บทที่ 238 มีเทียนเอ๋อร์อยู่ ยังต้องกังวลว่าแดนศักดิ์สิทธิ์จะไม่รุ่งเรืองอีกหรือ
อีกด้านหนึ่ง ประมุขชุดคลุมโลหิตหนีไปไกลหลายร้อยลี้แล้ว
สนามรบบรรพกาลห่างแค่เอื้อม ความหวังที่จะหนีรอดก็อยู่ตรงหน้า
ทว่าตอนนี้เอง เขาพลันหน้าเปลี่ยนสี
เพราะเขารู้สึกถึงพลังงานที่แข็งแกร่งอีกอย่างกำลังรวมที่เหนือศีรษะตน กำลังสั่งสมพลังรอปะทุ
แย่แล้ว!
ประมุขชุดคลุมโลหิตรีบรวมพลังทั่วร่างเป็นปราการคุ้มกันสีโลหิตบนผิวกาย วินาทีที่ปราการคุ้มกันสีโลหิตรวมขึ้นนั้น ก็มีสายฟ้าสายหนึ่งผ่าลงมากลางฟ้าทันที
เปรี้ยง~!
สายฟ้าสีทองเหมือนลงมาจากนอกฟ้า ฉีกทำลายท้องนภาผ่าลงมาบนตัวประมุขชุดคลุมโลหิตอย่างรุนแรง
เป็นสายฟ้าธรรมดาๆ แต่กลับทำให้ปราการคุ้มกันของประมุขชุดคลุมโลหิตแหลกเป็นเสี่ยงๆ
ขณะเดียวกับที่ทำลายปราการคุ้มกันนั้น อัสนีเทพกำเนิดฟ้าสีทองยังลุกลามไปบนตัวประมุขชุดคลุมโลหิต มุดเข้าไปในกายเขาอย่างบ้าคลั่ง
สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญลัทธิวิญญาณร้ายแล้ว สายฟ้าสวรรค์คือหนึ่งในสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลก
โดยเฉพาะในอัสนีเทพกำเนิดฟ้านี้ยังมาพร้อมกับไอเซียนอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะทำอันตรายกับประมุขชุดคลุมโลหิตมากเพียงใด
เดิมทีประมุขชุดคลุมโลหิตระเบิดไข่มุกเจ็ดสังหารที่ใช้ชีวิตแลกมาก็พลังปราณเดิมบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว ตอนนี้ยังถูกสายฟ้าผ่า จึงชักกระตุกไปทั้งตัวก่อนจะร่วงลงมาจากบนฟ้าทันที
“มารร้าย กล้าทำร้ายศิษย์ที่รักของข้า ดูท่าคงต้องทำการชะล้างลัทธิวิญญาณร้ายแห่งดินแดนบูรพาครั้งใหญ่แล้ว!”
เสียงเย็นชาและน่าเกรงขามดังขึ้นกลางหุบเขา สายฟ้าไอเซียนสีทองส่องสว่าง
ร่างคนที่ปกคลุมด้วยสายฟ้าไอเซียนปรากฏตรงหน้าทุกคน แผ่กลิ่นอายพลังแข็งแกร่ง
ใช่ คนนี้คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์…จางหลงหยวน!
“จางหลงหยวน เจ้ามาได้อย่างไร”
จางหลงหยวนเป็นหนึ่งในเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวที่สุดในดินแดนบูพา ชนชั้นสูงของลัทธิชั่วร้ายย่อมรู้จักดี
ทันทีที่เห็นจางหลงหยวนปรากฏกาย ประมุขชุดคลุมโลหิตก็แทบจะสิ้นหวังแล้ว
หากบอกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตฉู่หรงเหอคืออดีตโอรสสวรรค์อันดับหนึ่งของแดนเทพสวรรค์ เช่นนั้นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนก็น่ากลัวยิ่งกว่าฉู่หรงเหอ
ถึงตอนหนุ่มเขาจะเด่นด้อยกว่าฉู่หรงเหอเล็กน้อย แต่ก็มั่นคงกว่าฉู่หรงเหอมาก
พันปีที่ฉู่หรงเหอถูกทำลายพลังบำเพ็ญ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกือบจะขาดตอน แต่ก็ได้จางหลงหยวนแบกเอาไว้ด้วยตัวคนเดียว
ชื่อเสียงอันโด่งดังอันดับหนึ่งในวิชาอัสนีตลอดหลายพันปีมานี้ของดินแดนบูรพาไม่ใช่ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์โอ้อวดเองเลย
นั่นคือคนที่ยืนบนกองซากศพของผู้แข็งแกร่งสาวกชั่วร้ายนับไม่ถ้วนในสนามรบไม่รู้กี่ครั้ง!
กล่าวได้ว่าในลัทธิวิญญาณร้าย นามของจางหลงหยวนแทบจะสามารถหยุดเสียงเด็กร้องไห้ในยามค่ำคืนได้ มีชื่อเสียงเลื่องลือมาก
ทว่าตั้งแต่ที่จางหลงหยวนรับตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ปิดด่านบำเพ็ญฝึกควบคัมภีร์เสริมวิถีฟ้ากับคัมภีร์จักรพรรดิเทพสวรรค์ตลอด
แม้จะเป็นเรื่องใหญ่เทียมฟ้าก็ยากจะเห็นจางหลงหยวนออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ และยังมีข่าวว่าเขาตัดเจ็ดอารมณ์ธาตุไฟเข้าแทรกไปนานแล้ว
แต่ตอนนี้ จางหลงหยวนกลับปรากฏกายขึ้นตรงหน้าประมุขชุดคลุมโลหิตอีกครั้ง
นี่จะไม่ทำให้เขาแทบจะสิ้นหวังได้อย่างไร
ถึงอย่างไร วิชาอัสนีของจางหลงหยวนก็เป็นปฏิปักษ์กับเขาอย่างมาก อีกทั้งพลังบำเพ็ญยังเหนือกว่าเขาไปไกล เมื่ออยู่ต่อหน้าจางหลงหยวน เขาแทบจะไม่มีแรงต่อต้านเลย
“เป็นไปได้อย่างไร เจ้ามาถึงเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร”
ใบหน้าประมุขชุดคลุมโลหิตเต็มไปด้วยความไม่ยอม ตอนนี้ถูกสองผู้แข็งแกร่งจางหลงหยวนกับฉู่หรงเหอปิดล้อม เขาไม่มีทางหนีแล้ว
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ “แปลกใจใช่หรือไม่ว่าเหตุใดเจ้าปิดผนึกทุกที่โดยรอบไว้แล้ว ไฉนข้าถึงยังตามมาได้ทันที เหตุผลก็ง่ายมาก นั่นเป็นเพราะข้ารู้ข่าวการหายตัวไปของเทียนเอ๋อร์ จึงรีบมาทันที”
ประมุขชุดคลุมโลหิตมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างเหลือเชื่อ “เพราะศิษย์คนเดียวหายตัวไป เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างเจ้าถึงต้องมาเองเชียวหรือ”
เล่นตลกอะไร
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์บ้านใครว่างขนาดนี้กัน
แค่ค่ายกลเคลื่อนย้ายเกิดปัญหานิดหน่อย ไม่ใช่ข่าวการตายสักหน่อย
แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พวกเจ้าเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองเช่นนี้หรือ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์บอกว่าจะออกม้าก็ออกม้าได้เลยรึ
เมื่อได้ยินคำถามของประมุขชุดคลุมโลหิต สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวราวกับคลื่นลูกใหญ่
น้ำเสียงเขาทั้งเฉยชาและน่าเกรงขาม “ความรักระหว่างศิษย์อาจารย์ของข้ากับเทียนเอ๋อร์เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกบำเพ็ญชั่วร้ายไร้ความรู้สึกอย่างพวกเจ้าไม่มีวันเข้าใจ
และยังกล้าใช้วิชาชั่วร้ายรบกวนการเคลื่อนย้ายของเทียนเอ๋อร์ หมายจะจับตัวเทียนเอ๋อร์มาข่มขู่ข้ากับแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นรึ
เจ้ามารร้าย ถูกจับเสียดีๆ เถอะ!”
อะไรนะ
ใช้วิชาชั่วร้ายรบกวนการเคลื่อนย้ายของเขา หมายจะจับตัวบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เพื่อข่มขู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ
ประมุขชุดคลุมโลหิตอึ้งไปแล้ว ข้าเคยคิดเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน จะฟ้องร้องข้อหาเจ้าใส่ร้ายป้ายสี!
อะไรกัน
ขุมอำนาจทางการเจ๋งนักหรือ ถึงเปลี่ยนจากดำเป็นขาว ใส่ร้ายผู้ฝึกวิถีชั่วร้ายอย่างเราได้ตามใจชอบ!
ความโกรธและเศร้าปะปนกันในใจ ประมุขชุดคลุมโลหิตถึงกับเดือดดาลอย่างยิ่ง “เจ้าคนแซ่จางรังแกกันเกินไปแล้ว! วันนี้ต่อให้ข้าตาย ข้าก็จะหนีจากมือเจ้าไปให้ได้ ภายภาคหน้าจะมาคิดบัญชีกับเจ้าแน่!”
หลังจากพูดจาโหดเหี้ยมที่น่ากลัวที่สุดด้วยน้ำเสียงที่โหดที่สุดแล้ว ประมุขชุดคลุมโลหิตก็เสกอาวุธชั่วร้ายออกมาหลายชิ้น
อาวุธชั่วร้ายพวกนี้อ่อนแอที่สุดก็เทียบเท่ากับสมบัติวิญญาณระดับกลางขึ้นไป เป็นสมบัติลับของวิหารโลหิตสังหารแห่งลัทธิวิญญาณร้าย
แต่ตอนนี้เพื่อหนีรอด ประมุขชุดคลุมโลหิตจึงระเบิดอาวุธชั่วร้ายพวกนี้ โจมตีใส่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ส่วนตัวเขาหมุนตัวกลับหนีไปทางสนามรบบรรพกาลโดยไม่หันมามองอีก ตราบใดที่ยังมีชีวิตย่อมยังมีความหวัง สามสิบปีสายน้ำไปทางตะวันออก สามสิบปีให้หลังสายน้ำจะไปทางตะวันตก!
โจรไม่สู้กับพวกทางการ!
ประมุขชุดคลุมโลหิตปลอบใจตัวเองไม่หยุดพลางหนีไกลออกไปตามสถานการณ์
ทว่าการระเบิดอาวุธชั่วร้ายพวกนั้นที่เขาคิดถึงอยู่ตลอดไม่ได้ขวางเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไว้ แทบจะไม่มีประโยชน์เลย
ก่อนจะเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แค่ย่างเดินก็เหมือนทะลุมิติมาโผล่ข้างหลังประมุขชุดคลุมโลหิตห่างไปสามฉื่อ
สายฟ้าสีทองรวมเป็นทวนเทพจั้งกว่าที่มือขวาเขา ก่อนจะแทงบ่าประมุขชุดคลุมโลหิต ยกขึ้นกลางอากาศ ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
“มีพลังบำเพ็ญผู้อริยะ แต่รากฐานกลับเลื่อนลอยราวกับเป็นภาวะไตพร่อง อย่างเจ้าคู่ควรจะเป็นศัตรูกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ข้ารึ”
เสียงเฉยชาและไร้คลื่นความรู้สึกใดๆ ดังขึ้น สายฟ้าสีทองพลันระเบิดออก
ประมุขชุดคลุมโลหิตถูกทวนยาวสายฟ้าเหวี่ยงจากบนฟ้าตอกลงกับพื้น เกิดฝุ่นควันคละคลุ้ง
เมื่อฝุ่นควันสลายไป ก็ปรากฏอักขระลึกลับสีทองลอยขึ้นบนตัวประมุขชุดคลุมโลหิต ปิดผนึกพลังบำเพ็ญระดับผู้อริยะของเขาไว้ทั้งหมด
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนค่อยๆ ลงมาตรงหน้าประมุขชุดคลุมโลหิตราวกับเทพสายฟ้ามาเยือน มองเขาจากมุมสูง
“วันนี้ขอเซ่นไหว้เจ้าเพื่อประกาศกับห้าดินแดน ‘ผู้ล่วงเกินเทพสวรรค์ข้า ต้องตาย!’”
………
เมื่อเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ผู้องอาจห้าวหาญเหมือนกับเทพเจ้าลงมาแล้ว ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวหน้าแดงเล็กน้อย
เดิมทีคิดว่าจะมีแค่ศิษย์พี่ใหญ่มา แต่ไม่นึกเลยว่าศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะเดินทางไกลมาเช่นกัน
ในใจเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นห่วงศิษย์น้องหญิงอย่างข้ากับศิษย์หลานเสิ่นเทียนอยู่จริงๆ
ทางด้านนักพรตชราฉู่หรงเหอ ตอนนี้มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
เขามองจางหลงหยวน “ศิษย์น้องรอง ครั้งนี้ข้าต่อสู้อาบโลหิตเพื่อช่วยเทียนเอ๋อร์ ข้าข้ามระดับพลังสู้ตายกับมารร้ายนี่ บาดเจ็บสาหัสหายใจรวยริน ควรจะเบิกค่ารักษาได้หรือไม่”
หากครั้งนี้กรรโชกศิลาวิญญาณมาไม่ได้หลายล้านก้อน ข้าไม่ขอชื่อมรกต!
แต่จางหลงหยวนกลับไม่สนใจนักพรตชรา เขามองเสิ่นเทียน
ตอนที่เห็นทองคำเซียนปีกปักษาข้างหลังเสิ่นเทียน สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายจางหลงหยวนพลันสั่นไหวอย่างรุนแรง
นี่ไม่ถึงหนึ่งเดือน เทียนเอ๋อร์…ก็เจอสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินใหม่อีกแล้วหรือ
ซี้ด เดาไว้ไม่ผิดจริงๆ เทียนเอ๋อร์คือบุตรแห่งสวรรค์!
มีเทียนเอ๋อร์อยู่ยังต้องกังวลว่าแดนศักดิ์สิทธิ์จะไม่รุ่งเรืองทุกคืนวันอีกหรือ
ความรุ่งเรืองของเทพสวรรค์กำลังจะมาถึงแล้ว!
…………………….