ลู่จิ้นยวนที่ยืนอยู่ข้างหลัง พอเห็นก็รู้สึกเป็นห่วงมาก ก้าวเดินมาแล้วดึงโม่โยวเข้าไปในอ้อมกอด
โม่โยวตัวแข็งทื่อ อยากจะดิ้น แต่ลู่จิ้นยวนก็กอดแน่นไปกว่าเดิม “อย่าดิ้น”
นี่เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนใกล้ชิดขนาดนี้หลังจากที่เจอกัน ลู่จิ้นยวนตบหลังเธอเบาๆ “กี่วันนี้อยู่ที่นี่ก่อน ยังไม่ต้องไปบริษัท ก็ถือซะว่าหยุดให้ตัวเอง แล้วอยู่กับลูกที่บ้าน”
“เรื่องการแข่งขันไม่ต้องเป็นห่วง มีฉันอยู่ ฉันไม่มีทางให้เธอถูกใส่ร้ายแบบนี้แน่นอน”
“ไม่ต้องใช้เวลานานหรอก เดี๋ยวฉันจะให้ผลลัพธ์ที่เธอพอใจเอง”
เสียงของเขาอ่อนโยนเหมือนกำลังปลอบใจเด็ก แล้วเอาแต่วนเวียนอยู่ข้างหูโม่โยว ร่างกายแข็งก็ค่อยๆอ่อนลงมา
เธอปฏิเสธไม่ได้ วินาทีนี้ ผู้ชายคนนี้ให้ความรู้สึกวางใจกับเธอ เรื่องที่เลวร้ายทุกอย่างหายไปทันทีเลย
แรงดึงดูดนี้น่ากลัวมาก บวกกับท่าทางของลู่จิ้นยวน โม่โยวก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย วินาทีนี้ เธอก็ไม่อยากปฏิเสธด้วย
ลู่อันหรานเงยหน้ามองไปที่ทั้งสอง แล้วมองบน พออยากจะพูดอะไรบางอย่าง ลู่จิ้นยวนก็เหมือนรู้สึกได้ ส่งสายตามาให้เขา จนเขาไม่กล้าเอ่ยพูดเลย
ในห้องหนังสือ
ตอนนี้ โม่โยวสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เธอรู้ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ไม่ใช่มาโทษตัวเอง แต่ต้องคิดวิธีจัดการปัญหาเรื่องนี้
“งานออกแบบชิ้นนั้น หลังจากที่วาดเสร็จที่โรงพยาบาล จนกระทั่งเธอเอาไปยื่น ระยะเวลาห่างกันขนาดนั้น ถ้าจะถูกมองเห็นแล้วขโมยไปก็เป็นไปได้ ในใจเธอมีใครที่สงสัยหรือเปล่า?” ลู่จิ้นยวนเอ่ยถาม
ใครที่สงสัย?
ในหัวโม่โยว มีใบหน้าของโม่เทียนยวี๋โผล่มาทันที จากนั้นก็รีบส่ายหน้าแล้วโยนความคิดนี้ออกไป
“ทำไม? นึกถึงใคร?”
เธอลังเลไป จากนั้นก็คิดว่านี่ก็ไม่ใช่ความลับอะไรที่ต้องรักษา ก็เลยพูดออกมา งานครั้งนี้โม่เทียนยวี๋ขอร้องให้เธอเป็นคนดีไซน์ บอกว่าจะเอาไปเป็นตัวอย่างแนวทางให้กับบริษัท
เรื่องแบบนี้ เกิดตั้งแต่ที่เธอเข้าไปทำงานที่บริษัทหวังกรุ๊ปได้ปีสองปีแล้ว โม่เทียนยวี๋ไม่ได้เอ่ยขอร้องเรื่องนี้เป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้น โม่โยวก็เลยไม่ได้คิดมากอะไร
กับคำตอบนี้ ลู่จิ้นยวนก็ไม่ได้แปลกใจอะไรแล้วพูดตามตรง “ในเรื่องการลอกเลียนขโมยงานครั้งนี้ โม่เทียนยวี๋เป็นพยานคนสำคัญ”
โม่โยวขมวดคิ้ว อยากจะอธิบายแทนโม่เทียนยวี๋
ลู่จิ้นยวนไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมา “เธอรู้ว่าถังหว่านเอ๋อร์เป็นใครหรือเปล่า?”
เธอเม้มปากแล้วส่ายหน้า สีหน้าไม่ดีมากนัก ท่าทางไม่เป็นมิตรกับผู้หญิงที่ขโมยงานแล้วใส่ร้ายตัวเองอย่างชัดเจน
“ถังหว่านเอ๋อร์ก็เป็นดีไซเนอร์เหมือนกัน ในประวัติของเธอก็ยังมีผลงานด้วย เธอลองดูสิ”
ลู่จิ้นยวนยื่นเอกสารไปให้เธอ เรื่องพวกนี้เขาสืบมาเรียบร้อยแล้ว
โม่โยวรับมาแล้วเปิดดูอย่างตั้งใจ พอเธอเห็นตัวอย่างผลงาน โดยเฉพาะผลงานที่ได้รับรางวัล สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“ไม่สิ งานออกแบบชิ้นนี้? แล้วก็ชิ้นนี้……”
เธออึ้งจนพูดอะไรไม่ออก แล้วจ้องงานออกแบบที่ได้รับรางวัลพวกนั้น ตามข้อมูลบนเอกสารแผ่นนี้ งานที่เธอได้รับรางวัลมีทั้งหมดสามงาน
โดยเฉพาะ งานทั้งสามงานที่ได้รับรางวัล เป็นงานที่เธอออกแบบเอง
ใช่ ทั้งหมด ทั้งสามงานเลย ความเป็นจริงที่น่ากลัววางอยู่ตรงหน้า แต่เธอกลับพูดอะไรไม่ออก
ลู่จิ้นยวนไม่คิดเลยว่าถังหว่านเอ๋อร์จะเป็นขี้โมยที่ชำนาญการแบบนี้ เอาแต่ขโมยงานของโม่โยวครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเอาไปเป็นบันไดให้กับตัวเอง ผู้หญิงคนนี้สมควรตาย
และแน่นอน ไม่เพียงแค่เธอ แล้วก็โม่เทียนยวี๋ด้วย อย่าคิดว่าจะหนีพ้น
ถึงแม้นิสัยโม่โยวจะไม่ได้เข้มแข็งมาก แต่ก็ไม่ใช่คนโง่ งานทุกชิ้นเป็นหยาดเหงื่อของตัวเอง เธอจำได้ขึ้นใจ
งานที่ได้รับรางวัลสามชิ้นนี้ ไม่ รวมถึงครั้งนี้ด้วย ทั้งหมดสี่ชิ้น มีลักษณะเฉพาะที่เหมือนกัน นั่นก็คือทั้งหมดเป็นงานที่โม่เทียนยวี๋ขอให้เธอออกแบบเป็นงานตัวอย่าง เหตุผลเหมือนกันหมดเลย
เวลานี้ ถึงเธอจะโง่ แต่ก็ไม่มีทางไม่สงสัยโม่เทียนยวี๋
สีหน้าโม่โยวเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ถ้าเป็นเหมือนที่ตัวเองคิดจริง แล้วทำไม? ทำไมโม่เทียนยวี๋ต้องงานของเธอไปเผยแพร่ แล้วยังเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ชื่อถังหว่านเอ๋อร์ด้วย?
เหมือนจะรู้ถึงความสงสัยของเธอ ลู่จิ้นยวนก็หยิบซองเอกสารออกมาให้เธออีก “นี่เป็นสิ่งที่ฉันสืบมาได้ เธอลองดูก็คงจะเข้าใจ”
โม่โยวอยากจะรู้ความจริงมาก เปิดอย่างไม่ลังเลเลย ในซองเอกสารมีแต่รูปภาพ หนาเป็นปึก
ตัวละครหลักในรูปทุกรูปก็เป็นชายหญิงคู่หนึ่ง โม่เทียนยวี๋กับถังหว่านเอ๋อร์
พอโม่โยวเห็นรูปพวกนี้ เธอก็ทำอะไรไม่ถูก เปิดดูแต่ละรูป รูปทั้งหมดก็เป็นรูปที่ทั้งสองคนสวีทกัน
กอดกัน เดินเที่ยวด้วยกัน จูบกัน แล้วยังมีรูปส่วนตัวอย่างเช่นนอนอยู่บนเตียงในบ้านด้วย ท่าทางที่แสบตามาก
เธอจ้องมองไปที่ลู่จิ้นยวน “พวกนี้คือ……”
“พวกเขาคบกันตั้งแต่สามปีที่แล้ว ส่วนมากถังหว่านเอ๋อร์จะอยู่ต่างประเทศ ไม่ค่อยกลับมาในประเทศ ทุกครั้งที่โม่เทียนยวี๋ไปต่างประเทศก็จะไปอยู่กับเธอ”
“รูปภาพแต่ก่อนอาจจะไม่มี แต่พวกนี้เป็นรูปที่ถ่ายได้ช่วงนี้”
พูดอีกแบบ โม่เทียนยวี๋กำลังจับปลาสองมือ ในประเทศก็คู่กับโม่โยว พอไปต่างประเทศก็ไปหาถังหว่านเอ๋อร์
เธอมองเห็นท่าทางที่สนิทสนมของทั้งสองในรูปภาพ ก็อดคิดถึงตัวเองไม่ได้ การเปรียบเทียบที่ชัดเจนขนาดนี้ ท่าทางของโม่เทียนยวี๋กับถังหว่านเอ๋อร์เหมือนแฟนกันมากกว่า
เพราะว่า เธอคบกับโม่เทียนยวี๋มาห้าปี เวลาที่อยู่ด้วยกันน้อยมาก ถึงแม้จะอยู่ด้วยกัน ทั้งสองก็เหมือนเป็นเพื่อนกัน ส่วนมากก็แค่กอดกันจับมือกัน
ระยะเวลาห้าปี ไม่ยาวแล้วไม่สั่นด้วย โม่โยวเอาผู้ชายที่อ่อนโยนในหัว ไปทับซ้อนกับผู้ชายในรูปภาพ
เธอจับรูปภาพในมือไว้แน่น อดคิดไม่ได้ตอนที่โม่เทียนยวี๋กลับมาในประเทศ ยังขอเธอแต่งงาน ยังให้ของขวัญเธออะไรแบบนี้ เธอก็รู้สึกโมโหมาก
วินาทีนั้นโม่โยวค่อยรู้ว่า ตัวเองเหมือนไม่เคยรู้จักคนคนนี้เลย
“ฉันอยากจะออกไปข้างนอก” เสียงของเธอเรียบนิ่งมาก
ลู่จิ้นยวนรู้ว่าเธออยากไปไหน หรี่ตาลง ในใจไม่สบอารมณ์ แต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อฟังตัวเองแน่นอน ทำได้แค่ตอบตกลง ยังไงคนของตัวเองก็แอบดูแลอยู่ คงไม่เกิดเรื่องอะไรหรอก
เขาให้คนขับรถในบ้านไปส่ง แน่นอน ก็ต้องรับตัวเธอกลับมาด้วย โม่โยวไม่ได้ปฏิเสธ เธอไม่มีอารมณ์ไปใส่ใจเรื่องเล็กๆพวกนี้
พอขึ้นรถ เธอก็โทรหาโม่เทียนยวี๋ แล้วนัดเขาออกมาเจอกัน
อาการบาดเจ็บของโม่เทียนยวี๋ดีขึ้นไม่น้อยแล้ว เมื่อวานเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ห่างจากวันขอแต่งงานครั้งนั้นหลายวันแล้ว ในระหว่างนั้นโม่โยวไม่โทรมาหาเขาเลย เรื่องนี้ก็เลยทำให้โม่เทียนยวี๋โมโหมาก