บทที่ 178 ข้าไม่ใช่บุตรแห่งโชคจริงๆ
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เดินหนึ่งก้าว ก็ปรากฏประตูขึ้นตรงหน้า
เสิ่นเทียนตามไป สองคนก้าวเข้าไปในประตูและหายไปจากยอดเขาบัวขาว
จนเมื่อปรากฏแสงสว่างตรงหน้าอีกครั้ง ก็มาอยู่ที่วิหารเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นั่งบนบัลลังก์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ มองเสิ่นเทียน สายฟ้าประกายเซียนกระเพื่อมเบาๆ วันนี้เสิ่นเทียนทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีหน้ามีตาขึ้นมา แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะมีเจ็ดอารมณ์เฉยชา ตอนนี้ก็ยังอดชื่นชมมิได้
โดยเฉพาะเมื่อเห็นสีหน้าของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รู้สึกสบายไปทั้งตัว มาสงสัยสายตาของเขาเสียได้!
พลาดรับศิษย์แห่งสวรรค์ไปแล้ว สำนึกเสียใจล่ะสิ!
อิจฉาริษยาหรือไม่ อยากเรียกท่านปู่หรือไม่?
แค่กๆ เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญ รอให้จัดการเรียบร้อยแล้วค่อยว่ากัน
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝืนปรับสายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายให้สงบนิ่ง “ข้าปลื้มใจมาก เทียนเอ๋อร์เจ้าไม่ใช่แค่มีสวรรค์พิทักษ์ แต่ยังมีมหาดวงชะตาสูงสุด และที่หายากยิ่งกว่านั้นคือสวรรค์มอบให้ด้วยความเต็มใจ ข้าเลือกไม่ผิดจริงๆ ในศิษย์มากมายของฝ่ายเรา เจ้าเหมาะสมกับฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่สุด”
เมื่อได้ฟังคำพูดจริงจังของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว เสิ่นเทียนเกาหัว รู้สึกว่าเขากำลังแต่งเรื่องโกหก
อะไรคือท่านเลือกไม่ผิด ในศิษย์มากมายในแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าเหมาะกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
พูดอย่างกับข้าว่าไม่ได้ถูกบุตรสาวท่านบังคับกลับมาอย่างนั้นแหละ
คนอื่นเขาเป็นลูกศิษย์ก่อนจากนั้นก็ค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาและถูกเลือกเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ แต่ข้าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ก่อนจากนั้นคารวะท่านเป็นอาจารย์ ท่านมั่นใจนะว่าท่านตั้งใจเลือกจริงๆ น่ะ
อีกอย่าง เหตุใดอาจารย์ถึงคิดว่าข้ามีสวรรค์พิทักษ์กัน ก่อนหน้านี้ไม่นานข้าดวงซวยจะตาย!
ต่อให้ถึงตอนนี้ วงรัศมีเหนือศีรษะเสิ่นเทียนยังแค่สีเขียวอมแสงสีแดง ไม่ใช่บุตรแห่งโชคจริงๆ!
เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็คิดว่าควรจะอธิบายหน่อย “ก็เพราะว่ามีอาจารย์คอยชี้แนะขอรับ”
ได้ยินคำตอบของเสิ่นเทียนแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อยและยิ่งปลื้มใจกว่าเดิม
ไม่หยิ่งไม่ใจร้อนไม่ถ่อมตัวไม่จองหอง รู้จักบุกรู้จักถอย อีกทั้งที่สำคัญที่สุดคือฉลาดและมีความสามารถสูงถึงเพียงนี้ นี่สิถึงรับหน้าที่เป็นหน้าเป็นตาให้แดนศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดได้ นักบวชเทียนซิ่ว ตอนนี้เจ้าจะต้องอิจฉาอยู่แน่นอน!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อย “เทียนเอ๋อร์ เจ้านำของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมาช่วยฟางฉาง สร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ให้ฝ่ายเรา
ข้าให้รางวัลและลงโทษไม่เคยใช้อารมณ์ส่วนตัว เทียนเอ๋อร์เจ้าอยากได้รางวัลอะไรก็พูดมาได้เลย”
เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย อาจารย์จะให้รางวัลรึ เช่นนั้นจะไปเกรงใจอะไรล่ะ!
เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็ตอบไปว่า “อาจารย์ ศิษย์ขอทองคำเซียนนิดหน่อยได้หรือไม่ หากไม่มีทองคำเซียนก็ให้ดินดำก็ได้ ศิษย์ไม่เลือกหรอก”
สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวอย่างรุนแรง ตอนนี้ยังอดใจจนปัญญามิได้ กล้าพูดจริงๆ
สมบัติทุกชิ้นในรายนามสมบัติมหัศจรรย์ฟ้าดินล้วนหายากและล้ำค่ายิ่ง เป็นสมบัติล้ำค่าที่เหล่าผู้บำเพ็ญไม่สามารถร้องขอได้
แม้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานจะล้ำค่ามาก แต่ก็ยังเป็นของที่ใช้แล้วหมดไป เทียบกับสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินไม่ได้จริงๆ แน่นอน หากเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีทองคำเซียนหรือดินดำจริงๆ ก็ยินดีให้เสิ่นเทียน
แต่ปัญหาหลักคือเขาไม่มีทองคำเซียนกับดินดำ ถึงอย่างไรเมื่อได้สิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินชนิดนี้แล้วก็ต้องแบ่งให้โอรสสวรรค์ใช้อย่างแน่นอน
ในมือผู้อาวุโสสูงสุดบางท่านก็มีดินดำอยู่บ้าง แต่ก็จะสังหารบรรพบุรุษของตนเพื่อชิงสมบัติไม่ได้ใช่หรือไม่ล่ะ!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียน เวลานี้จนปัญญานิดๆ เขารู้ว่าตอนนี้เสิ่นเทียนขาดสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินปัญจธาตุแค่ธาตุทองกับดินเท่านั้น
เป็นอาจารย์ แต่ช่วยเสิ่นเทียนรวมให้ครบไม่ได้นี่ช่างขายหน้าจริงๆ เหตุใดเขาถึงไม่ขาดธาตุไฟกันนะ!
หากเขาขาดไฟศักดิ์สิทธิ์ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มั่นใจว่าจะหลอกผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมาได้ ถึงตอนนั้นให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแบ่งต้นกำเนิดเพลิงสวรรค์ทะเลมรกตมาให้บ้าง เท่านี้ก็แก้ปัญหาได้จบแล้วไม่ใช่รึ
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยายามให้ใจสงบลง “แค่กๆ วันข้างหน้าหากมีทองคำเซียนหรือดินดำ ข้าจะมอบให้เจ้า”
อ้อ เสิ่นเทียนมีไอคิวสูงมาก ภายภาคหน้าหากมีทองคำเซียนหรือดินดำจะให้เจ้า ก็คือตอนนี้ไม่มี
พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็คิดว่าควรไว้หน้าอาจารย์หน่อย “ขอบคุณที่อาจารย์สนับสนุน”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รู้สึกหนังหน้าร้อนขึ้นมานิดๆ หลังจากห่างหายมานาน “เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นเถอะ! นอกจากทองคำเซียนกับดินดำแล้ว เทียนเอ๋อร์เจ้าอยากได้อะไร ข้าจะตอบตกลงทุกอย่าง”
พูดความจริง หลังจากมั่นใจว่าเสิ่นเทียนคือบุตรแห่งสวรรค์ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ไม่เสียดายอะไรแล้ว แม้แต่บุตรสาวยังเตรียมมอบให้เสิ่นเทียน แดนศักดิ์สิทธิ์ก็คิดจะส่งต่อให้เสิ่นเทียน ของอย่างอื่นก็ไม่เท่าไรเลย
แน่นอน ปัจจัยสำคัญที่สุดคือตนเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่กลับให้ผลประโยชน์ไม่ได้ นี่ช่างหน้าอายยิ่งนัก!
เสิ่นเทียนขบคิดแล้วก็คิดว่าตนยังมีทักษะการเอาตัวรอดไม่แกร่งพอ ต้องยกระดับ เขาจึงหยิบป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ออกมาจากอกเสื้อและส่งไปข้างหน้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
“อาจารย์ นี่คือป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ที่เจ้ากระบี่ธารนิรันดร์หลี่ชางหลันหลอมขึ้นมา มีประโยชน์มาก ไม่รู้ว่าฝ่ายเรามีสมบัติคล้ายๆ กันนี้หรือไม่ ให้ศิษย์สักแปดชิ้นสิบชิ้นได้หรือไม่ จะซื้อก็ได้ขอรับ”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตอบนิ่งๆ “ถึงป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่นี่จะใช้ได้ แต่พลังโจมตีอ่อนแอเกินไปจริงๆ ข้าผนึกการโจมตีสามครั้งในป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ทุกการโจมตีจะใช้ได้ครั้งเดียว ถึงอย่างไรการพึ่งพาพลังภายนอกก็ไม่มีผลดีอะไรกับการฝึกบำเพ็ญของเรา”
เสิ่นเทียนดีใจใหญ่ “ขอบคุณอาจารย์ แล้วการโจมตีสามครั้งนั้นแข็งแกร่งเพียงใด”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตอบกลับนิ่งๆ “ต่ำกว่าระดับผู้อริยะจะตายอย่างแน่นอน”
ซี้ด บ้าอำนาจมาก แกร่งมาก ข้าชอบมาก!
ถึงจะวนเวียนใช้ได้เรื่อยๆ ไม่ได้เหมือนป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ แต่ถ้าป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่เจอศัตรูที่แข็งแกร่งมากก็ไม่มีประโยชน์เลย
ทว่าการโจมตีสามครั้งของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เหมือนกับอาวุธนิวเคลียร์ ระดับหลอมรวมเทพยังตาย!
กอดขาแดนศักดิ์สิทธิ์นี่สบายจริงๆ ตอนแรกที่ข้าเลือกเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นี่ฉลาดจริงๆ!
ป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ลอยออกมาจากอกเสื้อเสิ่นเทียน เข้าไปในมือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ พริบตาเดียวก็ระเบิดแสงสว่างจ้าออกมา
สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รวมเป็นประกายแสงสีทองหลั่งไหลเข้าไปในป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์
เมื่อประกายแสงสีทองหลั่งไหลเข้าไปในป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ค่อยๆ รวมออกมาเป็นอักขระสามตัว พวกมันแผ่ท่วงทำนองแห่งมรรคอันลึกลับ ในนั้นเหมือนมีอานุภาพแห่งการทำลายล้างโลก
ประกายแสงหุบเข้ามาช้าๆ ป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์กลับมาในมือเสิ่นเทียน น้ำหนักเหมือนจะหนักขึ้น
ทางด้านสายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เบาบางลงไปไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าเสียพลังปราณเดิมไปมาก
เสิ่นเทียนรีบหยิบของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานขวดหนึ่งออกมาจากแหวนเวหา “อาจารย์เสียพลังปราณเดิมเพื่อศิษย์ ศิษย์ละอายใจ หวังว่าอาจารย์จะรับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานขวดนี้ไว้เติมเต็มพลังปราณเดิม ไม่อย่างนั้นศิษย์จะไม่สบายใจ”
สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมขึ้นมา “เด็กโง่ ไม่ต้อง เจ้ามอบของเหลวศักดิ์สิทธิ์ให้ฝ่ายเรามากพอแล้ว เก็บไว้เองเถอะ! ความจริงแล้วข้าให้เจ้ามาวิหารเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์คนเดียวก็เพราะยังมีเรื่องสำคัญอีกอย่าง”
เสิ่นเทียนเพิ่งได้รางวัลไปย่อมกล่าวอย่างถูกต้องชอบธรรม “ขอให้อาจารย์บอกมาได้เลย ศิษย์จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “อีกสิบวันข้างหน้าจะเป็นการฝึกฝนของศิษย์ระดับสร้างฐานร่วมกันของฝ่ายเรากับแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก สถานที่ฝึกฝนครั้งนี้คือตรงสนามรบบรรพกาลใกล้ๆ กับอาณาจักรต้าเหยียนของเจ้า
ที่นั่น กำลังรบของผู้ฝึกบำเพ็ญทุกคนจะถูกจำกัดไว้ต่ำกว่าระดับแก่นพลังทอง ดังนั้นฟางฉาง อวิ๋นถิงและอวิ๋นซีจึงเข้าไปในนั้นไม่ได้
เทียนเอ๋อร์ ข้าหวังว่าเจ้าจะนำพาศิษย์ของฝ่ายเราโดดเด่นในการฝึกฝนครั้งนี้ ได้โชคลิขิตเท่าไรไม่สำคัญ ข้าไม่ได้เป็นกังวล หลักๆ คือความปลอดภัยของพวกลูกศิษย์”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียน สายฟ้าประกายเซียนสั่นไหวเบาๆ “ต้องฝากศิษย์พวกนี้ไว้กับเจ้าแล้ว”
เมื่อสัมผัสได้ถึงแววตาอันแรงกล้าภายใต้สายฟ้าประกายเซียนแล้ว เสิ่นเทียนก็รู้สึกเหมือนตนโดนกับดัก
สนามรบบรรพกาลหรือ คือสนามรบที่วิญญาณร้ายต่างแดนบุกมาเมื่อหมื่นปีก่อนน่ะหรือ
เล่าลือว่ามหาสงครามเมื่อหมื่นปีก่อนนั้น แม้แต่เซียนแท้จริงบนฟ้ายังลงมา สู้กันจนมิติพังทลาย กฎเกณฑ์ปั่นป่วน ถึงได้เกิดเป็นเขตต้องห้ามสนามรบบรรพกาลพวกนั้น
ทุกปีจะมีผู้ฝึกบำเพ็ญที่ไม่รู้จักเป็นตายจำนวนมากวางแผนบุกเข้าไปในสนามรบบรรพกาลเพื่อหาโชคลิขิตของพวกเซียน ปรากฏว่าไปไม่กลับ แก่นพลังสำคัญพลังบำเพ็ญกลายเป็นปุ๋ยให้เขตต้องห้าม
…..
เมื่อได้ยินว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะให้ตนพาลูกศิษย์ไปฝึกฝนที่สนามรบบรรพกาลแล้ว เสิ่นเทียนก็ขนหัวลุก
ตอนนี้เขามีวงรัศมีเพียงสีเขียวเท่านั้น มีแสงสีแดงนิดหน่อย ไม่มั่นคงเอาเสียเลย!
จะว่าไป ศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์ไปฝึกฝนที่ที่มันปลอดภัยกว่านี้ไม่ได้หรือ
ข้าว่าทะเลสาบกระจกจันทราใกล้ๆ แดนศักดิ์สิทธิ์ก็เยี่ยมมากเลยนะ!
ถ้าไม่อย่างนั้นรวมกลุ่มกันไปเที่ยวทะเลสาบกระจกจันทรากันเถอะ!
อย่าไปทรมานตัวเองได้หรือไม่!
ความจริงหลังจากผ่านอันตรายในที่ราบหมอกลับแลมา เสิ่นเทียนก็เข้าใจหลักการอย่างหนึ่ง นั่นคืออย่ารนหาที่ตายสุ่มสี่สุ่มห้า
มีชีวิตเดียว ผู้มีมหาดวงชะตาแท้จริงทำตามใจตัวเองได้ แต่หากบุตรแห่งโชคที่ปลอมเกินจริงอย่างเขาเลียนแบบบ้าง แค่ลองก็คงตายไปเลย!
ตอนนี้เสิ่นเทียนอยากจะแบไพ่ในมือให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดูจริงๆ
อาจารย์ ศิษย์ทำไม่ได้จริงๆ!
ข้าไม่ใช่บุตรแห่งโชคจริงๆ นะ!
……………………………………………..