ค้อน!
รูปแบบเสริมน้ำมวลหนัก รูปแบบพันธนาการกลืนกินเซียน รูปแบบเถาน้ำ!
และยังมีการซ้อนการป้องกันเข้ากับรูปแบบกายหยาบสุดท้ายที่เป็นขีดจำกัด!
สิ่งเหล่านี้คือไพ่ตายลับของเสิ่นเทียน เน้นไปที่การใช้ร่างกายต่อสู้
ถ้ามีโอรสสวรรค์รุ่นเดียวกันคิดว่าเสิ่นเทียนเก่งเรื่องโจมตีระยะไกลและจะเข้ามาสู้ระยะประชิดละก็
เช่นนั้นหลังจากเขาเข้ามาใกล้แล้วก็จะพบว่าจริงๆ แล้วเสิ่นเทียน…
หยั่งลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง~!
……………………….