บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 180 เขียนชื่อคนคนหนึ่งเต็มไปหมด

ดวงตาว่างเปล่าเพราะความเหนื่อยล้าในตอนแรกของลู่จิ้นยวนกลับมาแหลมคมอีกครั้ง “เอกสารตรงนั้น นายไปจัดการ”

อันเฉินพบว่าตำแหน่งที่ลู่จิ้นยวนชี้ไปมันเต็มไปด้วยเอกสารที่เขาจัดการเสร็จแล้ว ความกดดันมหาศาลทันที นี่……ดูเหมือนเมื่อคืนbossจะไม่ได้นอนทั้งคืน มันมากเกินไปแล้ว

อันเฉินไม่กล้ายืดเยื้อ อย่างไรแล้วเจ้านายก็ทำงานหนักขนาดนี้ เขาเป็นลูกน้องจะกล้าขี้เกียจได้อย่างไร กำลังจะหยิบเอกสารเหล่านั้นเดินออกไป สายตาเขาก็พบว่าบนกระดาษแผ่นหนึ่ง เขียนชื่อคนคนหนึ่งเต็มไปหมด

เวินหนิง……?

อันเฉินเข้าใจทันทีถึงเหตุผลที่จู่ๆ ลู่จิ้นยวนก็ทำงานทั้งคืน และไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคน

……

ลู่จิ้นยวนอยู่ในห้องทำงานสักพักหนึ่ง เนื่องจากเขาทำงานอย่างหนักมาทั้งคืนแล้ว ก็รู้สึกเหนื่อยล้านิดหน่อย

ในตอนนี้ เย่หวานจิ้งก็โทรมา “จิ้นยวน เมื่อคืนทำไมไม่กลับบ้าน วันนี้ตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไปเยี่ยมเยียนหรานที่โรงพยาบาล? ”

ลู่จิ้นยวนลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว ขมวดคิ้ว “ผมจัดการธุระที่บริษัทอยู่ ผมจะไปตอนนี้ เราเจอกันที่โรงพยาบาลนะครับ”

ได้ยินเสียงแหบพร่าของลูกชาย เย่หวานจิ้งก็ส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้ เขาต้องการผู้หญิงที่พึ่งพาได้มาดูแลสักหน่อยแล้วจริงๆ ทำงานไม่สนใจร่างกายตัวเอง ทำแบบนี้ได้อย่างไร?

ลู่จิ้นยวนลุกขึ้น มองดูตัวเองในกระจก มีตอหนวดดำปรากฏขึ้นที่คาง ขอบตาคล้ำมากขึ้น แตกต่างจากภาพลักษณ์ปกติของเขา

เพราะเวินหนิงเหรอ?

ลู่จิ้นยวนไม่อยากยอมรับ แต่เขารู้ว่า ถึงแม้เมื่อคืนเขาจะจัดการธุระพวกนั้นเสร็จแล้ว ส่วนมากในใจก็ยังคงคิดถึงผู้หญิงที่ไม่รู้จักความดีความชั่วคนนั้น!

ตระหนักได้ว่าเธอรุกรานความคิดของเขา ลู่จิ้นยวนก็โยนผ้าขนหนูในมือทิ้งไปข้างๆ อย่างรุนแรง

ให้ตายเถอะ บางทีเขาควรออกไปปรับเปลี่ยนอารมณ์สักหน่อย อย่างน้อยก็ห้ามโดนเวินหนิงรบกวนจิตใจ ผู้หญิงคนนั้น ไม่คุ้มค่า

……

ลู่จิ้นยวนจัดการรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ขับรถไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เย่หวานจิ้งก็รอเขาอยู่ที่นั่นอย่างใจร้อน

“ดูลูกสิ งานมันสำคัญมากเหรอ วันนี้จะมาเยี่ยมเยียนหรานยังหน้าซีดเซียวแบบนี้”

“ซีดแต่ก็ยังดูดี” มู่เยียนหรานยิ้มขณะที่เดินลงมาข้างล่าง เมื่อครู่เธอมองทิวทัศน์ภายนอกอย่างเบื่อหน่าย ไม่คิดว่าจะเห็นรถลู่จิ้นยวนเข้ามา

เธอมีความสุขขนาดที่ว่าไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้าก็เดินลงมาเลย

เธอคิดถึงเขามากจริงๆ

“เยียนหรานเข้าใจพูดนะ”

เย่หวานจิ้งมองมู่เยียนหราน วันนี้เธอสวมชุดผู้ป่วยโรงพยาบาล ใบหน้าไม่ได้แต่ง สวยแบบธรรมชาติ เครื่องแต่งกายแบบนี้ไม่ได้ทำให้ความงามเธอลดลง ตรงกันข้ามคือมีความน่าสงสารและอ่อนแอ ถึงจะเป็นผู้หญิงเมื่อเห็นท่าทางเธอแบบนี้ ก็ต้องรู้สึกเห็นอกเห็นใจและรักใคร่

เย่หวานจิ้งแอบพยักหน้า สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของมู่เยียนหราน เธอไม่ได้จู้จี้มากเท่าไร

“เยียนหราน ไม่กี่วันก่อนเจ้าเด็กจิ้นยวนไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่ได้บอกแม่เรื่องที่เธอป่วยเข้าโรงพยาบาล ไม่งั้นฉันมาตั้งนานแล้ว”

“คุณป้า อย่าไปโทษจิ้นยวนเลยค่ะ ฉันแค่ป่วยนิดหน่อย ไม่ได้ร้ายแรง ถ้าทำให้คุณกับท่านปู่เป็นห่วง ฉันจะรู้สึกผิดในใจนะคะ” มู่เยียนหรานยิ้มหวาน พูดออกมาทั้งเชื่อฟังและกตัญญู ทำให้เย่หวานจิ้งพึงพอใจทุกประโยค

ผู้หญิงแบบนี้สิถึงจะคู่ควรกับลูกชายเธอ เวินหนิง เธอจะมีค่าอะไร?

คางคกอยากกินเนื้อห่านฟ้า

“ทำเป็นคนนอกไปได้ ไม่ช้าก็เร็วเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกัน”

เย่หวานจิ้งลูบมือมู่เยียนหรานเบาๆ พูดอย่างมีความนัย “เธออย่าห่างเหินกับตระกูลลู่เพราะเรื่องเล็กน้อยเลยนะ”

มู่เยียนหรานเป็นคนฉลาด ทำไมจะไม่เข้าใจคำใบ้ของเย่หวานจิ้ง เธอยิ้มหวานสดใสขึ้น จับมือเย่หวานจิ้ง ผู้หญิงสองคนคุยกันอย่างมีความสุขมาก ดูเหมือนลู่จิ้นยวนถูกทิ้งไว้ข้างๆ

ตอนแรกลู่จิ้นยวนอยากพูดอะไรบางอย่าง เขาไม่อยากให้คำพูดคุณแม่ไม่กี่ประโยคนี้ให้ความหวังผิดๆ กับมู่เยียนหราน แต่กำลังจะเอ่ยปาก เย่หวานจิ้งก็จ้องมองมา

ในตอนนี้ ไป๋ซินอวี๋ก็มาถึงแล้วเช่นกัน เห็นลู่จิ้นยวนและเย่หวานจิ้งมากันหมด ไป๋ซินอวี๋ก็อารมณ์ดี ยิ้มขึ้นมา “คุณป้า แล้วก็จิ้นยวน พวกคุณมาแล้วเหรอ”

เย่หวานจิ้งกังวลว่าไม่มีทางเอาลู่จิ้นยวนออกไปได้ จึงรีบพูดขึ้น “เร็วเข้า ผู้หญิงสองคนจะคุยกันสักหน่อย พวกผู้ชายอย่างลูกๆ ออกไปคุยเรื่องผู้ชายกันเถอะ”

ไป๋ซินอวี๋ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ดึงลู่จิ้นยวนเดินออกไป

เย่หวานจิ้งเห็นในห้องเหลือพวกเธอสองคน ก็ไม่ได้ซ่อนแฝงเหมือนเมื่อครู่นี้ ลูบมือมู่เยียนหรานแล้วพูดอย่างจริงจัง “เยียนหราน เธอกับจิ้นยวน ตอนนี้คืบหน้าเป็นยังไงบ้าง? ”

มู่เยียนหรานลังเลสักพักหนึ่ง ด้วยนิสัยปกติของเธอ เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าลู่จิ้นยวนไม่แยแสเธอซึ่งเป็นคำพูดที่ทำร้ายความนับถือตน แต่เมื่อนึกถึงภัยคุกคามอย่างเวินหนิง เกียรติยศก็ไม่สำคัญขนาดนั้น

ก้มหน้าลงนิดหน่อย มู่เยียนหรานทำหน้าน้อยใจและหมดหนทาง “จิ้นยวน เขาอาจจะยังโทษที่ฉันจากไปในตอนแรกอยู่มั้งคะ ถึงฉันจะอธิบายแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมให้อภัย แล้วก็……เวินหนิงคนนั้น……”

“เธอรู้เรื่องเวินหนิงได้ยังไง? ”

เย่หวานจิ้งไม่คิดว่ามู่เยียนหรานรู้แม้กระทั่งเวินหนิง หรือว่าผู้หญิงคนนั้นพูดเรื่องสัญญาการแต่งงานระหว่างทั้งคู่อย่างไร้ยางอาย

“เธอไม่ต้องไปฟังคำพูดไร้สาระของผู้หญิงคนนั้น ตอนแรกที่เธอได้เกี่ยวข้องกับจิ้นยวนเพราะความโชคดี นายท่านบอกว่าชะตากรรมเธอตรงกับจิ้นยวน ทำให้อันตรายของเขากลายเป็นสายลม ก็เลย……”

“ข้อกำหนดของตระกูลลู่เรา เธอก็รู้ ผู้หญิงแบบหล่อนจะได้รับการยอมรับได้ยังไง แค่ไม่อยากทิ้งชีวิตดีๆ ของนายหญิงน้อยตระกูลลู่ ก็เลยหน้าด้านไร้ยางอาย”

ได้ยินคำพูดของเย่หวานจิ้ง มู่เยียนหรานก็รู้รายละเอียดในใจทันที “เวินหนิง……ไม่ใช่คนที่จิ้นยวนต้องการเหรอคะ? เป็นแค่คนที่ท่านปู่ลู่จัดเตรียมให้จริงๆ เหรอคะ? ”

“ถูกต้อง ตอนนี้เธอโดนไล่ไปแล้ว เยียนหราน ฉันไม่รู้นะว่าผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรกับเธอบ้าง แต่ไม่ว่าหล่อนจะพูดอะไร เธอแค่จำไว้ว่าลูกสะใภ้คนเดียวที่ตระกูลลู่ของเรายอมรับคือเธอ ก็พอแล้ว”

เย่หวานจิ้งในตอนนี้ตัดสินใจแล้ว ตอนแรกต้องการเลือก หาสาวที่ดีที่สุดให้ลู่จิ้นยวน แต่ตอนนี้ เพื่อกำจัดอิทธิพลเวินหนิงที่มีต่อลูกชายให้เร็วที่สุด เธอต้องรีบให้เขามีความรักและแต่งงาน เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่มั่นคง

มู่เยียนหรานถือว่าเป็นคนที่รู้จักมากที่สุด ดังนั้นเย่หวานจิ้งพูดประโยคนี้ขึ้นมาตรงๆ เพื่อให้เธอวางใจ ว่าตระกูลลู่สนับสนุนให้เธอแต่งงานกับลู่จิ้นยวน

“คุณป้า ฉัน……ฉันจะพยายามค่ะ” มู่เยียนหรานได้รับคำตอบที่ต้องการ ก็ก้มหน้า ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมามากขึ้น ท่าทางน่ารักเป็นพิเศษ

ในใจมีความสุขที่ไม่สามารถหยุดได้ มีการสนับสนุนจากตระกูลลู่ เธออยากรู้ว่าเวินหนิงจะสู้กับเธออย่างไร?

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset