บทที่ 85 ท่านเซียนเย้ายวนใจ โดนจับอีกฐานะหนึ่งได้
เห็นเสิ่นเอ้าที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงจังแล้ว หลี่เหลียนเอ๋อร์จนปัญญามาก ผมชี้ของนางเหมือนจะลู่ลง “ไม่น่าจะสัมผัสพลาดนี่นะ!”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันถึงเอ่ยถาม “ทำไม มีอะไรไม่ถูกต้องรึ”
หลี่เหลียนเอ๋อร์ทำปากจู๋ “อาจารย์อาท่านหาผิดคนแล้ว นี่ไม่ใช่พี่เสิ่น”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางอึ้งไป จากนั้นใบหน้าชราเปลี่ยนเป็นแดง เป็นเขียวและเป็นดำ
เขาหมุนตัวกลับมาด้วยอาการตัวสั่น มองเสิ่นเอ้าด้วยความโมโห “เจ้าศิษย์ทรยศ!”
“อาจารย์ปฏิบัติกับเจ้าอย่างดี เจ้ากลับกล้าหลอกอาจารย์เช่นนี้!”
พอเห็นอาจารย์ที่จู่ๆ ก็หน้าดำแล้ว เสิ่นเอ้างุนงงไปแล้ว
อาจารย์ ศิษย์ไปหลอกท่านได้อย่างไร
ไม่ใช่ท่านหรือที่บอกว่าองค์หญิงน้อยเซียนเหลียนเอ๋อร์แห่งแดนเทวาจะต้องแต่งงานกับศิษย์ให้ได้น่ะ
ตอนนี้ศิษย์ยินดีรับผิดชอบแล้ว เหตุใดพวกท่านแดนเทวาดาวประกายพรึกถึงถอนหมั้น
เสิ่นเอ้าพูดด้วยความกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม “อาจารย์ ศิษย์ไม่เข้าใจ”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางทำเสียงขึ้นจมูกทีหนึ่ง “เจ้าศิษย์ทรยศยังมีหน้ามาแก้ตัวอีก! เหตุใดเจ้าต้องปลอมเป็นปรมาจารย์เซียนเอ้าเทียนนั่นด้วย”
ข้าเนี่ยนะปลอมเป็นปรมาจารย์เซียนเสิ่นเอ้าเทียน
เสิ่นเอ้าเป็นอัจฉริยะหมายเลขหนึ่งในรอบร้อยปีของราชวงศ์อาณาจักรต้าเหยียน ไอคิวต้องสูงเพียงใด
ในวินาทีนี้ เขาเข้าใจแล้วว่าความเข้าใจผิดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ดังนั้นปรมาจารย์เซียนเสิ่นเอ้าเทียนจึงมีเรื่องราวกับเซียนเหลียนเอ๋อร์
เพราะข้าชื่อคล้ายกับปรมาจารย์เซียนเอ้าเทียนมากเกินไป อาจารย์เขาเลย…
เข้าใจผิด!
เฮือก~
…….
นึกถึงตรงนี้ เสิ่นเอ้าพลันรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว
สมควรตาย กว่าข้าจะได้รับความสำคัญจากอาจารย์จนรับเป็นศิษย์ไม่ใช่ง่ายๆ ตอนนี้ครึ่งก้าวเหยียบเข้าแดนเทวาดาวประกายพรึกแล้ว ในที่สุดภายภาคหน้าก็มีหวังเป็นผู้สูงศักดิ์
เหตุใดถึงมาเจอกับความเข้าใจผิดปล่อยไก่อย่างน่าประหลาดเช่นนี้ รู้สึกว่าอนาคตจากนี้ไร้แสงสว่างเลย!
อะไรนะ?
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางเข้าใจผิด แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาเสิ่นเอ้า
เหอะๆ ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมาหาเสิ่นเอ้าเพื่อรับศิษย์ ไม่ได้มาคุยเรื่องเหตุผล
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางขายหน้าต่อคนมากมายในตำหนักไร้พรมแดนเพราะศิษย์ของตน ลองคิดในมุมเขาแล้ว เสิ่นเอ้าก็รู้สึกว่าต่อให้ตนคารวะเป็นศิษย์พวกเขา ชีวิตจากนี้ก็คงจะอยู่ยาก
กระทั่งดีไม่ดีอาจจะถูกผู้สูงศักดิ์จื่อหยางไล่ออกจากการเป็นศิษย์
สวรรค์!
ข้าทำกรรมอะไรเอาไว้ เหตุใดต้องมาเจอเรื่องซวยเช่นนี้ด้วย!
ทันใดนั้นมุมปากเขากระตุก เหมือนนึกอะไรออก
เขาหมุนตัวกลับมามองไปในทิศทางหนึ่ง
แววตาคับแค้นใจขึ้นมาทีละนิด
……
ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี
เสิ่นเอ้ามีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมาบนหน้าผากตลอด
รู้แล้ว ตอนนี้ห้ามโยนความผิดให้คนอื่นเด็ดขาด ถ้าโยนความผิดให้อาจารย์ วันข้างหน้าจบเห่แน่!
พอนึกได้ดังนั้น เสิ่นเอ้าก็อธิบายทันที “ศิษย์สับสน! ก่อนหน้านี้ศิษย์เคยฝึกบำเพ็ญจนธาตุไฟเข้าแทรก เสียความทรงจำไปหลายวัน เมื่อครู่พอได้ฟังเรื่องที่อาจารย์พูดกับศิษย์พี่หญิงเหลียนเอ๋อร์ ศิษย์ก็เลยดีใจจนขาดสติ
ยังไม่ทันเข้าใจเรื่องราวกระจ่างก็ตอบรับความเข้าใจผิดของอาจารย์แล้ว ศิษย์ฝึกฝนจิตใจยังไม่นิ่งพอขอยินดีรับโทษ หวังว่าอาจารย์จะให้อภัยศิษย์ด้วย วันข้างหน้าศิษย์จะยืนหยัดฝึกฝนจิตใจ จะไม่บุ่มบ่ามอีกเด็ดขาด!”
เสิ่นเอ้าพูดรัวมาเป็นกองใหญ่จบแล้ว ก็รับผิดเต็มๆ
ในที่สุดใบหน้าผู้สูงศักดิ์จื่อหยางก็เริ่มเขียว เป็นแดงและกลับมาเป็นปกติ
เขามองเสิ่นเอ้าด้วยความพอใจก่อนถอนหายใจว่า “เฮ้อ ใครให้เจ้าเป็นศิษย์ข้ากัน อาจารย์ก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล ช่างเถอะๆ เจ้าถอยไปทางนั้นเถอะ
หลังจากข้าลงโทษเจ้าในวันนี้แล้ว เจ้าต้องเดินทางจากอาณาจักรต้าเหยียนไปคารวะอาจารย์ที่แดนเทวาดาวประกายพรึกด้วยตัวคนเดียว หวังว่าธุลีแดงหาที่สิ้นสุดมิได้แห่งแดนบูรพาจะขัดเกลาจิตใจเจ้า ไม่ให้เจ้าบุ่มบ่ามอีก”
…….
เอ่ยจบ ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางก็ปั้นหน้า มองแขกในตำหนักไร้พรมแดนด้วยใบหน้าซ่อนจิตสังหาร ทันใดนั้นคนที่ตอนแรกปิดปากกลั้นขำไว้ไม่อยู่ก็กลั้นเอาไว้ได้แล้ว
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางเดินมาข้างเหลียนเอ๋อร์ก่อนพูดขึ้น “อาจารย์อาว่าเรื่องนี้แปลกๆ”
เขาหยิบป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่ออกมาจากอกเสื้อแล้วเอ่ย “ตามตำแหน่งนี้ไม่ผิดแน่!”
หลี่เหลียนเอ๋อร์พยักหน้าเช่นกัน “เหลียนเอ๋อร์ก็รู้สึกถึงกระบี่วารีครามเช่นกัน”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางพูดนิ่งๆ “ดูท่าปรมาจารย์เซียนเอ้าเทียนคงอยู่ในตำหนัก”
เอ่ยจบผู้สูงศักดิ์จื่อหยางก็สูดลมหายใจเข้าลึก ฤทธิ์เดชเข้มข้นหลั่งไหลเข้าในป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่ ส่วนหลี่เหลียนเอ๋อร์หลับตาลงสำแดงวิชา เส้นผมชี้บนหัวพลิ้วไหวตามวิชาไม่หยุด
ชั่วพริบตาเดียว ป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่ในมือผู้สูงศักดิ์จื่อหยางก็เปล่งแสงสว่างสีทองพร่างพราว
ชิ้ง!
อีกด้านหนึ่ง พลันเกิดเสียงกระบี่ดังขึ้นบนโต๊ะสุราทางตะวันออกของตำหนักไร้พรมแดน กระบี่ยาวสีครามดั่งสายน้ำออกจากฝัก แผ่ปราณกระบี่สีครามสว่างจ้า
ขณะเดียวกัน ป้ายคำสั่งสีเงินอันหนึ่งลอยขึ้นเนิบๆ เปล่งแสงเงินลงมาหลายสาย
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางกับหลี่เหลียนเอ๋อร์เพ่งมองไปทางนั้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ก่อนจะพบหลังศีรษะที่สง่างาม ภายใต้แสงสว่างสีเงินครามดูสง่าเป็นพิเศษ
พอเห็นหลังศีรษะคุ้นตานั้นแล้ว หลี่เหลียนเอ๋อร์ดวงตาเป็นประกาย ผมชี้ดีดขึ้นมาทันที
“นั่นเขา นั่นเขา เขานั่นเอง พี่เสิ่น เหลียนเอ๋อร์มาหาท่านแล้ว!”
เสิ่นเทียนที่เอาสองมือปิดหน้านอนฟุบบนโต๊ะตกใจอึ้งไป
เวรเอ๊ย ข้าปิดหน้าแล้วเจ้ายังจำได้อีก!
เขายืนขึ้นด้วยความตกตะลึง มองหลี่เหลียนเอ๋อร์กระโจนมาหาตน เขาสงสัยในชีวิตแล้ว
แน่นอน ตอนนี้คนที่สงสัยในชีวิตไม่ได้มีแค่เสิ่นเทียนคนเดียว
ยามนี้ขุนนางแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายในตำหนักไร้พรมแดนมองเสิ่นเทียนที่แผ่กระจายเสน่ห์ออกมาตามอำเภอใจภายใต้แสงสว่างสีครามกับเงินนั้นแล้ว ต่างพากันนิ่งอึ้งไปเลย
อะไรกัน ป้ายคำสั่งของท่านเซียนจื่อหยางกับกระบี่เซียนของท่านเซียนเหลียนเอ๋อร์ชี้ไปที่องค์ชายสิบสามหรือ
หรือว่าองค์ชายสิบสามเสิ่นเทียนต่างหากที่เป็นคนที่เซียนเหลียนเอ๋อร์ตามหา?
หรือว่าปรมาจารย์เซียนเสิ่นเอ้าเทียนในตำนานจะไม่ใช่เสิ่นเอ้า แต่เป็นเสิ่นเทียนที่ถูกขนานนามว่าเป็นตัวซวยมาตลอด?
ไหนว่าองค์ชายสิบสามเสิ่นเทียนคือดาวหายนะที่ยากจะพานพบในรอบพันปีของอาณาจักรต้าเหยียน
ใช่ พานพบในรอบพันปี เพราะอาณาจักรต้าเหยียนสถาปนาขึ้นมาแค่เก้าร้อยแปดสิบกว่าปี
แน่นอนว่านี่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือสวัสดิการของดาวหายนะนี่
รู้กันว่านั่นคือผู้สูงศักดิ์จื่อหยาง เซียนแห่งแดนเทวาดาวประกายพรึก!
และท่าทีที่ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมีต่อหลี่เหลียนเอ๋อร์ คนโง่ก็รู้ว่าฐานะของแม่นางคนนี้สูงส่งเพียงใด!
ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณหญิงใหญ่รุ่นสองที่มีฐานะสูงส่งในแดนเทวาดาวประกายพรึกจะเทินกระถางดอกไม้ขึ้นหัวมาหาสามีถึงอาณาจักรต้าเหยียนด้วยตัวเอง?
อัจฉริยะที่ยากจะพานพบในรอบร้อยปีบางคนยังไม่มีสวัสดิการเช่นนี้เลย!
เสิ่นเอ้าที่เพิ่งโล่งอกอยู่ข้างๆ รู้สึกปวดร้าว!
…..
ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องเสิ่นเทียน
ใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง อิจฉา ริษยาและยากจะพูดได้
ครั้นสัมผัสได้ถึงสายตาที่มองมารอบๆ มองหลี่เหลียนเอ๋อร์เข้าใกล้มาเรื่อยๆ แล้ว เสิ่นเทียนถอนหายใจด้วยความจนปัญญา เขายื่นมือออกมากดหัวหลี่เหลียนเอ๋อร์อย่างแม่นยำ
หลี่เหลียนเอ๋อร์ที่กระโจนเข้ามาถูกยันเอาไว้ได้อย่างมั่นคง
อึก ผมชี้นี่แข็งจริงๆ แข็งทิ่มมือเลย
จากนั้นก็รู้สึกว่าหลี่เหลียนเอ๋อร์มองตัวเองด้วยแววตาแน่วแน่และมั่นใจ
ในที่สุดเสิ่นเทียนก็มั่นใจเรื่องหนึ่ง นั่นคือหลี่เหลียนเอ๋อร์จำตนได้จริงๆ
วิชาแปลงโฉมที่เขาภูมิใจนักหนาเหมือนจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากเลย
เสิ่นเทียนจนปัญญามาก คราวนี้ถูกจับได้จริงๆ แล้ว
ทำอย่างไรดี ต้องหาทางแก้แล้ว
……………………………………………….…..