หลังจากเวินหนิงพักผ่อนไปสองวัน รอข่าวของยวี๋เฟยหมิงไปด้วย ก็คิดที่จะออกไปหางานด้วย
ถึงแม้ ตอนนี้เธอยังมีเงินเก็บอยู่ พอใช้ในระยะยาวแล้ว แต่ว่า พอนึกถึงถ้าเด็กคนนี้คลอดออกมาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะแยะ เธอก็เลยรู้สึกว่าตัวเองควรจะออกไปทำงาน
ถ้าไม่งั้น สักวันก็คงจะอดตายแน่นอน
แต่ว่า ไม่คิดว่าการหางานทำจะยากลำบากสำหรับเธอไม่น้อย หลายบริษัทเห็นในประวัติเธอว่าแค่จบมัธยม ก็ไม่เอาเธอ หรืออาจจะมีงานบางอย่างที่ให้ลองทำก่อน แต่พอรู้ว่าท้องก็ปฏิเสธทันที
หลังจากที่สัมภาษณ์ล้มเหลว เวินหนิงก็เดินออกมาอย่างอ่อนล้า เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดวันนั้นของลู่จิ้นยวน เขาบอกว่าถ้าเธอไปจากเขา เธอจะมีชีวิตได้ดีแค่ไหน?
ตอนนั้นเวินหนิงก็ยังรู้สึกไม่ยอม แต่ตอนนี้ เธอเข้าใจแล้ว ตัวเองอยู่ในสังคมนี้ยังอ่อนเกินไป แค่อดีตบางอย่างก็ทำให้เธอเงยหน้าไม่ขึ้นแล้ว
เวินหนิงคิดถึงเรื่องแต่ก่อน ก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์อย่างเฉยชา ทันใดนั้น ก็มีรถคันสีแดงแล่นมาจอดไม่ห่างจากตัวเธอมาก
เวินหนิงตกใจแล้วรีบถอยหลังไปสองเก้า กำลังจะด่าคนขับรถ หน้าต่างรถก็ลดลงมา ใบหน้าที่สวยงามกับรอยยิ้มที่ได้ใจของเวินหลานก็เผยออกมา
กี่วันนี้ เดิมทีที่ยวี๋เฟยหมิงไม่สนใจเธอ ก็เริ่มใจอ่อนกับเธอ เวินหลานก็คว้าโอกาสครั้งนี้ไว้ ตีสนิทกับเขา
ขอแค่ยวี๋เฟยหมิงกลับมาเป็นเหมือนเดิมกับเธอ ถ้ามีอำนาจของตระกูลยวี๋ สักวันเธอก็จะกลับมาโด่งดังได้เหมือนเดิม
“เธอบ้าหรอ? เธอเกือบจะชนฉันแล้ว” เวินหนิงลูบหน้าอก เป็นเพราะการกระทำที่อันตรายเมื่อกี้ของเวินหลาน ตอนนี้ใจเธอเต้นแรงมาก
เป็นโรคจิตที่เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวเองจริงๆ
“เหอะเหอะ เวินหนิง ใครให้ความกล้าเธอพูดแบบนี้กับฉัน เธอคิดว่าลู่จิ้นยวนยังจะช่วยเธออีกหรอ? ตอนนี้เขายังนอนสลบอยู่บนเตียงคนไข้ไม่ตื่นเลย……”
สายตาของเวินหลานแหลมมาก เลยเห็นใบเรซูเม่ในมือเวินหนิง เมื่อกี้เธอได้ข่าวมาจากวงการว่าลู่จิ้นยวนเกิดอุบัติเหตุรถชนไปเมื่อกี่วันก่อน ก็รีบหาคนมาเช็คที่อยู่ของเวินหนิงทันที
พอรู้ว่าเธอพักอยู่ในโซนทรุดโทรม แล้วเอาแต่ไปสัมภาษณ์ เวินหลานก็เดาได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นแน่นอน
คงจะเป็นเพราะลู่จิ้นยวนเกิดเรื่อง เธอก็ถูกตระกูลลู่ไล่ออกมา เวินหนิงไม่มีที่พึ่งแล้ว เธอก็จะกลับมาเป็นของเล่นในมือของตัวเองอีกครั้ง
“เธอพูดว่าอะไรนะ?”
เมื่อเวินหนิงได้ยินว่าลู่จิ้นยวนนอนอยู่บนเตียงคนไข้ เธอก็อึ้งไป
จนเธอไม่ได้ยินคำพูดที่ยั่วยุอารมณ์ของเวินหลานด้วยซ้ำ
ทำไมลู่จิ้นยวนถึงเข้าโรงพยาบาล ครั้งก่อนที่แยกจากกันก็ยังดีอยู่ไม่ใช่หรอ?
ที่แรกเวินหนิงคิดว่าเธอจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับลู่จิ้นยวนอีก แต่พอได้ยินข่าวร้าย ในใจเธอก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที
“แกถูกไล่ออกมาแล้วสินะ ลู่จิ้นยวนเกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล อาการเป็นยังไงบ้างฉันก็ไม่รู้ แต่ว่า ฉันแค่รู้ว่าชีวิตแกมาถึงทางตันแล้ว แต่ก่อนแกเคยเหยียดหยามฉัน หลังจากนั้นฉันจะคืนให้แกเป็นร้อยเท่าพันเท่า”
พูดจบ เวินหลานก็หันไปสบตากับผู้ช่วย ผู้ชายร่างสูงคนนั้นก็ลงมา แล้วเดินเข้าใกล้เวินหนิงที่ยังยืนนิ่งอยู่ พร้อมกับจับข้อมือเธอไว้
เวินหนิงค่อยสะดุ้งตกใจได้สติ “แกจะทำอะไร ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”
แต่ว่า ผู้ชายร่างสูงนั้น สูงกว่าเป็นเท่าตัวเวินหนิง ถ้าจะทำอะไรผู้หญิงบอบบางอย่างเธอก็เป็นสิ่งที่ง่ายดายมาก
แต่ว่าคนคนนั้นก็ไม่กล้าทำอะไรกลางที่สาธารณะ แค่แย่งเรซูเม่ในมือเวินหนิงไป แล้วยื่นให้เวินหลาน
เวินหลานหยิบมาดู “พี่สาว พี่เป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์เลย พี่เคยเข้าคุกทำไมไม่เขียนล่ะ?”
“ฉันที่เป็นน้องสาวก็ทนดูไม่ได้ จะไม่ยอมปล่อยให้พี่ไปหลอกลวงคนอื่นแน่นอน ถึงเวลาถ้าพี่อยากไปบริษัทไหน หนูจะเรียกคนไปบอกพวกเขาเอง เดี๋ยวพวกเขาจะรับโจรเข้ามาทำงานด้วย”
เวินหลานพูดจบ ก็ฉีกเรซูเม่เวินหนิงทิ้งอย่างรังเกียจ แล้วโยนไปบนพื้น
พอลมพัดมา เรซูเม่ที่เวินหนิงตั้งใจเตรียมไว้ก็ถูกพัดกระจาย
“เวินหลาน เธอ……”
เวินหนิงไม่คิดเลยว่าเวินหลานจะปัญญาอ่อนขนาดนี้ เธอแค่จะหางานทำเพื่อปากท้อง เธอยังจะตามมาหลอกหลอนก่อกวนชีวิตตัวเองอีก
“ทำไม?” เวินหลานยิ้ม ผู้ช่วยก็ขึ้นรถไป “เวินหนิง คนที่ต่ำต้อยอย่างแกก็ควรจะอยู่สังคมชั้นต่ำ ใครให้แต่ก่อนแกอยากจะมาเหยียบบนหัวฉัน ตอนนี้ฉันจะให้แกเข้าใจ ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ชนะ”
เมื่อเวินหลานพูดจบก็ขึ้นรถ แล้วรถก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว
เวินหนิงมองเธอจากไปไกล ถ้าตอนนี้เธอไม่ใช่คนท้องแล้วห้ามอารมณ์ขึ้น ห้ามทำอะไรที่อันตราย ตอนนี้ก็คงจะถอดรองเท้าโยนไปแล้ว
ทำไมบนโลกนี้ที่ถึงมีผู้หญิงที่ทั้งหน้าด้านแล้วอำมหิตอย่างเวินหลาน เธอรู้สึกเอือมระอามาก
เวินหนิงโทรไปหายวี๋เฟยหมิงแล้วถามสถานการณ์ของเขา สุดท้ายก็รู้ว่า เพื่อที่จะหลอกให้เวินหลานกับเวินฉีโม่พูดออกมา ตอนนี้เขาก็เริ่มหลอกล่อเวินหลานแล้ว
พอนึกถึงที่นี่ เวินหนิงก็ไม่ได้รู้สึกโกรธกับการกระทำเมื่อกี้มากนัก ยังไง สิ่งที่เธอคิดตอนนี้ก็เป็นแค่การหลอกลวง ยวี๋เฟยหมิงไม่มีทางช่วยเธอแน่นอน
พอถึงเวลา เธอจะหาหลักฐานได้ แล้วหลุดพ้นจากการควบคุมของตระกูลเวิน เธอก็อยากเห็นเวินหลานเหมือนกันว่าจะแสดงสีหน้ายังไง
พอคิดไป ในใจเวินหนิงก็รู้สึกสงบลง หางานทั้งวันแล้วก็รู้สึกเหนื่อย นั่งอยู่บนรถเมย์กำลังจะกลับบ้าน มองวิวนอกหน้าต่างรถไป คำพูดที่ได้ยินเมื่อกี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
ลู่จิ้นยวนเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าสาหัสหรือเปล่า เวินหนิงก็นึกขึ้นได้ว่าวันนั้นที่เขามาหาเธอ บนร่างกายก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ด้วย
หรือว่า หลังจากที่แยกจากเธอ ขับรถเร็วเกินไปก็เลยเกิดอุบัติเหตุ?
พอนึกถึงที่นี่ เวินหนิงก็รู้สึกว่าตัวเองร้อนรนใจมาก
ไม่สนใจเลยสักนิด เป็นไปไม่ได้ เธอตอนนี้……
เธอจะใช้ฐานะอะไรไปเป็นห่วงลู่จิ้นยวน?
เขาพูดแล้ว ถ้าเธอลงจากรถ ต่อไปพวกเขาจะไม่เกี่ยวข้องกันอีก ถ้าเธอยังไปรบกวนอีก ลู่จิ้นยวนอาจจะรังเกียจเธอมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ตอนนี้ความคิดตีกันวุ่นไปหมด เวินหนิงรู้สึกหงุดหงิดมาก หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วหยุดมองเบอร์โทรของลู่จิ้นยวน เธอคิดนานมาก สุดท้ายก็ไม่ได้กดโทรออก
ตระกูลลู่ต้องให้เขาได้รับการรักษาที่ดีที่สุด แล้วเธอจะช่วยอะไรได้อีก?
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย