เวินหนิงมองไปที่คนพวกนั้นอย่างโมโห เมื่อกี้พยุงตัวคุณแม่ขึ้นจากบนเตียง เธอก็เห็นท่านมีแผลกดทับ คนที่นี่ไม่มีความรับผิดชอบเลย แค่พาคนมาโยนลงบนเตียงก็ไม่สนใจอะไรอีก
ตอนนี้ พวกเขายังมีหน้าไม่ให้เธอพาคุณแม่ไปอีก?
“ฉันเป็นลูกสาวท่าน ฉันจะพาท่านไปจากที่นี่!”
คนในโรงพยาบาลไม่รู้จักเวินหนิง แล้วก็ไม่รู้ว่าลู่จิ้นยวนเป็นใคร รู้แค่ว่าถ้าไป๋หลินยวี่ถูกคนอื่นพาตัวไป คนว่าจ้างอย่างเวินฉีโม่ต้องมาหาเรื่องแน่นอน เพราะฉะนั้น พวกเขาก็ขวางอยู่หน้าประตู แล้วไม่ยอมถอยเลย
“ฉันไม่สนว่าแกจะเป็นใคร ยังไงก็พาคนไปไม่ได้ ถ้าไม่งั้น พวกแกก็อย่าคิดที่จะออกไปเลย!”
สถานที่พักฟื้นแห่งนี้ ไม่มีหมอเลยด้วยซ้ำ มีแค่หมอเถื่อนที่มาหลอกคน ไป๋หลินยวี่เป็นคนที่พวกเขาหลอกมาได้ จะปล่อยไปอย่างนี้ได้ยังไง?
ลู่จิ้นยวนไม่คิดว่าพวกเขาจะไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงขนาดนี้ สีหน้าก็เยือกเย็นทันที “ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ?”
วันนี้พวกเขามา ก็จะพาคนไปแน่นอน
“พวกเรา ลุย!”
เมื่อเห็นเวินหนิงกับลู่จิ้นยวนไม่ให้ร่วมมือด้วย ก็หยิบอาวุธในมือขึ้นแล้วพุ่งไปหา ลู่จิ้นยวนรีบดึงตัวเวินหนิงมาไว้ข้างหลัง “เธอรีบไปจากที่นี่ก่อน ฉันจะขวางพวกมันไว้เอง”
ลู่จิ้นยวนรู้สึกว่าตัวเองวู่วามเกินไป ไม่คิดเลยว่าคนที่นี่จะกล้าลงมือ คงไม่รู้ว่าคำว่าตายเขียนยังไงล่ะสิ
ลู่จิ้นยวนคุ้มกันเวินหนิงไปข้างประตู เวินหนิงจินตนาการไม่ออกเลยว่าเขาจะเผชิญหน้ากับพวกคนที่ชั่วร้ายขนาดนี้ได้ยังไง
“แต่ว่า……”
เมื่อเวินหนิงเห็นท่าทางของคนพวกนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติ ทุกคนตัวสูงตัวใหญ่มาก ในมือก็ยังมีไม้มีอาวุธ น่ากลัวมาก
ลู่จิ้นยวนคนเดียว จะเอาตัวรอดได้ยังไง?
“หรือว่าเธอจะอยู่ที่นี่ แล้วรอให้ฉันปกป้องเธอ? เด็กในท้องเธอก็ไม่สนแล้ว”
ลู่จิ้นยวนหยิบเก้าอี้ข้างหน้าขึ้นมา แล้วดันคนกลุ่มนั้นไว้ ณ เวลานั้น ก็มีคนพุ่งมาหา แล้วเล็งไปที่เวินหนิง ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนเป็นคนท้อง ถ้าเธอเกิดเรื่อง ผู้ชายคนนี้ก็ต้องร้อนรนใจแน่นอน
หางตาของลู่จิ้นยวนเห็นท่าทางของคนคนนั้น ก็รีบพุ่งไปทันที แต่ว่าอยากจะใช้ของในมือบังไว้ก็คงไม่ทันแล้ว ลู่จิ้นยวนก็เลยใช้หลังตัวเองรับกลับแรงกระแทกนั้นไว้แทน
คนคนนั้นลงมือหนักมาก ถึงแม้ลู่จิ้นยวนจะเกร็งกล้ามเนื้อไว้ แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บจนต้องโอดครวญ
เวินหนิงเหวอไป เธอคิดมาตลอดว่าลู่จิ้นยวนเกลียดเด็กในท้องของเธอ อาจจะคิดว่าถ้าไม่มีเด็กก็คงดี แต่ว่าตอนนี้……
เขาปกป้องเธอแล้วโดนคนอื่นตี
ลู่จิ้นยวนก้มหน้าลงไปมองเธอ “ยังไม่ไปอีก?”
ถ้าเวินหนิงยังไม่ไปอีก คนพวกนั้นก็จะพุ่งมาหาเธอแน่นอน
เวินหนิงก็รู้สึกได้ว่าคนพวกนี้ไม่มีจิตสำนึกอยู่แล้ว “ฉันรู้แล้ว ฉันออกไปเรียกคนมา นาย……นายห้ามเป็นอะไรนะ”
เวินหนิงเอ่ยพูดอย่างลำบาก แล้วมีลู่จิ้นยวนคุ้มกันให้ เธอก็หันหลังวิ่งหนีออกไปได้
ลู่จิ้นยวนคนเดียวพยายามฝืนห้ามคนพวกนั้นไว้ จนบางส่วนบนร่างกายเลือดซึม แต่เขาก็ยังขวางอยู่หน้าประตู ไม่ให้โอกาสคนอื่นออกไปยุ่งกับเวินหนิงเลย
เวินหนิงวิ่งลงมาข้างล่าง เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจะโทรแจ้งตำรวจ ทันใดนั้น ก็มีเสียงของรถพยาบาลดังขึ้น เวินหนิงรีบโบกไม้โบกมือ จากนั้นอันเฉินกับบุคลากรทางแพทย์ก็ลงมาจากรถ
เวินหนิงรีบวิ่งไปหาอันเฉิน “คนพวกนั้นไม่ให้พวกเราพาท่านไป ตอนนี้ลู่จิ้นยวนอยู่ในนั้นอันตรายมาก รีบไปช่วยเขา!”
พอเวินหนิงพูดจบ อันเฉินก็พาคนวิ่งเข้าไปทันที เวินหนิงก็ยังไม่รู้สึกวางใจ ก็แอบตามพวกเขาเข้าไปด้วย
พอเข้าไป ก็เห็นแผ่นหลังของลู่จิ้นยวนขวางอยู่หน้าประตู ความโดดเดี่ยวแบบนั้น แต่ก็เป็นความแข็งแกร่งที่ทำลายไม่ได้
เสื้อผ้าที่ดูดีของเขาก็โดนคนพวกนั้นทำให้ฉีกขาด ดูทุลักทุเลมาก บางส่วนบนร่างกายก็ได้แผล จนเลือดซึมเข้าเสื้อผ้า ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีแต่กลิ่นคาวเลือดที่น่าตกใจ
แต่ว่าถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ก็ไม่มีใครออกมาจากห้องนั้นได้ ทุกคนถูกลู่จิ้นยวนกันไว้อยู่หลังประตู ไม่มีใครทำอันตรายเวินหนิงได้
เวินหนิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะพูดยังไง เธอปิดปากแน่น แล้วกัดมือตัวเองไว้ หวังว่าความเจ็บปวดจะทำให้สงบสติอารมณ์ได้ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าลู่จิ้นยวนจะยอมทำเพื่อเธอขนาดนี้ จนตอนนี้เธออยากร้องไห้มาก
คนที่อันเฉินพามา ก็ไปจัดการพวกนั้นอย่างรวดเร็ว เวินหนิงจึงเดินไป แล้วพยุงตัวลู่จิ้นยวนไว้ “นายเป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมต้องอวดเก่งขนาดนั้น?”
ทั้งๆที่เกลียดเด็กในท้องของเธอ ในเมื่อแบบนั้น ทำไมต้องใช้ร่างกายตัวเองคุ้มกันเธอด้วย?
ทั้งๆที่เธอตัดสินใจที่จะไปจากเขาแล้ว แต่เขาทำแบบนี้ เธอจะปล่อยไว้แบบนี้ได้ยังไง?
“ฉันมองเห็นคนอื่นทำร้ายผู้หญิงต่อหน้าฉันไม่ได้ ไม่ได้ไง?”
ลู่จิ้นยวนมองตาของเวินหนิง ดวงตาทั้งสองข้างของเธอบวมแดงมาก เหมือนกระต่ายน้อยที่ได้รับความตกใจ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
อันเฉินเรียกคนมาจัดจากการคนพวกนั้น จากนั้นก็เดินมาหา พอได้ยินคำพูดของลู่จิ้นยวน ก็แอบมองบนในใจด้วย
นี่หมายความว่าอะไร? หวงภาพลักษณ์ของตัวเองจนไม่สนว่าต้องบาดเจ็บขนาดไหน? ลู่จิ้นยวนไม่เคยลงมือเพื่อผู้หญิงคนไหนอยู่แล้ว แถมยังใช้ร่างกายบังเธอไว้อีก นี่เป็นห่วงเวินหนิงชัดๆ ยังจะปากแข็งอีก
“คุณหนูเวิน เรารีบไปกันเถอะ รถพยาบาลที่รออยู่ข้างนอกเตรียมพร้อมแล้ว”
เมื่อเวินหนิงได้ยินคำพูดนี้ ก็รีบพยักหน้าทันที อันเฉินกลัวว่าเธอจะพยุงตัวลู่จิ้นยวนไม่อยู่ ก็เลยรับมา เวินหนิงเดินตามเขาอยู่ข้างหลัง เหมือนเด็กที่ทำอะไรผิดแล้วเอาแต่ก้มหน้าไว้
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอลังเล แล้วถ่วงเวลา ตอนนี้ ลู่จิ้นยวนอาจจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้
เวินหนิงมองเห็นเสื้อผ้าที่ฉีกขาดของผู้ชายคนนั้น ตอนที่ฟาดลงมาครั้งนั้น ลงแรงหนักมาก ลู่จิ้นยวนจะเจ็บแค่ไหน……เธอไม่กล้าจินตนาการเลย
ลู่จิ้นยวนปล่อยร่างกายแล้วให้อันเฉินรับน้ำหนักของเขาไว้ แบบนี้ถึงจะมีแรงไปสนใจเรื่องอื่น สุดท้าย พอหันกลับไปก็เห็นผู้หญิงตัวเล็กเอาแต่ก้มหน้าเดินตามมา ท่าทางดูน่าสงสารมาก
“ฉันบอกแล้วไง เธอไม่ต้องคิดมาก ฉันแค่……ไม่อยากเห็นคนท้องถูกทำร้ายต่อหน้าฉัน ไม่อยากเห็นใครตายด้วย”
อันเฉินเห็นเวินหนิงก้มหน้ารู้สึกผิด แล้วไม่เอ่ยพูดอะไร ก็พยุงตัวลู่จิ้นยวนเดินออกไปด้วย มองไปที่เวินหนิงด้วย “คุณหนูเวิน คุณอย่ารู้สึกผิดเลย บอสเต็มใจเอง ถ้าเขาไม่เต็มใจ ไม่มีใครบังคับให้เขาทำแบบนั้นได้”
เมื่อลู่จิ้นยวนได้ยินแบบนี้ ก็มองอันเฉินตาขวาง แต่ก็ไม่ระวังแล้วทำให้แผลตัวเองเจ็บ จนเขาอดไม่ได้ที่จะโอดครวญออกมา