หรือว่า พวกที่ด่าและตีเธอทั้งวัน พวกนั้นก็คือคนที่ตระกูลเวินเตรียมไว้
เพราะคนของตระกูลเวินก็ไม่หวังจะมีความสัมพันธ์หรือส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ ถ้าให้ดีก็ตายแบบเงียบๆในคุกไปเลย
“ที่ฉันมาวันนี้ ไม่ใช่จะมาทะเลาะเรื่องสมัยก่อน ฉันมาหาแม่”
“ฉันจัดให้แม่เธอไปรักษาในสถานที่เงียบๆ ไม่โดนใครรบกวน” เวินฉีโม่แววตาแปลกๆไม่เป็นธรรมชาติ
“เธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปเจอเธอตอนนี้”
“เธอเป็นป่วยอยู่ ไม่ใช่ว่าเธออยากเจอแล้วจะได้เจอเลย!”
“คุณซ่อนเธอไว้!” เวินหนิงเดินไปข้างหน้าแล้วใช้ฝ่ามือตบลงบนโต๊ะ “เวินฉีโม่ ฉันอุตส่าห์รับโทษติดคุกแทนลูกสาวสุดที่รักของคุณนะ คุณจะขังแม่ฉันไว้ทำไม เอาเธอมาคืนฉันเดี๋ยวนี้ แล้วเราสองคนจบกัน!”
“เธอพูดอะไรน่ะ!”
จ้าวหย่าหลินที่แอบฟังอยู่ข้างนอกตลอดผลักประตูเข้ามา ใช้นิ้วที่เล็บเหมือนแม่มดชี้มาที่เวินหนิงอย่างเกลียดชัง “อย่ามาพูดพล่อยๆนะ! ก็รู้อยู่ว่าตอนนั้นเธอเป็นคนชน เธอถึงได้รับโทษฆ่าคนตาย ตอนนี้ยังกล้ากลับมาพลิกลิ้นอีก รู้งี้ตอนนั้นฉันน่าจะหาทนายให้โทษประหารชีวิตแกเธอ!”
เวินหนิงหัวเราะเยาะเย้ย แสดงว่าการตัดสินคดีตอนนั้นมีตระกูลเวินอยู่เบื้องหลัง ได้รับโทษสิบปี มีปีไหนบ้างที่ตระกูลเวินจะมาประกันตัวเธอ?
“ไม่ให้ฉันเจอแม่ ถ้างั้นก็คงต้องพิจารณาเรื่องพลิกคดีแล้ว ได้ข่าวว่าตอนนี้เวินหลานเป็นดาราดัง ไม่รู้ว่าถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงนักข่าว จะมีผลกระทบต่อการงานของเธอมั้ย?”
สายตาเวินฉีโม่เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาทันที ” เธอกล้าขู่ฉัน!”
จ้าวหย่าหลินก็โกรธมากจนอยากจะเข้ามาตบเวินหนิง
“นี่ฉันกำลังเจรจากับคุณ” เวินหนิงเดินไปริมหน้าต่าง เห็นรถของตระกูลลู่ที่จอดรอเธออยู่ด้านนอก และพูดกับเวินฉีโม่ว่า ” คนที่พาฉันออกมาจากคุกไม่ใช่คนที่พวกคุณจะสู้ได้ วันนี้พวกเขาส่งฉันกลับมา พวกคุณลองคิดดูถ้าฉันไม่ได้กลับไป พวกเขาจะมาวุ่นวายกับพวกคุณมั้ย?”
เวินฉีโม่โผล่หน้าไปมองข้างนอกด้วยความสงสัย ก็เห็นรถRolls-Royceรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่มีอยู่ไม่กี่คันในโลกจอดอยู่ข้างๆบ้าน ในโลกมีอยู่ไม่ถึงสามคัน คนที่ครอบครองรถคันนี้ดีเป็นคนที่ตระกูลเวินสู้ไม่ได้แน่นอน
ตกลงใครเป็นคนช่วยเวินหนิงไว้ ทำไมถึงได้มีความมั่นใจขนาดนี้?
ภายใต้ความเกลียดชังที่ถูกกดในแววตา เวินฉีโม่หยิบเช็คเงินสดในลิ้นชักออกมา และเขียนตัวเลขลงไปยื่นให้เวินหนิง ” เวินหนิง ฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างนอกลำบาก แม่เธอสบายดี เธอต้องการรักษาอย่างเงียบๆ หมอบอกว่าเธอไม่ควรได้รับการรบกวนใดใด รอเธอดีขึ้นก่อนแล้วฉันจะแจ้งเธอให้มาเยี่ยม เงินนี้เธอรับไว้ ถือว่าพ่อให้เป็นค่าชดเชยช่วงสองสามปีที่ผ่านมา”
เวินฉีโม่ยื่นเช็คเงินสดให้เวินหนิง และใช้สายตาห้ามจ้าวหย่าหลินที่จะตบเวินหนิง ใบหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัย
เวินหนิงเดินไปรับเช็คเงินสด เห็นจำนวนเงิน ก็ยิ้มขึ้นมา
ห้าหมื่น
เงินให้เวินหลานจ่ายเล่นๆก็เป็นแสนแล้ว สามปีที่ผ่านมาไม่รู้จ่ายไปกี่แสน ป่วยเล็กๆน้อยๆก็ไปจ่ายเงินให้โรงพยาบาล แม้แต่เงินที่ใช้ทำคดีของเวินหนิงตอนนั้นก็คงเกินห้าแสนหยวน มาวันนี้ เวินฉีโม่ใช้เงินเล็กๆน้อยๆจำนวนห้าหมื่นมาไล่เธอ
เธอพยายามเอาตัวรอดไม่ให้ตายในคุกด้วยความยากลำบาก มีค่าแค่ห้าหมื่น
เวินหนิงยิ้มแล้วฉีกเช็คเงิน ขว้างใส่หน้าเวินฉีโม่ แล้วหันหลังเดินออกไป
“ให้ดีรีบให้ฉันได้เจอแม่ ไม่งั้น ฉันจะทำลายชื่อเสียงของเวินหลาน”
“เวินหลานเป็นน้องสาวเธอนะ เธอจะทำอย่างนี้ได้ยังไง!” จ้าวหย่าหลินตะโกนมาจากด้านหลัง
“ใช่หรอ? ทำไมฉันจำได้ว่า เมื่อสามปีก่อนฉันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเวินแล้วล่ะ?”
เวินหนิงรีบเดินออกไป ทิ้งจ้าวหย่าหลินให้ยืนด่าอยู่ที่เดิม
เมื่อเดินออกจากประตูตระกูลเวิน เวินหนิงก็เหมือนหุ่นกระบอกที่โดนตัดเชือก ทั้งตัวรู้สึกไม่มีแรง เดินออกไปอย่างไม่มีสติ
ทำลายเวินหลาน? ก็เป็นเพียงข้ออ้างที่เธอพูดขึ้นมาตอนนั้น
ด้วยความสามารถเธอตอนนี้ กลัวว่าเธอยังไม่ได้ทันได้แจ้งนักข่าว ตระกูลเวินก็ยัดเงินจัดการเธอก่อน
อีกอย่างะตระกูลลู่ก็จับตามองเธออยู่ เธอไม่มีโอกาสที่จะได้ทำอะไรอยู่แล้ว
การทำเหมือนมาขู่คงทำได้แค่ครั้งเดียว ถ้าเยอะเกิน ก็คงโดนเวินฉีโม่จัดการ ถึงเวลานั้น เธอจะเอาตัวแม่มาจากเวินฉีโม่ได้ยังไง?
แม่ของเธอ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ตกลงเวินฉีโม่ดีกับแม่หรือไม่?
เวินหนิงเงยหน้าขึ้น เพื่อให้น้ำตาไหลกลับไป และเดินตรงไปยังรถของตระกูลลู่
เดินไปได้สองสามก้าวก็ต้องหยุดเดินเพราะรถFerrarสีแดงคันหนึ่ง
รถคันนี้ เวินหนิงรู้จัก
คือคู่หมั้นเก่าของเธอ
ขณะนั้น รถก็จอดสั่นตามแรงเครื่องยนต์ มีเสียงที่ทำให้ใจสั่นหน้าแดงดังมาจากในรถ