ลู่จิ้นยวนนอนอยู่บนเตียงคนไข้ พร้อมกับขมวดคิ้วแน่น
หลังจากวันนั้นที่แยกจากเวินหนิง ในใจก็รู้สึกเก็บกด เขาก็เหยียบคันเร่งจนมิด อาจจะเป็นเพราะว่าโมโหมาก ลู่จิ้นยวนก็เลยไม่รู้ตัว
พอไปถึงทางโค้ง อยากจะลดความเร็วก็เพิ่งรู้ว่าไม่ทันแล้ว รถก็แล่นไปชนกับราวกั้นข้างถนน รถเลยหยุด
ลู่จิ้นยวนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ศีรษะเขาก็ชนด้วย ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล
แต่เถ้าแก่กับคุณแม่ก็บังคับ อาจจะพูดได้ว่าเป็นคำสั่ง เขาก็เลยต้องทำแบบนี้ แล้วนอนดูอาการในโรงพยาบาลไปก่อน ไม่ให้พวกท่านเป็นห่วง
แต่พอว่าง ก็อดไม่ได้ที่จะคิดมาก ลู่จิ้นยวนก็จะนึกถึงใบหน้าของเวินหนิง แล้วลอยวนไปวนมาในหัวของตัวเอง เขาบังคับให้ตัวเองอย่าไปคิด แต่ก็ไม่สามารถควบคุมสมองตัวเองได้เลย
ผู้หญิงคนนั้น ถ้ารู้ว่าตัวเองเกิดอุบัติเหตุ คงจะไม่รู้สึกเป็นห่วงแต่กลับจะดีใจด้วยซ้ำมั้ง?
เพราะยังไง ก็จะไม่มีใครไปรบกวนเธอกับผู้ชายคนนั้นอีก
พอนึกถึงที่นี่ สีหน้าของลู่จิ้นยวนก็ตึงเครียดทันที
พอเฉิงหยางได้รับข่าวนี้ก็มาเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล ไม่คิดเลยว่าเปิดประตูเข้ามาจะเห็นสีหน้าของผู้ชายคนนั้นย่ำแย่ขนาดนั้น
“รู้สึกไม่สบายตัว?” เฉิงหยางขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะไม่สาหัสมาก แต่ยังไงเขาก็เคยนอนติดเตียงมาสามปี รอบคอบหน่อยก็สมควรแล้ว
ถ้าไม่ระวังแล้วทำให้สมองของเขาเป็นอะไรไป งั้นก็คงจะแย่แน่นอน
“เปล่า” ลู่จิ้นยวนเลิกคิ้ว “แกเห็นฉันแบบนี้ดูสาหัสเหรอ?”
เฉิงหยางส่ายหน้า กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ประตูก็ถูกเปิด แล้วมู่เยียนหรานก็เดินเข้ามา
กี่วันนี้มู่เยียนหรานมาดูแลลู่จิ้นยวนตลอด ถึงแม้เขาไม่ได้ขอให้เธอทำแบบนี้ แต่เธอก็เหมือนจะไม่ฟังคำปฏิเสธ แล้วเอาแต่เฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาล
แต่ว่า มู่เยียนหรานถูกเลี้ยงเหมือนคุณหนูมาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่รู้วิธีการดูแลคนป่วยอยู่ ก็เลยทำผิดพลาดหลายครั้ง ลู่จิ้นยวนก็รู้สึกเอือมระอามาก ถ้าจะพูดว่าเธอมาดูแลคนอื่น ควรจะพูดว่าเธอมาสร้างปัญหามากกว่า
“เยียนหราน” เฉิงหยางพยักหน้า เห็นท่าทางซุ่มซ่ามของเธอแบบนั้น
ลู่จิ้นยวนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา บนใบหน้าก็มีสีหน้าที่ปฏิเสธ ในใจก็รู้สึกเอือมระอามาก
จะพูดยังไงดี ถึงจะทำให้มู่เยียนหรานที่ไม่เคยผ่านความยากลำบากแบบนี้เข้าใจได้ เรื่องของความรู้สึก ถ้าพลาดไปแล้ว เสียไปแล้ว ก็ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
“เยียนหราน เธอไปพักผ่อนเถอะ เรื่องพวกนี้ ไม่เหมาะกับเธอ”
เฉิงหยางเห็นลู่จิ้นยวนลำบากใจ ก็เลยเอ่ยพูดแทน ช่วยเขาจัดการปัญหา
เขาแค่มองก็ยังรู้สึกเหนื่อยเลย
“ไม่ ฉันจะดูแลจิ้นยวนด้วยตัวเอง”
แต่มู่เยียนหรานยืนยันแบบนั้น พอได้รับข่าวว่าลู่จิ้นยวนเกิดอุบัติเหตุรถชน หัวใจเธอก็เกือบจะหยุดเต้น เธอจะเสียเขาไปไม่ได้
ตั้งแต่ตอนนั้น เธอค่อยรู้ว่าผู้ชายคนนี้สำคัญกับตัวเองมากแค่ไหน พอคิดว่าจะต้องเสียเขาไป ก็รู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่คล่องทันที
แต่ที่โชคดี ครั้งนี้ลู่จิ้นยวนไม่สาหัสมาก มู่เยียนหรานก็เลยตัดสินใจ เธอพลาดโอกาสที่จะดูแลเขาไปครั้งหนึ่งแล้ว ในช่วงเวลาที่เขาต้องการเธอมากที่สุดแต่กลับไม่ได้อยู่กับเขา ถ้างั้น ครั้งนี้ เธอจะไม่พลาดอีก
เธอต้องใช้การกระทำของตัวเองเพื่อชดใช้ทุกอย่าง ต้องทำให้ลู่จิ้นยวนรู้สึกใจอ่อนกับเธอ
เฉิงหยางส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แล้วมองไปในห้องพักฟื้น ก็ไม่เห็นเวินหนิง เธอไม่มา หรือว่า……
ในใจรู้สึกสงสัย ก็เลยหาข้ออ้างว่าจะพาลู่จิ้นยวนออกไปสูดอากาศ แต่ว่า พอพูดถึงชื่อเวินหนิง สีหน้าของผู้ชายคนนี้ก็เปลี่ยนไปทันที
“แกจะพูดถึงเธอทำไม?”
ลู่จิ้นยวนไม่อยากได้ยินเรื่องที่เกี่ยวกับเวินหนิง พอเฉิงหยางถามไม่ถูกเวลา ลู่จิ้นยวนก็มองเขาตาขวาง
เฉิงหยางจับจมูก ที่แท้ ลู่จิ้นยวนไม่ใช่รู้สึกตกใจกับอุบัติเหตุแค่นี้ เขาเหมือนกับระเบิดที่ตั้งเวลาลูกหนึ่ง คงจะเกี่ยวข้องกับเวินหนิงสินะ
แต่ว่า ครั้งก่อนที่เขาจากไป ลู่จิ้นยวนก็เข้าใจความรู้สึกของตัวเองแล้วไม่ใช่หรอ?
สองคนนี้ กำลังทำอะไรกันแน่?
ด้วยความที่ทำอะไรไม่ได้ ในใจเฉิงหยางก็รู้สึกมีความคิดบางอย่าง จึงพูดคุยกับลู่จิ้นยวนอีกไม่กี่คำ ก็รีบไปจากที่นี่ทันที
……
เวินหนิงเอาแต่อยู่ในบ้าน เมื่อวานโดนเวินหลานยั่วยุ เธอก็หมดอารมณ์ที่จะหางานทำเลย เพราะยังไง ถึงแม้จะหางานได้ เธอก็ต้องมาทำให้เสียงงานอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็คงจะยุ่งยากมากกว่าเดิม
แล้วอีกอย่าง ถ้าคนตระกูลเวินรู้เรื่องว่าเธอท้อง ไม่แน่พวกเขาอาจจะหาวิธีแล้วมาทำร้ายลูกของตัวเอง
เธอจะเอาลูกไปเสี่ยงด้วยไม่ได้
คิดไปด้วย เวินหนิงก็เลยพักผ่อนในบ้านหนึ่งวัน แต่ว่า ความสงบสุขที่เธอคิดไว้ก็ไม่ได้รู้สึกสบายขนาดนั้น
ในหัว ก็มีแต่เงาของลู่จิ้นยวนลอยเข้ามา
เวินหนิงนึกถึงครั้งแรกที่พวกเขาเจอกัน สีหน้าลู่จิ้นยวนซีดขาวนอนอยู่บนเตียงคนไข้ เป็นความอ่อนแอที่จินตนาการได้ยากมาก
ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง
เวินหนิงก็ไม่รู้จักเพื่อนของลู่จิ้นยวน คนเดียวที่จะติดต่อได้ก็คงเป็นเถ้าแก่ลู่ แต่เธอก็ไม่อยากจะพูดคุยกับพวกเขา หย่ากันแล้วยังติดต่ออีก ก็คงจะโดนคิดว่ากำลังวางแผนอะไรที่ไม่ดีแน่นอน
ขณะกำลังคิด โทรศัพท์เวินหนิงก็ดัง พอรับก็รู้ว่าเฉิงหยางโทรมา
“เวินหนิง นี่เป็นเบอร์ของเธอใช่ไหม? ผมเฉิงหยางเอง” เฉิงหยางคิดไปคิดมา ก็ไปหาเบอร์ที่ครั้งก่อนเวินหนิงทิ้งไว้ให้ ยังโชคดีเธอยังไม่ได้เปลี่ยนเบอร์
“ฉันเอง ทำไมนายถึงโทรมา?”
เวินหนิงจำเฉิงหยางได้ แต่ก็ไม่สนิทมาก ก็แค่เคยเจอกันครั้งเดียว
เพื่อนของลู่จิ้นยยน ทำไมถึงติดต่อเธอ?
หรือว่า……เกิดเรื่องกัลลู่จิ้นยวนแล้ว?
เวินหนิงรู้สึกตกใจกับความคิดนี้ “เพราะลู่จิ้นยวนเป็นอะไรหรือเปล่า?”
ทีแรกเฉิงหยางยังคิดว่าจะทำยังไงดีให้เวินหนิงไปเยี่ยมตาบ้านั่นที่โรงพยาบาล ไม่คิดเลยว่าเธอจะตกหลุมแผนเขาก่อน “เฮ้อ……”
เฉิยหยางถอนหายใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก “ถ้าเธอเป็นห่วงมันจริง ก็ไปเยี่ยมมันที่โรงพยาบาลเฉิงซีสิ”
สถานที่ที่เฉิงหยางพูดถึง เวินหนิงรู้ดี ครั้งก่อนลู่จิ้นยวนก็ให้ตัวเองไปพักในโรงพยาบาลนั้น ที่นั่นเป็นธุรกิจของตระกูลลู่
ถ้าไม่สาหัส คนบ้างานอย่างลู่จิ้นยวน ก็คงจะไม่นอนโรงพยาบาลแน่นอน
“เขาเป็นอะไรกันแน่?”
พอคิดว่าลู่จิ้นยวนอาจจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่าง เวินหนิงก็ร้อนรนใจมาก รีบลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
เฉิงหยางได้ยินน้ำเสียงเธอเป็นห่วงขนาดนี้ เธอใจร้อนแล้วสินะ ในใจก็รู้สึกแปลกๆ แล้วจับจมูก “เธอไปดูเองก็รู้แล้ว”
เขาก็ไม่อยากโกหกผู้หญิงคนนี้ต่อ แต่หลังจากนี้จะเป็นยังไง ก็ขึ้นอยู่กับลู่จิ้นยวนแล้วล่ะ ครั้งนี้เขาช่วยเต็มที่แล้ว