เมื่อไป๋ซินอวี๋รู้ว่าบริษัทของเห่อจื่ออันเกิดเรื่อง ในใจก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์อะไรไม่ดีบางอย่าง
ปัญหาพวกนี้เข้ามาอย่างกะทันหัน หรือว่า……ลู่จิ้นยวนรู้อะไรแล้ว? แผนของพวกเขา สำเร็จแล้ว?
ไป๋ซินอวี๋ติดต่อเห่อจื่ออันทันที
เห่อจื่ออันกำลังหลับอยู่ เจนนี่ก็นั่งอยู่ข้างเตียง ใช้มือลูบหน้าเขาเบามือ ความหลงไหลในสายตาดูเหมือนโรคจิตมาก
เมื่อกี้เธอพยายามห้ามไม่ให้เห่อจื่ออันไปหาเวินหนิง เธอเลยใช้ยา จนตอนนี้เขาหลับไป
มีแค่อย่างนี้ เธอถึงสบายใจ มีแค่อย่างนี้ พวกเขาจึงจะสามารถปกป้องธุรกิจที่พวกเขาพยายามทำมาได้
ไป๋ซินอวี๋โทรมา เธอเป็นคนรับ ได้ยินคำพูดของฝ่ายตรงข้าม เธอก็เลิกมุมปากขึ้น “คุณผู้ชายคนนี้ ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ว่า คุณเอาแต่หลบอยู่หลังจื่ออันแล้วจะลงมือกับเวินหนิง วางแผนได้ไม่เลวเลย ฉันบอกคุณก็ได้ เวินหนิง ถูกลู่จิ้นยวนพาตัวกลับไปแล้ว เรื่องของพวกคุณ อีกหน่อยเราจะไม่ยุ่งอีก อย่ามายุ่งกับจื่ออันอีก”
พูดจบ เจนนี่ก็ตัดสายทันที
ไป๋ซินอวี๋โกรธจนอยากจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง ทีแรกคิดว่าเห่อจื่ออันพาตัวเวินหนิงไป ก็จะมีแสงสว่างส่องเข้าไประหว่างมู่เยียนหรานกับลู่จิ้นยวน แต่ไม่คิดเลยว่า จะล้มเหลวอีกแล้ว……
ผู้หญิงคนนั้น สำคัญกับลู่จิ้นยวนขนาดนี้เลย?
มู่เยียนหรานเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วเห็นสีหน้าไป๋ซินอวี๋ไม่ค่อยดีนัก ก็เลยขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น ซินอวี๋ หรือว่า……เรื่องนั้นไม่ราบรื่น?”
ตอนนั้นเพื่อปลอบใจมู่เยียนหราน ไป๋ซินอวี๋ก็เลยบอกเรื่องทุกอย่างกับเธอ ตอนนี้เรื่องไม่ค่อยราบรื่น สีหน้าเธอก็ย่ำแย่มาก มือก็วางลงบนอกแล้วหายใจเสียงดัง ก็เพื่อที่จะสงบสติอารมณ์ไว้
เธอจะโกรธไม่ได้ ห้ามโกรธ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสุขภาพจิตหรือเปล่า ตอนนี้เธอแค่โมโหหรือว่าโกรธ ก็จะทำให้ร่างกายรู้สึกทรมานมาก
“ซินอวี๋ เรื่องนี้ ฉันจัดการเอง นายอย่าไปยุ่ง เดี๋ยวจะทำให้นายผิดใจกับลู่จิ้นยวน”
มู่เยียนหรานสงบสติอารมณ์ ไป๋ซินอวี๋เป็นเพื่อนรักของลู่จิ้นยวน แล้วช่วยเหลือตัวเองขนาดนั้น แต่ถ้าพวกเขาจะแตกหักกันเพราะเวินหนิง อีกหน่อยเธอจะอยู่ข้างกายลู่จิ้นยวนก็จะยิ่งลำบากไปกว่าเดิม
เพราะฉะนั้น มู่เยียนหรานไม่ได้ขอให้ไป๋ซินอวี๋ทำอะไรเพื่อเธออีก แต่กลับโทรไปหาเย่หวานจิ้ง
เย่หวานจิ้งกำลังเสริมสวยอยู่ที่คลีนิกความงาม พอเห็นมู่เยียนหรานโทรมา ก็กดรับ “เยียนหราน มีอะไรหรือเปล่า? น้ากำลังเสริมสวยอยู่ หนูจะมาทำด้วยกันไหม?”
“คุณน้า ขอโทษที่รบกวนนะคะ แต่ว่า หนูมีคำพูดหนึ่งไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือเปล่า……แต่ยังไง หนูรู้สึกกังวลใจมากเลยค่ะ”
น้ำเสียงของมู่เยียนหรานดูน่าสงสารมาก พอเย่หวานจิ้งได้ยินก็รู้สึกเกร็งทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“หนู……เหมือนจะเห็นเวินหนิง จิ้นยวนไม่ได้ส่งตัวเธอไป แต่ว่า……ให้อยู่ต่อที่ในเมืองเจียงเฉิง อยู่ในที่ที่พวกเราไม่รู้ หรือว่า เขาอาจจะจริงจังกับเธอ ถ้าเป็นแบบนั้น หนูก็ยอม……”
มู่เยียนหรานพูดไปด้วย น้ำเสียงก็เริ่มสั่นคลอ ฟังดูแล้วก็ไม่เหมือนว่าเต็มใจที่จะยอมปล่อยมือ ปล่อยให้คนที่ตัวเองรักสมหวังกับผู้หญิงคนอื่น
“อะไรนะ?” เมื่อเย่หวานจิ้งได้ยินคำพูดแบบนี้ ก็ไม่มีอารมณ์ทำอีกเลย ลู่จิ้นยวนไม่ส่งตัวเวินหนิงไปที่อื่น แต่ซ่อนเธอไว้ เขาบ้าไปแล้วหรอ?
“หนูแน่ใจเหรอว่าไม่ได้ตาฝาด?”
เย่หวานจิ้งสูดหายใจเข้า เพื่อที่จะควบคุมสติตัวเองไว้
“ไม่ค่ะ หนูจะตาฝาดได้ยังไงคะ แล้วอีกอย่าง พวกเขาเหมือนซื้ออยู่ที่บ้านหลังที่ว่างอยู่ของตระกูลลู่”
เมื่อได้ยินมู่เยียนหรานพูดอย่างมั่นใจขนาดนี้แล้ว ท่านก็ไม่สงสัยอีกเลย ท่านกำมือไว้แน่น “เยียนหราน เรื่องนี้หนูอย่าคิดมาก น้าจะให้คำตอบที่หนูพอใจแน่นอน”
พูดไปด้วย เย่หวานจิ้งก็ไปจากที่นี่ทันที ตอนนี้ท่านอยากจะไปหาลู่จิ้นยวน แล้วบังคับให้เขาจัดการเรื่องนี้ซะ
……
ลู่จิ้นยยนมาถึงบริษัท ก็เริ่มทำงานทันที แต่ว่า ลูกน้องก็รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของบอสก็ยังไม่ดีเหมือนเดิม
เพราะฉะนั้น บริษัทตระกูลลู่ที่กว้างใหญ่ก็ปกคลุมไปด้วยความกดดัน
ตอนที่เย่หวานจิ้งมาหา ลู่จิ้นยวนกำลังประชุมอยู่ แต่ท่านก็ไม่ลังเลแล้วแทรกการประชุมของพวกเขา
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายก็เดินกลับไปในห้องทำงานกับเย่หวานจิ้ง “คุณแม่ มีอะไรครับ เกิดอะไรขึ้นครับ?”
เมื่อพูดจบ เย่หวานจิ้งก็ตบหน้าเขาทันที
ลู่จิ้นยวนหลบไม่ทัน ก็เลยโดนตบเต็มๆ เย่หวานจิ้งหายใจเสียงดัง นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านตบลงมือกับลู่จิ้นยวน แล้วยังใช้วิธีที่เหยียดหยามขนาดนี้
ตั้งแต่เด็กจนโต ลู่จิ้นยวนทำให้ท่านวางใจมาก แต่กับเรื่องผู้หญิงคนนี้ เขาทำให้ตัวเองรู้สึกผิดหวังมาก
“จิ้นยวน แกทำให้ฉันผิดหวังมาก” มือเย่หวานจิ้งสั่น “ทำไมไม่ไล่เวินหนิงไป? ที่แกไม่อยากหมั้นกับเยียนหราน เป็นเพราะเธองั้นหรอ?”
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว เขาไม่ได้โต้เถียง แต่การเงียบแบบนี้ ก็ทำให้เย่หวานจิ้งรู้สึกโมโหไปกว่าเดิม
ท่านฝากความหวังไว้ที่ลูกชายคนนี้ ความหวังของท่านก็โดนผู้หญิงคนนั้นทำลายไป ท่านอยากจะย้อนกลับไปวันแรกที่เวินหนิงเข้ามาในตระกูลลู่ แล้วไล่เธอออกไปจากชีวิตลู่จิ้นยวนซะ
ลู่จิ้นยวนมองเห็นท่าทางที่โมโหของคุณแม่ ก็รีบปลอบใจ “อย่าอารมณ์เสียนะครับ ผม……”
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไง เพราะว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง
ถึงแม้เขาไม่อยากยอมรับต่อหน้าเวินหนิง แต่ผลกระทบที่เธอนำมาให้เขารุนแรงจริงๆ นอกจากเธอ ตัวเองก็ไม่อยากได้ผู้หญิงคนอื่นอีกเลย
“จิ้นยวน แก……”
พอไม่ได้คำอธิบายของลู่จิ้นยวน เย่หวานจิ้งก็รู้สึกใจหายไปกว่าเดิม แล้วก็รู้สึกแน่นหน้าอก จนสีหน้าของท่านซีดไป
ลู่จิ้นยวนรู้สึกถึงความผิดปกติ “คุณแม่ คุณแม่เป็นอะไรครับ?”
เย่หวานจิ้งจับหน้าอกไว้แน่น แล้วส่ายหน้าอย่างหมดเรี่ยวแรง ท่านจับเสื้อผ้าของลู่จิ้นยวนไว้ “จิ้นยวน นี่เป็นสิ่งที่แกอยากได้หรอ?”
เย่หวานจิ้งพูดทีละคำ เหมือนมีดที่กำลังแทงทะลุหัวใจเขา เขารีบเรียกคนมาส่งท่านไปโรงพยาบาล แต่ว่า คำพูดของท่านเมื่อกี้ก็ยังวนเวียนอยู่ข้างหูเขาตลอด
ถ้าคุณแม่เป็นอะไรไป เขาจะทำยังไงดี?
ลู่จิ้นยวนเดินวนไปวนมาหน้าห้องฉุกเฉิน นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกร้อนรนใจมาก ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง เขารู้สึกว่าชีวิตก็เหมือนห้อยอยู่บนเส้นด้าย
เมื่อเถ้าแก่ได้ยินข่าว ก็รีบมาทันที สิ่งแรกที่ทำเลยก็คือตบหน้าลู่จิ้นยวน “ลูกอกตัญญู! ทำไมแกถึงทำให้แม่แกเป็นถึงขนาดนี้? หลังจากที่พ่อแกตายไป เธอก็ไม่ยอมแต่งงานกับคนอื่น ยังสาวอยู่ก็เอาแต่ดูแลบ้านหลังนี้ ดูแลแก แกไม่รู้สึกสงสารเลยหรอ?”
ลู่จิ้นยวนยืนอย่างเฉื่อยชาให้ท่านตบ ความเจ็บบนร่างกาย ตอนนี้เหมือนเป็นการปลดปล่อย อย่างน้อย ก็ทำให้ความรู้สึกผิดในใจของเขาลดลงไปบ้าง