เวินหนิงนั่งอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเจ็บตามตัวหรือว่าเจ็บใจมากกว่ากัน เธอทำได้เพียงเม้มปากเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
นี่หรือคือผู้ชายที่เธอเคยชอบ พาผู้หญิงที่เธอเกลียดที่สุดเดินออกไป แถมยังเอ่ยปากไล่เธอด้วยตัวเขาเอง
เวินหนิงพยุงตัวลุกขึ้น เดินเขยกเท้าไปที่รถ แต่ทันใดนั้น รถของตระกูลลู่ก็มาจอดข้างทาง ขับเฉียดเวินหนิงไปนิดเดียว แล้วไปชนกับรถเฟอร์รารี่ของยวี๋เฟยหมิงอย่างจัง
เสียงรถชนดังโครม ตัวของเวินหนิงตกใจจนตัวสั่น และยังมีเสียงดังโครมต่อเนื่องมาอีก
พอเวินหนิงเริ่มรู้สึกตัวก็หันกลับไปมอง รถของตระกูลลู่ชนเข้ากับเฟอร์รารี่ของยวี๋เฟยหมิงจนสภาพยับเยินดูแทบไม่ได้
“นายทำอะไรของนาย ”ยวี๋เฟยหมิงที่กำลังจะพาเวินหลานกลับเข้าคฤหาสน์หันกลับไปมอง ก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า วางเวินหลานลงแล้ววิ่งเข้าใส่
พอคนขับรถของตระกูลลู่ลงมาจากรถ มองไปที่ยวี๋เฟยหมิง แล้วพยักหน้า “คุณผู้ชายท่านนี้ สวัสดีครับ คุณขับรถชนรถผมจะพังยับเยินค่าซ่อมรถก็ประมาณ ห้าล้าน คุณจะจ่ายค่าชดใช้เป็นเงินสดหรือว่าจะผ่านบัตรดี”
“นายตาบอดรึไง นายต่างหากที่มาชนรถฉันจนพังยับ รถคันนี้ก็เหมือนกับเศษขยะแล้ว นายยังกล้าจะเอาค่าเสียหายกับฉันอีกหรอ ! ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าวันนี้นายไม่จ่ายค่าเสียหายของรถคันนี้มาสิบล้านก็อย่าหวังว่าจะไปไหนได้”
ยวี๋เฟยหมิงขยับเข้าไปกระชากคอเสื้อของคนขับรถ ท่าทางเหมือนจะเข้าไปต่อย ขณะเดียวกัน เวินฉีโม่ กับจ้าวหย่าหลินได้ยินเสียงเลยพากันออกมาดู พอเห็นเหตุการณ์ก็รีบเข้ามาห้ามยวี๋เฟยหมิงไว้
โดยเฉพาะเวินฉีโม่ เห็นว่าเป็นรถโรลส์รอยส์ ซึ่งเป็นรถที่ตระกูลลู่ใช้ ยิ่งรีบลากยวี๋เฟยหมิงออกไปให้ไกล
“เฟยหมิง ช่างเถอะ ปล่อยเขาไปเถอะ เรื่องวันนี้ก็อย่าเอาเรื่องเลย เดี๋ยวลุงจะให้รถดีๆสักคนกับเธอก็ได้”
“คุณลุงเวิน จะไม่ให้เอาเรื่องได้ยังไง ! เขาตั้งใจชนรถผม ยังจะกล้ามาเรียกร้องค่าเสียหายอีก บนถนนก็มีกล้องวงจรปิด รถผมก็มีเครื่องบันทึกการขับขี่เป็นหลักฐาน วันนี้ผมต้องให้เขาได้รู้ว่า มีเรื่องกับยวี๋เฟยหมิงจะเป็นยังไง”
“เฟยหมิง นั่นเป็นรถของตระกูลลู่ ตระกูลลู่ทีมีชื่อเสียงโด่งดัง! นายอยากมีเรื่องกับตระกูลลู่อย่างงั้นหรอ ถ้าโกรธแค้นตระกูลลู่จริงๆ ขาวก็อาจจะกลายเป็นดำ พอถึงตอนนั้นนายอาจจะถูกปิดปากก็เป็นได้ ถือเสียว่าครั้งนี้โชคไม่ดีละกัน เสียทรัพย์เพื่อหลีกภัยดีกว่า ” เวินฉีโม่ชี้ไปที่เวินหนิง แล้วเอ่ยเตือนยวี๋เฟยหมิง
เวินฉีโม่พยายามกล่อม พอยวี๋เฟยหมิงได้ยินคำว่าตระกูลลู่ ท่าทีฮึกเหึมเมื่อกี้ก็ลดลงไปกว่าครึ่ง โดยเฉพาะตอนที่เจอเวินหนิงก็อดที่จะรู้สึกกลัวไม่ได้ ตอนนั้นมีคดีเรื่องที่เวินหนิงขับรถชนลู่จินหยวน ตระกูลลู่ แทบจะอยากฆ่าเวินหนิงให้ตายเลยก็ว่าได้
ตระกูลยวี๋ไม่กล้าจะมีเรื่องกับตระกูลลู่ ยวี๋เฟยหมิงยิ่งไม่อยากมีอะไรเกี่ยวข้องขับตระกูลลู่
ยวี๋เฟยหมิงเลยทำได้เพียงนิ่งไว้แล้วไอกระแอมสองครั้ง จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ แล้วเดินไปหาคนขับรถ “ฉันดูแล้วรถของนายก็ไม่ได้เสียหายเท่าไหร่ รถของฉันก็พังยับเยิน งั้นเรื่องครั้งนี้ก็แล้วต่อกันละกัน ฉันไม่อยากมีเรื่องกับคนขับรถหรอก”
คนขับรถยังคงรักษาภาพลักษณ์ของอาชีพตนเองพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “คุณผู้ชาย คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือป่าว ไม่ใช่คุณไม่เอาเรื่อง แต่เพราะผมไม่เอาเรื่องคุณมากกว่า คุณชายของพวกเรารักรถมาก รถคันนี้มีแค่ห้าคนในโลก แค่สีถลอกนิดหน่อย ค่าซ่อมก็เป็นล้านแล้ว ดูที่หน้ารถที่เสียหายสิ ผมแค่ต้องการค่าซ่อมห้าล้าน นี่ก็ถือว่าช่วยคุณแล้วนะ”
“คุณ…..ชัดเจนมาก!” ยวี๋เฟยหมิงดูไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็ยังจะเอ่ยเหน็บแนมออกไป และแทบจะควบคุมตัวเองไม่ให้ได้ไปต่อยคนได้
เวินหลานที่ยืนอยู่ข้างๆ พอได้ยินเวินฉีโม่พูดอย่างนั้น ไม่อยากให้ ยวี๋เฟยหมิงมีเรื่องบาดหมางกับตระกูลลู่ ก็เลยอ้อน“เฟยหมิง ขาฉันเจ็บมากเลย เรื่องที่เหลือก็ให้คุณพ่อจัดการเถอะ พี่กลัวว่าฉันจะได้รับบาดเจ็บไม่ใช่หรอ…….”
“เธอไปอยู่ตรงนั้นเลย! ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังยุ่งอยู่”
ยวี๋เฟยหมิงพลักเวินหลานออกไป เวินหนิงที่อยู่ไม่ไกล มองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ก็ยิ้มเยาะ
ความรัก ก็มีเพียงแค่นี้