บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน – บทที่ 74 ข้าจะส่งพี่หกออกเดินทาง

บทที่ 74 ข้าจะส่งพี่หกออกเดินทาง
เคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีกับเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมแบ่งออกเป็นสองแขนงในคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์

ถ้าบอกว่าเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม คือการบ่มเพาะสายฟ้าเทพสิบชนิดภายในจุดตันเถียนละก็ เช่นนั้นเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีก็คือการใช้สายฟ้าทรงพลังต่างๆ ขัดเกลากายหยาบจนถึงระดับโลหะกายหยาบที่แกร่งที่สุด จู่โจมทีเดียวทำลายหมื่นวิชา

ด้วยเหตุนี้ คนที่ฝึกฝนเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมก็ไม่ได้ต้องฝึกเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีเสมอไป

ทว่าผู้ฝึกกายที่ฝึกฝนเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีปกติจะฝึกเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมควบคู่ไปด้วย

เล่าลือกันว่าหากฝึกฝนเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีสำเร็จจะยกระดับคุณสมบัติกายขึ้นได้ ไม่ใช่แค่ทำให้กายหยาบแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังผลัดเปลี่ยนเป็นคุณสมบัติกายเช่นกายวิญญาณอัสนีไม้ลำดับหนึ่งหรือกายวิญญาณอัสนีทองลำดับเจ็ดเป็นต้น

ถ้าผลัดเปลี่ยนเป็นกายวิญญาณอัสนีเหล่านี้ได้ พลานุภาพวิชาอัสนีที่สำแดงออกมาจะแกร่งขึ้นมากเช่นกัน

……..

ก็เหมือนกับจางอวิ๋นซี คุณสมบัติกายนางคือกายวิญญาณอัสนีธาตุทองลำดับเจ็ด ด้วยคุณสมบัติกายนางแล้วเมื่อฝึกฝนอัสนีเทพพยัคฆ์ขาวธาตุทองลำดับเจ็ด จะแสดงอานุภาพได้เหนือกว่าคนอื่นไปไกลโข

กล่าวได้ว่าผู้สืบทอดสายตรงที่สุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ล้วนฝึกพื้นฐานทั้งปราณและกาย เพราะมีแต่แบบนี้เท่านั้นถึงจะเป็นใหญ่ในขอบเขตพลังเดียวกันอย่างแท้จริง ถึงจะต่อสู้แย่งชิงกับผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ได้

เสิ่นเทียนนึกย้อนไปถึงวิชาเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีพลางตระหนักถึงความลึกลับในใจ

ข้าฝึกฝนอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าสำเร็จแล้ว ดังนั้นถ้าฝึกเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีละก็ ก่อนอื่นสุดเลยน่าจะใช้อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าขัดเกลากายหยาบ จากนั้นรวมออกมาเป็นกายวิญญาณอัสนีเต่าดำธาตุน้ำลำดับเก้า

ปวดไข่ เหตุใดถึงเกี่ยวกับเต่าดำอีกแล้ว

ปกติข้าก็สุขุมระมัดระวังอยู่แล้วนี่?

สงสัยว่าคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์นี่คงมีเจตนาร้ายกับข้า

……..

ถึงจะคับอกคับใจ แต่วิชาหลอมกายสุดยอดวางอยู่ตรงหน้าแล้ว ควรฝึกก็ต้องฝึก

เสิ่นเทียนนั่งบนกองศิลาวิญญาณก่อนเริ่มรวมอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าออกมาขัดเกลากายหยาบ

สายฟ้าสีดำลอยขึ้นมาบนผิวกายเสิ่นเทียนทีละสาย เปล่งแสงวาววับ จากนั้นมันเริ่มซึมเข้าไปในร่างกายช้าๆ ขัดเกลากล้ามเนื้อ กระดูกและเส้นเอ็นเนื้อเยื่อของเขา

ต้องบอกว่าเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีให้ผลการขัดเกลากายหยาบสูงกว่าคัมภีร์คบเพลิงจริงๆ

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่ากายหยาบตนกำลังแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมาก อีกทั้งยังเสียศิลาวิญญาณไปแค่หนึ่งส่วนของวิชาหลอมกายคบเพลิง!

ทว่าไม่นานเสิ่นเทียนก็รู้สึกตัวแปลกๆ เพราะไม่รู้เหตุใดบ่าเขาถึงหนักขึ้น

เดิมทีน้ำมวลหนักปฐมกาลเข้าไปในร่างเขาแล้ว เขาไม่รู้สึกถึงน้ำหนักเลย

แต่ยามนี้ เขาพลันรู้สึกหนักบ่า กดจนเป็นทุกข์มาก อีกทั้งอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าที่เดิมทีปกคลุมผิวกายเสิ่นเทียนและเชื่อฟังอย่างยิ่งก็แยกออกไปเช่นกัน

ตอนนี้อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าสีดำแยกออกเป็นอัสนีเทพสีทองกับน้ำมวลหนักสีเงินอีกครั้ง วัตถุวิญญาณที่เดิมทีเชื่อฟังอย่างยิ่งในร่างเสิ่นเทียนเหมือนจะก่อกบฏ

‘หรือว่าดวงชะตาข้ายังไม่สูงพอ จะธาตุไฟเข้าแทรกอีกแล้วรึ’

เสิ่นเทียนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ก่อนรีบฝืนหยุดเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีกลางคัน แม้จะเป็นอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงไปทั่วร่าง

อัสนีเทพกำเนิดฟ้ากับน้ำมวลหนักปฐมกาลก่อเรื่องขึ้นพร้อมกัน ทำให้เขารู้สึกตัวจะระเบิดตลอดเวลา

วินาทีนั้นเขาลนลานนิดๆ แล้ว

หรือข้าจะต้องตาย?

…….

ทันใดนั้นเองวิชาหลอมกายคบเพลิงในตัวเสิ่นเทียนเริ่มโคจรขึ้นเอง อัสนีเทพกำเนิดฟ้าและน้ำมวลหนักปฐมกาลที่เดิมทีก่อเรื่องวุ่นวายอยู่ค่อยๆ สงบลง

เหมือนกับนักเรียนสองคนที่เตรียมจะโดดเรียนแล้วจู่ๆ ก็เห็นครูมา

หนึ่งกระโดดกลับระหว่างคิ้ว อีกหนึ่งหนีกลับไปในไต กลายเป็นนักเรียนที่สงบเรียบร้อยทันที

เสิ่นเทียนถึงกับตะลึงงัน

‘โอ้ โดนปราบแล้วเหรอ’

เสิ่นเทียนรู้สึกว้าวุ่นใจเล็กน้อย นี่มันไม่สมเหตุผลเลย!

วิชาหลอมกายสูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อันยิ่งใหญ่กลับถูกสยบด้วยคัมภีร์คบเพลิง?

ช่วงที่โคจรเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนี ยอดวัตถุวิญญาณสองอย่างพยศไม่เชื่อฟังเหมือนกันฮัสกี้รื้อบ้าน ทว่าเมื่อสลับมาเป็นวิชาหลอมกายคบเพลิงแล้วกลับเชื่อฟังราวกับหมาเลียหน้า

นี่ทำให้เสิ่นเทียนต้องมองวิชาหลอมกายคบเพลิงในมุมใหม่

วิชานี้มีของอยู่บ้างนะ!

……

เสิ่นเทียนอยากลองอีกครั้ง ดูว่าตนคาดการณ์ถูกต้องหรือไม่ แต่พอใคร่ครวญดูดีๆ อยู่ชั่วครู่แล้วก็ยังคิดว่าระวังเอาไว้หน่อยจะดีกว่า

ถึงอย่างไรที่การก่อเรื่องครั้งก่อนสงบลงได้ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเหมือนกันอีกครั้ง ถ้าเกิดอัสนีเทพกำเนิดฟ้ากับน้ำมวลหนักปฐมกาลก่อเรื่องขึ้นอีก คัมภีร์คบเพลิงเอาไม่อยู่ล่ะจะทำอย่างไร?

หรือจะแสดงระเบิดมนุษย์อย่างงดงามต่อหน้ากุ้ยกงกงกับฉินเกา?

ช่างเถอะ เสิ่นเทียนยังใช้ชีวิตไม่พอเลย!

ยังไม่อยากลงไปหาพระสนมหลานเร็วขนาดนั้น

‘ใช่แล้ว เคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีใช้อัสนีต่างๆ ขัดเกลากายหยาบ เช่นนั้นวิชาหลอมกายคบเพลิงล่ะ! มันใช้น้ำมวลหนักปฐมกาลขัดเกลา เปลี่ยนเป็นสายฟ้าได้!’

เสิ่นเทียนเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นในหัว

ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เขาก็รู้สึกว่าอัสนีเทพกำเนิดฟ้ายังเป็นมิตรกับคัมภีร์คบเพลิงมากกว่า

พูดแล้วก็ทำเลย!

เสิ่นเทียนโคจรเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมรวมออกมาเป็นอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าเล็กน้อย จากนั้นโคจรวิชาหลอมกายคบเพลิงดูดอัสนีเทพสายเล็กนั้นก่อนจะเริ่มใช้มันขัดเกลาร่างกาย

ความจริงพิสูจน์แล้ว การคาดเดาของเสิ่นเทียนถูกต้องจริงๆ

เมื่อกินอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าสายเล็กนั้นแล้ว คัมภีร์คบเพลิงขัดเกลากายหยาบเร็วขึ้นอีก กล้ามเนื้อทั่วร่างถูกอัสนีเทพกระตุ้นและแผ่ศักยภาพออกมาทรงพลังยิ่งขึ้นอย่างฉับไว

นี่ใช้วิธีต่างกับโคจรเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีขัดเกลากายหยาบแต่ได้ผลดีเยี่ยมเหมือนกัน มีเพียงอย่างเดียวที่แม้ดีอยู่แล้วก็ยังมีจุดขาดตกบกพร่องก็คือมันกินศิลาวิญญาณเยอะมาก

‘ดังนั้น ข้าถึงถูกมัดอยู่บนเรือรบสายเติมนี่ไงล่ะ!’

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก ดูท่าแล้วต่อให้ข้ามมิติมาโลกบำเพ็ญเซียน แต่ถ้าอยากจะแกร่งขึ้นให้ไวก็คงหนีไม่พ้นต้องเป็นเทพทรูสายเติม!

……

เขาถอนหายใจแล้วคลายวิชาช้าๆ ก่อนยืนขึ้น

ตอนนี้ฟ้ามืดลงโดยไม่รู้ตัวเลย

แบ่งเวลาพักผ่อนบ้างแล้ว เสิ่นเทียนก็ว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย สามคนเดินออกจากตำหนักใจพิสุทธิ์ เดินทอดน่องเนิบๆ กลางตำหนัก

สิ่งที่ทำให้เสิ่นเทียนปลื้มใจคือในที่สุดก็ไม่มีพวกแฟนคลับคลั่งมาพัวพันตนแล้ว

สามคนผ่านไปที่ใด ขันทีและนางกำนัลทั้งหมดจะแสดงความเคารพแล้วแยกย้ายหายไปหมด

เสิ่นเทียนคิดถึงความรู้สึกเงียบสงัดที่ห่างหายไปนานเช่นนี้ยิ่งนัก!

ในมือถือลูกประคำเก้าโอรสพลางเดินเล่นผ่อนคลายในวัง

เดินไปเดินมาเสิ่นเทียนมาอยู่หน้าคลังจัดการภายในโดยไม่รู้ตัวเลย ก่อนจะเห็นบนป้ายประกาศหน้าคลังจัดการภายในมีประกาศแจ้งเตือนไว้

ประกาศนี้ออกมาเมื่อสามวันก่อน ใจความคร่าวๆ คืองานเลี้ยงใหญ่ในวังอีกห้าวันให้หลัง

งานเลี้ยงใหญ่นี้ พระองค์จักรพรรดิเหยียนกำชับให้จัดขึ้นแบบพิเศษ เพื่อเป็นการส่งฝ่าบาทองค์ชายหกออกเดินทาง

หลังจากงานเลี้ยงนี้ องค์ชายหกเสิ่นเอ้าจะออกจากอาณาจักรต้าเหยียน เดินทางพันลี้ไปคารวะอาจารย์ ถึงอย่างไรสำหรับพรรคเซียนอย่างแดนเทวาดาวประกายพรึกแล้ว มีประเพณีลูกศิษย์เดินทางไปสำนักเอง

เว้นแต่จะเป็นอัจฉริยะเลิศล้ำ ไม่อย่างนั้นทางพรรคไม่มีทางมารับเจ้าแน่

เสิ่นเทียนมองป้ายประกาศพลางขบคิด ‘พี่หกจะไปแล้วหรือ’

……..

พูดถึงพี่หกท่านนี้ เสิ่นเทียนรู้สึกผิดมาก ในเมื่อสองวันจากนี้คืองานเลี้ยงส่งลาของพี่หก เขาคิดว่าอย่างไรตนก็ต้องไปส่งเขาออกเดินทางเช่นกัน

ให้ของขวัญอะไรอีกนิดหน่อย ถือเป็นการชดใช้ให้เสิ่นเอ้า

แม้จะกินโอสถลบความจำไปแล้ว เสิ่นเอ้าอาจจะไม่รู้เหตุและผลหน้าหลังแล้ว ทว่าเสิ่นเทียนเคยหลอกเสิ่นเอ้า มันจึงเป็นปมในใจเขา

เพราะอย่างไรเสิ่นเอ้าก็สายเลือดเดียวกับเขา เป็นพี่น้องแท้ๆ กันนะ!

พอนึกถึงตรงนี้ นัยน์ตาเสิ่นเทียนก็มีความแน่วแน่ขึ้นมาเล็กน้อย เขาเดินเข้าไปในคลังจัดการภายในช้าๆ

…………………………………………

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
Status: Ongoing
อ่านนิยายบุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนเพราะความสามารถพิเศษหลังข้ามมิติมา ทำให้เสิ่นเทียนกลายเป็นบุคคลนำโชคผู้เป็นที่ต้อนรับที่สุดในโลกบำเพ็ญเซียน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset