บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน – บทที่ 389 รวมคัมภีร์เทพโลหิตครบ ของเหลวกำเนิดสุริยะ!

บทที่ 389 รวมคัมภีร์เทพโลหิตครบ ของเหลวกำเนิดสุริยะ!

มหาจักรพรรดิอีกาทองไม่รู้ว่าเสิ่นเทียนเตรียมจะพัฒนาสถานฝึกบำเพ็ญของเขาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว

เขาพูดเนิบนาบว่า “นอกจากนี้ ในภายภาคหน้าห้าดินแดนและโลกเซียนจะเจอกับกลียุคครั้งใหญ่ สหายน้อยเป็นอัจฉริยะมีพสวรรค์เช่นนี้ จะต้องเป็นแม่ทัพในสงครามครั้งนี้แน่นอน เกรงว่าคงต้องเจอกับอันตรายมากมาย

ก่อนข้าลอยขึ้นก็เคยได้รับคัมภีร์เทพโลหิตอันเป็นมรดกสูงสุดมาสองหน้า ลึกล้ำยากจะคาดเดา ลี้ลับไม่ธรรมดา ต่อให้วางไว้ในโลกเซียนก็ยังเป็นมรดกสูงสุด

น่าเสียดาย มรดกนี้ขาดบทพื้นฐานไปครึ่งส่วนแรก ทำให้ข้าแสดงอานุภาพที่แกร่งที่สุดไม่ได้ ตอนนี้ข้าจะไปเกิดใหม่ มรดกวิชานี้ไม่ควรสิ้นสุดที่ตัวข้า ตอนนี้เลยจะมอบให้สหายน้อย!

หวังแค่ว่าภายภาคหน้าสหายน้อยจะรวมมรดกนี้ได้ครบ พยายามกู้สถานการณ์ในสงครามในภายภาคหน้าอย่างเต็มที่!”

เพิ่งเอ่ยจบ ก็มีคัมภีร์โบราณสีแดงอมทองสองหน้าลอยมาจากในร่างเงาจักรพรรดิยิ่งใหญ่

ขนาด สีสันและกลิ่นอายของมันเหมือนกับคัมภีร์เทพโลหิตที่เสิ่นเทียนได้มาจากปีศาจยุงโลหิต เห็นได้ชัดว่ามีแหล่งกำเนิดเดียวกัน

เสิ่นเทียนพลันมีสีหน้าดีใจขึ้นมา

เพราะฝึกฝนคัมภีร์คบเพลิงกำเนิดฟ้า จึงอำพรางกลิ่นอายพลังในกายได้ทั้งหมด ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิอีกาทองก็ยังตรวจสอบไม่พบกลิ่นอายของคัมภีร์เทพโลหิตในตัวเขา

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบทพื้นฐานหน้าหนึ่งกับหน้าสองของคัมภีร์เทพโลหิตอยู่กับเสิ่นเทียนจริงๆ

ตอนนี้เขาขาดหน้าที่สามกับหน้าที่สี่นี้!

คัมภีร์เทพโลหิตแบ่งเป็นสองหน้าบนล่าง บทละสองหน้า คัมภีร์เทพโลหิตในมือเสิ่นเทียนคือบทบน บทพื้นฐาน

และสองหน้าในบทพื้นฐานก็แบ่งเป็นวิชาแยกโลหิตกับวิชาแยกจิต ใช้โลหิตบริสุทธิ์สร้างกายเนื้อใหม่ได้ จากนั้นแบ่งจิตวิญญาณเป็นร่างแยก

ก่อนหน้านี้ตอนที่เสิ่นเทียนสังหารผู้สูงศักดิ์ยุงโลหิต ก็ได้คัมภีร์สองหน้านี้มา

นี่เป็นวิชาการเอาตัวรอดที่แข็งแกร่งยิ่ง ทำให้เวลาที่เสิ่นเทียนไปสำรวจแดนลับมากมายจะเสี่ยงอันตรายได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวตาย

แต่ตอนนี้ คัมภีร์เทพโลหิตสองหน้าในมือมหาจักรพรรดิอีกาทองก็คือบทล่าง!

บทล่างของคัมภีร์เทพโลหิตได้รับขนานนามว่าบทอมตะ!

หน้าสามในบทอมตะบันทึกยอดวิชาวิญญาณแท้คืนชีพ!

ยอดวิชาวิญญาณแท้คืนชีพ สามารถประทับวิญญาณแท้ในเขตแดนพิเศษได้ ขอแค่เขตแดนไม่ถูกทำลาย วิญญาณแท้ก็จะกำเนิดใหม่ได้เรื่อยๆ

อย่างเช่นวิญญาณอาฆาตอีกาทองเก้าตัวก่อนหน้านี้ ที่พวกมันจัดการยาก สังหารไม่ได้ ก็เพราะวิญญาณแท้ฝังอยู่ในเขตแดนเกาะมหานทีและสุสานจักรพรรดิอีกาทอง

การจะสังหารวิญญาณอาฆาตอีกาทองเก้าตัวนี้ ต้องทำลายเขตแดนสูงสุดในสุสานมหาจักรพรรดิอีกาทองก่อน หรือลอกวิญญาณแท้ของพวกมันออกมา

แบบนั้น ระดับความยากจะสูงขึ้นไม่รู้กี่เท่า!

ส่วนหน้าที่สี่บันทึก ‘วิชาโคจรวิญญาณแท้’

วิชาวัฏจักรวิญญาณแท้ หลังจากฝึกวิชานี้สำเร็จ วิญญาณแท้ของผู้บำเพ็ญจะสามารถย้ายไปมาระหว่างร่างหลักกับร่างแยกบุตรเทพโลหิตได้อย่างอิสระ การเอาตัวรอดจะเพิ่มขึ้นทันทีไม่รู้กี่เท่า

มหาจักรพรรดิอีกาทองก็อาศัยวิชานี้ ย้ายเสี้ยววิญญาณของเขาจากโลกเซียนลงมายังโลกเบื้องล่าง

เพียงแต่ว่ามหาจักรพรรดิอีกาทองไม่มีบทพื้นฐานคัมภีร์เทพโลหิต หาทางรวมร่างแยกบุตรเทพโลหิตไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจแสดงอานุภาพที่แท้จริงของวิชาวิญญาณแท้โคจรได้อย่างแท้จริง

หากไม่เช่นนั้น แบ่งเป็นบุตรเทพโลหิตร้อยแปดสิบคน วิญญาณแท้ก็จะเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างบุตรเทพโลหิตพวกนี้ได้ตามอำเภอใจ

เว้นแต่จะสังหารบุตรเทพโลหิตทั้งหมดในคราวเดียว ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นอมตะ

หากเป็นเช่นนี้จริงๆ เกรงว่ามหาจักรพรรดิอีกาทองคงไม่สิ้นชีพง่ายขนาดนั้น

……

ตามหลักแล้ว คัมภีร์เทพโลหิตทุกหน้ามีความแข็งแกร่งของมัน

แต่มีเพียงสองบทสี่หน้าเกื้อหนุนกันแล้วเท่านั้นถึงจะแสดงพลังที่แท้จริงของคัมภีร์เทพโลหิตได้

เสิ่นเทียนบีบคัมภีร์เทพโลหิตสองหน้าสุดท้ายในมือ ภายในใจเร่าร้อนขึ้นมา

รวมครบแล้ว!

ในที่สุดก็รวมครบแล้ว!

มีคัมภีร์เทพโลหิตสองบทสี่หน้านี้ ในที่สุดข้าก็ออกไปเที่ยวเล่นได้สักที!

เสิ่นเทียนมองมหาจักรพรรดิอีกาทองพลางพูดเสียงหนักแน่น “ผู้อาวุโสจักรพรรดิวางใจเถอะ หากวิญญาณร้ายบุกมา ต่อให้ข้าต้องตายเป็นร้อยครั้งก็ไม่ปฏิเสธ”

เหอะๆ มีคัมภีร์เทพโลหิตสี่หน้านี้ ตายเป็นร้อยครั้งก็ไม่ปฏิเสธจะเท่าไรเชียว

ถึงตอนนั้น สังหารข้าไปคนหนึ่งแล้ว ก็มีข้าอีกเป็นพันเป็นหมื่นคนยืนขึ้นมา ต่อให้ตายเป็นหมื่นครั้งก็ไม่มีปัญหา!

แม้ว่าหลังจากบุตรเทพโลหิตตายไปแล้วจะทำให้โลหิตบริสุทธิ์และพลังจิตอ่อนกำลังลง

แต่ข้ากลัวรึ

ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมีให้ใช้ได้เป็นตัน และยังมีต้นกำเนิดสามประกายวารีเทพ ผลิตเองใช้เอง เสริมความแกร่งให้ได้เป็นอย่างดี!

หากมีวิญญาณร้ายรุกรานเข้ามา ข้าจะอยู่แนวหน้าแน่นอน!

แม้จะมีเป็นพันเป็นหมื่นคน ข้าก็จะบุกเข้าไป!

จนเมื่อหยินหยางกลับด้าน ข้าจะใช้โลหิตมารย้อมฟ้าคราม!

ข้าที่สวมเกราะคืนชีพหมื่นชิ้น อยู่ระหว่างผู้เป็นราชา…ไม่ต้องเกรงกลัวในสนามรบวิญญาณร้ายเลย!

“ต่อให้ตายเป็นร้อยครั้งก็ไม่ปฏิเสธรึ ดี ดี ดี!”

มหาจักรพรรดิอีกาทองยิ้มปลื้มใจ แต่ก็เหมือนนึกอะไรได้ “แม้ว่าคัมภีร์เทพโลหิตจะแข็งแกร่ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสิ่งใดแก้ทางได้ หากเจอผู้แข็งแกร่งสูงสุดที่ควบคุมวัฏจักรกรรมหรือกฎเกณฑ์ชะตาชีวิต ก็จะตัดการเชื่อมต่อระหว่างร่างหลักกับร่างแยกได้ ถึงตอนนั้นคัมภีร์เทพโลหิตจะคืนชีพไม่ได้ ดังนั้นสหายน้อยจะต้องระวังเอาไว้หน่อย”

มหาจักรพรรดิอีกาทองใช้น้ำเสียงเคร่งขรึม เขาลอยขึ้นโลกเซียนไปแล้วได้เปิดโลกมากมาย และยังได้เข้าใจในคัมภีร์เทพโลหิตที่แน่นอน

แม้คัมภีร์เทพโลหิตจะแข็งแกร่ง เรียกได้ว่าเป็นอมตะ แต่ถ้าเจอผู้แข็งแกร่งสูงสุดที่แท้จริงพวกนั้น ก็อาจจะไม่ปลอดภัยได้

ถึงอย่างไร กลอุบายของการคงอยู่พวกนั้นก็น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่ง

เพียงแต่การคงอยู่นั้นที่ควบคุมวัฏจักรกรรมและกฎเกณฑ์ชะตาชีวิต ต่อให้อยู่ในโลกเซียนก็ยังเป็นผู้แข็งแกร่งสูงที่สุด

ขนาดมหาจักรพรรดิอีกาทองในสมัยที่อยู่จุดสูงสุดก็ยังแค่ได้ยินเรื่องเล่าของผู้แข็งแกร่งเช่นนั้นมาบ้างเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์เจรจากับพวกเขาซึ่งหน้า

หรือก็คืออย่างน้อยในช่วงเวลายาวนานในภายภาคหน้า ขอแค่เสิ่นเทียนฝึกคัมภีร์เทพโลหิตสี่ม้วนสำเร็จก็จะเรียกได้ว่ามีกายเป็นอมตะ

ต่อให้เป็นผู้อริยะที่แกร่งกว่านี้ไปจนถึงมหาจักรพรรดิ ก็อย่าคิดจัดการเขาได้

แน่นอน เสิ่นเทียนไม่รู้ในจุดนี้

เขารู้แค่ว่า คัมภีร์เทพโลหิต…เหมือนจะไม่ได้ไร้พ่ายเช่นกัน

อืม การต่อสู้อะไรนี่ข้าไม่ชอบที่สุด

ข้าชอบใช้คุณธรรมปราบคนมากกว่า!

ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนดีกว่า ฟาร์มให้มั่นคงก่อน

อืม มั่นใจแล้ว

หากฝึกไม่ถึงระดับมหาจักรพรรดิก็จะไม่ออกไปเที่ยวเล่นเด็ดขาด!

ไม่สิ ฝึกให้ถึงระดับราชาเซียนก่อนแล้วค่อยว่ากัน!

…..

“มีเพียงตัวเราแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะทำลายหมื่นวิชา สู้กับกลุ่มขุนศึกต่างๆ ได้ สหายน้อยมีพรสวรรค์ ข้าก็คงได้แต่ช่วยให้เจ้าพัฒนาไปอีกขั้นอย่างสุดความสามารถ”

มหาจักรพรรดิอีกาทองถอนหายใจยาว มองเสิ่นเทียน

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิหมายความว่าอย่างไรรึ”

เสิ่นเทียนใจสั่นไหว มองจากท่าทางของมหาจักรพรรดิอีกาทองแล้ว เหมือนว่าในกระเป๋าจะยังมีของอีกบางอย่างนะ!

ผลประโยชน์อะไรนี่ เสิ่นเทียนไม่เคยปฏิเสธอยู่แล้ว

“ในเมื่อข้าตอบตกลงจะมอบทุกอย่างให้เจ้า ย่อมไม่กักเอาไว้”

มหาจักรพรรดิอีกาทองเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เขาเองก็หวังว่าเสิ่นเทียนจะเติบใหญ่ขึ้น อนาคตก้าวไปบนเส้นทางเซียน ต่อต้านวิญญาณร้ายได้เช่นกัน

ก่อนเห็นมหาจักรพรรดิอีกาทองโบกมือเบาๆ ท้องนภาพลันเปลี่ยนไป

เมฆไร้พรมแดนเปลี่ยนไปยากจะคาดเดา เมฆหนาถอยไป เผยท้องนภาแจ่มชัดแห่งหนึ่งลอยขึ้นมา

และบนท้องนภาแห่งนี้มีเตาหลอมเทพร้อนระอุกำราบอยู่แปดทิศ เปล่งแสงสว่างจ้า แสงเทพลอยขึ้นเป็นเกลียว แสดงความน่าเกรงขามออกมาทั้งหมด

นี่ก็คืออาวุธจักรพรรดิของมหาจักรพรรดิอีกาทอง…เตาหลอมเทพสุริยะ

“สหายน้อย ตรงกลางเตาหลอมเทพสุริยะนี้มีของเหลวกำเนิดสุริยะที่ข้าใช้แก่นสารแห่งสุริยะ ใช้วิญญาณแห่งฟ้าดินขัดเกลามาเป็นเวลาหมื่นปีอยู่

ในของเหลวกำเนิดสุริยะเต็มไปด้วยแก่นสารฟ้าดินที่บริสุทธิ์ที่สุด ขัดเกลากายเนื้อได้ เสริมพละกำลังของคุณสมบัติกายได้ เพียงแต่ของเหลวกำเนิดสุริยะหล่อหลอมมาแปดหมื่นปี พลังงานในนั้นเข้มข้นถึงที่สุด กระทั่งบ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว

หากคุณสมบัติกายไม่แกร่งพอ เกรงว่าอาจจะรับแรงกระแทกของพลังงานในนั้นไม่ไหว ไม่รู้ว่าสหายน้อยกล้าเข้าไปลองดูหรือไม่”

มหาจักรพรรดิอีกาทองเอ่ยนิ่งๆ พิจารณามองเสิ่นเทียน

ของเหลวกำเนิดสุริยะรึ

ฟังดูเหมือนเป็นของดีเลย!

เสิ่นเทียนตาเป็นประกายขึ้นมา แม้แต่มหาจักรพรรดิยังบอกว่าหากคุณสมบัติกายไม่แกร่งพอก็อาจจะรับแรงกระแทกของพลังงานไม่ไหว

อืม ฟังดูโหดหน่อยๆ เลย!

“ผู้เฒ่าเยี่ย เราจะเอาของเหลวกำเนิดสุริยะนี่หรือไม่ ข้าเป็นเพียงไก่อ่อนระดับกายทองตัวเล็กๆ คงไม่ถูกเผาตายหรอกนะ!”

เสียงของเยี่ยฉิงชางดังขึ้นในความคิดเสิ่นเทียนอย่างจำใจ “กายเนื้อเจ้าชั่วร้ายมาก แม้แต่ไอเบิกฟ้ายังย่อยได้ ของเหลวกำเนิดสุริยะเทียบกับมันแล้วเป็นแค่น้ำแกงต้มไก่เท่านั้น!

แต่ของเหลวกำเนิดสุริยะหล่อหลอมด้วยเตาหลอมเทพสุริยะมาแปดหมื่นปี ไม่อาจประเมินค่าได้จริงๆ พูดได้ว่าหยิบมาสักขวดเล็กก็ทำให้ผู้บำเพ็ญระดับอริยะผลัดเปลี่ยนกระดูกได้

การชะล้างกายทองให้ผู้บำเพ็ญระดับกายทองอย่างเจ้า เป็นการสิ้นเปลืองจริงๆ สิ้นเปลืองมากเกินไป!

พอดีว่าก่อนที่เจ้าจะได้รับคัมภีร์คบเพลิงกำเนิดฟ้า ได้ขัดเกลามลทินของกายทองไปเยอะมาก สู้อาศัยโอกาสนี้ เดินไปให้สุดเส้นทางกายทองจะดีกว่า ใช้ของเหลวกำเนิดสุริยะเคี่ยวตัวเอง ฝึกให้สำเร็จกายทองเก้ารอบกำเนิดฟ้าในทีเดียว หล่อหลอมพื้นฐานสูงสุดเลย!”

อย่างนั้นรึ

เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย พูดเสียจนข้าเลือดร้อน อดใจรอไม่ไหวนิดๆ แล้ว

เขาป้องมือคารวะมหาจักรพรรดิอีกาทองช้าๆ “ผู้อาวุโสจักรพรรดิมอบของขวัญให้เช่นนี้ ผู้เยาว์ต้องขอลองสักตั้ง”

มหาจักรพรรดิอีกาทองพยักหน้าช้าๆ

ตึง!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น

เตาหลอมเทพสุริยะร้อนแรงเปล่งแสงสว่างหมื่นจั้ง แสงเรืองรองสว่างไปรอบๆ ฝาของเตาหลอมเปิดออกอย่างแรง

ฟู่!

เมื่อฝาเปิดออก พลันมีพลังงานสีทองพวยพุ่งขึ้นฟ้า

อย่างอื่นไม่ว่า แค่เห็นภาพนี้ก็มากพอจะทำให้คนเกิดคลื่นกระเพื่อมในใจ

ในเตาหลอมเทพสุริยะ ของเหลวสีทองตกตะกอนอยู่ในนั้น พลังงานกฎเกณฑ์ไร้ที่สิ้นสุดวนเวียนอยู่รอบๆ เปล่งแสงสว่างจ้า เหมือนถูกหลอมสร้างขึ้นด้วยทองคำ

ยังไม่ใช่แค่นั้น แก่นสารเข้มข้นอย่างยิ่งปะทุมาจากในนั้น แค่กลิ่นก็มากพอจะทำให้คนเบิกบานใจ รูขุมขนเปิดกว้าง เหมือนกำลังดูดซับแก่นสารที่แผ่กระจายออกมาอย่างละโมบ

แต่ว่าในนั้นกลับมีอุณหภูมิสูงร้อนแรงยิ่ง เหมือนกับเขตแดนเพลิงไร้พรมแดน เผาทำลายฟ้าดินแห่งนี้ได้

นี่ก็คือของเหลวกำเนิดสุริยะ หล่อหลอมมาจากพลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุดในแก่นสารแห่งสุริยะ

อุณหภูมิของดวงตะวันสูงเพียงใด ยากจะจินตนาการได้

แค่อานุภาพที่แผ่ออกมาก็ทำให้ทั้งเกาะมหานทีมีแต่คลื่นความร้อน

แต่ทุกอย่างไม่ส่งผลกับเสิ่นเทียนเลย

เขาพุ่งขึ้นไปยังเตาหลอมเทพ ของเหลวสีทองแตกกระเซ็น

ก่อนฝาหม้อจะปิดลง สั่นสะท้านฟ้าดิน

เวลานี้ แสงสว่างจ้าพุ่งมาจากเตาหลอมเทพสุริยะ ส่องแสงทั้งฟ้าดิน

เมื่อเห็นดังนั้น ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวเบาๆ เขาไม่ได้ห่วงความปลอดภัยของเสิ่นเทียน แต่กำลังเฝ้ารอคอย

เทียนเอ๋อร์ที่ผ่านการชะล้างด้วยของเหลวกำเนิดสุริยะ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปแบบใดกัน

แค่คิดก็น่าเฝ้ารออย่างยิ่งแล้ว!

ฮิๆๆๆๆ~

………………………

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
Status: Ongoing
อ่านนิยายบุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนเพราะความสามารถพิเศษหลังข้ามมิติมา ทำให้เสิ่นเทียนกลายเป็นบุคคลนำโชคผู้เป็นที่ต้อนรับที่สุดในโลกบำเพ็ญเซียน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset