เวินหนิงถูกอันเฉินส่งกลับบ้าน ระหว่างทาง อันเฉินก็อยากถามมาก แต่ก็ต้องหักห้ามไว้
ถึงแม้ เขาดูออกตั้งแต่เช้าแล้วว่าทั้งสองคนไม่ปกติ แต่ว่า……
มองไปริมฝีปากที่บวมแดงของเวินหนิง แค่มองก็รู้แล้วว่าเมื่อกี้พวกเขาทำอะไรกัน
อันเฉินแอบตะโกนในใจ ดึกขนาดนี้เรียกเขามาทำงานก็ไม่สบอารมณ์แล้ว ก็ยังต้องรู้ว่าพวกเขาสวีทกันอีก ไร้ศีลธรรมจริงๆ
หลังจากที่ส่งเวินหนิงถึงบ้าน อันเฉินก็รีบโทรรายงานลู่จิ้นยวนทันที จากนั้น ก็ได้รับคำสั่งใหม่
ไปตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนตอนนั้นของเวินหนิง พอมองเห็นที่นี่ อันเฉินก็เข้าใจโดยทันที ดูเหมือนว่า บอสจะรู้สึกจริงใจกับคุณหนูเวินแล้ว
……
เมื่อเวินหนิงกลับถึงบ้าน ก็ไม่ทำอะไรเลย แล้วมุดตัวเองเข้าในผ้าห่ม มือก็เอาแต่แตะริมฝีปากที่ยังบวมแดงที่โดนลู่จิ้นยวนจูบ
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่จิ้นยวนจูบเธออย่างอ่อนโยนขนาดนี้ ถึงแม้ ทั้งสองจะเคยทำอะไรที่ใกล้ชิดกว่านี้แล้ว
แต่ตอนนั้นลู่จิ้นยวนก็มีแต่ความโมโห การกระทำทุกอย่างก็เหมือนกับว่ากำลังลงโทษ ไม่มีความใจอ่อนเลย แต่ไม่เหมือนเมื่อกี้ อ่อนโยนจนใจเธอจะเต้นออกมาอยู่แล้ว
เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ ใบหน้าเวินหนิงก็แดงร้อนไปกว่าเดิม เธอเป็นอะไร ก็แค่จูบไม่ใช่หรอ ทำไมต้องเอาแต่นึกถึงด้วย
คิดไปคิดมา เวินหนิงก็รีบไปอาบน้ำ อยากจะให้ความคิดพวกนี้ถูกน้ำซัดผ่านไป แต่ว่า ก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด เงาของลู่จิ้นยวนในหัวก็ชัดเจนมากกว่าเดิม
คนคนนั้น เชื่อเธอ แล้วยอมช่วยเธอเหรอ?
เวินหนิงกัดริมฝีปากแน่น ผู้หญิงอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว บางครั้ง รู้ทั้งรู้ว่าอันตราย แต่ก็อดไม่ได้
……
วันต่อมา
ลู่จิ้นยวนก็ยังได้รับการตรวจเช็คอย่างละเอียดจากทางโรงพยาบาล
ถึงแม้ ผลตรวจเช็คกี่วันก่อนจะปกติ แต่เพราะเถ้าแก่กับเย่หวานจิ้งเรียกร้องมา เขาก็เลยต้องทำแบบนี้
แต่ว่า เขาทนอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องงานที่บริษัท แล้วก็เรื่องเวินหนิงที่เขาอยากจะรู้ให้เร็วที่สุด
“จะออกจากโรงพยาบาล?”
เถ้าแก่ส่ายหน้า “ดูอาการอีกไม่กี่วันค่อยว่ากัน บริษัทใหญ่โตขนาดนั้น กี่วันนี้แค่ไม่มีแกไม่ล้มละลายหรอก!”
ความคิดของเถ้าแก่หนักแน่นมาก จะไม่มีทางให้ทายาทที่ท่านตั้งใจสั่งสอนอบรมมามีอันตรายเด็ดขาด
วันนั้นตอนที่ลู่จิ้นยวนเกิดเรื่อง หัวใจท่านก็ตกใจจนจะหยุดเต้นอยู่แล้ว
จนถึงขั้น ท่านคิดที่อยากจะตามตัวเวินหนิงกลับมา แล้วให้ดวงชะตาที่ฟาดเคราะห์ของเวินหนิงมาปกป้องเขา
มีความคิดนี้ เถ้าแก่ก็เอาแต่คิดพิจารณา ก็ถือว่าเวินหนิงเจียมตัว ขอแค่ให้เงินก้อนกับเธอ เธอไม่มีทางปฏิเสธเรื่องดีแบบนี้แน่นอน
กำลังคิดอยู่ มู่เยียนหรานก็มาอีกแล้ว
กี่วันนี้ เธอก็มาที่นี่แต่เช้า แล้วดูแลลู่จิ้นยวนด้วยตัวเอง
พอเห็นเธอ คิ้วของลู่จิ้นยวนที่ขมวดไว้แน่นก็ขมวดเข้มไปอีกครั้ง
“เยียนหราน ทำไมเธอไม่พักผ่อนอยู่ที่บ้าน?”
กับน้ำใจแบบนี้ ลู่จิ้นยวนไม่อยากจะพูดอะไรที่รุนแรง แต่ก็มีความหงุดหงิดแล้ว
“ฉันเป็นห่วงนาย อยากจะมาเยี่ยมนาย แล้วก็ดูแลด้วย”
มู่เยียนหรานยิ้ม พอมองเห็นเถ้าแก่ลู่ ก็เอ่ยทักทายอย่างมีมารยาท การกระทำทุกอย่างดูดี สวยงามเหมือนผู้ดีมาก
เถ้าแก่ลู่ก็พยักหน้า จากช่วงนี้ที่สังเกตมู่เยียนหราน ท่านก็รู้สึกพอใจ อย่างน้อย ผู้หญิงที่เอาแต่ใจจนบังคับให้ลู่จิ้นยวนก้มหัวให้ แต่ตอนนี้ก็รู้จักการอ่อนข้อแล้ว
แบบนี้ ความติดใจในใจท่านก็คลายออกได้ไม่น้อย
“ในเมื่อเยียนหรานมาแล้ว ตาแก่อย่างฉันก็ไปก่อน เดี๋ยวจะรบกวนพวกแก”
พูดไปด้วย เถ้าแก่ก็โบกมือกับพ่อบ้าน ก็รีบมาพยุงตัวท่าน “เยียนหราน จิ้นยวนก็ฝากเธอไว้แล้วกัน เธอต้องดูแลเขาให้ดี แล้วให้เขาพักผ่อนในโรงพยาบาลไปก่อน อย่าเอาแต่คิดว่าจะรีบกลับไปทำงาน”
“หนูรู้แล้วค่ะ คุณปู่” มู่เยียนหรานยิ้มหวาน แล้วส่งเถ้าแก่ออกไป
จากนั้น ค่อยเดินกลับมา
“ฉันซื้ออาหารเช้าให้นายด้วย เป็นของที่นายชอบกิน” มู่เยียนหรานหยิบกล่องออกมา แล้วเปิดให้ลู่จิ้นยวนดู
ข้างในนั้น เป็นของว่าที่ลู่จิ้นยวนชอบ แล้วก็มีอาหารที่เธอทำเองด้วย
แต่ว่าที่มู่เยียนหรานไม่รู้ ความชอบของเขา เปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว ตอนนี้เขาไม่ใช่คนเดิมแล้ว
ก็เหมือน……ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็แบบนี้ กลายเป็นอดีตไปแล้ว
ลู่จิ้นยวนมองเห็นท่าทางที่เกร็งของเธอที่เตรียมอาหารเช้าให้ตัวเอง ในใจก็รู้สึกเอื้อมระอา “เยียนหราน เธอกลับมานานขนาดนี้แล้ว น่าจะมีสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำ ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ทุกวัน ผมไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น ไม่ต้องการให้คนมาปรนนิบัติ”
“แต่ฉันรู้สึกว่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านาย” มือของมู่เยียนหรานหยุดไป
กี่วันนี้ เธอจะไม่รู้สึกได้ยังไงถึงความห่างเหินที่ลู่จิ้นยวนมีต่อเธอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร จะใส่ใจมากแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็แค่เอ่ยขอบคุณอย่างเรียบนิ่ง
มู่เยียนหรานอยากจะพูดว่า เธอไม่ต้องการคำขอบคุณของเขา แต่เธอต้องการตัวเขา
แต่ว่า ลู่จิ้นยวนไม่ให้โอกาสเธอได้พูดเลย
เมื่อลู่จิ้นยวนเห็นความตั้งใจของเธอ กับมู่เยียนหราน พวกเขาโตมาด้วยกัน เขาก็รู้จักนิสัยเธอดี
มู่เยียนหรานเป็นคนหัวดื้ออยู่แล้ว ถ้าจะให้เธอเข้าใจผิดแบบนี้ต่อไป เธอจะยิ่งตกลงไปลึกกว่าเดิม
เพราะฉะนั้น ลู่จิ้นยวนต้องทำอย่างเด็ดขาด “เยียนหราน ความจริงของที่เธอเอามา ผมไม่ชอบตั้งนานแล้ว”
สีหน้าของมู่เยียนหรานซีดขาวไป
“เธอเป็นคนฉลาด เข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร ระหว่างเรา ก็เหมือนของที่เอามา แต่ก่อนอาจจะชอบ แต่พอเวลาผ่านไปนาน ก็เป็นแค่ความทรงจำ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ไม่มีทางฝืนใจได้”
ริมฝีปากมู่เยียนหรานสั่นไป ดูเหมือนว่าไม่กล้าเชื่อว่าลู่จิ้นยวนจะพูดแบบนี้กับเธอ
กี่วันนี้ เธอพยายามมากแล้ว เพื่อที่จะชดใช้ความผิดของตัวเอง เธอกำลังพยายามเรียนรู้ จนถึงขั้นทำอาหารเช้าให้ลู่จิ้นยวนกับมือ จนทำให้มือที่ใช้เล่นเปียโนบาดเจ็บ
แต่ลู่จิ้นยวนก็ไม่รู้สึกตื้นตันใจเลย
ทำไมเขาถึงใจร้ายกับเธอขนาดนี้?
ลู่จิ้นยวนเห็นสายตาที่ผิดหวังของเธอ แล้วสีหน้าที่ไม่ค่อยดีด้วย ในใจก็รู้สึกผิด ยังไงก็เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานาน เขาก็ไม่อยากทำร้ายผู้หญิงคนนี้
“ที่ผมอยากพูด ก็เป็นเรื่องพวกนี้ เยียนหราน ด้วยความสามารถแล้วก็หน้าตาของเธอ ต้องมีผู้ชายที่ดีกว่ากำลังรออยู่ เพราะฉะนั้น เธอ……”
แต่มู่เยียนหรานกลับพุ่งมาหาอย่างกะทันหัน แล้วจะจูบริมฝีปากของลู่จิ้นยวน “ฉันไม่อยากฟังคำพูดพวกนี้ ไม่อยากฟังจริงๆ!”