บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 141 มีเรื่องปิดบังฉัน

พูดแล้วก็รีบเดินไปที่ระเบียง

ลู่จิ้นยวนจ้องมองเวินหนิงที่เดินหนีเขาไป เดิมทีใบหน้าที่มีสีหน้าผ่อนคลายก็พลันเย็นชาขึ้นมาทันที

เวินหนิงกำลังทำอะไรอยู่ ยังคิดที่จะปิดบังเขาอยู่อีกงั้นหรือ

………

เวินหนิงเดินมาถึงระเบียง ถึงจะกดปุ่มบนโทรศัพท์

ก็เป็นดังคาดว่าคนที่โทรมาก็คือยวี๋เฟยหมิง

“พรุ่งนี้ตอนสองทุ่มให้มาที่โรงแรมเทียนเฉิงห้องเบอร์ 1854 การที่ฉันจะช่วยเธอเอาของที่เธอต้องการมานั้น ก็ขึ้นอยู่กับผลงานของเธอแล้ว ว่าจะทำให้ฉันพึงพอใจได้ไหม”

เวินหนิงขมวดคิ้วย่น นัยน์ตาปรากฏแววตาแห่งความเย็นชา แต่ก็ตกปากรับคำไป “เข้าใจแล้ว”

พูดเสร็จ ก็คิดที่จะกดปุ่มวางสายไป

ทว่า ยวี๋เฟยหมิงกลับมีความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะกำลังคิดว่าในที่สุดก็จะได้สัมผัสหญิงคนที่เขาไม่อาจครอบครองได้ กลับกลายเป็นว่าก็พูดออกมาจากปลายสายไม่หยุด

ตอนนี้เวินหนิงยังไม่อยากที่จะบาดหมางผิดใจกับเขาจนทำให้แผนเสียไป จึงทำได้เพียงเชื่อฟัง ทว่าสายตาก็เผลอจับจ้องมองไปที่ลู่จิ้นยวนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทานข้าวอยู่หลายครั้งหลายครา

ถ้าถูกเขารู้เข้าว่าเธอแอบติดต่อกับยวี๋เฟยหมิง คงจะต้องกลายเป็นเรื่องยุ่งยากเป็นแน่

ยวี๋เฟยหมิงคนที่สมควรตายคนนี้ ทำไมในช่วงเวลาแบบนี้เขาถึงพูดไม่รู้จักจบจักสิ้นแบบนี้กันนะ

“คุณสบายใจได้ เมื่อถึงเวลาฉันจะทำให้คุณพึงพอใจอย่างแน่นอน”

สายตาของเวินหนิงสังเกตเห็นว่าลู่จิ้นยวนกำลังลุกขึ้นยืน ชั่วขณะนั้นเองที่เธอสูญเสียความอดทน พูดกับยวี๋เฟยหมิงอีกไม่กี่ประโยคจากนั้นก็รีบกดตัดสายไป

ขณะนั้นเสียงฝีเท้าของลู่จิ้นยวนก็ใกล้เข้ามาแล้ว เวินหนิงกดลบบันทึกการโทรเมื่อสักครู่นี้ทิ้งทันที

ทันทีที่นิ้วกดปุ่มลบเสร็จนั้น ลู่จิ้นยวนก็เปิดประตูระเบียงออกมาพอดี “เธอไม่รีบกลับไปกินข้าว มันจะเย็นเอาหมดแล้วนะ”

แม้ว่าปากจะพูดเช่นนั้นแต่ก็สายตาก็หยุดลงที่โทรศัพท์ในมือของเวินเหนิง เขารู้สึกได้ว่าเวินหนิงกำลังมีเรื่องปิดบังเขาอยู่

ไม่อย่างนั้นแล้ว ทำไมถึงได้มีท่าทางที่ลุกลี้ลุกลนเช่นนี้ล่ะ

ความรู้สึกที่ถูกคนปิดบังแบบนี้ทำให้ลู่จิ้นยวนไม่สบอารมณ์

เวินหนิงรับรู้ได้ถึงสายตาจับผิดของเขา ก็ยิ้มออกไปอย่างกระอักกระอ่วน แสร้งทำท่าทีราวกับว่าไม่มีอะไร “เดี๋ยวจะไปแล้ว”

ลู่จิ้นยวนมองหญิงสาวที่มีท่าทางราวกับทองไม่รู้ร้อน ที่ยังคงคิดจะปิดบังเขาอีกต่อไป ก็หรี่ตาให้เล็กลง ขณะที่เวินหนิงกำลังจะเดินผ่านไปจากทางด้านข้างของเขานั้นเอง ฉับพลันก็ยื่นมือไปรั้งเอวคอดของเธอเอาไว้

เวินหนิงตกใจที่ถูกมือของลู่จิ้นยวนรั้งไว้ ตัวเธอทั้งร่างก็ตกลงไปสู่อ้อมอกของฝ่ายชาย เผลอพูดขึ้นมาด้วยเสียงแหลมสูง “คุณทำอะไรน่ะ”

เนื่องด้วยความตื่นตกใจ ใบหน้าของเวินหนิงจึงร้อนผ่าวขึ้นสีแดงระเรื่อ ท่าทีเย็นชาที่แสร้งแสดงออกไปก็ลดลงไปหลายระดับ กลายเป็นความน่าเอ็นดูที่มีเสน่ห์ดึงดูดเข้ามาแทนที่ ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว

“เธอมีเรื่องปิดบังฉัน”

ลู่จิ้นยวนมีน้ำเสียงสงบไม่ร้อนใจ หมุนตัวเล็กน้อยแล้วจึงดันร่างเล็กของเวินหนิงชิดติดเข้ากับกำแพงกระจกของระเบียง ทำให้เธอไม่มีที่เหลือให้ดิ้นขัดขืน

“ไม่มี” แม้ว่าเวินหนิงจะทั้งโกรธและเขินอาย แต่ก็ยังคงยืนหยัดแน่วแน่

เรื่องนี้ เธอไม่อาจให้ลู่จิ้นยวนรู้ได้ ถ้าหากว่าชายคนนี้รู้เข้า จะต้องหยุดเธอเอาไว้แน่ และถ้าจะรอให้เขาหาหลักฐานเอง ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่กว่าช่วงเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ ตระกูลเวินกลัวว่าจะถูกแก้แค้น จึงไม่อาจสบายใจกับเรื่องนี้ได้เลย

มีเพียงแค่ยวี๋เฟยหมิง ที่จะเป็นคนที่ยอมเปิดปากแฉเรื่องออกมาได้ดีและไวที่สุด เธอไม่อาจที่จะยอมแพ้ไปแบบนี้ได้

“ไม่มีงั้นเหรอ” ลู่จิ้นยวนพูดสองคำนั้นออกมาอย่างเย็นๆ ทันใดนั้นก็แย่งโทรศัพท์ที่อยู่มือของเวินหนิงมา

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset