บทที่ 387 หรือเพราะข้าหน้าตาหล่อเหลา
เสิ่นเทียนไม่รู้ว่าตอนนี้นอกสุสานมหาจักรพรรดิอีกาทองเกาะมหานทีจะมีเทพมารคนหนึ่งกำลังคิดถึงตนอยู่
เขากับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์และผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเพ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการโปรดสัตว์วิญญาณอาฆาตอีกาทอง
ถึงอย่างไรเจ้านี่ก็ส่งผลอย่างมาก หากโปรดสัตว์วิญญาณอาฆาตอีกาทองเก้าตัวได้จริงๆ ทั้งเกาะมหานทีจะเป็นของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
ต้องรู้ว่าที่นี่คือแดนฝึกบำเพ็ญในอดีตของมหาจักรพรรดิอีกาทอง เดิมทีเป็นหนึ่งในแดนล้ำค่าสูงสุดไม่กี่แห่งที่มีพลังวิญญาณชีพจรปฐพีเอ่อล้นที่สุดในทะเลอุดร ความล้ำค่าแทบจะไม่เป็นรองโลกเล็กเทพสวรรค์
การได้สิทธิ์และผลประโยชน์ทั้งหมดของมหานทีมาครอง จะเป็นการเพิ่มศักยภาพแฝงของทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
การเป็นผู้ส่งเสริมเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตหรือเสิ่นเทียน ก็จะได้บันทึกไว้ในชีวประวัติของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ได้สืบทอดต่อไป
เกิดเป็นคน ใครบ้างไม่อยากมีชื่อเสียงโด่งดังไปเป็นร้อยๆ ปี!
มีอีกาทองสามตัวนำทาง การตามหาอีกาทองตัวอื่นจึงราบรื่นขึ้นมาก
ไม่นานนัก พวกเขาก็เจอวิญญาณอาฆาตอีกาทองอีกตัวตรงแกนกลางเหมืองศิลาวิญญาณ
เจ้าชายอีกาทองเก้าตัวถูกแยกกันผนึกไว้ ช่วงเวลาการทลายผนึกก็ไม่มีกฎเกณฑ์
ตอนนี้เกาะมหานทีเพิ่งปรากฏมาไม่นาน วิญญาณอาฆาตอีกาทองตัวนี้ยังไม่หลุดจากผนึก
ดังนั้นการโปรดสัตว์อีกาทองตัวนี้จึงราบรื่นมาก เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตหิ้วปีกอีกาทองตัวนี้ กดมันไว้อย่างแน่นหนา
และยังมีอีกาทองอีกสามตัวใช้พลังแบบเดียวกันกำราบ เป็นรูปแบบการสำเร็จโทษ
“แค่นี้รึ เจ้าลูกนกนี่ ยังต้องให้เราร่วมแรงกันโปรดสัตว์อีกรึ”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแบกกระบองไว้บนบ่า ก่อนพูดอย่างลำพองใจ “ข้าคนเดียวก็พอแล้ว ศิษย์น้องเจ้าไปพักตรงนั้นเถอะ!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างเฉยชา “องค์ชายอีกาทองทุกท่านยังอยู่ที่นี่! ศิษย์พี่ระวังคำพูดด้วย”
จริงๆ เลย องค์ชายอีกาทองพวกนี้สิ้นชีพไปหมดแล้ว เหลืออยู่เพียงจิตต้นกำเนิดเปราะบาง ถ้าไม่เช่นนั้น เจ้าก็ลองพูดว่าพวกมันเป็นลูกนกต่อหน้าพวกมันตอนช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุดดู
เอาเพลิงเทพอีกาทองไปคนละลูก จะให้เจ้ารู้เลยว่าอะไรคือไมตรีจิตดั่งไฟของเผ่าเทพอีกาทอง
องค์ชายใหญ่อีกาทองเผยรอยยิ้มเก้อเขินบนหน้านก “ไม่เป็นไรๆ บุญคุณช่วยชีวิตยิ่งใหญ่กว่าฟ้า ดูแล้วผู้มีพระคุณท่านนี้คงแค่หยอกเล่นเท่านั้น ท่านพ่อสอนพวกเราเสมอว่าต้องเป็นกันเองกับเผ่ามนุษย์ เป็นมิตรกับมนุษย์ เรื่องเล็กแค่นี้ไม่ต้องใส่ใจเลย”
ทุกคนรู้ว่าเผ่าเทพอีกาทองควบคุมเปลวเพลิง แต่มีชื่อเสียงเรื่องมีจิตใจดีดั่งสายน้ำ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร้องขอคนอื่น ก็จะไม่พูดจาดีเช่นนี้เด็ดขาด
อืม ไม่ผิด นิสัยดีเช่นนี้เลย
……
หลังจากโปรดสัตว์อีกาทองตัวที่สี่ เสิ่นเทียนเก็บถาดวัฏจักรหกมรรคไปช้าๆ
ตอนนี้ ไอแห่งบุญกุศลที่วนเวียนเหนือถาดวัฏจักรหกมรรคเข้มข้นขึ้นกว่าแต่ก่อน ดูศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง
แม้แต่เสิ่นเทียนยังรู้สึกเบาสบายไปทั้งตัว เหมือนว่ากฎแห่งสวรรค์ใกล้ชิดกับตนมากขึ้นหลายส่วน ศีรษะสว่างสดใสเหมือนทาด้วยยาหม่อง
“น้องชายห้าท่านที่เหลือเหมือนจะเริ่มทะลวงผนึกแล้ว”
องค์ชายใหญ่อีกาทองเอ่ยขึ้น “สายเลือดของพวกข้าเชื่อมต่อกัน มีสัมผัสมหัศจรรย์ระหว่างกันและกัน พวกมันก็น่าจะสัมผัสอะไรได้แล้ว”
เสิ่นเทียนแบะปาก
สัมผัสได้แล้วอย่างไร
สุสานจักรพรรดิอีกาทองตัดขาดจากโลก ถูกผนึกไว้อย่างสมบูรณ์ กล่าวได้ว่าที่นี่ไม่มีใครช่วยได้ ประกอบกับมีอีกาทองสี่ตัวที่โปรดสัตว์แล้วนำทาง อีกาทองห้าตัวที่เหลือจะถูกโปรดสัตว์หรือไม่เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น
คิดจะดิ้นรนรึ ร้องจนคอแตกก็ไม่มีประโยชน์!
จากการนำทางขององค์ชายใหญ่อีกาทอง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตและเสิ่นเทียนก็ทยอยกันโปรดสัตว์องค์ชายอีกาทองที่เหลือ
ทุกอย่างราบรื่นจนน่าเหลือเชื่อ
แน่นอน เงื่อนไขของทุกอย่างคือเสิ่นเทียนมีถาดวัฏจักรหกมรรค
ขณะเดียวกันในตัวเขายังมีเยี่ยฉิงชาง คัมภีร์โปรดสัตว์จากโลกเซียนโดยเฉพาะ ‘คัมภีร์มัชฌิมเทพโปรดสัตว์’
หากไม่เช่นนั้น การจะโปรดสัตว์องค์ชายอีกาทองที่กลายเป็นวิญญาณอาฆาตมาหลายหมื่นปี คงเป็นเรื่องเพ้อฝัน ถึงอย่างไร ขนาดมหาจักรพรรดิยังจนปัญญากับเจ้านี่
……
“วิถีมนุษย์เล็กจ้อย วิถีเซียนกว้างใหญ่”
“วิถีภูตผีสุขสันต์ เป็นประตูชีวิตคน”
“วิถีเซียนใฝ่หาชีวิต วิถีภูตผีใฝ่หาจุดจบ”
“วิถีเซียนเป็นสิริมงคลต่อตนบ่อยครั้ง วิถีภูตผีเป็นอัปมงคลต่อตนบ่อยครั้ง”
เสียงสวดโปรดสัตว์ลอยล่องลี้ลับดังขึ้น อีกาทองตัวสุดท้ายอาบแสงสว่างจากถาดวัฏจักรหกมรรค ค่อยๆ ชะล้างความคิดชั่วร้ายจากในแสงสว่าง
อีกาทองตัวนี้มีศีรษะเล็กกว่าอีกาทองตัวอื่นไม่น้อย เหมือนจะเป็นน้องเล็กสุดในเก้าพี่น้องอีกาทอง
อืม แม้แต่ขาที่สามของอีกาทองยังทั้งสั้นและเหี่ยว เห็นได้ว่ายังเติบโตไม่เต็มที่
ดูก็รู้ว่าอีกาทองตัวนี้สิ้นชีพตอนอายุไม่มากจริงๆ ดังนั้นแม้จะผ่านมาหลายหมื่นปีก็ยังคงเยาว์วัยมาก
เมื่อกลิ่นอายชั่วร้ายหลุดออกจากอีกาทองตัวสุดท้าย อีกาทองสีแดงอมทองเก้าตัวก็เปล่งแสงสว่างจ้าพร้อมกัน ราวกับดวงตะวันสีแดงมหึมาลอยขึ้นทีละดวง
ตอนนี้ แสงเทพพุ่งออกจากในกายอีกาทองเก้าตัว เชื่อมต่อซึ่งกันและกัน
ทันใดนั้น อำนาจคุกคามแก่กล้าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนพลันอัดแน่นไปทั้งสุสานจักรพรรดิ เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั้งสุสาน
สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวอย่างรุนแรง แสดงว่าอารมณ์ไม่สงบนิ่งแล้ว “สมกับเป็นเก้าองค์ชายอีกาทองที่มีชื่อเสียงเลื่องลือห้าดินแดน ต่อให้เหลือเพียงดวงจิตต้น อำนาจคุกคามของยอดค่ายกลอีกาทองก็ยังคงน่าเหลือเชื่อ”
ตอนนี้ดูแล้ว คำเล่าลือว่า ‘เก้าตะวันค้ำฟ้า ประชันความเป็นหนึ่งกับมหาจักรพรรดิได้’ ในตอนนั้น แม้จะเกินจริงไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่คำพูดที่ไร้สาระ
น่าเสียดาย!
เทียบกับเผ่ามังกรและเผ่าหงส์แล้ว การสืบพันธุ์ของเผ่าเทพอีกาทองอ่อนแอมากจริงๆ
มองไปทั้งห้าดินแดน ก็มีมหาจักรพรรดิอีกาทองที่สร้างตำนานขึ้น มีบุตรทีเดียวเก้าตัว สร้างความตกใจไปทั้งห้าดินแดน
เทพอีกาทองอื่นๆ ทั้งชีวิตอาจจะมีทายาทไม่ถึงหนึ่งถึงสองตนด้วยซ้ำ
หลังจากมหาจักรพรรดิอีกาทองลอยขึ้นโลกเซียน เผ่าเทพอีกาทองก็ค่อยๆ เสื่อมถอยลง ตอนนี้ผ่านไปแปดหมื่นปีถึงขั้นหายสาบสูญไปในห้าดินแดนแล้ว ไม่รู้ว่ายังมีสายเลือดหลงเหลืออยู่หรือไม่
ไม่เช่นนั้น นี่จะต้องเป็นสัตว์เทพสูงสุดที่ไม่อ่อนแอไปกว่ามังกรและหงส์แน่นอน อีกทั้งทุกตัวยังเทียบกับมังกรและหงส์ระดับสูงได้
ดวงตะวันแดงยิ่งใหญ่เก้าดวงต่างเกื้อหนุนกัน พลังแห่งสุริยะร้อนแรงแผ่กระจายออกไปโดยรอบเหมือนกับลูกคลื่น อุณหภูมิทั้งสุสานจักรพรรดิพลันเพิ่มขึ้นสิบเท่า
หากไม่ใช่เพราะทุกคนในสุสานจักรพรรดิเป็นผู้บำเพ็ญเซียน อีกทั้งยังมีระดับพลังไม่ตื้นเขิน แค่คลื่นความร้อนน่ากลัวนี้ก็มากพอจะเผานักผจญภัยทั้งหมดให้เป็นเถ้าถ่านได้
บึ้ม~
อีกาทองเก้าตัววนกันเป็นวงกลม ห้วงอากาศตรงใจกลางถูกเผากลายเป็นความว่างเปล่า
ทว่าประตูสีแดงอมทองในห้วงอากาศนั้นก็เปิดออกช้าๆ ก่อนจะเหนี่ยวนำเงามายายิ่งใหญ่ออกมา
อีกาทองเก้าตัวเอ่ยขึ้นพร้อมกัน “บุตรขอคารวะท่านพ่อ!”
กระบอกตาของอีกาทองทุกตัวแฝงด้วยน้ำตาอุ่นๆ อยู่ในอุณหภูมิน่ากลัวเช่นนี้แต่ก็ยังไม่ระเหย
แม้พวกมันจะโดนกลิ่นอายวิญญาณอาฆาต แต่ก็ไม่เสียความทรงจำไป ยังจำได้ว่าหากเกาะมหานทีปรากฏขึ้น นั่นหมายความว่าอย่างไร
นั่นหมายความว่าบิดาที่พวกมันเคารพและเทิดทูนที่สุดได้สิ้นชีพลงในโลกเซียนแล้ว
พวกมัน รอไม่ทันบิดาตามหาวิธีช่วยในโลกเซียนจากนั้นกลับมาช่วยพวกมันในห้าดินแดน
“คนเราต้องตาย ความตายเป็นเพียงวัฏจักรใหม่เท่านั้น ไม่ต้องเสียใจไป”
มหาจักรพรรดิอีกาทองมองอีกาทองเก้าตัวด้วยความปลื้มใจ ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้เห็นพวกเจ้าหลุดพ้น ไปเกิดใหม่อีกครั้งได้ ถึงข้าจะตาย ก็ยังปลื้มใจยิ่งนัก”
…….
เมื่อเอ่ยจบ มหาจักรพรรดิอีกาทองก็หันหน้ามามองเสิ่นเทียน
ใบหน้าเขาปกคลุมด้วยแสงหม่นไร้พรมแดน มองเห็นความจริงแท้ไม่ชัด แต่แววตากลับเหมือนมองทะลุมาได้
ในน้ำเสียงของมหาจักรพรรดิอีกาทองแฝงไว้ด้วยความหมายพิเศษบางอย่าง “ไม่นึกเลยว่าห้าดินแดนจะให้กำเนิดมนุษย์เช่นเจ้าจริงๆ”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใจสั่นไหวเล็กน้อย “ท่านจักรพรรดิกล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร หรือว่าท่านรู้ว่าเทียนเอ๋อร์มีคุณสมบัติกายพิเศษอะไร”
คุณสมบัติกายของเสิ่นเทียนมีภูมิหลังอย่างไรกันแน่ คนที่สนิทกับเขาต่างแปลกใจกันอย่างยิ่ง
ในกายคนคนหนึ่งบรรจุสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินไว้สิบชนิด กระทั่งยังมีหมอกแห่งเบิกฟ้าต้องห้าม นี่มันน่าเหลือเชื่อ
มหาจักรพรรดิอีกาทองส่ายหน้าช้าๆ “ข้าเพียงแค่ไม่เคยเจอมนุษย์ที่หล่อเหลาเช่นนี้มาก่อน เทียบกับข้าตอนยังหนุ่มได้เลย”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพูดไม่ออก
องค์ชายอีกาทองทั้งเก้าปิดหน้า
ท่านคือมหาจักรพรรดิ ท่านพูดถูกต้องแล้ว
ถึงอย่างไรท่านก็ปิดหน้าตลอดเวลาเหมือนกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เราคงไม่เห็นหน้าตาท่านหรอก
เสิ่นเทียนยิ้ม แต่แอบแขวะในใจ
มหาจักรพรรดิอีกาทองเหมือนจะเห็นถึงการ ‘ยอมรับ’ ของเสิ่นเทียน เขาจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “คนหนุ่ม เจ้ารู้หรือไม่ว่า…ข้าอยากจะขอยืมร่างเจ้ามีชีวิตในภพที่สอง”
ยืมร่างของเจ้า มีชีวิตในภพที่สองรึ
เสียงอบอุ่นและเรียบนิ่งของมหาจักรพรรดิอีกาทองดังขึ้นข้างหูทุกคน
ทันใดนั้น เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์และผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตต่างขนพองสยองเกล้าพร้อมกัน กลิ่นอายพลังรอบตัวพลันพุ่งพรวดขึ้น เหมือนเจอกับศัตรูตัวฉกาจ
แต่เสิ่นเทียนกลับมองมหาจักรพรรดิอีกาทองด้วยความงุนงง เวลานี้ไม่เข้าใจว่าเหตุใดมหาจักรพรรดิอีกาทองผู้ยิ่งใหญ่ถึงอยากยืมร่างข้าไปมีชีวิตในภพที่สอง
ยืมอย่างไร
อาศัยร่วมกันหรือยึดร่าง
ถ้าอาศัยร่วมกัน หรือว่าจะให้ข้ามีลูกนกโผล่มาบนตัวด้วย
หรือว่ายึดร่าง ทำลายดวงวิญญาณของข้าเหมือนในนิยาย แล้วก็เอาวิญญาณสิงศพรึ
เพื่ออะไรกัน
มหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ตายแล้วไม่ไปเกิดใหม่ แต่อยากจะมายึดกายเนื้อข้ารึ
หรือเพราะข้าหน้าตาหล่อเหลากัน
…..
มหาจักรพรรดิอีกาทองเหมือนอ่านความสงสัยของเสิ่นเทียนออก จึงถอนหายใจเบา “เพราะข้ารู้ว่าห้าดินแดนกำลังจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ในประวัติการณ์ขึ้น”
เขาพูดนิ่งๆ “เดิมทีข้าคิดว่ามีเพียงข้ากลับมาถึงจะพลิกวิกฤติได้”
………………………
