บุปผาเคียงบัลลังก์ – ตอนที่ 222

ตอนที่ 222 เป้าหมายของชิงอี๋ 

 

 

คำพูดของเซียงฉือไม่ได้ต่างไปจากที่ชิงอี๋คิดไว้ เพราะว่านางได้พบกับซูเฟย 

 

 

ก่อนหน้านี้ซูเฟยได้ส่งผิงผิงเข้าตำหนักเจิ้งหยางและตอนนี้กำลังเป็นที่โปรดปราน วันนี้ก็ยังได้ยื่นไมตรีจิตมาให้ข้าราชสำนักสตรีเล็กๆ อย่างนางอีก 

 

 

จากคำพูดของซูเฟยทำให้ชิงอี๋มองออกโดยไม่ยากว่า การที่กุ้ยเฟยอนุญาตให้เซียงฉือสอบข้าราชสำนักสตรีก็เพื่อเตรียมการสำหรับตำแหน่งข้าราชสำนักสตรีด้านอักษร เช่นนี้แล้วจะสามารถช่วยให้นางเสมอภาคกับซูเฟยได้ 

 

 

มิเช่นนั้นนางจะต้องพ่ายในหมากตานี้ ก่อนหน้านี้นางได้อาศัยกระโปรงหิ่งห้อยเรืองแสงทำให้ฝ่าบาทโปรดนางอยู่ระยะหนึ่ง แต่เพราะน้องชายที่ไม่ได้เรื่องของตระกูลนาง ทำให้ฝ่าบาททรงกริ้วและควรถูกพิพากษาโทษประหาร 

 

 

แต่เพราะหรงจิงเห็นแก่หน้ากุ้ยเฟยจึงได้ลงโทษสถานเบา แต่ก็เย็นชากับกุ้ยเฟยไปไม่น้อย 

 

 

เพราะเรื่องของทางบ้านตนทำให้ตัวเองต้องพลอยเดือดร้อน กุ้ยเฟยรู้สึกไม่เป็นธรรม แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ 

 

 

ช่วงนี้นางจึงเชื่อวิธีการของหวังหมัวหมัวโดยการตั้งใจดูแลร่างกายด้วยใจสงบ แต่ในความเป็นจริงกลับกำลังวางแผนแก้มือกับการกระทำของซูเฟยในครั้งนี้อยู่ 

 

 

และเซียงฉือก็เป็นห่วงโซ่สำคัญอันหนึ่งในแผนการของนาง แต่คิดไม่ถึงว่าเซียงซือจะเสนอตัวเข้าไปเอง 

 

 

เซียงฉือจึงได้ว่าง แต่เพราะเรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้น ซูเฟยย่อมจะยังไม่รู้ ดังนั้นพวกนางจึงยังคิดว่าการสอบข้าราชสำนักสตรีในครั้งนี้ เป้าหมายของอวิ๋นเซียงฉือคือการเป็นข้าราชสำนักสตรีด้านอักษรแน่ 

 

 

ดังนั้นที่ชิงอี๋มานี่ก็เพื่อจะทำลายแผนการนี้ทั้งหมด 

 

 

เซียงฉือพูดจบไปแล้วแต่เห็นชิงอี๋ยังคงยืนอยู่กับที่อย่างใจลอย ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ 

 

 

“ใต้เท้าชิงอี๋?” 

 

 

เซียงฉือเห็นนางไม่พูดไม่จาจึงได้เรียกขึ้นเบาๆ ชิงอี๋รู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว นางมองเซียงฉือแล้วพูดยิ้มๆ 

 

 

“ขอโทษนะเซียงฉือ เมื่อครู่ข้ากำลังคิดอยู่ว่าตำแหน่งนั้นน่าจะเหมาะสมกับเจ้า อ้อ วันนี้ที่เจ้ามาที่กองคดีก็เพื่อจะมาปรึกษากับใต้เท้าสวี่อี้เกี่ยวกับเรื่องนี้สินะ” 

 

 

ชิงอี๋เมื่อรู้สึกตัวก็รู้สึกผิดต่อเซียงฉือ แต่เซียงฉือไม่ได้ใส่ใจอะไร พอเห็นนางถามจึงตอบไปว่า 

 

 

“เจ้าค่ะ กำลังจะมาขอคำปรึกษาจากใต้เท้าสวี่อี้อยู่ เซียงฉือมีความรอบรู้น้อยไม่อาจเทียบกับพวกใต้เท้าที่รอบรู้กว้างขวางได้ จึงได้มารบกวนใต้เท้าสวี่อี้อีกแล้ว” 

 

 

เซียงฉือยอมรับออกไปหมดสิ้น ชิงอี๋ลอบส่งเสียงฮึอยู่ในใจ กุ้ยเฟยคงบอกเรื่องตำแหน่งข้าราชสำนักสตรีด้านอักษรกับเจ้าแล้วสินะ ถึงได้มาปรึกษาวิธีการกับสวี่อี้ 

 

 

ตำแหน่งดีๆ แบบนั้น มีโอกาสรับผลประโยชน์จากความใกล้ชิด หญิงสาวทั่วไปที่เป็นขุนนางอยู่ในวังนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็เพื่อสองสิ่ง สิ่งหนึ่งคือการให้ตนเองมีสถานะสูงขึ้นในวัง จะได้ไม่ต้องถูกคนรังแกตามชอบใจ ภายหน้ายังสามารถหาคนดีๆ แต่งงานด้วยได้ 

 

 

ประโยชน์จากความใกล้ชิดอย่างที่สองคือหากเข้าตาฮ่องเต้ ก็จะได้กินดีอยู่ดีสืบไป 

 

 

ชิงอี๋ก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น และเพราะแบบนี้ คำพูดของซูเฟยซึ่งมาจากข้าราชสำนักสตรีเช่นกันจึงยิ่งทำให้ชิงอี๋หวั่นไหว 

 

 

ทั้งนางยังเชื่อว่าเซียงฉือก็คิดแบบเดียวกัน แต่ตำแหน่งที่ดียิ่งเช่นนี้ย่อมเป็นที่หมายปองแย่งชิงของทุกคน ถ้าหากคิดจะได้มาในทันที ย่อมไม่อาจละเลยความพยายามที่ต้องทุ่มเทอยู่เบื้องหลัง 

 

 

ชิงอี๋คิดถึงตรงนี้แล้วจึงพูดยิ้มๆ ว่า 

 

 

“อ้อ แต่มาได้ไม่เหมาะเลย เพราะวันนี้ซูเฟยมีธุระต้องการให้ใต้เท้าสวี่อี้ออกนอกวังไปช่วยทำ เกรงว่าวันนี้เจ้าคงจะไม่ได้พบนางแล้ว จะทำอย่างไรดี” 

 

 

น้ำเสียงชิงอี๋ฟังกังวลยิ่ง เซียงฉือเองก็ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินดังนั้น 

 

 

“จะทำอย่างไรดีเล่าทีนี้?” เซียงฉือเผลอหลุดปากออกไป นางขมวดคิ้วแสดงออกถึงอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีของนางในตอนนี้ 

 

 

ชิงอี๋เห็นแล้วจึงยิ้มและเข้าไปใกล้

บุปผาเคียงบัลลังก์

บุปผาเคียงบัลลังก์

ครอบครัวตระกูลอวิ๋นต้องโทษทั้งตระกูล บ้านแตกสาแหรกขาด ผู้ชายถูกเนรเทศ ผู้หญิงต้องเข้าวังเพื่อเป็นนางกำนัล แม้จะเป็นอย่างนั้น แต่ อวิ๋นเซียงฉือ ก็ไม่เคยหมดหวัง ชีวิตในวังหลวงแม้เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีแต่นางก็ยังมีเพื่อนที่แสนดีคอยอยู่เคียงข้าง รวมไปถึง หรงฉู่ องครักษ์หนุ่มที่พบกันโดยบังเอิญ เขาคอยช่วยเหลือนางหลายอย่าง และในระหว่างนั้นเองความจริงเรื่องตระกูลของนางก็ค่อยๆ เริ่มปรากฏขึ้น…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset