เมื่อลู่จิ้นยวนกลับมาถึงห้อง เวินหนิงก็กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียง เหมือนถูกสูบวิญญาณออกจากร่าง ดวงตาที่สวยงามไม่มีชีวิตชีวาเลย เมื่อเห็นเขากลับมาก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วแล้วปิดประตูจนเกิดเสียงดังแล้วเวินหนิงก็สะดุ้งตกใจ พอเห็นเขากลับมาริมฝีปากก็อ้าปากจะพูด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา
ถึงแม้เขาจะไม่พูดอะไร เวินหนิงก็รู้ว่าที่ลู่จิ้นยวนไปหาเถ้าแก่ก็เพื่อที่จะหย่า รู้ว่าเธอเป็นคนที่ทำให้เขานอนสลบมาสามปี ที่เขาไม่ฆ่าเธอก็ถือว่าเมตตามากแล้ว แล้วจะยอมรับเธอเป็นภรรยาของเขาได้ยังไง
แล้วอีกอย่างเมื่อคืน เขาก็ยังเห็นภาพเหตุการณ์กับตาที่เธอถูกผู้ชายคนนั้นรังแก
ถ้าเป็นผู้ชายก็คงรับไม่ได้ที่ภรรยาของตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นทำให้สกปรก
เวลานี้เขาก็คงมาบอกให้เธอรีบเก็บของแล้วไสหัวออกไปละสิ?
ออกไปจากตระกูลลู่แล้วเธอจะไปที่ไหนได้อีก?
ตระกูลเวินจะปล่อยเธอไปง่ายๆแบบนี้หรอ?
เมื่อคิดแล้วยังไม่ได้คำตอบ สุดท้ายก็มีเอกสารยื่นมาตรงหน้าเวินหนิง
“เซ็นเอกสารฉบับนี้ซะ”
ลู่จิ้นยวนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง เสียงของเขาเยือกเย็น ต่างกับผู้ชายเมื่อคืนสิ้นเชิง คนนึงเยือกเย็นอีกคนเลือดเย็น ทั้งสองต่างกันมากแต่ก็ทำให้คนอื่นรู้สึกกลัวเหมือนกัน
เวินหนิงเปิดเอกสารดู เงื่อนไขแรกก็เป็นเงื่อนไขที่ห้ามเอ่ยถึงความสัมพันธ์การแต่งงานของทั้งสองให้คนอื่นรู้ เงื่อนไขต่อมาก็เป็นข้อห้ามของเวินหนิงทั้งนั้น แต่ข้อห้ามของลู่จิ้นยวนไม่มีเลยแม้แต่เงื่อนไขเดียว เขาเป็นคนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ
“ถ้าฉันเซ็นแล้วก็ยังสามารถอยู่ที่ตระกูลลู่ใช่ไหม?”
“ใช่ เธอจะเซ็นหรือไม่เซ็น?”
“เซ็น!”
ทำไมจะไม่เซ็นล่ะ ถ้าลู่จิ้นยวนเปิดโปงเธอกับผู้ชายคนอื่นเธอก็คงจะนั่งนิ่งอยู่ที่นี่ไม่ได้ หรืออาจจะพูดว่าลู่จิ้นยวนก็มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงแล้วตอนนี้ก็ยังต้องการเธอ ทำไมเธอจะไม่อยู่ต่อล่ะ แต่กลับจะไปจากที่นี่แล้วต้องรู้สึกผวากลัวตลอดเวลาว่าคนตระกูลเวินจะมาหาเรื่องเธอ?
เวินหนิงยกปากกาครึ่งเซ็น จากนั้นก็คืนสัญญาไปให้ลู่จิ้นยวน
เมื่อเซ็นเอกสารเสร็จ เวินหนิงก็ลุกขึ้นใน “เมื่อทุกอย่างตกลงกันแล้ว งั้นฉันไปพักผ่อนก่อนนะ”
เพราะว่าความตกใจของเมื่อคืน ทำเธอนอนไม่หลับเลย
“อีกหน่อยถ้าอยู่ในบ้านเราก็ยังนอนห้องเดียวกัน” ลู่จิ้นยวนเอ่ย “นี่เป็นคำสั่งของคุณปู่”
เวินหนิงมองไปที่ผู้ชายที่เคลื่อนไหวร่างกายเหมือนคนปกติ เพิ่งโล่งอกไปก็เกร็งอีกครั้ง นอนกับผู้ชายที่อันตรายแบบนี้เธอไม่อันตรายมากกว่าเดิมหรอ?
“ไว้ใจเถอะ ผมไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรในตัวคุณ ผมนอนบนเตียงคุณนอนพื้น” เมื่อเห็นสายตาที่ดูกังวลของเวินหนิง เขาก็รู้สึกไม่สบอารมณ์
เวินหนิงถอนหายใจ นอนพื้นก็นอนพื้น อย่างน้อยลู่จิ้นยวนก็คงไม่ลืมตามาแล้วจะข่มขืนเธอ ลู่จิ้นยวนฟื้นแล้วผู้ชายคนนั้นก็คงไม่กล้าเข้ามาทำร้ายเธออีก
นี่ก็ถือว่าปกป้องเธอแหละมั้ง
แต่ว่า หลังจากวันนี้ก็คงจะกอดแขนของลู่จิ้นยวนไม่ได้แล้ว
คืนนี้ ถึงแม้จะนอนบนพื้น แต่เวินหนิงก็รู้สึกนอนหลับได้อย่างสบายใจ
หลังจากนั้น เวินหนิงก็ไม่เคยโดนผู้ชายคนนั้นมารังควานเลย แล้วความสัมพันธ์กับลู่จิ้นยวนก็ดูอึดอัด ลู่จิ้นยวนไม่อยากให้คุณปู่กังวลเลยให้เธอแสดงละครเป็นเพื่อนเขา ไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาสองคนห่างเหินกันเกินไป พอลับหลังคนก็ไม่ให้เวินหนิงเข้าใกล้เขาแม้แต่ก้าวเดียว เวินหนิงก็รู้สึกสบายใจเหมือนกัน
ลู่จิ้นยวนเริ่มรับช่วงทำงานบริษัทต่อ ยุ่งทุกวันยุ่งจนไม่มีเวลาใช้สายตาที่เยือกเย็นมองไปที่เวินหนิง เวินหนิงก็ไม่ต้องเช็ดร่างกายให้เขาอีก แล้วไม่ต้องนวดให้เขาด้วย ทุกวันก็แค่เดินผ่านไปผ่านมาต่อหน้าเถ้าแก่กับเขาก็ถือว่าเสร็จภาระแล้วรู้สึกสบายใจมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ในขณะที่เวินหนิงคิดว่าชีวิตจะดำเนินไปอย่างนี้ตลอด ฝันดีก็ถูกฝันร้ายทำลายจนแตกสลายไปอีกครั้ง
ตอนดึก ลู่จิ้นยวนกำลังดูเอกสารที่ห้องหนังสือ เวินหนิงก็นอนอยู่บนพื้น อยู่ๆไฟในห้องก็ดับลง เวินหนิงรู้สึกตัวกำลังจะคลานไปหน้าประตูแต่ก็ถูกใครบางคนดึงข้อมือไว้
“ไม่เจอกันนานเลยหนิ เวินหนิง!”